ตอนที่ 1455 : ดินแดนแห่งความมืดมิด
ไม่ถึงครึ่งวัน หลัวเฟิง ก็ได้ไปถึงที่ยอดเขาเอียงซึ่งล้อมรอบด้วยขอบเขตน้ำ
ฮัวะ!
หลัวเฟิง ดำดิ่งลงไปในน้ำและเทเลพอร์ทไปยังเป้าหมายของเขาทันที เขามุ่งหน้าไปยังมิติปีก
ก่อนหน้านี้มิติปีกคือที่ที่เขาได้รับปีกสีขาวและจุดกำเนิดมา!
ถ้าเขาใช้เส้นทางเดิมไปยังดินแดนแห่งความมืดมิด เขาก็จะเข้าไปที่ยอดเขาและพุ่งเข้าไปในเขตกว้างใหญ่ภายในยอดเขาสุดท้ายก็ไปถึงแก่นของมันได้แต่การใช้อีกเส้นทางผ่านมิติปีกเขาจะไปถึงแก่นได้ทันที
“ครั้งแรกที่ข้ามาที่นี่ ข้าต้องระวังตัวอย่างมาก”
หลัวเฟิง ควบคุมหอคอยดวงดาวเดินทางไปในมิติปีกและเข้าไปยังทางเดินอีกเส้น เขาคุ้นกับที่นี่ดีแล้ว ก่อนหน้านี้ระหว่างตอนที่เขาพยายามทะลวงผ่านเพื่อให้ได้ร่างอมตะระดับ 3 หลัวเฟิง ได้ใช้เส้นทางนี้มาหลายครั้งเพื่อเข้าไปยังดินแดนแห่งความมืดมิด
“ก่อนหน้านี้นี่คือที่ที่ข้าได้จุดกำเนิดมา ถ้าข้าได้จุดกำเนิดอีก มันคงยอดเยี่ยมแต่ของแบบนั้นเกิดขึ้นโดยบังเอิญ มันไม่ใช่ว่าข้าจะได้มันมาได้ง่ายๆ อย่างใจคิด”
หลัวเฟิง ส่ายหน้าพร้อมกับถอนหายใจ จุดกำเนิดนั้นทรงพลังอย่างมาก มันสำคัญแม้แต่สำหรับเทพแท้จริงมิติ มันยากที่จะทำลายอาวุธเทพแท้จริงได้(สมบัติแท้จริงชั้นยอด) แต่ด้วยความช่วยเหลือจากปีกซื่อหวู๋ซึ่งสามารถปลดปล่อยลำแสงดาบเป็นพันล้านออกมา จุดกำเนิดก็สามารถทำลายอาวุธเทพแท้จริงได้
หลัวเฟิง ต้องการไพ่ตายแบบนั้นเพิ่ม นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมก่อนหน้านี้พันล้านยุคตอนที่เขายังอยู่ในโลกแห่งจิน เขาถึงเคยขอ หิมะประสาน ให้เปลี่ยนสมบัติเครื่องจักรและเก็บพลังอมตะ จากนั้นก็พยายามเอาพลังที่เก็บมานี้ออกมาจากโลกแห่งจิน น่าเสียดาย…ตอนที่พลังออกมาโลกภายนอก พลังนั้นก็สลายหายไป
“น่าเสียดาย กฎสูงสุดส่งผลกับทุกอย่าง” หลัวเฟิง พึมพำกับตัวเอง “ภายในโลกแห่งจิน ตัวตนทุกคนไม่อาจจะออกมาได้ ถ้าพวกเขาออกมาภายนอก พวกเขาก็ต้องตาย แม้แต่พลังอมตะที่เก็บไว้ก็ไม่อาจจะเอาออกมาได้ มีแค่สิ่งของที่ไร้ชีวิตอย่างอาวุธ, สมบัติ, เลือด, ผิวและผมที่เอาออกมาจากโลกแห่งจินได้ ถ้า หิมะประสานและนักรบของเขาออกมาได้ งั้นกองทัพ อสูรทลายมิติ ก็คงจะถูกกำจัดไปนานแล้ว”
อสูรทลายมิติ อาจจะแข็งแกร่งแต่ยังไงซะพวกมันก็อยู่ในช่วงเติบโต สำหรับเผ่าต่างๆ ในทะเลจักรวาล มันถือว่าเป็นวิกฤตครั้งใหญ่แต่สำหรับโลกแห่งจินแล้ว…มันก็แค่สายลมที่พัดผ่านไป การส่งเทพแท้จริงเป็นล้านๆ คนออกมา พวกเขาสามารถจัดการกับ อสูรทลายมิติ ได้ทั้งรังหรือบางทีถ้าส่งเทพแท้จริงนิรันดร์ออกมาได้ พวกเขาก็สามารถกวาดล้างทุกอย่างได้เช่นกัน โชคร้ายที่ทุกคนติดอยู่ในโลกแห่งจิน ชัดแล้วว่าทุกคนนั้นอยู่ภายใต้กฎสูงสุด
“ตอนที่โลกแห่งจินโดนทำลาย ทุกชีวิตในโลกแห่งจินก็โดนขังไว้ภายในจักรวาลย่อยนั้นชั่วนิรันดร์ไม่มีโอกาสจะออกมาได้เลย” หลัวเฟิง ส่ายหน้าและสลด
****
ซู่!
