Skip to content

Swallowed Star 20

ตอนที่ 20 ความมืดและบอลทองคำ

ไม่มีแสงใดปรากฏขึ้นในห้องมืดมิดนั้น

ภายในความมืดมิด หลัวเฟิงนั่งอยู่บนโซฟา เขาไม่สามารถสงบลงได้ “พลังนี้เป็นพลังที่มากเกินไป ปืนพกทั่วไปก็คงทำได้แค่ สะกิดภูเขาหินหนานั่น แต่แท่งเหล็กของเรา เราทำลายมันได้อย่าง ง่ายดาย มันคือพลังที่แข็งแกร่งขึ้นนับสิบนับร้อยเท่า!”

ในสงครามระหว่างมนุษย์และสัตว์ร้ายซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีที่ผ่านมา มนุษย์ไม่สามารถกำชัยชนะได้เนื่องจากสัตว์ร้ายมีความ แข็งแกร่งมากเกินไป

ในบรรดาสัตว์ประหลาดก็มีทั้งตัวที่อ่อนแอและตัวที่แข็งแกร่ง

แม้แต่สัตว์ประหลาดที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถสลัดการโจมตี จากปืนพกได้ และแม้นักสู้ที่อ่อนแอที่สุดก็สามารถบล็อกลูกกระสุน ได้ด้วยกล้ามเนื้อเหมือนกัน สำหรับสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งกว่า แม้แต่อาวุธสงครามก็ไม่อาจทำอันตรายมันได้ มีเพียงสไนเปอร์ไร เฟิลขนาดหนัก ปืนกลหนัก ปืนกลไฟพลังสูง ปืนใหญ่ เป็นต้น ที่สามารถทำอันตรายมันได้!

แน่นอน สัตว์ประหลาดแบบ ‘อินทรีย์มงกุฎดำ’ ไม่แม้แต่จะขน ร่วงด้วยซ้ำหลังจากที่โดนโจมตีจากปืนใหญ่เทพอัคคีขนาด 20 มิลลิเมตร! มันเป็นสิ่งที่น่าสะพรึงกลัวอย่างแท้จริง

“ไม่อยากเชื่อเลยว่าเราจะมีพลังที่ใช้เคลื่อนย้ายวัตถุได้ หรือนี่ จะเป็น…” หัวใจของหลัวเฟิงเต้นระส่ำ “หรือนี่จะเป็น ‘พลังจิต’ ใน แบบของนักอ่านจิต?”

หลัวเฟิงรู้เรื่องเกี่ยวกับนักอ่านจิตน้อยมาก

แต่อย่างไรก็ตาม เขาก็พอจะรู้จักข้อมูลเบื้องต้นอยู่ นักอ่านจิต มักจะเป็นนักสู้ผู้ทรงพลังที่ผ่านการฝึกพลังพันธุกรรมมาแล้วด้วย! อย่างไรก็ตาม นักอ่านจิตจะไม่เพียงแค่ฝึกฝนพลังพันธุกรรมเท่านั้น แต่พวกเขายังมีพลังอย่างที่สองอีกด้วย….พลังเคลื่อนย้ายวัตถุ! พลังที่ใช้เคลื่อนย้ายวัตถุนี้ส่วนใหญ่จะถูกเรียกว่า ‘พลังจิต’

“แต่ต้องตรวจสอบภายหลังถ้ามันเป็นพลังจิตจริงๆ” หลัวเฟิงคิดในใจ

หลัวเฟิงเคยเห็นนักอ่านจิตเพียงครั้งเดียวในชีวิต

และนั่นก็คือชายลึกลับผมเงินในเสื้อคลุมสีดำที่อาจารย์ใหญ่ ‘อูทง’ ของที่ทำการสมาคมขีดสุดในเมืองหยางโจวเรียกว่าหัวหน้า

“แท่งเหล็กนั้นทรงพลังมาก แต่คงไม่อาจต่อกรกับอินทรีมงกุฎดำได้ มีเพียงปีนใหญ่เลเซอร์หรือไม่ก็ระเบิดนิวเคลียร์ที่พอจะใช้ จัดการกับพวกมันได้” หลัวเฟิงเข้าใจดี แม้ว่าพลังตอนนี้ของเขาจะ น่าอัศจรรย์ แต่ก็ย้งมีสิ่งมีชีวิตที่ทรงพลังมากกว่านี้ร้อยเท่าพันเท่า ในโลกนี้อีกอยู่ดี!

