ตอนที่ 1322 คำสั่งฆ่าจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง
ตรงกลางบึงวังวนมีแนวปะการังขนาดใหญ่ 12 เจ้าแห่งจักรวาลกำลังกลัวกับสิ่งที่ได้เห็นต่อหน้า พวกเขาต่างรับรู้ถึงความเป็นศัตรูต่อกันของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงและมนุษย์ เมื่อเห็นถึงความดุร้ายของหลัวเฟิงได้ทำให้เจ้าแห่งจักรวาลทั้ง 12 หวาดกลัว
“ทุกท่าน หากไม่มีสิ่งไม่ดีเกิดขึ้นระหว่างเราก็จะไม่มีการโจมตีจากข้า โปรดทำใจให้สบาย” หลัวเฟิงกวาดตามองไปยังกลุ่มเจ้าแห่งจักรวาล จากนั้นเขาก็บินเข้าไปยังประตูด้านหนึ่งของหอคอยดวงดาว
เจ้าแห่งจักรวาลที่แนวปะการังมองหน้ากันและทำการพูดคุยกันเงียบๆ ในที่สุดพวกเขาก็เริ่มกังวล การที่หลัวเฟิงตามจับเจ้าแห่งจักรวาลทีละคนอาจเป็นส่วนหนึ่งของแผนของหลัวเฟิง เพื่อจะได้ตามจับพวกเขาทั้งหมด
“เป็นไปไม่ได้”
“ด้วยสมบัติสร้างผลกระทบกับอำนาจจิตอันแข็งแกร่งของเขา ไม่มีทางที่เราจะหนีพ้นหลัวเฟิง ก่อนหน้านี้ผู้นำทางช้างเผือกมาถึงก็ได้จับเจ้าแห่งจักรวาลกระสวยสายฟ้าทันที 11เจ้าแห่งจักรวาลที่อยู่ที่นี้ตลอดนั้นไม่ได้ถูกเขาโจมตี”
“ใช่”
เจ้าแห่งจักรวาลกำลังพูดคุยกันเงียบๆ พวกเขาเข้าใจว่าหลัวเฟิงต้องการฆ่าหรือจับพวกเขาทั้งหมดจริงๆ หลัวเฟิงคงทำมันไปนานแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องช้า ยิ่งกว่านั้น การกระทำของเขาอาจส่งผลกับทั้งเผ่าพันธุ์ เขาไม่มีทางสร้างศัตรูจำนวนมาก
———-
ภายในหอคอยดวงดาว เขาแสดงรอยยิ้มและพูดออกไป “เจ้าแห่งจักรวาลพาก้า”
เสียงของเขาถูกส่งไปยังพื้นที่หนึ่งของหอคอยดวงดาว
เจ้าแห่งจักรวาลพาก้าที่อยู่เพียงคนเดียวบนพื้นดินว่างเปล่า
“ไม่ต้องห่วง การฆ่าเจ้านั้นเกิดขึ้นง่ายนัก ที่จริงแล้วข้าไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นศัตรูกับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง แต่พวกเจ้าทุกคนพยายามทำสิ่งต่างๆ ให้ยากขึ้นสำหรับพวกเรา อย่างสงครามก่อนหน้านี้ และยังหลังสงคราม ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงได้มอบมรดกโบราณให้กับกลุ่มอำนาจทั้งหมดในจักรวาลดั้งเดิม บังคับให้ความก้าวหน้าของเรานั้นช้าลงอย่างเห็นได้ชัด”
เผ่าพันธุ์มนุษย์ทั้งหมดโกรธแค้นดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง หากเขาไม่กระจายมรดกโบราณออกไป มนุษย์จะแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และการเติบโตของมนุษย์จะเพิ่มเร็วขึ้นกว่าเดิม
ตอนนี้แม้แต่พันธมิตรร่วมก็ยังได้รับมรดกด้วย ถึงแม้จะไม่เทียบเท่ากับของมนุษย์ แต่มันก็ยังมีความสมบูรณ์เพียงพอ ทำให้มนุษย์ไม่สามารถที่จะขยายอาณาเขตพวกเขาได้ง่ายๆ หากมนุษย์ไม่สามารถที่จะขยายอาณาเขต เจ้าแห่งจักรวาลและเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดของมนุษย์ก็จะมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น
ด้วยการแทรงแซงของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง มนุษย์ไม่อาจมีเจ้าแห้งจักรวาลเทียบเท่ากับดินแดนศักดิ์สิทธิ์หลังสิ้นสุดยุคกำเนิด สิ่งที่เกิดขึ้นนี้จะไม่ทำให้มนุษย์โกรธและเกลียดชังได้อย่างไร