หอคอยดวงดาวทำการเทเลพอร์ทด้วยความเร็วสูงโดยไม่สนถึงความปลอดภัยหรืออันตรายใดๆ แน่นอนว่ามันมีเขตที่น่ากลัวซึ่งคนเราจะไม่อาจออกมาได้ถ้าตกลงไป เช่น พื้นที่อันอันตรายทั้งสาม และถ้า ลมปีศาจ ที่เหล่านั้นแม้แต่ หลัวเฟิง ก็ต้องเลือกเดินทางอ้อม ที่เหล่านั้นคือดินแดนแห่งฝันร้าย บางทีเขาอาจจะมีความสามารถที่จะหนีออกมาหาตกลงไปแต่เขาไม่พร้อมที่จะเสี่ยง!
ถ้าเขาติดอยู่ที่นั่น มันคงเป็นจุดเปลี่ยนของสถานการณ์ตอนนี้
ท่ามกลางลาวาอันร้อนระอุ หอคอยดวงดาวก็ยังคงเดินหน้าต่อ มันบินอยู่เหนือผิวลาวาและมุ่งหน้าไปยังลมวนไม่รู้จบ ลมหมุนวนนี้เหมือนกับใบมีดแสงจากตัวตนชั้นสูงที่มีพลังในการฉีกกระชากที่เหลือเชื่อแต่หอคอยดวงดาวก็ยังผ่านไปได้อย่างง่ายดาย แม้ว่ามันจะไม่ส่งผลต่อลมวนก็ตาม หลัวเฟิง ถึงกับยืมแรงของลมวนเพื่อให้หอคอยเดินทางได้เร็วกว่าเดิม
“มันคือเขตน้ำหมื่นคลื่นข้างหน้า!” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง “หลังจากที่ข้าเข้าไปในเขตนี้ ข้าจะเข้าใกล้ดินแดนแห่งความมืดมิด เจินเจี๋ย กับ มังกรหิน ทั้งสองก็อยู่ในเขตน้ำหมื่นคลื่น”
หลัวเฟิง ได้มาที่นี่หลายครั้ง เขาใช้โอกาสนั้นสำรวจและพบว่าทั้งสองอยู่ที่นี่แต่เพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจที่ไม่จำเป็นจาก อสูรทลายมิติ หลัวเฟิง จึงไม่ได้ลงมือ เทียบกับวิกฤต อสูรทลายมิติ แล้ว เจินเจี๋ย กับ มังกรหิน เป็นแค่มดที่ไม่ควรได้รับความสนใจ
“ตอนที่ข้าเผชิญหน้ากับ อสูรทลายมิติ จริงๆ และไม่มีเวลาที่จะหนี ข้าจะลากเจ้าทั้งสองคนไปด้วย”
ฮ่ง! ล่ง!
