Skip to content

Swallowed Star 1259

ตอนที่ 1259 อย่ามาที่นี่

บนโต๊ะหินยาวด้านนอกวังเทพขวานยักษ์มีการรวมตัวกันของ19 เจ้าแห่งจักรวาลและผู้สร้างขวานยักษ์

ผู้สร้างขวานยักษ์มองทุกคนที่อยู่รอบๆ และระเบิดเสียงดังออกมา “อย่างแรก เรามาที่นี่เพื่อต้อนรับการกลับมาอย่างปลอดภัยของหลัวเฟิง สอง เรามาหารือเกี่ยวกับแผนการสำหรับยกระดับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราในมหาสมุทรจักรวาล”

ทุกคนรู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ยินเกี่ยวกับการยกระดับเผ่าพันธุ์มนุษย์

ในจักรวาลดั้งเดิมเผ่าพันธุ์มนุษย์ถือเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นยอด แต่ในมหาสมุทรจักรวาลอันกว้างใหญ่ มนุษย์เป็นเผ่าพันธุ์ที่อ่อนแอกว่ามาก

เผ่าพันธุ์มนุษย์นั้นมีผู้นำเป็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเพียงคนเดียว ในมหาสมุทรจักรวาลพวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะถูกจัดอันดับว่าเป็นเผ่าพันธุ์ชั้นยอด

ผู้ที่มาจากยุคกำเนิดที่หนึ่งและสองโดยเฉลี่ยจะมีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดอย่างน้อย 3-5 คน

สิ่งมีชีวิตที่ยอดเยี่ยมของเผ่าพันธุ์มนุษย์ที่มีอยู่คือผู้สร้างขวานยักษ์เพียงคนเดียวเท่านั้น

“คราวนี้จะเป็นตาของเราที่จะยกระดับขึ้นในมหาสมุทรจักรวาล” ผู้สร้างขวานยักษ์แสดงความตื่นเต้นในน้ำเสียง

“ผู้นำทางช้างเผือกจะเป็นผู้นำ ทุกคนจะต้องร่วมมือกัน เราต้องสร้างระดับอมตะ อัศวิน และเจ้าแห่งจักรวาล ให้มากขึ้นในเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรา มันจะนำเราไปสู่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจำนวนมาก”

“ใช่”

“ดี”

ทุกคนตอบกลับด้วยเสียงที่ชัดเจน เจ้าแห่งจักรวาลของเผ่าพันธุ์มนุษย์กำลังเต็มไปด้วยความหวังในเผ่าพันธุ์ของตัวเอง พวกเขาเต็มไปด้วยแรงกระตุ้น พวกเขาเคยได้ฟังหลัวเฟิงสอนจนได้ทราบว่าอารยธรรมโบราณมีวิธีการฝึกฝนอย่างเป็นระบบ สิ่งนี้มีประโยชน์กับพวกเขาเป็นอย่างมาก มันจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการพัฒนามนุษย์อย่างมีประสิทธิภาพ

หลัวเฟิงที่มีความรู้จากอารยธรรมโบราณ และเป็นผู้สืบทอดของสายน้ำวูดูวง เขาถือเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดในฐานะผู้นำ ดีกว่าผู้ที่ไม่มีความรู้จากอารยธรรมโบราณ

“ข้า หลัวเฟิง…” หลัวเฟิงยืนขึ้น

“จะทำให้ดีที่สุดสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรา…เพื่อได้เป็นผู้ครอบครองมหาสมุทรจักรวาล และกลายเป็นผู้มีอำนาจที่สุดของมหาสมุทรจักรวาล”

ในอดีตจะมีผู้มีอิทธิพลคนใดที่จะกล้าพูดเช่นนี้สักกี่คน ไม่มีสักคนเดียวที่จะกล้าพูดออกมาเช่นนี้หากไม่มีพลังเพียงพอ แม้แต่อาจารย์ต้นกำเนิดที่เข้าใกล้ผู้มีพลังที่สุดในขณะนั้น ยังไม่มีแม้แต่คนเดียวที่พูดว่าเผ่าพันธุ์มนุษย์จะเป็นผู้ครอบครองมหาสมุทรจักรวาล หรือกลายเป็นผู้มีอำนาจที่สุด ในด้านพลังอำนาจของเผ่าพันธุ์มนุษย์เทียบกับสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ มนุษย์ยังคงด้อยกว่าอยู่มากนัก

