ตอนที่ 1287 สามเผ่าพันธุ์พ่ายแพ้

เหตุการณ์ต่างๆ ได้เกิดขึ้นอย่างฉับพลันสำหรับฝ่ายพันธมิตร่วมสามเผ่าพันธุ์ที่อยู่ในสนามรบ

มันได้กลายเป็นหายนะสำหรับพวกเขา เมื่อมนุษย์ทำการตอบโต้กลับหลังจากที่กองกำลังของพวกเขานั้นอยู่ในตำแหน่งที่ได้เปรียบ กองกำลังสามเผ่าพันธุ์ได้ถูกบดขยี้จนพ่ายแพ้

บิดาเทพที่ต้องการเข้าไปช่วยเหลือสองบรรพบุรุษมารก็ไม่มีทางช่วยได้เพราะถูกโจมตีโดยเจ้าแห่งจักรวาลกว่า 50 คน พลังโจมตีพอที่จะทำให้บิดาเทพต้องถอยหลังกลับคืนตำแหน่งเดิมจะไม่อาจเข้าช่วยได้ทัน

หลังจากอสูรเขาทองปรากฏตัวขึ้นมาก็เข้าร่วมโจมตีกับร่างมนุษย์โลกของหลัวเฟิงและเป็งกง ทั้งสามได้เข้าร่วมโจมตีพร้อมกับเจ้าแห่งจักรวาลอีก 50 จนทำให้สองบรรพบุรุษมารต้องกระเด็นถอยหลังออกไปไกล

ช่วงเวลานั้นได้เกิดสิ่งที่สำคัญที่สุดขึ้น หอคอยดวงดาวได้ปรากฏตัวออกมา

เจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมด 16 คนที่คอยอยู่ภายในเรือยักษ์ได้ถูกดูดโดยหอคอยดวงดาว แม้ว่ายังมีความสามารถที่จะพอต้านทานพลังดูดของหอคอยดวงดาว แต่ที่หลุมลึกใต้ฐานของหอคอยดวงดาวก็ยังมีหยดเลือดเทพอยู่ เมื่อต้องพบกับผลกระทบจากเลือดเทพนี้ กองกำลังมากกว่าครึ่งจึงต้องหมดสติลง ส่วนที่เหลือต้องล้มคุกเข่าลง ส่วนคนเดียวนั้นพอที่จะยืนอยู่เพื่อใช้พลังต่อต้านแรงดึงดูดจากหอคอยดวงดาวจนไม่สามารถทำอะไรได้

กองกำลังร่วมนั้นได้ป้องกันเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นจึงได้กระจายเจ้าแห่งจักรวาลที่มีอำนาจจิตระดับสูงสุดของเจ้าแห่งจักรวาล และเจ้าแห่งจักรวาลที่มีอำนาจจิตระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเอาไว้ส่วนมากที่วังจักรพรรดินี สำหรับส่วนกลุ่มแยกอื่นนั้นมีเพียงหนึ่งคนที่มีอำนาจจิตถึงขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาลเท่านั้น

ถึงเรือยักษ์นั้นจะเป็นสมบัติที่ถูกควบคุมโดยบรรพบุรุษมารเขย่าขวัญ ด้วยการจัดการระยะไกลจึงไม่พอที่จะควบคุมและป้องกันไปพร้อมกันได้ ด้วยความต่างของสมบัติที่พวกเขาใช้จึงไม่มีวิธีที่จะต่อต้าน

ทุกสิ่งได้ถูกดูดเข้าไปยังหอคอยดวงดาว รวมถึงสองเจ้าแห่งจักรวาลที่ต้องการหลบหนีได้ออกมาจากเรือโบราณ ทั้งสองไม่อาจทำอะไรได้ ไม่ว่าพวกเขาจะต่อต้านแรงดึงดูดของหอคอยดวงดาวแค่ไหนก็ตาม

———-

ในอวกาศว่างเปล่าในระยะไกล สิ่งมีชีวิตยิ่งใหญ่และเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจำนวนมากได้มารวมตัวกัน เมื่อคนรู้จักคุ้นเคยกันจากเจ้าแห่งจักรวาลในบางกลุ่มมาพบเจอกัน พวกเขาก็เริ่มทำการพูดคุยและแลกเปลี่ยนความคิดเห็น

