Skip to content

Swallowed Star 1255

ตอนที่ 1255 ข้อตกลง

ด้านบนคือทะเลลาวา ด้านล่างเป็นบึงน้ำสีดำ ด้านหนึ่งนั้นร้อน ส่วนอีกด้านนั้นเย็น

พื้นที่ไฟน้ำแข็งในช่วงเวลานี้ได้ตกเป็นสนามรบสำหรับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดอันบ้าคลั่ง พวกเขานำสมบัติแท้จริงชั้นยอดออกมาใช้ และคิดทุกวิธีที่จะใช้หยุดเรือสุสาน ทว่าเรือสุสานยังคงกลับเดินหน้าด้วยความเร็วสูงต่อไป

สิ่งมีชีวิตสูงสุดนั้นมีความสามารถในการเร่งความเร็วเกินความเร็วแสง 100 เท่า พวกเขาก็ทำได้เพียงแค่ตามติดล้อมรอบๆ เรือไว้

“ไม่ต้องพูดถึงการจับยึดมันเอาไว้ เพราะเขาไม่สามารถหยุดมันได้”

“เราจะทำยังไงถ้าหยุดมันไม่ได้ นั่นไม่ได้หมายความว่าเราสามคนได้แต่ตามมันไปหรือไง ไม่ว่าเรือสุสานจะไปที่ใดเราก็จะตามไป”

กลุ่มอำนาจต่างๆ จำนวนมากกำลังวิตก

เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงได้เรียกสิบเจ้าแห่งจักรวาลที่อยู่ใต้การบัญชาการของเขามาโจมตีเรือสุสาน

เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงยังคงติดต่อกับเรือสุสานท่ามกลางการโจมตีต่างๆ ที่เกิดขึ้น

“ผู้นำทางช้างเผือก บรรพบุรุษของเราได้ส่งข้อความมาถึงข้าแล้ว”

เสียงได้ถูกส่งผ่านเข้าไปในเรือสุสาน

เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงกัดฟันของเขาเบาๆ เขามีชีวิตอยู่มานานมากในฐานะเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เขาไม่เคยเห็นใครมีสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอด

สองบรรพบุรุษก่อนที่จะได้รับการยอมรับจะต้องก้าวข้ามยุคกำเนิด พวกเขาจะต้องทำการกลับชาติมาเกิดก่อนที่จะได้รับการยอมรับ ทั้งสองคือผู้ควบคุมชะตากรรมของเผ่าพันธุ์

สมบัติโดยทั่วไปจึงต้องเป็นของเผ่าพันธุ์ แม้แต่ของมีค่าของเจ้าแห่งจักรวาลและเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ตราบใดที่บรรพบุรุษของพวกเขาออกคำสั่ง พวกเขาก็จำเป็นต้องส่งให้อย่างเชื่อฟัง สิ่งนี้ทำให้เห็นว่าสองบรรพบุรุษผู้ยิ่งใหญ่ ไม่สามารถพึ่งพาตัวเองเพื่อจะให้ได้รับสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอด

“อะไรคือความโชคดีของมนุษย์นี้” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงเต็มไปด้วยความไม่พอใจ ยิ่งเขาคิดถึงคำสั่งจากบรรพบุรุษบูรพาเขาก็ยิ่งอิจฉามาก สิ่งหนึ่งที่เขาได้รับรู้มาว่ามันคือมรดกที่มีค่าที่สุดของทั้งมหาสมุทรจักรวาล เพียงแค่นำบางส่วนของมรดกออกมาเขาก็ได้รับสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอด

“บรรพบุรุษของเราได้บอกว่า…เขาตกลงแลกเปลี่ยนกับสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอด” เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริง

“ยอมรับรึ” หลัวเฟิงยืนขึ้นจากเก้าอี้ ดวงตาของเขาส่องประกายขณะก้าวเดินในห้องโถง มันคือช่วงที่สำคัญสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์

มรดกที่ถูกพูดถึงคือประสบการณ์การฝึกฝนของอารยธรรมโบราณที่หลัวเฟิงได้รับมา สิ่งนี้คือจุดเปลี่ยนของชะตากรรมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่จุดเปลี่ยนคือจำเป็นต้องใช้เวลา ที่สุดแล้ว…สำหรับสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่จำเป็นต้องใช้เวลาฝึกฝนอันยาวนาน ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อใดจะมีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนต่อไปเกิดขึ้น