“คำสั่งของท่านบรรพบุรุษคือความถูกต้อง เจ้าเป็นใครกล้ามาสั่งพวกเรา ฝันไปเถอะเจ้าโง่” เจ้าแห่งจักรวาลพาก้ากล่าว
“งั้นก็รอดู” หลัวเฟิงกล่าว
———-
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง ภายในวันเดียวกันนั้น
“เป็นไปตามที่ท่านบรรพบุรุษบอกกับข้า เมื่อไปถึงแนวปะการังของบึงวังวน หลัวเฟิงก็โจมตีข้าตามที่ท่านบรรพบุรุษคาดการณ์ไว้” เจ้าแห่งจักรวาลพาก้ากล่าว
เขาคุกเข่าทำความเคารพแล้วทำการรายงานต่อร่างที่ลอยอยู่กลางอากาศ ร่างเงาสีม่วงจางๆ นั้นคือบรรพบุรุษจันทร์ม่วง
“เขาเคลื่อนไหวแล้วสินะ”
“ตอนนี้เขาใช้อีกร่างของข้าเป็นเชลย แต่ยังไม่ได้ทำลายร่าง” เจ้าแห่งจักรวาลพาก้ากล่าว
เจ้าแห่งจักรวาลพาก้ากำลังชื่นชมบรรพบุรุษจันทร์ม่วงมากยิ่งขึ้น ตอนที่บรรพบุรุษจันทร์ม่วงรู้ถึงหลัวเฟิงที่มายังเรือจักรวาล เขาก็เริ่มคาดการณ์เส้นทางที่หลัวเฟิงกำลังมุ่งหน้าไป เขามอบเส้นทางที่หลัวเฟิงจะมุ่งหน้าไปทั้งหมดให้กับเจ้าแห่งจักรวาลของเขาใช้ในการหลีกเลี่ยงบริเวณรอบๆ หลัวเฟิง
หลัวเฟิงกำลังรอเจ้าแห่งจักรวาลดาวพายุสายฟ้ายิ่งใหญ่อยู่ที่บึงวังวน บรรพบุรุษจันทร์ม่วงก็มีคำสั่งให้กับเจ้าแห่งจักรวาลพาก้า เขาอยู่ใกล้เคียงกับบึงวังวนที่สุด แล้วหลัวเฟิงก็ตอบสนองด้วยการจับเจ้าแห่งจักรวาลพาก้าเอาไว้
“เขาไม่สามารถแม้แต่จะรักษาความสงบเอาไว้ หลังจากที่ได้รับมรดกสายน้ำวูดูวง เมื่อประสบความสำเร็จจนเป็นเทพแท้จริง ด้วยเทคนิคที่ได้รับสืบทอดจากสายน้ำวูดูวง เขาจะต้องมีพลังยิ่งกว่าอาจารย์ต้นกำเนิด” บรรพบุรุษจันทร์ม่วงส่ายหัว
เจ้าแห่งจักรวาลพาก้ารู้สึกประหลาดใจมาก “มี…มีพลังยิ่งกว่าอาจารย์ต้นกำเนิดงั้นเรอะ”
จากพื้นฐานการคาดเดาของบรรพบุรุษจันทร์ม่วงหากเป็นไปตามเส้นทางกฎ หลัวเฟิงจะต้องก้าวหน้าอย่างรวดเร็วและกลายเป็นเทพแท้จริงในเวลาอันสั้น
ทันทีที่ได้เป็นเทพแท้จริง หลัวเฟิงก็จะแข็งแกร่งยิ่งขึ้นอย่างก้าวกระโดด จากนั้นเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่าอาจารย์ต้นกำเนิด เมื่อถึงเวลานั้น หลัวเฟิงสามารถกวาดล้างเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดที่ขวางทางเขาทั้งหมดได้
แต่หลัวเฟิงนั้นเลือกเส้นทางพลังงานอมตะ และเป็นระดับยากสูงสุดที่ระดับยีนชีวิตเกินกว่า 9 หมื่นเท่า มันเป็นสิ่งที่ต้องใช้เวลายาวนานกว่าบรรพบุรุษจันทร์ม่วงคาดการณ์เอาไว้
“ต้องการที่จะสู้กับข้า? ส่งคำสั่งออกไป นับจากนี้ เจ้าแห่งจักรวาลจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงจะต้องหลบเลี่ยงหลัวเฟิง มนุษย์อาจมีการเคลื่อนไหวที่ชั่วร้าย แม้จะต้องกลับมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์และอยู่อย่างเงียบสงบตลอดยุคกำเนิดก็เป็นเรื่องเล็กน้อยสำหรับดินแดนศักดิ์สิทธิ์”
“ในเวลาเดียวกัน เราต้องทำให้ทุกกลุ่มอำนาจในมหาสมุทรจักรวาลรับรู้ ตั้งแต่หลัวเฟิงเป็นคนเริ่มยั่วยุดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงของข้า จากนี้ไปดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงจะทำการฆ่าเจ้าแห่งจักรวาลมนุษย์ทุกคนจากจักรวาลดั้งเดิมที่เหยียบเข้ามายังมหาสมุทรจักรวาล”