แต่เมื่อเกิดการพลิกกระดานจนสถานการณ์ค่อยๆ ย่ำแย่ลง พวกเขาจึงตกตะลึงกันอย่างสมบูรณ์ มันเป็นสถานการณ์พลิกกลับที่ทำให้พันธมิตรสามเผ่าพันธุ์ถึงกับความพ่ายแพ้

“พวกเขาแพ้จริงๆ” ในหมู่เจ้าแห่งจักรวาลจำนวนมาก ขุนเขาผู้ยิ่งใหญ่ได้แสดงความตกใจบนหน้าและถอนหายใจออกมา

“ช่างน่าประหลาดใจจริงๆ”

“เผ่าพันธุ์ทั้งสามพ่ายแพ้จริงๆ งั้นรึ” สิ่งมีชีวิตในชุดคลุมสีม่วงถอนหายใจ

“กลับกลายเป็นสถานการณ์ที่ยากลำบากสำหรับสามเผ่าพันธุ์ที่เสียเจ้าแห่งจักรวาลไปจำนวนมาก หายนะที่แท้จริงเป็นเพราะมนุษย์มีสมบัติสร้างผลกระทบอำนาจจิต สิ่งนี้กันไม่ให้เจ้าแห่งจักรวาลปลดปล่อยพลังออกมาปราศจากความช่วยเหลือจากกลุ่มเจ้าแห่งจักรวาล เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั้ง 4 นั้นไม่เพียงพอที่จะต่อสู้กับกองกำลังของมนุษย์”

สัตว์เทพแก่ถอนหายใจ “หมดหวังแล้ว กองกำลังร่วมสามเผ่าพันธุ์ได้พ่ายแพ้ไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ที่จะพยายามต่อสู้ต่อไป”

สัตว์ประหลาดสีดำเปล่งเสียงแหลม “ตายไปหลายคน ฮ่า ฮ่า เขย่าขวัญ ความฝัน ไอ้เจ้าโง่ทั้งสอง เผ่ามารควรรู้ว่าอยู่ใต้การนำ ของพวกมันจะต้องพบความพินาศ”

ลูกไฟขนาดใหญ่ได้ปล่อยเสียงออกมา “พวกเขาแพ้ให้กับสมบัติที่ส่งผลกระทบอำนาจจิตของมนุษย์”

“ใช่ สมบัติที่มีผลกระทบอำนาจจิตอันแข็งแกร่ง”

“สมบัตินั้นเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้เกิดการพลิกกลับ กองกำลังเจ้าแห่งจักรวาลที่แข็งแกร่งล้วนไร้ประโยชน์ต่อหน้าสมบัตินั้น”

เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดต่างถอดถอนใจ

“นั่นคือสมบัติแบบไหนกัน”

“เราอยู่ไกลเกินไป ในสนามรบมีความผันผวนมากเกินไป ไม่มีทางที่เราจะมองได้ชัดเจน ผลกระทบอำนาจจิตเป็นสิ่งที่จับต้องไม่ได้จึงไม่มีทางรู้ว่าเป็นสมบัติชนิดใด หากตัดสินจากปฎิกิริยาของเจ้าแห่งจักรวาลในพันธมิตรสามเผ่าพันธุ์ พวกเขาจะต้องได้รับผลกระทบจากอำนาจจิตนั้น”

“ไม่มีใครสังเกตเห็นหอคอยดวงดาวหรือ”

“ใช่ ข้าเห็นมัน แต่ข้าไม่คิดว่ามันจะอยู่ในมือของเผ่าพันธุ์มนุษย์ และดูเหมือนหลัวเฟิงจะเป็นผู้ควบคุม”

“โอ้ หอคอยดวงดาวนั้น ก่อนหน้านี้เราทุกคนก็ได้พยายามเกี่ยวกับมัน แต่ก็ไม่มีใครที่สามารถควบคุมมันได้ ใครจะคิดว่ามันจะตกอยู่ในมือของหลัวเฟิง”

เจ้าแห่งจักรวาลจำนวนมากเริ่มใคร่ครวญ พวกเขาส่ายหัวและถอนหายใจ

พลังของหอคอยดวงดาวนั้นแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย ปัญหาเดียวของมันตั้งแต่อดีตคือการที่ไม่มีผู้เป็นเจ้าของมันได้ มันจะต้องเป็นสมบติแท้จริงสูงสุดประเภทวังอย่างแน่นอน ประเภทวังนั้นเป็นสิ่งที่หายากมาก ทั้งจักรวาลดั้งเดิม เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดทั้งหมดรวมกันมีเพียงสองเท่านั้น