แต่สมบัติแท้จริงชั้นยอดจะเปลี่ยนพื้นฐานความสามารถของเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์มนุษย์ที่ขาดสมบัติแท้จริงชั้นยอด หากได้สิบสมบัติแท้จริงชั้นยอด ผู้สร้างขวานยักษ์ที่ติดสมบัติแท้จริงชั้นยอดสองสามชิ้นก็จะวิ่งอาละวาดไปทั่วมหาสมุทรจักรวาลเหมือนอาจารย์ต้นกำเนิด

สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลคนอื่นที่มีสมบัติแท้จริงชั้นยอดก็จะเป็นเหมือนกับเจ้าแห่งจักรวาลเดียบาส มีเพียงไม่กี่คนที่มีพลังเช่นนั้นในมหาสมุทรจักรวาล พวกเขาไม่กลัวแม้จะต้องเผชิญหน้ากับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ด้วยพลังที่เหนือกว่า มนุษย์ก็จะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุด

หลัวเฟิงคิดสิ่งต่างๆ อย่างรวดเร็ว “การเจรจาที่สำคัญกำลังมา ถึงบรรพบุรุษบูรพาจะไม่ส่งสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอดทั้งหมดในทันที แต่มันก็ยังเป็นการเจรจาที่สำคัญ”

“แม้ว่าบรรพบุรุษเราจะยอมตกลง แต่ต้องการให้ผู้นำทางช้างเผือกรู้ไว้ว่า เราต้องการความชัดเจนในหนึ่งเงื่อนไข ยังไงเราก็กำลังพูดถึงสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอด ภายในมหาสมุทรจักรวาลไม่มีแม้แต่กลุ่มอำนาจเดียวที่จะนำสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอดออกมาได้ง่ายๆ บรรพบุรุษของเรายังต้องคอยระวังเช่นกัน เราจำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องในมรดกของผู้นำทางช้างเผือกมอบให้ก่อน เมื่อทำการตรวจสอบความจริงทั้งหมดแล้วจะส่งมอบสิบสมบัติแท้จริงชั้นยอดให้ทันที”

“ยืนยันงั้นเรอะ แล้วเจ้าจะยืนยันได้ยังไง” หลัวเฟิงส่งเสียงดัง

“แน่นอนว่าบรรพบุรุษของเราจะดูมรดกนั้นด้วยตัวเอง มีเพียงท่านบรรพบุรุษเท่านั้นที่จะยืนยันความถูกต้องได้”

“ดาวเหนือ เจ้าคิดว่าข้าโง่งั้นรึ มรดกความทรงจำนี้เพียงดูหนึ่งในนั้นก็สามารถที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับมัน หากเขาเปลี่ยนใจที่จะมอบสมบัติแท้จริงชั้นยอดกับข้าหลังจากนั้นแล้วข้าจะทำอะไรได้บ้าง” หลัวเฟิงกำลังโกรธ

“และการตรวจสอบความถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับบรรพบุรุษของเจ้าเท่านั้น เจ้ากำลังคิดว่าข้าโง่หรือไง”

“งั้นเรามาคิดถึงเรื่องนี้กันก่อน ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นเราจำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้อง ถ้ามันไม่ใช่และมอบของปลอมให้ เราจะมอบสมบัติแท้จริงชั้นยอดได้อย่างไร ดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพาของเราจะได้อะไร”

“งั้นก็ได้ ในเมื่อเจ้ากังวลเกี่ยวกับมัน ข้าไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอ ถ้าเจ้าไม่เห็นด้วยพอดี ข้อตกลงนี้ถือว่าไม่เกิดขึ้น”

“แล้วเจ้ามีอะไรอยู่ในใจเช่นนั้นรึ ผู้นำทางช้างเผือก”

หลัวเฟิงยังคงมั่นคง “ข้อเสนอของข้านั้นเรียบง่าย ข้ามีมรดกอารยธรรมโบราณรวมถึงประสบการณ์ฝึกฝนที่แตกต่างกันสามชุด ทั้งสามถูกเก็บไว้ในหินความทรงจำสามแบบ ฝ่ายเจ้าต้องมอบสมบัติแท้จริงชั้นยอดสามชิ้นเป็นหลักประกัน ข้าจะมอบหนึ่งหินความทรงจำเป็นการแลกเปลี่ยน บรรพบุรุษของเจ้าดูมันและตัดสินว่ามันเป็นหินความทรงจำจริงหรือปลอม”