หอคอยดวงดาวบินเข้าไปในเขตน้ำหมื่นคลื่นโดยไม่หยุดพัก จากนั้นก็เริ่มเข้าใกล้ดินแดนแห่งความมืดมิด ไกลออกไปในเขตน้ำนี้ห่อหุ้มไปด้วยความมืดสนิท มันคือความมืดที่ทำให้วิญญาณของคนต้องสั่นไหว ตอนที่ อสูรทลายมิติ ยังไม่เกิด ถ้าใครตกลงไปในดินแดนแห่งความมืดมิด พวกนั้นจะหลงทางไปชั่วนิรันดร์ การหนีเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้
โดยทั่วไปแล้วหลายคนท่องไปแถวๆ ชายเขตหรือถ้า เจ้าแห่งจักรวาล บางคนมีร่างอื่นพวกเขาก็กล้าเข้าไปยังหุบเหวนี้เพราะแม้ว่าจะตายแต่มันก็หมายความว่าเสียแค่เพียงร่างเดียว
“โมโลซ่า” หอคอยดวงดาวหยุดที่เขตนอกของดินแดนแห่งความมืดมิด หลัวเฟิงมองไกลออกไปและพบกับความมืดที่เข้ามาในสายตา
****
ในจักรวาลย่อยของ หลัวเฟิง
“โมโลซ่า ส่งแผนที่ดวงดาวรังของเจ้าให้ข้าที” ร่างพลังอมตะพูดขึ้น “และตำแหน่งของ อสูรทลายมิติ ทุกตัวในแผนที่ด้วย”
โมโลซ่า รีบตอบกลับทันที “ได้ นายท่านแต่ข้าอาจสามารถตรวจจับตำแหน่งอสูรทลายมิติ ทุกตัวแต่ระยะห่างพวกนั้นอยู่ไกลกันเกินไป ดังนั้นพิกัดที่ข้าให้ก็บอกได้แค่คร่าวๆ มันไม่ได้แม่นยำนัก”
“ไม่เป็นไร” ร่างพลังอมตะพยักหน้า
โมโลซ่า พยายามจะตรวจสอบตำแหน่งของ อสูรทลายมิติ ตัวอื่นๆ พลังของ อสูรทลายมิติ ได้แผ่ออกมาจากตัวมันและลอยอยู่ในอากาศ พลัง อสูรทลายมิติ อัดแน่นเป็นแก่นทรงกลมขนาดใหญ่เส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1 ล้านกิโลเมตร
“รังของ อสูรทลายมิติ เป็นวงกลม” โมโลซ่า อธิบาย “มันมีความสามารถส่งผลต่อการรับรู้ทั้งหมด ถ้าเทพแท้จริงจากทะเลจักรวาลตกลงไป พวกเขาจะหลง”
หลังจากนั้นแก่นทรงพลมก็เริ่มแสดงจุดแสงขึ้นมา และรอบๆ จุดแสงทั้งหมดต่างก็มีรัศมีส่องประกาย มันมีจุดแสงอยู่นับไม่ถ้วน
“จุดแสงทุกจุดแทน อสูรทลายมิติ หนึ่งตัว” โมโลซ่า พูดขึ้น “พื้นที่ที่รัศมีแสงแผ่ออกมาจากเขตนั้นคือที่ที่อาจจะมี อสูรทลายมิติ อยู่ นี่ดีที่สุดแล้วที่ข้าจะให้ได้เขตของ อสูรทลายมิติ ทุกตัว”
ไม่นานบนแผนที่รังของ อสูรทลายมิติ ก็ได้มีสันเขาและแม่น้ำเริ่มโผล่มา
“มันมีวัตถุอื่นพบในดินแดนแห่งความมืดมิด ข้าอาจจะเป็นทาสท่านแต่ข้าไม่อาจจะตรวจสอบได้ว่าท่านอยู่ที่ไหน”
ร่างพลังอมตะพยักหน้า มันยากที่จะตรวจสอบตำแหน่งของคนในทะเลจักรวาลซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมถึงมีเรื่องคนหลงอยู่ตลอด แม้ว่า โมโลซ่า จะเป็นทาสของ หลัวเฟิง แต่มันก็ไม่อาจจะตรวจสอบตำแหน่งของ หลัวเฟิง ได้ ในทางกลับกันแล้วมันสามารถตรวจสอบตำแหน่งของ อสูรทลายมิติ ทุกตัวได้ นี่คือความสามารถที่ อสูรทลายมิติมีมาตั้งแต่เกิด