เผ่าพันธุ์มนุษย์ยังไม่มีแม้แต่สมบัติแท้จริงชั้นยอดแม้แต่ชิ้นเดียว แม้ว่าขวานยักษ์จะได้ขวานเทพมาเพราะโชคแล้วก็ตาม แต่ก็เทียบกับสองดินแดนศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้

ขวานยักษ์ส่งเสียงที่ทรงพลังอีกครั้ง “ข้าสามารถเห็นเผ่าพันธุ์มนุษย์มีเจ้าแห่งจักรวาลนับร้อยนับพัน และยังสามารถเห็นเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดนับสิบ สองดินแดนศักดิ์สิทธิ์จะไม่มีทางเทียบกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ มันจะไปแค่ไหนก็ขึ้นอยู่กับความสำเร็จของเราทั้งหมด เราคือวีรบุรุษของเผ่าพันธุ์ มาร่วมกันลงมือทำให้มากยิ่งขึ้นเพื่ออนาคตของเผ่าพันธุ์เรา”

“สำหรับอนาคตเผ่าพันธุ์เรา”

“สำหรับอนาคตเผ่าพันธุ์เรา”

เจ้าแห่งจักรวาลแต่ละคนเปล่งเสียงออกมาด้วยความตื่นเต้น หัวใจของพวกเขานั้นสั่นสะเทือนไปกับมัน

เป้าหมายนี้ของพวกเขานั้นใหญ่มากจนไม่เคยที่จะคิดฝันถึงมันในอดีต พวกเขาไม่กล้าที่จะทำเช่นนี้หากยังคงไร้หนทาง แต่ในตอนนี้ หลัวเฟิงนั้นได้รับมรดกสายน้ำวูดูวง มรดกนี้ได้มอบความกล้าที่จะทำให้เขาเป็นอันดับหนึ่งของมหาสมุทรจักรวาล มันจะส่งผลประโยชน์กับเผ่าพันธุ์มนุษย์และจะสร้างการเปลี่ยนแปลงที่สะเทือนไปทั้งแผ่นดิน

เมื่อการพูดคุยจบ แต่ละคนก็จากไปเหลือไว้เพียงผู้สร้างขวานยักษ์ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล และหลัวเฟิง

“หลัวเฟิง ช่วงเวลานี้เราทำให้เจ้าต้องลำบากแล้ว” ขวานยักษ์กล่าว

“สำหรับเผ่าพันธุ์ของเรา” หลัวเฟิงกล่าว

“ใช่ สำหรับเผ่าพันธุ์ของเรา” ขวานยักษ์พยักหน้า

มีเหตุผลสองอย่างที่ทำให้หลัวเฟิงเริ่มต้นทำสิ่งเหล่านี้เมื่อเขากลับมา สิ่งแรกคือระบบมรดกนั้นมีจำนวนมาก กระบวนการฝึกฝนนั้นเยอะมาก การสอนและส่งผ่านจิตสำนึกจักรวาลเสมือนยังช้าเกินไป สิ่งที่สองคือการพัฒนาเผ่าพันธุ์มนุษย์ในอนาคตจำเป็นต้องมีสิ่งของจำนวนมาก เช่นภูเขาน้ำแข็งที่มีการแกะสลักกฎ สิ่งเหล่านี้สามารถที่จะพบได้จากพื้นที่มรดกที่เขานำ กลับมา

“แผนการยกระดับของเราประกอบด้วยสองส่วน” ผู้สร้างขวานยักษ์มีรอยยิ้ม

“ส่วนแรกเป็นการฝึกฝนเป็นการส่วนตัวของสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ในเผ่าพันธุ์ของเรา ซึ่งจำเป็นต้องใช้เวลา ส่วนที่สองเกี่ยวกับสมบัติแท้จริงชั้นยอดของเรา เจ้าเพิ่งกลับมาจากจักรวาลดั้งเดิม แล้วตั้งใจทำข้อตกลงกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิบูรพาเมื่อใด”

