ตอนที่ 181 : การแข่งขัน
เสียงดนตรีดังไปทั่วทุกมุมของห้องโถง พร้อมพนักงานเสิร์ฟชายหญิงที่สวยงาม เดินเสิร์ฟไวน์และอาหารรสเลิศ
ในห้องโถงผู้มีชื่อเสียงต่างกำลังคุยกัน
“ผู้คนที่มีชื่อเสียงต่างกำลังคุยกัน หลี คุณมาหลบอยู่ที่นี่ทำไม?” เสียง
ทักทายดังขึ้น ชายสวมชุดสูทตะโกนทัก ขณะที่เขาเดินผ่านมาด้วย
ใบหน้ายิ้มแย้ม หลีดาเว่ยยิ้มตอบและหัวเราะเบาๆ “คุณเจียง
นายกเทศมนตรีผู้ยิ่งใหญ่ มาร่วมงานเร็วเชียวนะครับ”
“เพื่อนเก่าทั้งหมดของเรามาชุมนุมกันที่นี่แทบทั้งหมด ดังนั้นผมจะมาสายได้อย่างไร?” เขายิ้มอย่างอารมณ์ดี
หากมองเพียงแค่รูปลักษณ์ที่ดูโหดเหี้ยมนี้ ดูเหมือนว่าเขาจะเป็นนักสู้
จากกองทัพมากกว่านายกเทศมนตรี! หลังจากช่วงยุคมหานิพพาน ทำให้หลงเหลือเพียงแค่หกเมืองในประเทศจีนเท่านั้น นายกเทศมนตรีแต่ละคนเป็นข้าราชการระดับสูง ตำแหน่งของพวกเขานั้นสูงกว่าผู้ว่าราชการในช่วงก่อนยุคมหานิพพาน
ณ ตอนนี้ทั้งสองคน ต่างคือผู้มีอำนาจสูงสุดของสำนักงานใหญ่ประจำ
เมืองเดียวกัน คือ ‘นายกเทศมนตรีจากฝ่ายพลเรือน’ และ ‘ผู้บัญชาการสูงสุดจากฝ่ายทหาร’ แห่งเมืองเจียงหนาน
“ผมได้ยินมาว่าคุณได้เดินทางไปยังเขตหมิงเย่า เมื่อไม่กี่วันก่อน?”
นายกเทศมนตรีเมืองยิ้มพลางกล่าวถาม “มีข่าวดีไหม?”
“หลัวเฟิงเป็นคนรักชาติ” หลีดาเว่ยยิ้ม ทันใดนั้นดวงตาของเขาก็เหลือบไปมองที่ห่างไกล และหัวเราะ “ดูซิคนของตระกูลสวีมาถึงแล้ว”
นายกเทศมนตรีก็หันศีรษะไปมอง ในขณะที่ทำเช่นนั้นเขาก็กล่าวว่า “ตระกูลสวี? อื่ม ผมได้ยินมาว่า ผู้ตรวจสอบหลัวกำลังเดทกับหญิงสาวจากตระกูลสวี? โอ้ ต้องเป็นสวีซิน ฮ่า… ไม่ต้องสงสัยเลย หลัวเฟิงชอบเธอ ผู้หญิงคนนี้ค่อนข้างมาก” ในระยะไกลมีคนสามคนมาจากตระกูลสวีมาถึง
ผู้ที่เดินนำหน้าคือ ชายชราที่มีผมสีขาวเล็กน้อย ข้างๆ เขาเป็นหญิงวัยกลางคนสวมชุดสีดำ ซึ่งดูคล้ายผู้หญิงชั้นสูงอีกคนคือ สวีซิน ในชุดสีม่วงของเธอ! อาวุธที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้หญิงคือความเยาว์วัยของเธอ
สวีซินอายุยังน้อย หลังจากสวมชุดแซกสีม่วงนั้น ยิ่งทำให้เธอดูสวยขึ้นซึ่งอาจทำให้ดวงตาของคนเราสว่างขึ้น
“คุณไม่พอใจกับเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ จากตระกูลสวี ที่เธออยู่กับหลัวเฟิง?”