“ไม่ว่าจะตัดสินใจอย่างไร ข้าก็จะไม่ถามว่ามันเป็นของจริงหรือปลอม แต่สิ่งที่สำคัญคือ…หากต้องการหินความทรงจำ ต่อไปเจ้าต้องนำสี่สมบัติแท้จริงชั้นยอดมาแลก สำหรับหินก้อนสุดท้ายที่เหลือเจ้าต้องนำสามสมบัติแท้จริงชั้นยอดมาแลก”

หลัวเฟิงได้อยู่ตำแหน่งที่ดีกว่า “นี่เป็นข้อเสนอเดียวของข้า ถ้าเจ้าเห็นด้วยเราก็มาแลกเปลี่ยนกัน ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไร”

“สิ่งที่ขอนี้มากเกินไป สามสมบัติแท้จริงชั้นยอดคือหลักประกัน ผู้นำทางช้างเผือก ถ้าหินความทรงจำไม่ใช่ของจริงแล้วถ้าเป็นเช่นนั้นสมบัติแท้จริงชั้นยอดทั้งสามของเราก็หายไปไม่ใช่หรือไง สิ่งนี้ไม่อาจยอมรับได้แน่นอน”

“ข้าคิดว่าเป็นการดีกว่าที่เจ้าถามบรรพบุรุษจักรพรรดิบูรพาก่อน ข้าชื่อว่าสามสมบัติแท้จริงชั้นยอดอาจใหญ่เกินไปกับเผ่าพันธุ์อื่นๆ แต่กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา พวกเขานั้นคงไม่ได้มากนัก ถ้าเจ้าตระหนี่ไม่ยอมจ่ายสักเล็กน้อย เจ้าก็ลืมเกี่ยวกับมรดกนี้ได้เลย”

ขณะที่เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงเจรจากับหลัวเฟิง เขาก็รายงานสถานการณ์ให้กับบรรพบุรุษบูรพา ข้อตกลงที่มีผลกระทบสูง เขาไม่สามารถจัดการมันได้ด้วยตัวเอง

แต่สำหรับจักรพรรดิบูรพาที่เป็นหนึ่งในสิ่งมีชีวิตที่แข็งแกร่งที่สุดในมหาสมุทรจักรวาล เขาจะต้องไม่ตกอยู่ภายใต้อิทธิพลของหลัวเฟิงง่ายๆ เขาได้สั่งเจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริง

“สำหรับสามหินความทรงจำ ก้อนแรกจะมีหนึ่งสมบัติแท้จริงชั้นยอดเป็นหลักประกัน ข้าจะยืนยันหินความทรงจำที่ได้มา สำหรับรอบที่สอง เราจะให้ 5 สมบัติแท้จริงชั้นยอดในรอบต่อไปเป็นการแลกเปลี่ยน สำหรับรอบที่สามเราจะใช้สี่สมบัติแท้จริงชั้นยอดเป็นการแลกเปลี่ยนก้อนสุดท้าย”

ข้อตกลงการเจรจาของทั้งสองฝ่ายถูกส่งผ่านโดยที่เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงเล่นบทเป็นผู้ส่งสาร

ข้อตกลงสำหรับหลัวเฟิงและบรรพบุรุษบูรพาก็ถูกตัดสินในที่สุด

เงื่อนไขข้อตกลงเป็นไปตามนี้ รอบแรกเป็นสองสมบัติแท้จริงชั้นยอดเป็นหลักประกัน โดยที่หนึ่งในนั้นจะต้องเป็นประเภทวัง เหตุผลที่เขาส่งคำขอนี้ เพราะเขาต้องการเดินทางสบายๆ ในสามดินแดนอันตรายที่สุดในมหาสมุทรจักรวาล สมบัติแท้จริงชั้นยอดประเภทวังจึงมีค่าอย่างยิ่ง และเป็นความต้องการเร่งด่วน