ในสงครามครั้งนี้มนุษย์นั้นได้แสดงให้เห็นถึงหอคุกดำ แต่เดิมมันเป็นของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จักรพรรดิบูรพา จากนั้นยังแสดงให้เห็นถึงหอคอยดวงดาวที่ไม่มีใครสามารถเป็นเจ้าของมันได้มาก่อน

“มนุษย์มีประสิทธิภาพมาก พวกเขามีกลุ่มเจ้าแห่งจักรวาลขนาดใหญ่ มีการโจมตีจากอาวุธสมบัติแท้จริงสูงสุด สองวังสมบัติแท้จริงสูงสุด ที่สำคัญ หลัวเฟิงนั้นมีสองร่างที่มีพลังเข้าถึงระดับหก ข้าเคยได้ยินมานานแล้ว่าเขามีร่างสัตว์อวกาศ และร่างเผ่าโมชานที่ถูกพบมาก่อนหน้า เขาอาจคว้าร่างอสูรเขาทองมาด้วยชัยชนะตัวเอง เขาจึงสามารถแบ่งตัวเองออกมาได้สามร่าง ทั้งสองร่าง และร่างอื่นๆ ก็คงสามารถปล่อยพลังต่อสู้ในระดับหก”

“ใช่ ร่างมนุษย์และอสูรเขาทองนั้นสามารถปลดปล่อยพลังต่อสู้ถึงระดับหก แต่มันเป็นไปได้ไหมที่ดาบและปีกคู่นั้นจะเป็นสมบัติแท้จริงสุงสุดเหมือนกัน มีสมบัติมากจริงๆ”

“หลัวเฟิงได้รับมรดกสายน้ำวูดูวง เขาได้พบกับโอกาสที่ใครๆ ก็ต้องอิจฉา มันอาจไม่ต้องเป็นสมบัติแท้จริงสูงสุด ก่อนหน้านี้เขาได้รับมรดกจากพื้นฐานดาบ การสืบทอดก่อนหน้านี้จำเป็นต้องสร้างเทคนิคระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เมื่อคิดจากสิ่งนี้ เขาจะต้องมีเทคนิคดาบในระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดอยู่แล้ว”

สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลที่ต้องการใช้พลังในระดับหกนั้นต้องการระดับยีนชีวิตของร่างอมตะที่ 1 หมื่นเท่า และต้องใช้การแกะสลักของสมบัติแท้จริงสูงสุดถึงจะปลดปล่อยพลังระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด

หลัวเฟิงนั้นไม่จำเป็นต้องมีสมบัติแท้จริงสูงสุดก็ปลดปล่อยเทคนิคระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้ มันเป็นเทคนิคที่เขาเป็นผู้สร้างมันเอง ถ้าเจ้าแห่งจักรวาลที่มียีนชีวิต 1 หมื่นเท่าก็สามารถใช้เทคนิคระดับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดได้ มีเพียงอย่างเดียวสำหรับพวกเขาคือพลังงานอมตะนั้นอ่อนแอ

แต่หลัวเฟิงนั้นมีพลังถึงระดับห้าเท่านั้น ส่วนดาบเงาเลือดช่วยทำให้เขาเข้าถึงพลังระดับหก แต่ปีกสีขาวคู่นั้นไม่ได้ไปถึงขั้นหก ทำให้อสูรเขาทองต้องใช้เทคนิคเพื่อระเบิดพลัง

“ตาแก่สัตว์เทพ หลัวเฟิงนั้นดูเหมือนจะมีร่างอสูรเขาทอง แต่เจ้ากลับดูไม่ตกใจกับมันเลยไม่ใช่หรือไง”

“อสูรเขาทองที่ทำให้เขามีร่างกายอื่นนั้นแสดงว่ายังไม่ใช่อมตะ ภายในพันธมิตรสัตว์อวกาศของข้า…สัตว์อวกาศที่อ่อนแอจะต้องใช้ชีวิตเร่ร่อนในจักรวาล ชะตากรรมของเขาจะต้องอยู่ในการควบคุมของเขา”

“ข้าขอตัว”

“สงครามนี้จบแล้ว”

“ข้าไปล่ะ”

“ตอนแรกข้าต้องการตั้งความหวังไว้กับพันธมิตรสามเผ่าพันธุ์ แต่พวกนั้นก็ไปไม่ถึงฝั่ง ตอนนี้ถึงเวลาเตรียมความพร้อม”