หลีดาเว่ยล้อเลียนว่า “คุณยังสามารถหาสาวสวยในตระกูลของคุณ เพื่อแย่งชิงหลัวเฟิงไปจากสาวน้อยสวีซินได้ หลัวเฟิงอายุเพียง 19 ปี เขาคือเทพสงครามระดับอยู่ยงคงกระพัน ซึ่งเขามีโอกาสที่จะพัฒนาไปถึงระดับที่เหนือกว่าได้ ถ้าคุณไม่ลงมือตอนนี้ คุณจะไม่มีโอกาสในอนาคต”
นายกเทศมนตรีไม่สามารถช่วยได้ เขามองกลับมาและหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “พี่หลี ดูเหมือนคุณจะไม่ต่างกับคนอื่นๆ”
…..
ในมุมของห้องโถง
สวีซินกำลังถือแก้วไวน์อยู่ขณะที่คุยกับป้าของเธอในมุม แม้ว่าตระกูลสวีของเธอจะเป็นหนึ่งใน 12 ตระกูล แต่ทุกคนที่มาที่นี่ วันนี้เป็นคนที่สำคัญมาก ทำให้ตระกูลสวีของเธอ ไม่ได้โดดเด่นมากนัก สำหรับสวีซินและป้าของเธอนั้นเงียบมากยิ่งขึ้น เนื่องจากพวกเขาต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ของตระกูล
“ใครกำลังคุยกับคุณปู่ค่ะ?” สวีซินถามเบาๆ
“ลูกชายของผู้ตรวจสอบ สำนักสายฟ้า เหลยยูฟาง” ป้าของเธอยังตอบอย่างเงียบ ๆ
…..
“ยูฟาง คุณพ่อคุณยังมาไม่ถึง?” ผู้นำตระกูลสวี สวีหยางโกวยิ้มขณะที่พูดคุยกับชายหนุ่มผมยาว
“วันนี้เป็นวันต้อนรับผู้ตรวจสอบของ สำนักขีดสุด ในเมือง ผู้ตรวจสอบหลัวเฟิงยังมาไม่ถึง และพ่อของผมเป็นผู้ตรวจสอบของ สำนักสายฟ้า จะมาถึงก่อนได้อย่างไร” ชายหนุ่มผมยาวกล่าว เขาพูดด้วยเสียงที่ค่อนข้างดัง แสดงให้เห็นถึงความไม่พอใจที่มีต่อ สำนักขีดสุด
ประธานโจว เซียงหยาง เหลือบมอง
“ประธาน เหลยยูฟางคนนี้อวดดีมากเกินไป” หัวหน้า เย่าซัน กล่าวเบาๆ ด้วยความไม่พอใจ “แม้ว่านี้จะคืองานเลี้ยงต้อนรับผู้ตรวจสอบของสำนักขีดสุด เขายังกล้าทำตัวไม่สุภาพ”
“สำนักขีดสุด ก็ส่วน สำนักขีดสุด และ สำนักสายฟ้า ก็ส่วน สำนักสายฟ้า มันคงเป็นเรื่องแปลก ถ้าพวกเขาเคารพนับถือพวกเรา” โจว เซียงหยาง หัวเราะเยาะ “แค่คิดว่าผู้ตรวจสอบคนใหม่ของพวกเราคือเทพสงครามระดับอยู่ยงคงกระพันแล้ว ชะตากรรมของพวกเขาจะถูกปิดผนึกไว้…ตราบเท่าที่หลัวเฟิงอยู่ที่นี่ในเมืองเจียงหนาน พวกเขาจะอยู่ด้านล่างพวกเราเสมอ!”
หัวหน้า เย่าซัน พยักหน้าและยิ้ม
…..
