ตอนที่ 1444 : ความยินดี

ร่างหนึ่งปรากฏตัวขึ้นมา มันไม่ใช่ใครอื่นนอกจาก โมโลซ่า

ตอนนั้น โมโลซ่า อยู่ในร่างเดิมของมัน หัวสองหัวที่น่าเกลียดมองไปยังเงาของจักรวาลย่อย ตาทั้งสองข้างของมันในแต่ละหัวประกายความโลภออกมา “ในที่สุดข้าก็กลับมาที่นี่อีก ตราบใดที่ข้ากินจุดกำเนิดจักรวาลย่อย ข้าก็สามารถขึ้นเป็นขั้นสูงสุดของระดับ 2 ได้”

ออร่าสีดำอันชั่วร้ายแผ่ออกมาพร้อมกับลำแสงที่บิดเบี้ยวแทงทะลุไปยังมิติห่างไป 100 ปีแสง ลำแสงสดใสนับไม่ถ้วนไหลตามลำแสงบิดเบี้ยวเข้ามายังตัวของ โมโลซ่า

“สบายจริงๆ” ทั้งสองหัวของ โมโลซ่า เงยขึ้นด้วยความพอใจอย่างมาก

****

เทพปีศาจช๊อก พักอยู่ในสันเขาที่ซึ่งหางของเขาพันรอบตีนเขาเอาไว้ หัวของเขาพักอยู่บนยอดเขา อยู่ๆ เขาก็ลืมตาขึ้นด้วยความหงุดหงิด

“อสูรทลายมิติ!” เทพปีศาจช๊อก เผยท่าทีกลัวออกมา “อสูรทลายมิติ กลับมาแล้ว หลังจากที่หายไปนาน ในที่สุดมันก็กลับมาแล้ว…”

ตาสีแดงของเขาเต็มไปด้วยความกังวล “ครั้งที่แล้วที่มันหนีไปได้ มันได้รับบาดเจ็บโดย ทางช้างเผือก ข้ากลัวว่าครั้งนี้คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายแน่”

เทพปีศาจช๊อก กลัวและกังวล เขาไม่มั่นใจเมื่อเผชิญหน้ากับ อสูรทลายมิติ คู่ต่อสู้แรกที่ โมโลซ่า จะเลือกในหมู่เทพแท้จริงก็ต้องเป็นคนที่อ่อนแออย่างแน่นอน

“ตาสวรรค์, เก้าหัว, ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล, เทพที่แท้จริงเก้ากว้างไกล…” เทพปีศาจช๊อก เริ่มส่งข่าว “อสูรทลายมิติ โผล่มาที่นอกจักรวาลย่อยของข้า มันกำลังกินจุดกำเนิดจักรวาลย่อยของข้า”

****

อสูรทลายมิติ กลับมาแล้ว!

ข่าวนี้เหมือนกับพายุที่แผ่ไปยังทุกเผ่าในทะเลจักรวาลอย่างรวดเร็ว(ไม่นับเผ่าของจักรพรรดิเจินเจี๋ย และ บรรพบุรุษมังกรหิน)

*****

ในจักรวาลเสมือน มันมีวังเทพอันงดงามลอยอยู่ในมิติ ที่ชั้นสูงสุดของวังมีบัลลังก์สองอัน ข้างๆ บัลลังก์ทั้งสองนั้นมีที่นั่งอื่นมากกว่า 100 ที่จัดเตรียมไว้ตามตำแหน่ง ที่นี่คือ วังเทพทอง

ตอนนี้มนุษย์ถือว่าสูงส่งที่สุดในจักรวาลหลักโดยเฉพาะการเผชิญหน้ากับวิกฤต อสูรทลายมิติ บางครั้งการประชุมของเทพแท้จริงก็จะถูกจัดขึ้นในวังเทพแท้จริงที่ซึ่งทุกคนจะมารวมตัวกัน สองบัลลังก์ที่ตำแหน่งสูงสุดนั้นเป็นของ 2 ใน 8 ตัวตนยิ่งใหญ่ หลัวเฟิง และ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล!