“ข้าจะตั้งใจสร้างกรอบระบบการฝึกฝนกับอาจารย์ก่อน ข้าคิดว่าต้องใช้เวลาราวครึ่งเดือนถึงจะเสร็จทุกอย่าง จากนั้นข้าจะติดต่อกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิบูรพา”

“ถ้าข้ารู้ว่าเจ้าสามารถที่จะได้รับสมบัติแท้จริงชั้นยอดเหล่านี้ ข้าคงไม่ต้องเสี่ยงมุ่งหน้าไปยังพื้นที่ยอดเอียง ตอนนี้ข้ากำลังรีบกลับจากพื้นที่หลัก ด้วยความอันตรายของพื้นที่หลักเหล่านี้ ข้าคิดว่าจะต้องใช้เวลาสักหน่อยในการเร่งกลับมา”

“ต้องให้เจ้ากับอาจารย์จัดการเกี่ยวกับการฝึกฝนแล้ว”

หลัวเฟิงและผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลได้หายไป

———-

ในจักรวาลดั้งเดิม เมืองแห่งความโกลาหล ภายในวังของผู้นำเมือง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลได้ยืนอยู่ตรงระเบียงมองออกไปยังอาคารจำนวนมากของเมืองแห่งความโกลาหล

“หลัวเฟิง แผนการยกระดับมีความสำคัญมาก มรดกของอารยธรรมโบราณจะต้องไม่แพร่กระจายไปทั่วดินแดนของเรา เจ้าเป็นผู้นำระบบการฝึกฝน เจ้าก็ต้องระวังให้มากและสร้างการป้องกันข้อมูลรั่วไหล”

“ด้วยการเกิดขึ้นมากมายของสิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่ในเผ่าพันธุ์มนุษย์ เผ่าพันธุ์อื่นและกลุ่มอำนาจอื่นย่อมต้องสงสัยเป็นธรรมดา นั่นคือเหตุผลที่ข้าเลือกเมืองแห่งความโกลาหลเป็นที่ฝึกฝน มันปลอดภัยที่สุดที่นี่ไม่มีใครกล้าที่บุกเข้ามา ยังมีบางสิ่งที่สายลับสามารถที่จะมองเห็นได้แต่ไม่สามารถที่จะขโมยได้ เช่นภูเขาน้ำแข็งสามร้อยลูกที่ข้าได้เตรียมไว้”

“นอกจากนี้ข้ายังสร้างพื้นฐานในระดับที่แตกต่างกันสำหรับผู้มีพรสวรรค์ให้มีการฝึกฝนที่เป็นส่วนตัวมากขึ้น”

ระบบการฝึกฝนที่มีขนาดใหญ่และซับซ้อน ยังมีสิ่งที่เกี่ยวข้องกับมันหลัวเฟิงได้เตรียมเอาไว้ และยังมีการฝึกฝนจำนวนมากมายที่หลัวเฟิงทำเอาไว้ในจักรวาลเสมือน

หลัวเฟิงได้นำหินความทรงจำ 12 ก้อนวางไว้ในพื้นที่หลักของจักรวาลเสมือนจริง มันตั้งอยู่ภายในวังของผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล จุดประสงค์เพื่อที่จะรับข้อมูลจำนวนมหาศาลจากหินความทรงจำ

จักรวาลเสมือนและเมืองแห่งความโกลาหลเป็นสถานที่สำคัญทั้งสองแห่งสำหรับการฝึกฝน

ผู้ที่มาสัมผัสกับความลับนั้นจะต้องอยู่ในระดับสูงหรือเป็นทาสวิญญาณ ไม่ว่าข้อมูลจำนวนมากเท่าใดที่ทุกคนเชื่อมต่อได้มันเพียงแค่ส่วนเล็กๆ ของยอดภูเขาน้ำแข็ง สิ่งที่จักรวาลเสมือนจริงยอมรับเท่านั้นถึงจะกลายเป็นระบบได้ มีเพียงแค่หลัวเฟิงเท่านั้นที่รู้มากที่สุด