“นายท่าน ท่านอาจต้องพึ่งสันเขา, แม่น้ำ และภูเขาเพื่อตรวจสอบว่าท่านอยู่ที่ไหน” โมโลซ่า เสนอ “แน่นอนท่านพึ่งตำแหน่งของ อสูรทลายมิติ เพื่อช่วยตัดสินตำแหน่งของตัวเองก็ได้ ปัญหาเดียวของวิธีนี้คือมันจะพบท่านได้อย่างง่ายดาย ตอนนี้จำนวน อสูรทลายมิติ รวมตัวข้าเองนั้นมีทั้งหมด 9.2 ล้านตัว”
“ดีมาก” ร่างพลังอมตะพูดขึ้น “ทำแผนที่และตำแหน่งในเขตน้ำหมื่นคลื่นให้ข้าที”
“ไม่มีทางที่ข้าจะทำได้” โมโลซ่า พูดขึ้น “หลังจากที่ดินแดนแห่งความมืดมิดก่อตัว มันจะหมุนวนช้าๆ อยู่ตลอดเวลา จากการหมุนนี้ สันเขาบางแห่งไม่ได้เปลี่ยนตำแหน่งไป แต่สำหรับโลกภายนอกแล้ว…ดินแดนแห่งความมืดมิดเปลี่ยนแปลงตลอด ดังนั้นมันจึงง่ายที่จะหลงทางในดินแดนแห่งความมืดมิด”
“ถ้าเป็นเช่นนั้น” ร่างพลังอมตะสั่งการทันที “เจ้าต้องตรวจสอบพวกนั้นอย่างระวัง ตอนที่ อสูรทลายมิติ เปลี่ยนตำแหน่ง เจ้าต้องเปลี่ยนแผนที่ตามด้วยเพื่อให้มั่นใจว่าเจ้ามีแผนที่ตรงตามสภาพการเปลี่ยนแปลงตามกาลเวลา”
“ได้ นายท่าน” โมโลซ่า ตอบกลับอย่างเชื่อฟัง
****
“เข้าไป”
หอคอยดวงดาวอยู่ที่ชายแดนเขตน้ำหมื่นคลื่นก่อนจะบินตรงเข้าไปในความมืดมิด หอคอยดวงดาวเริ่มหดตัวลง หลัวเฟิง ควบคุมมันอย่างระวัง แม้ว่าจะบอกว่าเป็นความมืดแต่คนแข็งแกร่งอย่าง หลัวเฟิง แล้ว ความมืดไม่ต่างจากแสงสว่าง จากการที่เขาส่งผลต่อเวลาและมิติ เขาก็ยังสามารถเห็นได้ชัดว่ามีอะไรอยู่ไกลออกไป
“เงียบสนิทราวกับว่าไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไป”
หลัวเฟิง กลั้นหายใจ เขาไม่กล้าที่จะประมาทเลยแม้แต่น้อย ตอนนั้นเองเขาไม่มั่นใจอย่างมากว่าเขาอยู่ที่ไหน เขาต้องพึ่งจุดอ้างอิงภายในดินแดนแห่งความมืดมิดเพื่อทำความเข้าใจว่ามีอะไรอยู่รอบตัวและเกิดอะไรขึ้นบ้าง แต่ช่วงก่อนที่เขาจะได้พบกับจุดอ้างอิงนั้น…คือช่วงที่อันตรายที่สุด
“ข้าหวังว่าจากมองไม่เห็นและไร้รูปร่าง ข้าจะไม่โดนเหล่า อสูรทลายมิติ พบเอา ตอนที่ข้าถูกพบตัว แผนแรกของข้าก็จะล้มเหลว”
ยังไงซะก็มี อสูรทลายมิติ มากกว่า 9.2 ล้านตัว มันถือว่ามีจำนวนมากในรังแห่งนี้ เพราะแบบนี้ ขวานยักษ์ จึงถูกกำจัดไม่นานหลังจากที่เข้ามาที่นี่หรือการที่ หง กับ เทพแท้จริงตาปีศาจ ถูกพบตัวไม่นานหลังจากที่เข้ามา มันเกือบจะเป็นความจริงที่ว่าหลัวเฟิง ต้องถูกพบตัวเช่นกัน ดังนั้นเขาจึงได้แต่หวังกับพลังในการมองไม่เห็นและไร้รูปร่างและดูว่า อสูรทลายมิติ มีช่องโหว่อะไรบ้าง
“ซ่อนตัว!”
หอคอยดวงดาวหายไปและ หลัวเฟิง ก็โผล่มาในมิติ ไม่นานหลังจากนั้นร่างของเขาก็เปลี่ยนไป
“เปลี่ยน!”