ตามข้อมูลในอินเตอร์เน็ต นักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดผู้พิชิตอินทรีย์ มงกุฎดำ…

ความเร็วของเขาเหนือความเร็วเสียง! เขาสามารถฟันอินทรีย์ มงกุฎดำขาดครึ่งท่อนได้ในการฟันเพียงครั้งเดียว! การเตะเพียง ครั้งเดียวอาจทำลายหอพักขนาด 6 ชั้นได้เลยทีเดียว!

นี่คือบุคคลที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดานักสู้ทั้งหมด

“นักสู้ที่แกร่งที่สุด ‘หง’ นักสู้แกร่งอันดับสอง ‘เทพเจ้าสายฟ้า’ ได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมกันจาก 5 ประเทศใหญ่!” หลัวเฟิงสูดหายใจลึก ทำให้ประเทศปฏิบัติต่อบุคคลคนหนึ่งอย่างเท่าเทียม เห็นได้อย่างชัดเจนว่าพลังของเขาบ้าคลั่งขนาดไหน

“แท่งเหล็กอันนั้นอาจจะไม่สามารถแม้แต่จะแตะตัวพวกเขาได้ เลยด้วยซ้ำ” หลัวเฟิงเตือนตัวเอง แม้ว่าเขาจะมีพลังมาก แต่ก็ยังมี คนอีกมากที่ทรงพลังมากกว่า

แม้ว่าเขาจะเตือนตัวเองแบบนี้…

นักสู้เหล่านั้นห่างไกลเกินกว่าที่เขาจะเข้าใจ แต่พลังของหลัวเฟิงตอนนี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ครอบครัวของเขามีชีวิตดีขึ้น

“พยายามเข้า!

เรายังหนุ่ม ดังนั้นเราอาจจะยืนหยัดอยู่ในบรรดานักสู้ที่แกร่ง ที่สุดในอนาคตก็เป็นได้” หลัวเฟิงคิดอย่างตื่นเต้น

…………

ภายในห้องมืดมนนั้น หลัวเฟิงปลุกความสามารถตัวเองขึ้นมา ขณะเดียวกันเขาก็ตื่นเต้นเกินกว่าจะหลับลงได้

“ไม่ว่ายังไง ตอนนี้เราก็นอนไม่หลับ ถ้างั้นเราลองฝึกพลัง พันธุกรรมหน่อยแล้วกัน” หลัวเฟิงจัดท่าทางห้าหัวใจสู่นภาแล้ว หลับตาลงเริ่มเข้าสู่การฝึก..

ร่างกายของเขามีพลังพันธุกรรมอยู่บ้างแล้วและเขาก็มี ประสบการณ์มาก่อนแล้ว

ดังนั้นจึงสัมผัสถึงพลังจักรวาลได้ง่ายมาก

พลังพันธุกรรมไหลเข้าทางฝ่าเท้า ฝ่ามือ และเส้นเลือดแดงใน หัวของเขา “ดูเหมือนว่าอัตราการดูดซับจะเร็วขึ้นในวันนี้” พลังงาน ไหลเข้าร่างของหลัวเฟิงจากทางห้าช่องทาง เซลล์ทุกเซลล์ในทุกๆ ที่กลืนพลังลึกลับนี้เข้าไป

ด้วยการแปลงของไมโทรคอนเดรีย พลังงานจักรวาลก็ถูก เปลี่ยนเป็นพลังพันธุกรรม

“หือ? หัวเรา…” หลัวเฟิงรู้สึกได้ว่ามีพลังงานจักรวาลจำนวน มหาศาลไหลเข้าสู่สมองและรวมตัวกันอยู่ที่นั่น

“วืด…!”