สำนักสายฟ้า และ สำนักขีดสุด ต่างก็เป็นองค์กรต่อสู้ชั้นนำ ทั้ง 2 แห่งในโลก
สำนักขีดสุด อาจจะแข็งแกร่งกว่า สำนักสายฟ้า เล็กน้อย
สำนัก ทั้งสอง ต่างต่อสู้กันเพื่อแย่งชิงนักสู้จนเป็นเรื่องปกติ! หากพวกเขาพบนักสู้ที่มีพรสวรรค์อย่างใดอย่างหนึ่ง สำนัก ทั้งสองจะส่งคำเชิญไปรับสมัครพวกเขา ตัวอย่างเช่น หลัวเฟิงยังได้รับคำเชิญจากสำนักสายฟ้าด้วยเช่นกัน
นักสู้ แข่งขันกันเสมอ!
ถ้าคุณสร้างค่ายฝึกอบรม ฉันจะสร้างค่ายฝึกอบรมด้วย! คุณมีผู้
ตรวจสอบหรือ? ฉันมีผู้ตรวจสอบด้วยเช่นกัน! คุณมีผู้ตรวจการณ์? ฉันก็มีผู้ตรวจการณ์ด้วยเช่นกัน! จากคนอันดับต่ำสุดไปจนถึงอันดับสูงสุดของทั้งสองสำนัก มีการแข่งขันกันเสมอ มีเพียงคู่เดียวเท่านั้นที่ไม่มีคู่แข่งอื่นๆ เนื่องจากไม่มีอำนาจใดๆ บนโลกสามารถต่อต้านพวกเขาได้
แม้แต่ หง ผู้ที่ทรงพลัง และ เทพสายฟ้า ทั้งสองคนยังเป็นคู่แข่งที่นิ
รันดร์!
เทพสายฟ้า นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุด คนที่สองในโลก เขาอ้างว่าเขามี
เทคนิคที่ดีที่สุดและยังอ้างว่ามีร่างกายที่แข็งแกร่งมากที่สุดในโลก และมีความเร็วที่เร็วที่สุด!
โดยปกติแล้ว ถ้าพลังความเร็วและความเร็วในการตอบสนองของคุณ
เป็นอันดับหนึ่ง…ด้วยพลังอันน่าทึ่งของเทคนิคดาบสายฟ้าเก้าขั้น
ของ เทพสายฟ้า เขาควรจะสามารถกลายเป็นนักสู้ที่มีอำนาจมาก
ที่สุดในโลก! นักสู้หลายคนคิดอย่างนั้นเช่นกัน แต่หลังจากหลายปี ที่
ผ่านมา หงยังคงเป็นนักสู้อันดับหนึ่งที่ไม่อาจปฏิเสธได้
“โอ้ นี่คือใครกันล่ะ?” ดวงตาของเหลยยูฟางเป็นประกาย หลังจากได้
เห็นสวีซินสวมชุดที่สวยสง่า
“นี่คือหลานสาวของผม สวีซิน” สวีหยางโกวยิ้ม
เหลยยูฟางมองไปยังสวีซินและยิ้ม “สวัสดีเลดี้สวี ผม เหลยยูฟาง”
“สวัสดี” สวีซินรู้สึกอึดอัดใจ
“ยินดีที่ได้พบคุณ” เมื่อเหลยยูฟางกล่าวประโยคนั้นจบ
ทั้งห้องโถงต่างหันไปมอง
“ผู้ตรวจสอบหลัวเฟิงมาถึงแล้ว”
“เครื่องบินเจ็ทนั้นเป็นเครื่องบินเจ็ทแบบอัตโนมัติ ครั้งสุดท้ายที่องค์กรของเราเสนอซื้อด้วยเงิน 260,000 ล้านเหรียญ แต่ สำนักขีดสุด ยังไม่เต็มใจที่จะขายให้”
“ผู้ตรวจสอบหลัว กำลังออกมาจากเครื่องบินเจ็ท!”
“ผู้ตรวจสอบหลัวเฟิง ยังหนุ่มอยู่!”
