ตอนที่ 318 การกระทำ

หลัวเฟิงและพี่น้องทั้งสองดื่มไวน์ พวกเขาทำเหมือนไม่มีใครอยู่ที่นั่น นัวแลนชานยืนอยู่ข้างๆ พวกเขาด้วยท่าทางที่น่าเกลียดมาก

อีกสองคนที่เป็นผู้ฝึกสอนทหารรับจ้างของจักรวาลดูเหมือนจะไม่พอใจ เนื่องจากในจักรวาลเสมือน การเคารพต่อความแข็งแกร่งเป็นรูปแบบพื้นฐานที่สำคัญที่สุด

จากมุมมองของพวกเขา คนทั้งสามที่อยู่ตรงหน้า วางท่าทางหยิ่งเกินไป

“นี่…” เฮอร์โรและบูเลมู่ต่างมองหน้ากัน พวกเขาไม่กล้าที่จะส่งเสียง

“ไวน์นี้ไม่เลว! หากอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริง ราคาของมันจะถูกลง

อีกหลายเท่า?” เทพสายฟ้า กล่าว

“และมันคงเป็นเรื่องยากที่จะทำมันขึ้นมา” หงกล่าว

“มีหลายสิ่งที่ดีมากมายในจักรวาลเสมือน!” หลัวเฟิงกล่าวชม

กล้ามเนื้อดวงตาของนัวแลนชานกระตุกขึ้นสองสามครั้ง เขาใช้สายตาที่เย็นชามองผ่านทั้งสามคน จู่ๆ ก็หัวเราะเบาๆ “เจ้าทั้งสาม ดูหมิ่นข้า”

หลัวเฟิงยังคงไม่สนใจเขา

“ข้าจะบอกให้พวกเจ้ารู้ แม้ในจักรวาลเสมือน พวกเจ้าก็ต้องให้ความ

เคารพกับผู้ที่แข็งแกร่ง!”

ฮึ!

ขาขวาของเขาขยับตัว มันคล้ายกับเป็นเคียวขนาดใหญ่ ที่สามารถหั่นคนออกเป็นชิ้นๆ มันพุ่งผ่านอากาศเข้าหาหลัวเฟิงอย่างรวดเร็ว

“คุณกล้าที่จะลงมือ?”

หลัวเฟิงเอนตัวไปด้านหลังเล็กน้อย ในเวลาเดียวกันเอาใช้ไหล่ซ้ายเพื่อป้องกันขา

ปัง! ขาขวาของนัวแลนชานกระแทกกับไหล่หลัวเฟิง ร่างกาย

ของหลัวเฟิงก็ถูกบังคับให้ถอยหลังไปสองสามก้าว ดวงตาของเขาเป็นประกาย เขามองไปที่ไวน์และอาหารที่อยู่บนโต๊ะจากนั้น ขวดไวน์ จานอาหารทั้งหมดลอยขึ้นทันทีและพุ่งเข้าใส่นัวแลนชาน

“สู้!” เทพสายฟ้า ตะโกนด้วยความโกรธ

“ฮ่าๆ!” หงก็ขยับตัวเหมือนสายฟ้าและเข้าร่วมการต่อสู้

ทุกคนมีพลังในระดับที่ต่ำสุดเท่ากัน ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีอะไรต้อง

กลัว!

“ระวังตัวด้วย เขามีแรงมากกว่าเรา” หลัวเฟิงตะโกน เขาได้เตรียมรับการโจมตีของนัวแลนชานไว้แล้ว แต่เมื่อเขาถูกโจมตี แรงที่ปะทะเกินกว่าที่หลัวเฟิงคาดคิดไว้ บริเวณไหล่ของเขายังคงเจ็บปวดอยู่

“กล้าต่อสู้กับข้า?”