หลังจากบางสิ่งที่เหมือนกับอาการสั่นไหวของวิญญาณ หลัวเฟิงก็ค้นพบอย่างน่าประหลาดใจ…ว่าสติของเขาเคลื่อนเข้าสู่ สถานที่ลึกลับมากๆ

สถานที่ลึกลับนี้ไม่มีขอบเขตไม่มีกำแพง เป็นแค่เมฆหมอกขนาดใหญ่ไร้ที่สิ้นสุด มีแต่ความมืด และลูกบอลทองคำ…ในความมืดนี้ ลูกบอลทองคำดูเหมือนเป็นดวงดาวที่หมุนรอบตัวเองอย่าง

ช้าๆ ขณะเดียวกันก็ปลดปล่อยไอหมอกออกมา และสถานที่ลึกลับ นี้ก็มีเมฆหมอกเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

“เมฆหมอกนี้…คือ…คือพลังจิตเหรอ?” หลัวเฟิงรู้สึกถึงพลังที่ อยู่ในเมฆหมอกนั้น มันคือพลังจิตของเขาที่เขาใช้ควบคุมวัตถุนั่นเอง”แล้ว…”

หลัวเฟิงมองเห็นได้อย่างชัดเจนว่าพลังงานโปร่งใสรั่วไหลเข้า สู่สถานที่ลึกลับนั้น และหลอมรวมเข้ากับพลังงานของเมฆหมอก อย่างรวดเร็ว จิตใต้สำนึกของหลัวเฟิงก็รู้สึกได้ว่าพลังงานโปร่งใสนี้ ก็คือพลังงานจักรวาล

“เมฆหมอกคือพลังจิต และพลังงานโปร่งใสก็คือพลังงานจักรวาล พลังงานจักรวาลถูกดูดเข้ามาที่นี่แล้วเปลี่ยนเป็นพลังจิต พลัง จิตของเราแผ่ออกจากสมองของเรา” หลัวเฟิงตื่นเต้นตกใจ “ที่นี่ คือสมองของเรา? หรือควรจะพูดว่า ดินแดนแห่งจิต?”

ดินแดนแห่งจิตเป็นตำแหน่งพิเศษที่นักสู้เอาไว้ใช้งานจิตใจ

“ทำไมถึงมีลูกบอลทองคำอยู่ตรงกลางดินแดนแห่งจิตของเราล่ะ?” หลัวเฟิงสังเกตเห็นขณะที่ลูกบอลทองคำนั้นยังคงหมุนรอบ ตัวเองและปลดปล่อยไอหมอกออกมาอยู่… ขณะที่ปลดปล่อยพลัง จิตออกมา จิตใจของหลัวเฟิงก็รู้สึกเบาสบายด้วย

“ความมืดและลูกบอลทองคำอาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เราเกิด อาการโคม่า” หลัวเฟิงรู้ได้โดยสัญชาตญาณ

“ความมืดแสะลูกบอลทองคำปลดปล่อยพลังจิตออกมา?

ในอดีต เราไม่เคยมีพลังจิต เราเพิ่งจะมามีก็หลังจากอาการ โคม่าครั้งนี้” หลัวเฟิงคิดในใจ “และด้วยอาการโคม่าครั้งนี้ ความ มืดและลูกบอลทองคำนี้ก็ปลดปล่อยพลังจิตออกมามหาศาล ไม่ เพียงแต่จะทำให้เรามีพลังในการเคลื่อนย้ายวัตถุ แต่ยังเพิ่ม สมรรถภาพร่างกายเราด้วย”

ระดับสมรรถภาพร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้น แต่เมื่อเปรียบ กับพลังจิตแล้ว มันเหมือนไม่มีอะไรเลย

“ใช่แล้ว”

ตอนที่พวกนักโทษเข้าโจมตีเรา หนึ่งในนั้นปามีดใส่เรา แล้ว มีดเล่มนั้นก็เปลี่ยนทิศทางตอนที่กำลังจะพุ่งเข้าเสียบหัวไหล่ของเรา ขอเดาว่าต้องเป็นเพราะพลังจิตเราแน่” หลัวเฟิงฟันธงความจริงอย่างง่ายๆ

อันที่จริง ความมืด บอลทองคำปลดปล่อยพลังจิตออกมาเป็น จำนวนมหาศาลจากอาการโคม่าครั้งนี้