แม้แต่ เทพที่แท้จริงเก้ากว้างไกล ก็ยังต้องนั่งต่ำลงมา นี่แสดงให้เห็นถึงฐานะของมนุษย์ตอนนี้!

ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!

หลายร่างปรากฏตัวขึ้นมานั่งตามตำแหน่งของตัวเอง ที่ด้านบนนั้นมีชายชุดทอง ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล เขาเข้าไปนั่งที่นั่งของตนและมองไปยังผู้คนด้านล่าง

“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล” เขาทอง จากพันธมิตรสัตว์อสูรมิติพูดขึ้นมาทันที “จักรวาลย่อยของ เทพปีศาจช๊อก กำลังโดน อสูรทลายมิติ กิน อสูรทลายมิติ นั่นกลับมาแล้ว”

เพราะร่างเดิมของ เขาทอง เองก็เป็นสัตว์อสูรเขาทอง ทั่วทั้งพันธมิตรสัตว์อสูรมิติเขาจึงสนิทกับ หลัวเฟิง มากที่สุด ดังนั้น เขาทอง จึงเป็นตัวหลักในการติดต่อกับมนุษย์

“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล อสูรทลายมิติ กลับมาที่นี่แล้ว ดูเหมือนว่าเราจะอยู่ในสถานการณ์ซับซ้อน การจัดการกับ อสูรทลายมิติ นั้นมีแค่ ทางช้างเผือก คนเดียวที่ทำได้!”

“แต่ ทางช้างเผือก สะดวกรึเปล่า?”

เทพแท้จริงบางคนจากเผ่าอื่นพูดขึ้นมา เทพแท้จริงจากเผ่ามนุษย์กลับพึมพำแทน

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล มองลงไปและพูดขึ้น “ทางช้างเผือก กำลังอยู่ในช่วงสำคัญในการเป็นเทพแท้จริง พลังของเขาเพิ่มขึ้นมาอย่างมากและมันเกี่ยวข้องกับชะตาของทุกเผ่าในทะเลจักรวาล ก่อนที่จักรวาลย่อยของเขาจะก่อตัว…ไม่มีใครไปรบกวนเขาได้!”

เสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากด้านล่าง “อสูรทลายมิติ ล่ะ?”

ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ตอบกลับตามตรง “สำหรับ อสูรทลายมิติ ที่จักรวาลย่อยของ เทพปีศาจช๊อก…เราจะส่งกองทัพเทพแท้จริงไปรับมือ”

ไม่มีใครมีความเห็นต่างไปจากนี้ ยังไงซะทุกคนก็มาจากจักรวาลหลัก ถ้า อสูรทลายมิติ ตั้งใจจะกินจักรวาลย่อย มันก็คงเล็งไปที่การเกิดใหม่ยุคแรกและยุคสอง พวกที่มาจากจักรวาลหลักไม่ต้องกังวลใดๆ การเพิ่มพลังของ หลัวเฟิง ส่งผลต่อโชคชะตาของพวกเขาโดยตรง ไม่ต้องเดาว่าไม่มีใครไปรบกวน หลัวเฟิง ได้

****

ด้านนอกจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง

ทันใดนั้นจักรวาลหลักก็ได้ส่ง เจ้าแห่งจักรวาล จำนวนมากและเทพแท้จริงมาล้อมและตรวจสอบรอบจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง นี่ก็กันไม่ให้ใครจากการเกิดใหม่ยุคแรกและสองมาโจมตีจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง ซึ่งจะเป็นการรบกวนเขา

“ทุกคนไปได้แล้ว”

“การเพิ่มพลังของ ทางช้างเผือก ส่งผลโดยตรงต่อชะตาของเราในทะเลจักรวาล ห้ามให้ใครรบกวนเขา”

“ไปซะ”

เมื่อเผชิญหน้ากับเผ่าที่แข็งแกร่งกว่าของจักรวาลหลัก พวกที่มาจากการเกิดใหม่ยุคแรกและสองก็ไม่กล้าที่จะคัดค้าน

****

เวลาผ่านพ้นไป ครั้งนี้ อสูรทลายมิติ ทำการกินอย่างต่อเนื่อง มันไม่ได้กินแล้วหายไปในวันเดียวอย่างเคย