ไม่นานเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดที่มาอยู่ในจักรวาลมืดในช่วงเวลาหนึ่งได้ค่อยๆ หายไป เจ้าแห่งจักรวาลที่คอยเฝ้าดูเหตุการณ์ต่อก็เริ่มค่อยๆ หายไปทีละคน

———-

ทุกอย่างก็สายเกินไปหลังจากที่สองบรรพบุรุษมารได้ปลิวกันออกไป

“เจ้ามนุษย์” สองบรรพบุรุษมารส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ

“พวกแกทั้งหมดสมควรตาย” บิดาเทพก็โกรธมากไม่แพ้กัน

“น่ารังเกียจ…เจ้าพวกมนุษย์น่ารังเกียจ” จักรพรรดินีปรากฏตัวออกมานอกวังด้วยใบหน้าที่โกรธ

สี่เจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจากสามเผ่าพันธุ์ได้โกรธถึงจุดสูงสุด

ดวงตาเทพได้ถูกวางอยู่ตรงประตูเรือสุสาน มันยังคงกวาดสายตาของมันไปมาซ้ำๆ ยังวังจักรพรรดินีที่เจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 62 กำลังซ่อนตัวอยู่

“ฮ่า ฮ่า…” หลัวเฟิงหัวเราะออกมาเสียงดัง

หอคอยดวงดาวขนาดใหญ่หดตัวลงบนหลังของอสูรเขาทอง ที่ด้านข้างของมันคือร่างมนุษย์โลกในปีกสีเงิน ไกลออกไปทางด้านหลังเป็นเจ้าแห่งจักรวาลเป็งกง หอคุกดำ ที่ด้านหลังของพวกเขาเป็นเรือสุสาน

“ยังอยากที่จะสู้ต่ออีกไหม” หลัวเฟิงตะโกน

“ถ้าทั้งสามเผ่าพันธุ์ยังคงต้องการสู้ต่อเราก็เต็มใจ” เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกงตะโกนออกมา

กองกำลังร่วมสามเผ่าพันธุ์นั้นกำลังโกรธกันอย่างมาก แต่เมื่อมองไปยังหอคุกดำ และหอคอยดวงดาวที่อยู่บนหลังของอสูรเขาทอง มันเป็นสองสมบัติแท้จริงสูงสุดประเภทวัง แล้วร่างอสูรเขาทองจากข้อมูลก่อนหน้าทำให้พวกเขาคิดว่าน่าจะเป็นร่างของหลัวเฟิง ร่างอื่นๆ ของหลัวเฟิงจะต้องมีระดับพลังต่อสู้ในระดับหก เจ้าแห่งจักรวาลเป็งกงก็มีพลังต่อสู้ในระดับหก ทำให้พลังต่อสู้ของมนุษย์อยู่ในแง่ที่ดี

นอกจากนี้ฝ่ายมนุษย์ยังคงมีกองกำลังเจ้าแห่งจักรวาลขนาดใหญ่ และสมบัติที่มีอำนาจสร้างผลกระทบจิตใจต่อเจ้าแห่งจักรวาล ทำให้พวกเขาไม่สามารถที่จะแสดงศักภาพของตัวเองได้

“มนุษย์ พวกเจ้าชนะได้เพราะมีสมบัติแท้จริงสูงสุด” บรรพบุรุษมารเขย่าขวัญส่งเสียงดัง

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ช่างเป็นเรื่องที่ตลกจริงๆ”

หลัวเฟิงขยับมือซ้าย หอคอยดวงดาวได้บินเข้าไปอยู่เหนือฝ่ามือของหลัวเฟิง จากนั้นเขาก็หัวเราะอย่างมีความสุขก่อนที่จะพูด

“ความสามารถที่จะครอบครองสมบัติแท้จริงสูงสุดก็ถือว่าเป็นความสามารถเช่นเดียวกับมรดกสายน้ำวูดูวงที่ไม่มีผู้รู้เกี่ยวกับมัน…”

สิ่งนี้เรียกกว่าความสามารถเพราะหลัวเฟิงนั้นคือผู้ชนะ ไม่เป็นอย่างบิดาเทพที่คอยซ่อนตัวอยู่ในวงรีสีดำ เพื่อซ่อนตัวจากกลุ่มเจ้าแห่งจักรวาลมนุษย์