———-

จักรวาลดั้งเดิม ดินแดนทางช้างเผือก วังเทพของหลัวเฟิง

“ข้าได้กลับมาจักรวาลดั้งเดิมได้ไม่นาน” หลัวเฟิงถือเหรียญตราขึ้นมาส่งข้อความ

“เจ้าแห่งจักรวาลดาวเหนือที่แท้จริงไม่ต้องกังวลใจ ข้อตกลงของเราจะเกิดขึ้นในไม่ช้า”

ข้อความเร่งด่วนจากจักรวาลเสมือนได้ส่งมาหาหลัวเฟิงจากผู้นำเมือง “หลัวเฟิงเข้ามายังจักรวาลเสมือนเร็วเข้า”

“เอ๊ะ มีเรื่องเร่งด่วนอะไร”

เมื่อหลัวเฟิงมองไปยังข้อความที่ถูกส่งมา ตัวอักษรเป็นสีแดงเลือดจึงถือว่าเป็นสิ่งที่เร่งด่วนสูงสุด

หลัวเฟิงปรากฏตัวขึ้นในจักรวาลเสมือน เขามองเห็นผู้นำเมืองที่อยู่บนยอดเขาสายฟ้า

“อาจารย์”

การแสดงออกของผู้นำเมืองมีความจริงจัง “เราไปที่วังของขวานยักษ์กัน”

เขาพูดโดยไม่มีคำอธิบายใดๆ

———-

ดินแดนแห่งความมืดสุดสายตาที่มีแสงดาวลอยอยู่ในท้องฟ้า บนพื้นดินที่ลอยอยู่มีหลายร่างปรากฏตัวขึ้นมาบนโต๊ะหินยาวหน้าวังขวานยักษ์

หลัวเฟิงและผู้นำเมืองเป็นคนแรกที่มาถึง

“อาจารย์เกิดอะไรขึ้น” หลัวเฟิงถามในทันที

“เจ้าได้รู้มาสักพักแล้ว” ผู้นำเมืองพูดเสียงเศร้า

หลัวเฟิงคิดว่าเรื่องนี้สำคัญมาก ถ้ามันยังไม่อยู่ในการควบคุมของเขา อาจารย์คงไม่รอให้เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนอื่นมา

เจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 19 ได้มารวมตัวกันอย่างรวดเร็ว

มีหนึ่งร่างอยู่ในตำแหน่งหลักของโต๊ะปรากฏขึ้นมา เขาคือผู้สร้างขวานยักษ์

“ทุกคน” ขวานยักษ์กล่าว

สายตาของเขากวาดผ่านเจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 19 ทุกคนถูกเรียกรวมตัวกันจากข้อความด่วน

“ข้าได้พบกับปัญหาบางอย่าง” ผู้สร้างขวานยักษ์พูดด้วยเสียงต่ำ

“ข้าอยู่ในพื้นที่หลักของพื้นที่ยอดเอียง ได้พบการต่อสู้ที่เป็นปัญหา แผนที่ที่มาจากเจ้าแห่งจักรวาลยันอาจะต้องเป็นของปลอม”

“แผนที่ปลอม” หลัวเฟิงตกใจ เขาได้มันมาจากตอนที่ไปกำจัดเจ้าแห่งจักรวาลยันอา

“มันเป็นกลอุบาย” ผู้สร้างขวานยักษ์มีท่าทีเคร่งขรึม

“แต่ศัตรูไม่คิดว่าข้าจะแข็งแกร่งมากจึงทำให้พวกเขาพ่ายแพ้ แต่การต่อสู้ทำให้ข้าโชคร้ายตกลงไปยังดินแดนความมืดของพื้นที่หลัก”

“ดินแดนความมืด!”

แผนที่ส่วนใหญ่ที่ได้รับมาถูกสนับสนุนจากหลัวเฟิง เขาจึงรู้เรื่องดีที่สุด

ดินแดนความมืดคือดินแดนที่น่ากลัวที่สุดของพื้นที่ยอดเอียง เมื่อเทียบกับพื้นที่หลักของที่อื่นแล้วมันเพียงแค่ของเล่นเด็ก มันเป็นที่รู้กันดีว่าไม่มีใครที่ตกลงไปยังดินแดนแห่งความมืดแล้วสามารถกลับออกมาได้อีก มันเป็นเหมือนกับคุกที่ไร้ความหวัง และอันตรายยิ่งกว่าที่ใด