แต่อย่างไรก็ตาม ตอนที่หลัวเฟิงเริ่มฝึกพลังพันธุกรรมคืนแรก ตอนอยู่ในคุก พลังจักรวาลก็เริ่มไปกระตุ้นภายในดินแดนแห่งจิตของเขา ต่อให้ไม่ มีเหตุการณ์ปามีด ความมืดและบอลทองคำก็ ปลดปล่อยพลังจิตออกมาเป็นจำนวนมากอยู่ดี เมื่อเวลาผ่านไป มันก็ก่อตัวขึ้นและมอบพลังจิตให้กับเขา

เหตุการณ์การปามีดเป็นเพียงสาเหตุที่ทำให้หลัวเฟิงตื่นตัวเร็วขึ้นเท่านั้น

“มีโอกาสถึง 90% ที่ความมืดและบอลทองคำจะทำปฏิกิริยา และเป็นสาเหตุให้เกิดอาการโคม่าของเรา อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ ความมืดและลูกบอลทองคำกำลังปลดปล่อยพลังจิตออกมาตลอดเวลา เราก็ไม่น่าจะเกิดอาการโคม่าอีกแล้ว” หลัวเฟิงคิดว่า มันก็คงเหมือนกับเขื่อนที่คอยกั้นน้ำไม่ให้ไหลกลับ ความมืดและลูกบอลทองคำจึงไม่สามารถปลดปล่อยพลังจิตใดๆ ออกมาได้

เพราะเหตุนี้ หลัวเฟิงจึงมีอาการปวดหัวอยู่บ่อยๆ แต่ตอนนี้ก็มี ช่องเพื่อให้นํ้าได้ระบายออกแล้ว ก็ไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ เกิดขึ้นได้อีก

………….

เช้าวันรุ่งขึ้น เมื่อหลัวเฟิงกำลังเดินออกมาจากห้องและลงบันได เขาก็พบว่ามีใครบางคนกำลังนั่งอยู่ตรงล็อบบี้

“คุณหลัวเฟิง อรุณสวัสดิ์ครับ” นายทหารคนหนึ่งลุกขึ้นยืน กล่าวพลางยิ้มบางๆ

“สวัลดีครับ” หลัวเฟิงกล่าวอย่างระแวดระวัง “ที่นี่ที่ไหน แล้ว ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไงครับ? และผมว่า ผมไม่เคยเจอคุณมาก่อนแน่ๆ”

นายทหารส่งยิ้มให้ “ผมขอแนะนำตัวแล้วกัน ผมคือผู้รักษา ความปลอดภัยต่งแห่งคุกประจำเขตอี๋อัน นี่คือเขตพื้นที่ฬกฟื้นของ กองทัพประจำเขตอี๋อัน คุณหลัวเฟิง…คิดไม่ถึงว่าคุณจะผ่านการทดสอบเตรียมนักสู้แล้ว แน่นอน คุกของเราไม่มีสิทธิ์จะขังคุณเอาไว้ ดังนั้นคุณหลัวเฟิงมีสิทธิ์กลับบ้านได้เลยเดี๋ยวนี้ครับ”

“กลับบ้านได้เลยเหรอครับ?” หลัวเฟิงพยักหน้าเบาๆ

หลัวเฟิงไม่ได้แปลกใจอะไร เพราะตอนที่เขาจัดการกับนักโทษ จำนวนมากเมื่อวานนี้และโดยเฉพาะเมื่อเขาพังโต๊ะเหล็กซะกระจุย กระจายแบบนั้น มันก็เป็นเรื่องง่ายที่ใครๆ จะรู้สึกถึงพลังที่แท้จริงของเขา

“ผมอยากรู้ใครเป็นคนอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้?” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว

นายทหารคนนั้นลังเล

“ถ้าคุกของคุณไม่สามารถตอบได้ ผมจะติดต่อสำนักขีดสุด และเดินทางไปที่หน่วยงานรักษาความปลอดภัยของนครเจียง หนานเพื่อหาความจริงเรื่องนี้” หลัวเฟิงกล่าว เมื่อเรื่องนี้ แพร่กระจายออกไป ผู้คนจะรู้ว่าเตรียมนักสู้ถูกจับขังคุกและถูกรุม ทำร้ายโดยนักโทษ แล้วคุกก็พยายามปกปิดผู้กระทำผิดด้วย

