ตอนที่ 34 สาเหตุการปวดหัวของหลัวเฟิง
ในห้องบันเทิงอันเงียบสงัด หลัวเฟิงยกน้ำชาขึ้นจิบเล็กน้อย แต่ทว่าสายตาของเขาก็ยังคงโฟกัสไปที่หน้าจอขนาดใหญ่บนผนังห้องนั้น “20 ล้านหยวน? เงินที่ทางสำนักขีดสุดสัญญากับเราโอนเข้าแล้วสินะ” มีปุ่มอยู่แถวหนึ่งด้านบนหน้าจอของเว็บเพจ
หนึ่งในปุ่มเหล่านั้นกะพริบและมีข้อความ… ‘คุณมี 2 ข้อความใหม่’
นิ้วของหลัวเฟิงแตะเบาๆ ที่คีย์บอร์ดแบบสัมผัสเพื่อเปิดดูข้อความ
“คลิก!”
ข้อความแรกเปิดขึ้นและข้อความที่เป็นวิดีโอก็เล่นทันที
“สวัสดี คุณหลัวเฟิง” ชายวัยกลางคนในชุดสูทสีดำปรากฎขึ้น บนหน้าจอขนาดใหญ่ เขายิ้มขณะที่พูด “ผมเป็นผู้ช่วยของหัวหน้าจูเก่อ ผมมั่นใจว่าคุณต้องเห็นเงิน 20 ล้านหยวนตามที่ หัวหน้าจูเก่อได้สัญญาไว้กับคุณแล้ว เพื่อที่จะซื้ออาวุธ และเทคนิคต่างๆ คุณสามารถจับจ่ายได้ผ่านเครือข่ายภายใน ตราบเท่าที่มูลค่าไม่เกิน 100 ล้าน เครือข่ายภายในจะจ่ายให้ เพราะฉะนั้นคุณไม่จำเป็นต้องจ่ายในส่วนนี้ แต่อย่างไรกฌตาม ถ้ามูลค่าเกิน 100 ล้าน คุณหลัวเฟิงจะต้องจ่ายในส่วนที่เกินมา ในขณะเดียวกัน ผม เป็นตัวแทนของหัวหน้าขอแสดงความยินดีกับความสำเร็จของคุณหลัวเฟิงในการทดสอบเตรียมนักสู้”
หลังจากข้อความนั้น วิดีโอก็จบลง
“สำนักขีดสุดดูแลเราดีจริงๆ” หลัวเฟิงเปิดดูข้อความที่ 2
ข้อความนี้ก็มีวิดีโอเหมือนกัน
“สวัสดีค่ะ คุณ ‘หลัวเฟิง’ นักสู้คนใหม่ที่น่าเคารพ ดิฉันเป็น ตัวแทนของสำนักขีดสุด และดิฉันขอยินดีต้อนรับคุณสู่ครอบครัวของเรา” หญิงสาวใบหน้าเป็นมิตรยิ้มขณะที่พูด “นี่คือการเข้า เครือข่ายของสำนักขีดสุดครั้งแรกของคุณ..บ้านแห่งขีดสุด! ขอ อนุญาตแจ้งวิธีการใช้ฟังก์ชั่นต่างๆ ของบ้านแห่งขีดสุดนะคะ
อย่างแรก ในบ้านแห่งขีดสุด คุณสามารถซื้ออาวุธได้อย่าง หลากหลาย เทคนิคต่างๆ ทั้งเทคนิคความว่องไวและการเข้าใจมตี อย่างเช่นวิชาดาบ วิชาปืน วิชากระบี่ เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีอาวุธร้อน[1] เครื่องมือขนส่ง อุปกรณ์ป้องกัน ระบบสื่อสาร ระเบิดแบบพิเศษ ยา แบบพิเศษ ยารักษาโรคทางพันธุกรรม…มีแม้กระทั่งสูตรผสมยา พร้อมกับตัวยาที่หายากด้วย ตราบเท่าที่คุณมีเงินพอ คุณก็สามารถซื้อของเหล่านี้ได้
เมื่อคุณจ่ายเงินแล้ว สินค้าจะส่งถึงภายใน 24 ชั่วโมง
ผ่านทางบ้านแห่งขีดสุด คุณสามารถเชิญนักสู้ระดับแม่ทัพ หรือแม้แต่ระดับเทพสงครามมาติวผ่านทางอินเทอร์เน็ตแบบตัวต่อตัวได้ ในส่วนนี้ คุณจะต้องจ่ายเงินค่าติวเตอร์ด้วยนะคะ”
หญิงสาวในวิดีโอยิ้มและกล่าวต่อ “ถ้าคุณมีคะแนนสะสมเพียงพอ สินค้าที่บรรยายด้านบนนี้จะลดลงครึ่งราคา!”