สำหรับรอบที่สองจะใช้สี่สมบัติแท้จริงชั้นยอดในแลกเปลี่ยนหินความทรงจำก้อนที่สอง

สำหรับรอบที่สาม ใช้สี่สมบัติแท้จริงชั้นยอดในการแลกรอบสุดท้าย

สถานที่แลกเปลี่ยคือในมหาสมุทรจักรวาล ภายในจักรวาลขนาดเล็กที่ทรุดโทรมหมายเลข 00921 โดยมีเงื่อนไขว่าหลัวเฟิงจะเดินทางกลับไปจักรวาลดั้งเดิม

ปลอดภัยก่อน

———-

ภายในเรือสุสาน

หลัวเฟิงไม่สามารถหยุดปล่อยเสียงหัวเราะออกมาได้ “สมบัติแท้จริงชั้นยอด สมบัติแท้จริงชั้นยอด ด้วยสมบัติแท้จริงชั้นยอดนี้…ผู้สร้างขวานยักษ์ที่มีสมบัติแท้จริงชั้นยอดประเภทวังกับขวานเทพ เขาจะมีอำนาจในมหาสมุทรจักรวาล เขาสามารถที่จะอยู่คงกระพันได้”

หลัวเฟิงพอใจกับผลลัพธ์นี้ในตอนสุดท้าย ผู้สร้างขวานยักษ์นั้นมีประสิทธิภาพ แต่เขายังไม่ได้ถูกนับเป็นผู้คงกระพัน เนื่องด้วยขวานเทพของเขาเป็นประเภทโจมตี ขาดความสามารถในการป้องกัน นี่เป็นเพียงบางส่วนที่ทำให้ขวานยักษ์มีสถานะที่ต่ำกว่าทั้งที่ทรงพลัง

“แต่มีบางสิ่งแปลกๆ ทั่วทั้งมหาสมุทรจักรวาลมีเพียงสองบรรพบุรุษจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสองเท่านั้นที่เห็นข้อมูลระดับลึกในหินความทรงจำ”

หลัวเฟิงพยายามจะตอบข้อสงสัยของตัวเอง

“ในเมื่อบรรพบุรุษบูรพามาหาข้าแล้ว แต่ทำไมบรรพบุรุษจันทร์ม่วงยังคงเงียบ”

“ในเมื่อเขารู้ว่าไม่สามารถตามจับข้าได้ ทำไมเขาถึงไม่มาตกลงกับข้า” หลัวเฟิงคาดเดา

หลัวเฟิงไม่ทราบเกี่ยวกับบรรพบุรุษทั้งสองนี้ จากยุคกำเนิดมากมายมีเพียงสองบรรพบุรุษที่ยังคงอยู่ ทั้งสองต้องพบกับโอกาสพิเศษมากมายถึงได้สำเร็จ

ตอนนี้บรรพบุรุษบูรพาต้องอยู่ภายใต้ความเมตตาของหลัวเฟิง แต่เขาก็ไม่ได้รู้สึกสงสาร เขาจะจัดการอย่างชั่วร้าย แต่การที่บรรพบุรุษจันทร์ม่วงไม่เคลื่อนไหวทำให้เขาไม่ต้องการที่จะประมาท

“ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น มีเพียงสิ่งที่ถูกยกใส่จานของข้าเท่านั้นที่ข้าควรกิน”

“สิ่งแรกที่ต้องทำคือจัดการกับบรรพบุรุษบูรพาก่อน และรับเอาสองสมบัติแท้จริงชั้นยอดเป็นอันดับแรก”

เป็นความจริงที่ว่าขวานยักษ์ต้องใช้เวลานานในการรับขวานเทพ เขาได้พูดมามากเกี่ยวกับการได้รับสมบัติแท้จริงชั้นยอด

หอคอยดวงดาวคือของขวัญที่เขาได้รับจากอาจารย์ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ แต่กระบวนการรับรู้นั้นทำให้เขาได้อยู่ใกล้ชิดกับความตายจนถึงที่สุด

ปีกสีขาวที่ถูกพบเป็นเพราะการรับรู้ของปีกซื่อหวู๋และดาบเงาเลือดเป็นเพียงตัวอ่อนดาบ มันไม่ได้เป็นเจ้าของเทคนิคลับใดๆของมันเอง หลัวเฟิงจำเป็นต้องใส่เทคนิคที่รู้ลงไปที่มัน