การสนทนามีอยู่ทั่วไป และมีผู้คนจำนวนไม่มากในห้องโถงทั้งสองข้างขณะที่หลัวเฟิงมุ่งหน้ามาที่ทางเข้า
สวีซินและป้าของเธอก็เดินออกไป บนพรมแดงประมาณ 100 เมตร
พวกเธอเดินเข้าหาชายหนุ่มในชุดสูทสีดำ ตอนนี้เขากำลังยิ้มขณะเดินผ่าน ดวงตาของทุกคนต่างมองไปที่เขา! ตอนนี้ออร่าที่ไร้รูปร่างของเขาน่ากลัวมาก ในฐานะที่เป็นผู้อ่านจิตวิญญาณที่มีพลัง ดวงตาของเขาอาจทำให้จิตใจของคนๆ หนึ่งสั่นไหว!
“ผู้ตรวจสอบ” ประธานโจวและหัวหน้าทั้งสามรีบเข้ามาทักทายเขาที่
ทางเข้า
“ประธานโจว” หลัวเฟิงก้าวเข้าไปในห้องโถงทันที
“ผู้ตรวจสอบ ผมขอแนะนำให้คุณรู้จักคนสำคัญสักสองสามคน”
ประธานโจวเดินพา หลัวเฟิงไปยังบริเวณที่ผู้นำตระกูลสวี ‘สวีหยางโกว’ ยืนรออยู่อย่างชาญฉลาด
หลัวเฟิงเห็นชายชราคนหนึ่งที่มีผมขาว เมื่อเขาเห็นชายชราคนนี้จาก
ระยะไกลแล้ว เขาก็รู้จักเขา
“นี่คือผู้นำตระกูลสวี สวีหยางโกว คุณสวี” ประธานโจวยิ้ม
“ผมดีใจมากที่ได้พบกับผู้ตรวจสอบหลัวเฟิง ชื่อของผู้ตรวจสอบหลัวเฟิงแผ่กระจายไปไกลและหลังจากได้พบกับผู้ตรวจสอบหลัวเฟิงที่ยังหนุ่มแน่น ยิ่งทำให้ผมต้องตกตะลึง” สวีหยางโกวยิ้มให้ทั่วใบหน้า ราวกับว่ามีดอกไม้ที่บานอยู่ “อายุและความแข็งแกร่ง ด้วยสิ่งเหล่านี้…อนาคตของหลัวเฟิงจะไร้ขีดจำกัดอย่างแน่นอน”
คำชมเหล่านี้ทำให้คนหลายๆ คนแอบหัวเราะเยาะเย้ย
คุณเพียงแค่ต้องการป่าวประกาศให้ชัดเจนว่า หลัวเฟิงเป็นหลานชายของคุณในอนาคต…คุณย่อมต้องให้ความสำคัญกับเขา
“คุณเยินยอผมมากเกินไป นี่เป็นครั้งแรกที่ผมได้พบกับท่านผู้นำ สวีหยางโกวนั้นทำให้ผมมีความสุข!” หลัวเฟิงยิ้มขณะที่พูดจบ
“ผู้ตรวจสอบ เชิญไปทางนั้น…” ประธานโจวกำลังจะแนะนำแขกคน
อื่น
“ไม่ต้องรีบ”
แต่หลัวเฟิงมุ่งหน้าตรงไปยังสวีซิน อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาเห็นชายหนุ่มที่ยืนข้างเธอ เขาก็เริ่มรู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย ผู้ชายต้องการให้แฟนอยู่ในการควบคุม ดังนั้นเมื่อคนแปลกหน้ามายืนอยู่ข้างๆ แฟนของเขา เป็นเรื่องปกติที่หลัวเฟิงจะรู้สึกหงุดหงิด
“กรุณาหลบด้วย” หลัวเฟิงมองที่ชายหนุ่มผมยาว
เหลยยูฟางกำลังถูกจ้องโดยหลัวเฟิง นั่นทำให้เหลยยูฟางรู้สึกราวกับว่าเขากำลังจะหายใจไม่ออก เพียงแค่แรงกดดันที่ออกมาจากดวงตาของหลัวเฟิง จิตสำนึกของเขากลายเป็นภาพเบลอ และเขากำลังสับสนหลังจากที่ได้เห็นหลัวเฟิงเดินมายืนอยู่ตรงหน้า สวีซินยิ้ม
สวีซินยิ้มอย่างสดใสและใช้แขนคล้องไปรอบๆ แขนของหลัวเฟิง
“ไปเถอะ” หลัวเฟิงและสวีซินเดินเคียงข้างประธานโจวเซียงหยาง
โจวเซียงหยางมองไปที่สวีซินด้วยความตกใจ และจากนั้นก็ยิ้มด้วย
ความขบขัน ขณะที่เขาพยักหน้า “ตกลง”
ฉากนี้ทำให้คนที่มีชื่อเสียงหลายคนในห้องโถงทั้งสองข้างรู้สึกช็อก การกระทำเช่นนั้นในสถานที่ดังกล่าว เหมือนกับประกาศความสัมพันธ์ของเขากับสวีซิน! ฉากนี้ทำให้คนหลายๆ คนรู้สึกผิดหวัง เพราะพวกเขากำลังพยายามที่จะใกล้ชิดกับหลัวเฟิงผ่านการแต่งงาน
สวีหยางโกว และลูกสาวของเขายิ้มออกมา
“อื่มมม” แต่หน้าของเหลยยูฟางดูน่ากลัว
…..