ตอนที่จุดกำเนิดจักรวาลย่อยของ เทพปีศาจช๊อก เหลือเกือบครึ่ง ทีมเทพแท้จริง 12 คนก็โผล่มา ตอนที่ทีมเทพแท้จริงโผล่มา โมโลซ่า ก็ได้ใช้เทคนิคแยกร่างและหนีไปทันที

****

หนีไปได้ครึ่งวัน โมโลซ่า ก็ปรากฏตัวขึ้นนอกจักรวาลย่อยอีกแห่งและเริ่มกินอีกครั้ง

จักรวาลย่อยอันแรก, อันสอง, อันสาม…อันที่หก!

โมโลซ่า ไม่คิดจะสู้กับใคร ทุกครั้งที่มันได้พบกับทีมเทพแท้จริง มันจะหนีทันที แม้ว่าจะอยู่เพียงระดับ 2 แต่ถ้ามันต้องการจะหนีก็ไม่มีใครนอกจาก หลัวเฟิง และ เทพที่แท้จริงเก้ากว้างไกล ที่สามารถหยุดมันไว้ได้

****

“ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล นี่มันก็จักรวาลย่อยแห่งที่หกแล้ว แค่เพียงเดือนเดียวถ้าเรายังโดนกินไปแบบนี้ จุดกำเนิดจักรวาลย่อยของเราก็จะอ่อนแอลงอย่างมาก แม้ว่าเราจะหลีกเลี่ยงวิกฤต อสูรทลายมิติ ไปได้แต่การที่จักรวาลย่อยเราอ่อนแอลงไป เราก็จะไม่มีทางขึ้นเป็นเทพแท้จริงมิติได้”

“ทางช้างเผือก น่าจะทำได้ดี เราหวังไว้แบบนั้น”

“ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไป พวกที่มาจากการเกิดใหม่ยุคแรกและสองก็จะพบกับสถานการณ์น่าสิ้นหวัง”

หลายคนรวมไปถึง ตาสวรรค์ , เจ้าแห่งปีศาจเก้าหัว และ จือฮี ต่างก็พูดคุยกับ ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ผ่านเหรียญสื่อสาร มันก็เหมือนกับ ตาสวรรค์ พวกเขาอาจจะมีพลังที่แข็งแกร่งแต่ถ้า อสูรทลายมิติ ยังคงหนีไปได้ งั้นก็ไม่มีใครที่จะหยุดมันได้

“พอแล้ว” ผู้นำเมืองแห่งความโกลาหล ตอบกลับ “ทุกคนจำไว้ นี่ไม่ต้องพูดถึงกินจักรวาลย่อยของพวกเจ้าแค่บางส่วน แม้ว่ามันจะกินจักรวาลย่อยไปได้หลายอัน หรือเทพแท้จริงหลายคนโดนกำจัดแต่ห้ามรบกวน หลัวเฟิง! ใครที่กล้าฝ่าฝืนจะถือว่าเป็นศัตรูกับเรา มนุษย์!”

ตอนที่เขาพูดออกมา เทพแท้จริงนับไม่ถ้วนจากการเกิดใหม่ยุคแรกและสองต่างก็ไม่เหลือทางเลือกอื่นนอกจากต้องยอมรับ

****

หลัวเฟิง ตอนนี้รู้ถึงความวุ่นวายในทะเลจักรวาล ในจักรวาลย่อยของเขา หลัวเฟิง กำลังพัฒนาโครงสร้างของตัวเอง

กฎความปั่นป่วนเริ่มเปลี่ยนแปลงไป มันเปลี่ยนเป็นกฎพื้นฐานทั้งสิบ จากการกระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ มันมีหลายกฎที่รวมตัวกันยกตัวอย่างเช่นกฎมิติ ทอง, กฎเวลา ลม แต่กฎที่รวมกันเหล่านี้ล้วนแต่ผนึกไว้ในกระบวนการกฎของจุดกำเนิดจักรวาลย่อยตอนที่มันปรากฏขึ้นมา กระบวนการกฎของจุดกำเนิดนี้อิงจากกฎพื้นฐานทั้งสิบ กระบวนการกฎของจุดกำเนิดผนึกไว้โดยกฎที่ซับซ้อน มีแค่กฎปั่นป่วนที่ได้รับการยกเว้นเพราะการพัฒนากฎปั่นป่วนสูงสุด