“ครับ” เจ้าแห่งจักรวาลพาก้าตอบกลับ
“ไปซะ”
เจ้าแห่งจักรวาลพาก้าทำความเคารพก่อนที่จะจากไป
“หลัวเฟิง เจ้าแห่งจักรวาลทั้งหมดของมนุษย์จะได้รับรู้ถึงการยั่วยุจะเป็นอย่างไร ทำให้ข้าต้องออกคำสั่งฆ่า มนุษย์ทุกคนคงไม่พอใจที่หลัวเฟิงทำให้พวกเขาต้องต่อสู้กับข้า เจ้าคือศัตรูตามโชคชะตาของข้าอย่างแท้จริง”
“เราจะได้เห็นกันว่าใครกันแน่ที่จะเป็นผู้หัวเราะคนสุดท้าย”
———-
ในอวกาศพื้นที่หนึ่งภายในจักรวาลเสมือน
หลัวเฟิงเชื่อมต่อกับจักรวาลเสมือนอยู่ตลอด ไม่นานนี้เขากำลังเต็มไปด้วยความตื่นเต้น
แต่ตอนนี้เขามีใบหน้าบูดบึ้ง
เขาตื่นเต้นจากข้อมูลชิ้นหนึ่ง และบูดบึ้งจากข้อมูลอีกชิ้น
ชิ้นแรกเป็นข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของเจ้าแห่งจักรวาลใหม่ ส่วนชิ้นที่สองเป็นข้อมูลที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงประกาศต่อสาธารณะ
จากข้อมูลของเจ้าแห่งจักรวาลใหม่ เจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง ที่เขาสนใจ โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับปีกสีดำ ทั้งสี่บนหลังของเจ้าแห่งจักรวาลเป่ยซิง ปีกทั้งสี่มีกำลังเหนือกฎทั้งห้า ประกอบด้วย ทอง ไม้ น้ำ ไฟ ดิน มันเหมือนกับอาณาจักรสีทองที่ออกมาจากปีกสีเงินของเขา นอกจากนี้สมบัติแบบปีกนั้นเป็นสิ่งหายาก
“ปีกซื่อหวู๋มีทั้งหมด 6 คู่ ปัจจุบันยังขาดอยู่อีกสามคู่ สองคู่นี้อาจเป็นสิ่งที่ข้ากำลังตามหา”
หลัวเฟิงมีความสุขเมื่อได้ยินเกี่ยวกับปีกสีดำนี้ แต่ข่าวชิ้นที่สองนั้นทำลายอารมณ์ของเขา
ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงได้ประกาศฆ่าเจ้าแห่งจักรวาลมนุษย์ทุกคนที่ก้าวเข้าไปยังมหาสมุทรจักรวาลหลังจากที่หลัวเฟิงจับเจ้าแห่งจักรวาลพาก้าเอาไว้
เสียงของผู้นำเมืองเข้ามาถึงหลัวเฟิง “หลัวเฟิงมานี่”
———-
ที่ส่วนยอดของภูเขาสายฟ้า ในสวนด้านหลังของวังผู้นำเมืองแห่งความโกลาหลมีบัลลังก์กระจายอยู่รอบๆ มันไม่ได้แยกความสูงต่ำของสถานะ ร่างแต่ละร่างได้ปรากฎอยู่ที่บัลลังก์เหล่านั้น หลัวเฟิงก็ปรากฎตัวนั่งอยู่หนึ่งในบัลลังก์เช่นกัน
“ทุกคนมาที่นี่แล้ว ดั้งนั้นเราจะมาพูดคุยเกี่ยวกับข่าวล่าสุดของดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง…ที่ออกคำสั่งฆ่ากับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรา เขาบอกว่าจะฆ่ามนุษย์ทุกคนที่เหยียบเข้าไปยังมหาสมุทรจักรวาล ข้าสงสัยว่าพวกเขากล้าที่จะทำมันจริงๆ งั้นหรือ พวกเขามีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดเพียงสองที่ไม่ได้สร้างจักรวาลขนาดเล็ก และในด้านจำนวนของเจ้าแห่งจักรวาลของเขาไม่อาจเทียบกับพันธมิตรหงของเรา แต่เขายังกล้าที่จะท้าทายเรา หากดูเท่าที่เห็น มันคือการเล็งมายังมนุษย์เรา และตัดความเกี่ยวข้องกับเผ่าพันธุ์ใต้ปกครองในพันธมิตรหง”
“ข้าสรุปออกมาว่า ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงกำลังกลัว พวกเขาไม่กล้าที่จะต่อสู้กับพันธมิตรหงทั้งหมด เพื่อเป็นการปกป้องศักดิ์ศรีพวกเขาจึงพูดออกมาเช่นนั้น”