ในกลุ่มเจ้าหน้าที่ระดับสูงของเรือนจำ นี่จะเป็นปัญหาอย่างแน่นอน

นายทหารหัวเราะเบาๆ “ไม่ต้องรีบร้อนคุณหลัวเฟิง คืออย่างนี้ ตามการสอบสวนของเรา หัวหน้าแก๊งที่ชื่อ ‘โจวฮว๋าหยาง’ เป็นคน ก่อเรื่องนี้ขึ้น และจากที่เราสอบสวนดู พบว่าพวกเขาต้องการหัก แขนและขาของคุณหลัวเฟิง”

“โอ้?” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว “หักแขนและขาผม? อะไรจะโหดร้าย ขนาดนั้น? ผมไม่เคยรู้จักโจวฮว๋าหยางคนนี้เลย มีใครจ้างเขาหรือเปล่า?”

นายทหารกล่าวตอบ “เราสอบสวนโจวฮว๋าหยางดูแล้ว เด็กหนุ่มชื่อจางฮ่าวไป๋เป็นคนว่าจ้างเขา”

“จางฮ่าวไป๋?”

สายตาของหลัวเฟิงดูเย็นชาลง “ทำไมมันไม่รู้จักจบ!”

“แน่นอนครับเรื่องนั้น” นายทหารคนนั้นยิ้ม “หลัวเฟิง คุณสามารถแจ้งไปที่หน่วยรักษาความปลอดภัยของนครเจียงหนาน เพื่อให้คุมตัวจางฮ่าวไป๋ได้นะครับ เขาเป็นผู้บงการเรื่องที่จะทำร้ายเตรียมนักสู้ ซึ่งมันเป็นคดีที่หนักทีเดียว! อย่างเบาะๆ ก็น่าจะติดคุกถึง 20 ปีได้ อย่าหาว่าผมพูดอะไรไม่สมควรเลยนะ แต่อาของจางฮ่าวไป๋ก็เป็นนักสู้เหมือนกัน!” นายทหารกล่าว

“หลัวเฟิงคุณสามารถเลือก ฉีกหน้าอาของเขาและแจ้งให้หน่วยรักษาความปลอดภัยคุมตัวจาง ร่าวไป๋ได้…เพราะหน่วยงานรักษาความปลอดภัยจะจัดการปัญหาของนักสู้ทุกคนและมีอำนาจมากด้วย อาของจางฮ่าวไป๋ก็ไม่มี อิทธิพลที่จะไปต่อต้านหน่วยงานรักษาความปลอดภัยได้แต่อย่าง ใดอยู่แล้ว คุณสามารถเลือกเป็นศัตรูกับอาของเขา แล้วจัดการกับเขาได้ และคุณก็ยังสามารถต่อรองกับเขาเป็นการส่วนตัวและบอกให้ ครอบครัวจางจ่ายค่าชดเชยให้คุณได้ ทั้งหมดนี้คุณตัดสินใจเองหลัวเฟิง”

นายทหารยิ้มให้ “นั่นคือทั้งหมดที่ผมอยากพูด…มือถือ สัมภาระของคุณอยู่ที่นี่ครับ คุณหลัวเฟิง”

หลัวเฟิงพยักหน้า

จะต่อรองกับเขาเป็นการส่วนตัวและบอกให้เขาจ่ายเงินชดเชย ค่าเสียหายดี? หรือจะจัดการกับเขาโดยไม่คำนึงถึงผลที่ตามมาดี?

“สวัสดีครับพ่อ” หลัวเฟิงหยิบมือถือขึ้นมาโทร “ผมออกมา จากคุกแล้วและผมจะกลับบ้านไปทานข้าวเข้าด้วยนะครับ!… ไม่ ต้องห่วงครับพ่อ ลูกของพ่อแข็งแกร่งแบบนี้แล้วจะมีปัญหาได้ยังไง?”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version