“การพัฒนาของความวุ่นวายจะเห็นได้เพียงครั้งเดียวในชีวิต นี่คือตอนที่เป็นเทพแท้จริง มันไม่มีโอกาสแบบนี้อีกในอนาคต”

หลัวเฟิง ไม่อาจจะประมาทได้เพราะมันเกี่ยวข้องกับการเพิ่มจักรวาลย่อยของเขาในอนาคต กฎปั่นป่วนนี้ไม่ได้มีให้เห็นเลยแม้แต่น้อย!

การที่ควบคุมความปั่นป่วนได้ในสังคมโบราณนั้นถือว่าคู่ควรที่จะถูกเรียกว่าเทพ!

ฮัวะ! ฮัวะ! ฮัวะ!

กฎเปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง เริ่มจากกฎปั่นป่วนจนถึงกฎอื่นๆ ต่างก็ผสมรวมกัน หลัวเฟิง ทำการเปลี่ยนแปลงกฎในจุดกำเนิดของเขา กระบวนการเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ต่างจากการพัฒนาภายในจักรวาลของ หลัวเฟิง เป็นธรรมดาที่ หลัวเฟิง จะรู้สึกเครียด เขาหมกมุ่นอยู่กับขั้นตอนนี้และไกลออกไปที่เสาหินในเรือจักรวาลมีร่างพลังงานของเขากำลังทำความเข้าใจในสภาพแวดล้อมที่เร่งเวลาไปกว่า 10 ล้านเท่า ความเข้าใจของ หลัวเฟิง ทะยานขึ้นด้วยความเร็วที่น่าเหลือเชื่อ!

ความเร็วที่เพิ่มขึ้นจนน่าตกใจ!

เมื่อก้าวข้ามกำแพงระหว่าง เจ้าแห่งจักรวาล เป็นเทพแท้จริง มันคือการเพิ่มระดับที่เร็วที่สุดที่จะเห็นได้ซึ่งคือตอนที่เขาทำความเข้าใจการเปลี่ยนแปลงของความวุ่นวายเสร็จ มันก็คล้ายกับการที่เทพแท้จริงใช้เวลา 1-2 ยุคเกิดใหม่ในการทำความเข้าใจ เวลาที่พวกเขาใช้นั้นเทียบไม่ได้กับเวลาอันสั้นในการพัฒนาของความปั่นป่วน

****

ก่อนที่จะกลายเป็นเทพแท้จริง เจ้าแห่งจักรวาล ส่วนมากจะอยู่แค่เพียงขั้น 5 แต่เมื่อกลายเป็นเทพแท้จริงแล้ว ระดับบเทคนิคของพวกเขาจะขึ้นมาอยู่ที่ขั้น 6 หรือ 7 หรือ 8!

ก่อนที่โลกแห่งจินจะโผล่มา ก่อนที่จะมีการสืบทอดจากสังคมโบราณ พลังที่พวกเขาระเบิดออกมาได้มากที่สุดคือขั้น 9 นี่คือเรื่องจริงแม้แต่สำหรับ ขวานยักษ์ และ ตาสวรรค์ ที่ต้องพึ่งสมบัติแท้จริงขั้นสูงสุด นี่แสดงให้เห็นว่าตอนนั้นทักษะที่พวกเขาได้สร้างขึ้นมานั้นอยู่แค่เพียงขั้น 8 ซึ่งถือว่าเป็นมาตรฐานที่สูงของเทพแท้จริงในทะเลจักรวาลตอนนั้น พวกที่เกือบขึ้นมาถึงระดับเทพแท้จริงได้จะสามารถสร้างเทคนิคขั้น 7 ได้

สำหรับ หลัวเฟิง เขาเป็นแค่ เจ้าแห่งจักรวาล!

แต่เขาก็ผลักดันตัวเองสร้างเทคนิคสองอย่างที่อยู่ในขั้น 8 ได้ เขาต้องใช้ทรัพยากรไปมากแค่ไหน!