นัวแลนชานหันไปเตะใส่ เทพสายฟ้า ผู้ที่พุ่งเข้ามาเป็นคน

แรก ขณะที่ เทพสายฟ้า บิดร่างกายช่วงบนเล็กน้อยเพื่อลดแรง

กระแทก จากนั้นหมัดของเทพสายฟ้า ที่พุ่งเหมือนเส้นโค้งก็เร่ง

ความเร็วขึ้น มันพุ่งเข้าหานัวแลนชานทันที นัวแลนชาน ขมวดคิ้ว

เล็กน้อย เท้าซ้ายที่เขาเตะออกเปลี่ยนเป็นเตะขึ้น เพื่อป้องกันหมัดของเทพสายฟ้า ทำให้เกิดการสั่นสะเทือนจากการกระแทก

“อื่ม” เทพสายฟ้า ทำให้ร่างกายอ่อนลงและดูดซับผลกระทบ คล้าย

กับผ้าฝ้าย เขายึดจับขาของนัวแลนชานไว้ และพร้อมที่จะเตรียมใช้

เทคนิคการโจมตีต่อเนื่อง

“วิธีการอ่อนนุ่ม?” การแสดงออกของนัวแลนชานเปลี่ยนไปเล็กน้อย

พรึบ!

กล้ามเนื้อที่ขาซ้ายของเขาก็อ่อนลงและทรุดลง มันคล้ายกับงูที่ลื่นไถลออกจากการยึดเกาะทันที

“หวืด!”

เสียงระเบิดที่น่าสะพรึงกลัว ขาข้างขวาของหงเหมือนรูปกรวยแหลม

พุ่งเข้าใส่ศีรษะของนัวแลนชาน นัวแลนชานยิ้มอย่างใจเย็น เขาขยับ

ไปข้างหน้า และก้มลงเพื่อหลบเลี่ยงการเตะ!

แต่ลูกเตะของหง เปลี่ยนเป็นสับขาลง มันยังคงมุ่งตรงไปยังหัวของนัวแลนชาน!

“ผิดท่า!” นัวแลนชานตำหนิตัวเอง จากนั้นเขาใช้ศีรษะของเขาพุ่งเข้า

กระแทกกับขาของหง

“ตึง!”

หัวที่แข็งแกร่งกระแทกเข้ากับขา ร่างของหงดูเหมือนจะเสียสมดุล

ไป เขาล้มลงไปด้านข้าง

ทันใดนั้นมือทั้งสองข้างของเทพสายฟ้าก็พุ่งเข้าหานัวแลนชาน เขากางนิ้วทั้งสิบออก เป็นเหมือนการกอดรัดของคนรักที่อ่อนโยน 10 นิ้วที่กำลังแกว่งไปแกว่งมา ตรงไปยังใบหน้าของนัวแลนชาน แต่ถ้ามองดีๆ จะรู้สึกว่าทุกๆ นิ้ว เป็นคล้ายงูเหลือม

“ชิ ชิ…” หงลุกขึ้นและวิ่งไปชกต่อย เป็นเหมือนคลื่นยักษ์ที่ถาโถม

“ทำลายวิญญาณของเขา!”

หลัวเฟิงยืนอยู่ไม่ไกล เขาสั่งเบาๆ

เข็มที่เป็นเหมือนพลังจิต พุ่งเจาะไปยังสมองของนัวแลนชาน

นัวแลนชานตะโกนอย่างรุนแรง เขาโกรธ แขนของเขาดูเหมือนจะ

ขยายตัวและขยายใหญ่ขึ้น ในเวลาเดียวกันมีพลังงานพิเศษกระแทกเข้าใส่ฝ่ามือของเทพสายฟ้า และหมัดของหง หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าใส่

หน้าอกของทั้งสองคน ทำให้หง และเทพสายฟ้า กระเด็นถอยหลัง

ความเงียบ!

หลายคนที่อยู่ในห้องโถงของด่านสังหารต่างหันไปมอง

“ความเสียหายที่เกิดขึ้น เก็บเงินกับข้า” นัวแลนชานตะโกน ก่อนที่จะ

มองอย่างเย็นชาไปที่หลัวเฟิงและคนอื่นๆ

หลัวเฟิง หง และเทพสายฟ้า ตกใจมาก

โดยทั่วไปการใช้พลังงานจิตวิญญาณโจมตีกับศัตรูอาจทำให้ศัตรูตายได้ทันที แต่อย่างไรก็ตาม…ขณะนี้ดูเหมือนว่ามันไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนัวแลนชานเลย

หงและเทพสายฟ้า ในช่วงยุคหายนะ คนหนึ่งมีความสามารถในการต่อสู้ ขณะที่อีกคนหนึ่งเป็นครูฝึกโยคะ ทั้งสองคนต่างก็ชำนาญในการต่อสู้ระยะประชิด และคราวนี้พวกเขาทั้งสองหายไปคนหนึ่ง

ต้องรู้ว่าร่างกายของทุกคนย่อมมีพลังทางจิตวิญญาณ

นี่คือจักรวาลเสมือน การสร้างร่างกายของทุกคนก็เหมือนกัน

“แค่เจ้าคิดว่า เจ้าสามารถใช้พลังจิตวิญญาณเพื่อโจมตีข้า นั่นจะทำให้ข้าพ่ายแพ้ได้ อย่างนั้นหรือ?” นัวแลนชานมองหลัวเฟิงที่ยืนอยู่ห่างๆ

ขณะที่หลัวเฟิงกำลังตกใจ

“ในแบทเทิลโคลีเซียม ถ้าข้าไม่สามารถรับมือกับการโจมตีด้วยจิต

วิญญาณได้ ข้าจะเอาชีวิตรอดจากการต่อสู้นับพันๆ ครั้ง จนกระทั่ง

ได้รับสถานะนักสู้ขวานพิฆาตมาได้อย่างไร!”

แม้ว่าระดับพลังจิตวิญญาณของพวกเขาจะต่างกัน แต่ในฐานะนักสู้

ระดับจักรวาลขั้น 9 และฉายานักสู้ขวานพิฆาต พลังจิตของเขาย่อมมี

ความแข็งแกร่งมาก

“สำหรับพวกเจ้าทั้งสอง อย่าคิดว่าเป็นเพราะเรามีพลังที่เท่าเทียมกัน เจ้าต้องเข้าใจว่าข้าคือนักสู้ระดับจักรวาล! แม้จะมีพลังเท่าเทียมกัน แต่ก็ยังจัดการกับพวกเจ้าได้อย่างง่ายดาย”

“เยี่ยมมาก!” ผู้ฝึกสอนทหารรับจ้างตะโกนจากรอบข้าง

“เยี่ยม!”

“แม้ในจักรวาลเสมือน ผู้ที่อ่อนแอยังคงต้องเคารพผู้ที่แข็งแกร่ง!”

“ไม่ว่าจะเป็นสมอง ทักษะ ความชำนาญ การปลดปล่อยความ

แข็งแกร่ง และสิ่งอื่นๆ คนเหล่านี้ยังห่างไกลเกินไป และยังคงวางท่า

หยิ่ง!” ทันทีที่ผู้ฝึกสอนทั้งสองคนข้างๆ เริ่มพูดถึง คนจำนวนนับไม่

ถ้วนต่างมองไปที่หลัวเฟิงและพี่น้องของเขา ด้วยแววตาแปลกๆ

ทั้ง 3 คนนี้กล้าที่จะดูถูกนักสู้ระดับจักรวาล?

การให้ความเคารพในจักรวาล เป็นรูปแบบพื้นฐานที่สุดของการแสดง

มารยาท!

“พวกเขาสมควรได้รับมัน!”

“สมควรที่จะให้บทเรียนกับพวกมัน” หลายคนเริ่มร้องตะโกน

ท่าทางของ หง และเทพสายฟ้า ยังคงเย็นชา

“นัวแลนชาน!”

หลัวเฟิงพูดอย่างเย็นชา “เคารพความแข็งแกร่งเป็นรูปแบบพื้นฐานที่สุดของการมีมารยาท แต่ก่อนที่จะมาอยู่ในด่านสังหาร ผมไม่เคยลบหลู่ผู้ที่แข็งแกร่งมาก่อน ! อย่างไรก็ตาม คุณ เพราะความโลภของคุณ คุณได้ฆ่าคนในเผ่าพันธุ์ของผมไปนับสิบล้านคน?”