เจ้าแห่งจักรวาลความมืดพูดออกมา “ถูกต้องมนุษย์เรานั้นไม่กลัว หลังจากเวลาผ่านไป เราจะมีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจำนวนหนึ่ง เราจะได้ประโยชน์อย่างแน่นอน”
หลัวเฟิงเพียงแค่ฟังและรู้สึกขอบคุณอยู่ลึกๆ การประชุมครั้งนี้เป็นการบังคับให้ผู้คนหันความสนใจไปยังศัตรู โดยที่ไม่มีการแสดงความคิดเห็น ถ้าเป็นการพูดคุยอิสระจะมีบางคนบอกว่าหลัวเฟิงทำเกินไป และสร้างศัตรูให้กับมนุษย์
ผู้นำเมือง และคนอื่นๆ ก็ไม่ต้องการเห็นความขัดแย้งเกิดขึ้นในเผ่าพันธุ์มนุษย์
“มันเป็นความผิดของข้าที่ไม่บอกทุกคนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก่อน แต่ข้าก็ไม่ได้เสียใจ มันเพียงดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง บรรพบุรุษจันทร์ม่วงไม่สามารถออกมาจากจักรวาลขนาดเล็กของเขาได้ สำหรับเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดของพวกเขาก็ไม่มีจักรวาลขนาดเล็ก บรรพบุรุษจันทร์ม่วงคอยทำงานอยู่เบื้องหลังตลอด เขาคอยเล่นอุบายกับเราตอนอยู่ในจักรวาลดั้งเดิม” หลัวเฟิงกล่าว
“โดยเฉพาะพันธมิตรร่วมที่ได้รับมรดก พวกเขาไม่แสดงความกลัวต่อเราเลย หากสถานการณ์ยังคงยาวต่อไป เผ่าพันธุ์เราจะไม่สามารถขยายอาณาเขตได้เลย มนุษย์ไม่มีทางจะยกระดับขึ้นมาได้ มันจึงเป็นเหตุให้เราเข้าสู่สงคราม”
“ถ้าไม่มีสงครามครั้งใหญ่ ความไม่ลงรอยกันของทั้งสองฝ่ายจะยิ่งยาวออกไป ความขัดแย้งนี้จะช่วยในการฝึกฝนอัศวินและเจ้าแห่งจักรวาลของเรา ผ่านการต่อสู้ถึงตาย และมรดกอารยธรรมโบราณ เผ่าพันธุ์มนุษย์ของเรายังคงพัฒนาต่อไป เมื่อเรามีเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด เราสามารถกำจัดสองเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง แล้วเมื่อพวกเขาออกมาจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เราก็จะกำจัดพวกเขาในทันที”
“หากไม่มีสองเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอด ดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงก็จะไม่เป็นภัยกับเผ่าพันธุ์มนุษย์ของเราอีกต่อไป”
มนุษย์มีคำแนะนำจากมรดกของตัวเอง แม้ว่าเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดคนอื่นๆ หวังจะทะลุขีดจำกัดของเจ้าแห่งจักรวาลชั้นยอดอย่างอาจารย์ต้นกำเนิด
“เผ่าพันธุ์ของเราควรมุ่งเน้นไปที่จักรวาลดั้งเดิมเป็นเวลานาน เราสามารถเสริมสร้างทักษะผ่านการต่อสู้ภายในจักรวาลดั้งเดิม ความขัดแย้งกันระหว่างกับอีกฝ่ายจะยังคงมีต่อไปอีกยาวนาน” ผู้นำเมืองกล่าว
“สิ่งที่เรียกคำสั่งฆ่า ไม่เป็นภัยคุกคามกับเราเลยในตอนนี้ หลัวเฟิงจะเป็นผู้สั่งสอนบทเรียนที่ดีให้กับดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วง และเมื่อเราแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต เราจะกลายเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่สาม มีพลังยิ่งกว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์จันทร์ม่วงและดินแดนศักดิ์สิทธิ์บูรพา”