หินก้อนหนึ่งลอยพุ่งออกไป บางครั้งมันก็จะทำการเทเลพอร์ท บางครั้งก็แค่ลอย หินก้อนนี้คือมิติชีวิตเหมือนกับหินภูเขาทั่วไป ตอนที่มันกำลังเดินหน้า มันก็รับรู้ได้ถึงการสั่งของคลื่น หลัวเฟิง รู้ว่าการเทเลพอร์ทของเขาไปได้ไกลกว่า อสูรทลายมิติ และเป็นธรรมดาที่เขาสามารถตรวจจับได้ไกลกว่า ถ้าเขาตรวจจับอะไรไม่ได้ เขาก็จะทำการเทเลพอร์ทต่อไป
“หือ?” อยู่ๆ หลัวเฟิง ก็ต้องช็อกและหยุดทันที
ไม่นานจากนั้น…
ฮัวะ!
อสูรทลายมิติ ตัวหนึ่งเทเลพอร์ทเข้ามา มันพึ่งความสามารถในการตรวจจับสิ่งของในมิติและพบหินนี้ทันที
“หือ?” ตาทั้งสองข้างของมันมองมาที่หิน “ทำไมถึงมีหินที่นี่ มันลอยมาจากไหนกัน? รึว่าจะเป็นชิ้นส่วนจากภูเขาที่ถล่มและแตกออกโดยตัวอื่นที่สู้กัน? ฮึ่ม!”
อสูรทลายมิติ กระทืบเข้าที่หินโดยไม่รีรอ มีเสียงดังสนั่นพร้อมกับหินที่แตกกระจายออก อสูรทลายมิติ แสดงท่าทีไม่ต่างจากเดิมและบินจากไป
หลัวเฟิง เริ่มตรวจสอบรอบตัวอีกครั้ง หลังจากที่รอได้สักพักหลังจากที่ อสูรทลายมิติจากไป เขาก็พูดขึ้น “อัดแน่น!”
หินเริ่มรวมตัวอีกครั้งแต่ครั้งนี้เมื่อเปลี่ยนร่างมันก็มีรูปร่างต่างจากเดิม
ฉัวะ! ฉัวะ! ฉัวะ!
****
นี่คือการพึ่งมองไม่เห็นและไร้รูปร่างเพื่อหลีกเลี่ยงการถูก อสูรทลายมิติ พบตัว เขาได้พบกับ อสูรทลายมิติ 3 ตัวและจากตำแหน่งของพวกมันแล้ว เขาก็ตัดสินตำแหน่งตัวเองได้ จากนั้นในที่สุดเขาก็มาถึงสันเขาแห่งหนึ่ง สันเขาแห่งนี้สูงล้านล้านกิโลเมตร มันลอยไปมาในอากาศ
ฮู่!
หินก้อนหนึ่งตกลงมาจากสันเขาและก่อตัวเป็นรูปร่างมนุษย์
หลัวเฟิง ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก “ตอนนี้ยืนยันตำแหน่งข้าได้แล้ว”
การหาตำแหน่งของตัวเองให้เจอคือขั้นแรก
“ด้วยการพึ่งมองไม่เห็นและไร้รูปร่าง อสูรทลายมิติ ก็จำข้าไม่ได้” หลัวเฟิง พูดกับตัวเอง “แต่ตอนที่ข้าเริ่มสู้กับ อสูรทลายมิติ…ตอนที่ อสูรทลายมิติ ตัวหนึ่งพบข้าเข้า มันจะเท่ากับถูก อสูรทลายมิติ ทุกตัวพบตัว จากนั้นข้าก็จะต้องใช้อีกแผน”
“มันคือโชคชะตา ข้าคงได้แต่ซุ่มโจมตี เมื่อเป็นเช่นนั้น…ข้าก็สามารถทำลายหัวหน้าและจัดการลูกสมุนของมันต่อ เนื่องจากข้าซุ่มโจมตีได้ทีละตัว ข้าก็จะเลือกแบ๊ดดี้!”
สายตา หลัวเฟิง ดูเด็ดเดี่ยวขึ้นมา ก่อนหน้านี้ โมโลซ่า ได้บอกแล้วว่า อสูรทลายมิติ ที่แข็งแกร่งที่สุด 100 ตัวอยู่ที่ไหนบ้างและตัวที่แข็งแกร่งที่สุดก็ไม่ใช่ใครอื่นนอกจากแบ๊ดดี้