มนุษย์โลกได้เสียชีวิตไปจำนวนมาก แน่นอนว่ามันเป็นเพราะตระกูลนัวแลนชาน

เมื่อเกิดการต่อสู้ มีหลายคนที่สูญหายไปจากคลื่นกระแทก และได้รับ

ผลกระทบเป็นจำนวนมาก

เมื่อตระกูลนัวแลนชานมาถึง นั่นทำให้ทั้งโลกตกอยู่ในสภาวะสับสน

วุ่นวาย การปล้นและการจลาจล ทำให้มีคนตายมากขึ้น

“และคุณยังต้องการใช้กำลังบังคับ เพื่อซื้อดาวเคราะห์ของผม?”

“ฆ่าคนของผม แล้วใช้กำลังบังคับให้ผมขายดาวเคราะห์ให้ และคุณ

ยังต้องการให้ผมเคารพคุณ ฝันไปเถอะ” หลัวเฟิงก้มศีรษะลง และถ่ม

น้ำลายอย่างรุนแรง

ท่าทางของนัวแลนชานเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่เขาก็ไม่มีทางที่จะลบล้างสิ่งที่หลัวเฟิงกล่าวมา มันเป็นความจริงอย่างแน่นอน

หลายคนที่มีภูมิหลังใหญ่ที่ยืนอยู่รอบๆ ต่างมาจากทวีปต่างๆ ของ

จักรวรรดิภูเขามังกรดำ ทั้งหมดพยักหน้า เมื่อเป็นเช่นนี้พวกเขาจึงไม่น่าแปลกใจที่กลุ่มชายหนุ่มเหล่านี้กล้าต่อสู้กับนักสู้ขวานพิฆาต

“โอ้…!”

“ไม่น่าแปลกใจ”

“คนหนุ่มเหล่านี้กล้าหาญมากจริงๆ”

สถานการณ์เริ่มเด่นชัดมากขึ้น นั่นเป็นเพราะความบาดหมางระหว่าง

พวกเขาทั้งสอง มันเป็นธรรมดาที่จะไม่แสดงความเคารพศัตรู

นัวแลนชานมองไปที่หลัวเฟิง พยักหน้าเล็กน้อย ปากของเขากล่าวว่า “มีปากจะพูดอย่างไรก็ได้”

“ไม่ใช่ว่าผมจะพูดอะไรก็ได้ แต่มันเต็มไปด้วยเหตุผล! ตราบใดที่มัน

เป็นความจริงและตรงไปตรงมา ผมก็จะไม่กลัวคุณเลย ผมจะไม่เคารพคุณ” หลัวเฟิงจ้องมองไปที่นัวแลนชาน เขายิ้มเยาะ”คุณนัวแลนชาน ถ้าไม่ใช่เพราะความโลภของคุณ เราสามพี่น้องเพียงแค่ดื่มไวน์ที่นี่ ทำไมคุณต้องมาหาเรื่องพวกเรา?”

นัวแลนชานที่ยืนอยู่ เขากำหมัดแน่น แต่เขาไม่รู้ว่าจะพูดอย่างไรดี

“ทำไม คุณต้องการที่จะต่อสู้อีกเหรอ?” เทพสายฟ้า เยาะเย้ย

“เราไม่สามารถต่อสู้และชนะกับคนอย่างคุณที่มีฉายาของนักสู้ขวาน

พิฆาต และยังเป็นผู้อาวุโสในระดับจักรวาลขั้น 9” หง เริ่มยั่วยุเขา

“พี่ใหญ่ พี่รอง เราไปเถอะ” หลัวเฟิงโบกมือให้

“ไปเถอะ” หงกล่าว

“คนที่ชอบสิ่งเหล่านี้ ไม่คุ้มค่าที่จะพูดด้วย” เทพสายฟ้า เดินตาม

ไป

หลัวเฟิงและอีกสองคน มุ่งตรงไปยังทางออกของห้องโถงใหญ่

หน้าตาของนัวแลนชานซีดมาก เขาโกรธจัด อย่างไรก็ตาม มันเป็นความจริงที่เขากำลังจับตามองโลก สมบัติของโลกมันทำให้เขาโลภมาก และในตอนนี้เขาไม่ต้องการที่จะพูดเรื่องนี้ต่อหน้าใคร เพราะเขาไม่ต้องการให้ใครค้นพบสมบัติของโลก

“หลัวเฟิง!” นัวแลนชานกล่าวอย่างเย็นชา

หลัวเฟิงหันไปมองนัวแลนชาน เขายิ้ม “คุณนัวแลนชาน คุณมีอะไร?”