ตอนนั้นมันเทียบได้กับทะเลทรายที่ดูดน้ำอย่างบ้าคลั่ง ระหว่างการพัฒนาของความวุ่นวาย ความกระจ่างทั้งหมดที่ได้มาจากการทำความเข้าใจก็เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วและร่างพลังอมตะของเขาก็ทำความเข้าใจและจดจำอย่างรวดเร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

ระดับยังคงทะยานขึ้นจากขั้น 8 สูงสุดเป็นขั้น 9 หลัวเฟิง ไม่ได้เข้าใจทักษะจากภายใน แต่ตอนนั้นระดับที่เขาเข้าถึงทำให้เขาสร้างเทคนิคที่ขั้น 10 ได้โดยไม่ยากลำบาก!

ข้อเสียอย่างเดียวคือมันมีโอกาสเพียงครั้งเดียวสำหรับการพัฒนาของความปั่นป่วน!

ตอนที่มันหายไป มันก็จะไม่มีโอกาสที่สอง!

“ฟิ้ว!” หลังจากนั้นสักพัก หลัวเฟิง ก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

ตาข้างหนึ่งของเขาสะท้อนน้ำวนที่กลืนกินทุกอย่างได้หากตั้งใจ ตาอีกข้างสะท้อนแสงสีทองผ่านการสร้างจักรวาล เขาหลับตาลงและต่อมาที่กะพริบตา แสงเหล่านั้นก็หายไป

“การพัฒนาของความปั่นป่วน ช่างวิเศษจริงๆ” หลัวเฟิง พึมพำ “น่าเสียดายที่มันเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียว! ทุกอย่างจบสิ้นแล้ว การพัฒนาเสร็จสิ้นแล้วและกระบวนการกฎของจักรวาลข้าก็ก่อตั้งขึ้นมาแล้ว”

หลัวเฟิง ก้าวออกมาและโผล่ออกจากจุดกำเนิดเข้าไปยังจักรวาลย่อยอันกว้างใหญ่

กระบวนการกฎของจักรวาลก่อตั้งขึ้นมาแล้วและเพราะแบบนั้นอากาศปั่นป่วนภายในจักรวาลย่อยก็เริ่มเปลี่ยนไปเป็นทอง, ไม้, น้ำ, ไฟ, ดิน, ลม, สายฟ้า, แสง, มิติ, เวลา และพลังงานอื่นๆ ภายในจักรวาลย่อยของเขามีทวีปและแม่น้ำก่อตัวขึ้นมา มันคือการกำเนิดของทุกอย่าง นี่คือช่วงเริ่มต้นของการพัฒนาจักรวาลย่อยทั้งหมด หลังจากที่กำเนิดขึ้นมา มันถือว่าอยู่ในช่วงเริ่มต้น

แม้ว่าจะเป็นการพัฒนาของจักรวาลหลักแต่มันก็ต้องผ่านหลายวงจรซึ่งคือการเกิด, การถึงภาวะเริ่มต้น, รุ่งเรือง, ตกต่ำ และสุดท้ายก็ถูกทำลาย เวลาที่ใช้ไปในช่วงเริ่มต้นนั้นนานจนอาจนับได้ถึง 100 ล้านยุค มันเหมือนกับการพัฒนาของจักรวาลของ อาจารย์ต้นกำเนิด ตอนที่ อาจารย์ต้นกำเนิด คุกคาม จิตจักรวาลดั้งเดิม การพัฒนาจักรวาลของเขายังไม่เสร็จสิ้น นี่พิสูจน์ได้ว่าจำนวนเวลาที่ใช้ในช่วงเริ่มต้นการพัฒนาจักรวาลย่อยนั้นยาวนานอย่างมาก

“กระบวนการกฎของจักรวาลก่อตั้งขึ้นมาแล้ว” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง “ตอนนี้ทุกอย่างขั้นอยู่กับสถานการณ์ของจักรวาลในอนาคต ได้เวลาที่จะกลับไปแล้ว”

แค่เพียงก้าวเดียว หลัวเฟิง ก็ได้ออกจากจักรวาลย่อยของตัวเอง