“ผู้ที่ลงไปยังดินแดนแห่งความมืดนี้คือเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั้งหมด แต่ข้ายังไม่เคยได้ยินว่าใครออกมาจากที่นั้นได้เลย” ผู้สร้างขวานยักษ์จ้องมองไปทั้ง 19 คน

“ประเด็นแรกคือผู้ที่ลงไปยังดินแดนแห่งความมืดนี้น้อยมาก ด้วยจำนวนที่น้อยยังอธิบายถึงสถานการณ์ไม่ได้มาก ส่วนที่สอง ข้าแตกต่างจากเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั่วไป”

“ข้าไม่ได้ถูกขังอยู่ในดินแดนแห่งความมืดและออกไปไม่ได้ในขณะนี้ ไม่มีใครนอกจากเราเท่านั้นที่รู้ ข้าต้องใช้เวลาในการคิดแผนที่จะออกไป ช่วงเวลานี้เผ่าพันธุ์มนุษย์คงต้องปรากฏตัวต่อสังคมให้น้อยลง”

“อาจารย์ต้นกำเนิดถูกขังเอาไว้ ข้าติดอยู่ในกับดัก สิ่งนี้จะเป็นอันตรายอย่างมาก จะต้องไม่ให้ข่าวนี้รั่วไหล”

เจ้าแห่งจักรวาลทุกคนตอบรับ

ทุกคนรู้ดีเกี่ยวกับสถานการณ์ที่รุนแรงนี้ หากไม่มีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเป็นผู้นำ ข่าวที่แพร่กระจายออกไปจะเป็นปัญหาใหญ่

“ข้าจะทำให้ดีที่สุด ไม่จำเป็นต้องรบกวนหากไม่มีสิ่งจำเป็นอย่าติดต่อข้า”

ผู้สร้างขวานยักษ์พูดด้วยท่าทีจริงจังก่อนที่จะหายไป

บนโต๊ะยาวหน้าวังเทพขวานยักษ์มีเจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 19 กำลังมีความกังวล

มันจะเกิดอะไรขึ้นหากผู้สร้างขวานยักษ์ไม่สามารถที่จะกลับมาได้ตลอดกาล หากปราศจากเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เผ่าพันธุ์มนุษย์จะต้องพบกับปัญหามากมายในอนาคต

“ข่าวของขวานยักษ์ที่ถูกขังเอาไว้จะต้องไม่รั่วไหลออกไป ให้ข่าวนี้ถูกจัดอยู่ในความลับสูงสุด”

ทุกคนพยักหน้า…ทว่าทันใดนั้น

ทุกคนรับรู้ว่าผู้สร้างขวานยักษ์ได้ปรากฏตัวขึ้นมาอีกครั้งบนเก้าอี้ของตัวเอง ในสายตาของเขาแสดงความโกรธและความกลัว เขาคำรามออกมาเสียงดัง

“จำไว้อย่ามาที่ดินแดนแห่งความมืด อย่ามาที่นี่”

ร่างของเขาหายไป

เจ้าแห่งจักรวาลทุกคนรู้สึกถึงลางร้าย

“มีอะไรเกิดขึ้น”

“ผู้สร้างขวานยักษ์พบกับอะไร”

“ทำไมเขาถึงหายไปหลังจากพูดแบบนั้น”

ท่าทางของเจ้าแห่งจักรวาลทองสูญได้แสดงออกถึงความกลัวจนพูดเสียงเพี้ยน “จักรวาลขนาดเล็กขวานยักษ์กำลังพังทลาย ขวานยักษ์ได้ถูกทำลาย”

“จักรวาลขนาดเล็กกำลังพังทลาย”

“ขวานยักษ์ตายแล้ว!”

หลายคนลุกขึ้นอยู่ด้วยความตกใจ นี่คือฝันร้ายสำหรับเผ่าพันธุ์มนุษย์ เจ้าแห่งจักรวาลทุกคนล้วนโกรธและตกตะลึงกับเหตุการณ์

มีเพียงเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนเดียวในเผ่าพันธุ์มนุษย์เท่านั้น มันเป็นเหมือนกับท้องฟ้าที่ปกคลุมทั้งเผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ทรุดตัวลง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version