แม้ว่ายังเป็นตัวอ่อน มันก็แข็งแกร่งยิ่งกว่าสมบัติแท้จริงชั้นยอดใดๆ นี่เป็นสมบัติหนึ่งชิ้นที่เขาได้รับจากความสามารถของตัวเอง มันเป็นสิ่งที่เขาต้องต่อสู้กับผู้เข้ารับการทดสอบคนอื่นๆ จนกลายเป็นผู้รับมรดกที่แท้จริง

———-

เรือสุสานกำลังเดินทางไปมา ในบางครั้งมันจะมุ่งหน้าไปยังพื้นที่อันตรายด้วยความจงใจ เช่นในบางครั้งก็พุ่งเข้าไปในทะเลลาวา หรือลมพายุ บางทีก็เข้าไปยังส่วนลึกที่แม้แต่วังสมบัติแท้จริงชั้นยอดก็ถูกฉีกทำลาย

ด้วยเรือสุสาน หลัวเฟิงจึงกล้าที่จะเสี่ยงไปพื้นที่อันตราย เป็นเพราะว่าเขาทราบถึงพลังของเรืออยู่แล้ว เขามีแผนที่ละเอียดของเรือจักรวาล ทำให้เขากล้าที่จะไปยังรอบๆ แบบส่งๆ สิ่งที่เกิดขึ้นนี้บังคับให้สิ่งมีชีวิตสูงสุดทั้งหลายต้องล่าถอย

“เป็นพวกน่ารังเกียจจริงๆ”

ท่ามกลางลมพายุสีดำ มีวังที่เหมือนยอดเขาสูง ที่นั่นมีเจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงทั้งห้าจากเผ่าดวงตาศักดิ์สิทธิ์คอยมองไปยังเรือสุสานที่แยกตัวออกไปไกลพร้อมกับคำรามออกมา

“หนี” แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลแท้จริงที่หนึ่งก็ไม่สามารถที่จะสงบ เขาไม่สามารถที่จะหยุดความโกรธของเขาได้

“เราต้องยอมแพ้ มันไม่มีประโยชน์อะไรที่เราจะไล่ตามเขาต่อไป ข้าไม่เชื่อว่ามนุษย์นั้นจะซ่อนอยู่ในเรือสุสานไปได้ตลอด เส้นทางของสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่เต็มไปด้วยการเสี่ยงชีวิต ข้ายังไม่เคยเห็นสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ใดๆ ที่เลี่ยงการต่อสู้ไปได้ มันคือการฝึกฝนที่ดีสำหรับการเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด”

“ใช่ เขาต้องการเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดที่ประสบความสำเร็จในยุคกำเนิดนี้ เขาจำเป็นต้องมีประสบการณ์ต่อสู้ เขาได้รับมรดกของสายน้ำวูดูวง เขาจำเป็นต้องฝึกฝนทักษะกับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนอื่น หรือเสี่ยงอันตรายในดินแดนอันตรายที่สุดทั้งสาม นอกเสียจากเขาไม่ต้องการที่จะเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ถ้าไม่สัมผัสกับอันตรายเขาไม่มีทางมีอนาคต”

กลุ่มอำนาจต่างๆ ล้วนลังเลที่จะยอมแพ้

———–

ในจักรวาลเสมือนจริง วังเทพของผู้สร้างขวานยักษ์

“ในที่สุดเผ่าพันธุ์ต่างๆ ก็ยอมแพ้ ฮ่าฮ่า…” ขวานยักษ์หัวเราะออกมาอย่างเต็มที่

“หลัวเฟิงยังคงมีความมั่นใจขณะที่ข้าบอกถึงอันตรายที่ซ่อนอยู่ด้านนอก บอกให้เขาแจ้งเราล่วงหน้าเมื่อเขารับมรดกเสร็จแล้ว ข้าจะคุ้มกันเขาเป็นการส่วนตัว ข้าไม่คิดว่าเขาจะไม่พูดอะไรเลยแล้วทำการเคลื่อนไหวเรือสุสานเอง”

“เรือสุสานนั้นมีความพิเศษจริงๆ” ผู้นำเมืองพยักหน้า

มีร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

“หลัวเฟิง” ผู้นำเมืองมีความประหลาดใจ

ขวานยักษ์ได้ลุกขึ้นแสดงความยินดี

“อาจารย์ ผู้สร้างขวานยักษ์ ข้ามีข่าวดีสำหรับพวกท่านทั้งคู่” หลัวเฟิงพูดพร้อมรอยยิ้ม

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version