“ตอนนี้ ตอนที่ข้าสู้กับเจ้า พวกเจ้าทั้งหมดล้วนไม่พอใจ ใช่หรือไม่?”

นัวแลนชานมองตา

“ใช่” หลัวเฟิงกล่าว “คุณเป็นนักสู้ระดับจักรวาลขั้น 9 ที่มีประสบการณ์ ความแข็งแรงสติและอื่นๆ ทั้งหมดที่แข็งแกร่งกว่าพวกเรา การต่อสู้ที่ไม่ยุติธรรม และคุณคิดว่าผมจะพอใจ?”

“ข้าจะให้โอกาสเจ้าอีกครั้ง”

“ข้าจะหาลูกน้อง 3 คน ที่มีความแข็งแกร่งในระดับเดียวกับพวกเจ้า

ทั้งหมดต่อสู้ในสนามรบที่ต่างกัน! ตราบเท่าที่เจ้าสามารถที่จะชนะการต่อสู้ 1 ครั้ง…แล้วเจ้าจะถือว่าเป็นผู้ชนะ หากเจ้าชนะข้าจะมอบเงินให้ 1 หมื่นล้านแกนวู แต่ถ้าพวกเจ้าไม่สามารถเอาชนะได้แม้แต่ครั้งเดียว เจ้าต้องมอบดาวเคราะห์มาให้ข้า”

“การต่อสู้และการเดิมพันเป็นเรื่องปกติ แต่การเดิมพันด้วยดาวเคราะห์งั้นหรือ? ไม่มีทาง!” หลัวเฟิงมองไปที่นัวแลนชาน

นัวแลนชานโกรธมาก เขากัดฟันแน่น

นี่คือหลัวเฟิง เขาให้ความสำคัญกับโลกใบนี้มาก

แต่หลัวเฟิงไม่ทราบ…

แม้ว่าจะมียานอวกาศของเผ่าพันธุ์หุ่นยนต์ และสมบัติล้ำค่าอื่นๆ ของ

หลัวเฟิง หากเขานำมันออกมา มันจะถูกคนอื่นแย่งชิงไป

“แลกกับเงิน 1 แสนล้านเหรียญแกนวู เขายังไม่ยอมขายแม้จะได้เงิน

มากถึง 1 แสนล้านเหรียญแกนวู!”

เขาหวังว่าจริงๆ แล้วหวังว่าจะได้รับสิทธิในโลกมนุษย์ แม้ว่าเขาจะไม่

สามารถขุดค้นสมบัติทั้งหมดของโลกได้ เขาก็สามารถนำไปประมูล

นอกโลกแล้วขายสมบัติทั้งหมด! การมีสิทธิ์ในการดำเนินธุรกิจทั้งหมดนี้จะสะดวกสบายมากขึ้น ไม่มีความจำเป็นที่จะต้องส่งยานอวกาศเพื่อบุกโลก

การกระทำนี้เรียกว่าการโจรกรรม!

และสิ่งที่นัวแลนชานกังวลมากที่สุดคือ หลัวเฟิงได้อ้างสิทธิ์จากจักรวรรดิภูเขามังกรดำ

ซึ่งหมายความว่า ตระกูลต่างๆ ของจักรวรรดิภูเขามังกรดำ จะรู้เรื่องนี้ และมุ่งหน้าสู่โลก

นัวแลนชานกลัว…

ตระกูลขนาดใหญ่เหล่านี้จะเริ่มมีความสนใจต่อโลก พวกเขาอาจส่ง

กองทัพผ่านรูหนอนไปยังโลก

เนื่องจากตระกูลนัวแลนชานเป็นเพียงตระกูลลำดับที่สามในจักรวรรดิ

คาโล และคนสำคัญของจักรวรรดิภูเขามังกรดำ พวกเขามีตระกูลที่

ยิ่งใหญ่ หากคนในระดับนี้เข้ามาแทรกแซง ตระกูลนัวแลนชานของเขาจะไม่มีโอกาสใดๆ หลงเหลืออีก