“นี่คือนายกเทศมนตรีเมืองเจียงหนานของพวกเรา หยี่ซาง”
…..
“ผู้ตรวจสอบนี้คือผู้อำนวยการกองกำลังพิเศษของประเทศ 9 หลู่หยิน”
…..
“นี่คือผู้อำนวยการกองกำลังพิเศษของประเทศที่ 11 หลิวเกา”
…..
“นี่เป็นผู้นำตระกูล หนึ่งใน 12 ตระกูล ในเมืองเจียงหนานของเรา
ผู้นำเย่ฝาง”
…..
“นี่คือผู้บัญชาการภาคเหนือของเมืองเจียงหนาน ผู้บัญชาการ ทงเสี่ยวฉี”
…..
หลัวเฟิงได้รู้จักคนพิเศษมากมายภายใต้การแนะนำ ของโจวเซียงหยาง คนเหล่านี้มีอำนาจมหาศาลในประเทศจีน และทุกคนเหล่านี้ต่างสุภาพเมื่อคุยกับหลัวเฟิง
“ผู้ตรวจสอบอีกหนึ่งคน” โจวเซียงหยาง ยังคงทำการแนะนำ “ภาพลักษณ์ของคนสุดท้ายเป็นสิ่งที่น่าทึ่งจริงๆ เขาเป็นผู้นำของกอง
กำลังพิเศษของกองทัพที่มีอำนาจมากที่สุดของเรา” ประธานโจว พูด
ต่อ “ครูของเขาเป็นผู้สร้างองค์กร ‘ฮว๋าซาน’, ‘จิวหยี’ ผู้ซึ่งอยู่เกินกว่า
ระดับเทพสงครามมาก”
กองกำลังพิเศษของกองทัพมีอำนาจมากที่สุด? ฮว๋าซาน?
“ทำไมพวกเขาถึงเรียกว่าฮว๋าซาน” หลัวเฟิงถามเบาๆ
“ตัวแทนจิวหยี” เป็นคนที่ตั้งชื่อ ใครจะรู้ว่าทำไม?” โจวเซียงหยา
งตอบเบาๆ “เจียงหลงเป็นหนึ่งในคนไม่กี่คนที่อยู่เกินระดับเทพ
สงครามมาก เขามีอำนาจมากมาย และแน่นอนว่า องค์กรที่เขาสร้างย่อมมีอำนาจมากมายด้วยเช่นกัน!”
ประธานโจวกล่าวแนะนำไม่นานนัก เนื่องจากเขาได้พาหลัวเฟิงไปข้างหน้าชายวัยกลางคน
เมื่อหลัวเฟิงกำลังจะพูดกับตัวแทนของกองกำลังพิเศษของประเทศที่มีพลังมากที่สุด
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ผู้ตรวจสอบหลัวเฟิง ผมต้องขอโทษที่มาสาย” เสียงหัวเราะที่ดังสนั่น ทำให้เพดานสั่นไหวไปทั่วทั้งห้อง