หลัวเฟิงอึ้งไปหลังจากที่ได้ยินสิ่งนี้
ครึ่งราคา?
ดังนั้น ถ้าเขามีคะแนนสะสมมากพอ สินค้าที่มีมูลค่า 100 ล้าน เขาจะสามารถซื้อได้ในราคา 50 ล้าน? แน่นอน มีอยู่หลายอย่างที่ จะใช้คะแนนสะสมนี้ แต่อย่างไรก็ตาม คะแนนสะสมของเขาตอนนี้ ยังคงเป็น 0 อยู่
“คะแนนสะสมเหล่านี้มีประโยชน์มากมาย ไม่เพียงแต่จะใช้ซื้อสินค้าได้อย่างเดียว แต่เมื่อคุณสะสมได้ถึงจุดหนึ่งแล้ว คุณสามารถใช้มันเรียกใช้กองกำลังพิเศษของสำนักขีดสุดได้ด้วย” หญิงสาวในวิดีโอยิ้มและกล่าวต่อ “ยิ่งคะแนนสะสมมากทั้งพลัง อำนาจ สิทธิประโยชน์ และอิทธิพลในสำนักขีดสุดก็ยิ่งมากตามไปด้วย
มี 2 วิธิหลักๆ ที่จะได้รับคะแนนสะสมเหล่านี้
วิธีแรก คุณสามารถฆ่าสัตว์ประหลาด และเก็บวัตถุดิบ บางอย่างจากร่างของพวกมันมา แล้วขายวัตถุดิบสำคัญนั้นให้กับทางสำนักขีดสุด! คุณสามารถได้รับทั้งเงินและคะแนนสะสมด้วยวิธีนี้
วิธีที่สอง คุณสามารถบริจาคให้กับทางสำนักขีดสุด ยิ่งคุณ บริจาคมากเท่าไหร่ คะแนนสะสมยิ่งมากเท่านั้น อัตราตอนนี้คือ…1 หมื่นหยวนสำหรับ 1 คะแนนสะสม! ในระบบการบริจาค การบริจาค ขั้นต่ำสุดคือ 10 ล้านหยวน และขั้นสูงสุดคือ 1 แสนล้านหยวน หรือ กล่าวอีกอย่างคือ…ผ่านระบบการบริจาค คุณสามารถไค้รับคะแนน สะสมอยู่ที่ 10 ล้านคะแนนนั้นเอง!”
หลังจากหลัวเฟิงได้ยินสิ่งนี้ เขาก็สูดหายใจลึก
อะไรนะ?
มีข้อจำกัดในการบริจาค? สูงสุดอยู่ที่ 1 แสนล้าน? พวกเขาไม่ ยอมรับจำนวนที่มากกว่านั้น? 1 แสนล้านหยวน ดูเหมือนว่าคนที่ รวยที่สุดในจีนจะเงินน้อยกว่า 1 แสนล้านเสียอีก ในการจัดอันดับของฟอร์บส์ คนที่ร่ำรวยที่สุดในโลก คนคนนั้นยังมีเงินเพียงแค่ 1 แสน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเท่ากับ 4 แสน 2 หมื่นล้านหยวน
แน่นอนฟอร์บส์เป็นเพียงการจัดอันดับแบบผิวเผิน ตระกูลยักษ์ใหญ่บางครอบครัวมีเงินเก็บมากมายกว่าบุคคลรํ่ารวยเสียอีก แต่ทว่า นั้นก็คือเงินเก็บของทั้งครอบครัว
“คุณหลัวเฟิง ขอแนะนำนะคะว่าวิธีที่ดีที่สุดในการสะสมคะแนนก็คือการฆ่าสัตว์ประหลาด ไม่เพียงแต่คุณจะได้รับคะแนนสะสม แต่คุณยังจะได้รับเงินอีกด้วย” หญิงสาวในวิดีโอยิ้มและกล่าว “ถึงแม้ว่าคุณจะมีต้นทุนค่อนข้างมากในตอนนี้ แต่ก็อย่าเพิ่ง ผลีผลามซื้ออะไร คุณสามารถเข้าไปในฐานข้อมูลการสนทนาของเหล่านักสู้และค่อยๆ เรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานต่างๆ ที่นักสู้ต้องการ สิ่งนี้จะช่วยคุณให้รู้จักเลือกซื้อเทคนิคหรืออาวุธต่างๆ ได้ดีขึ้น
สุดท้ายนี้ ดิฉันหวังว่าคุณหลัวเฟิงจะสามารถไต่อันดับนักสู้ใน ครอบครัวสำนักขีดสุดของเราได้สูงๆ นะคะ”
หลัวจากกล่าวจบ หญิงสาวในวิดีโอก็โค้งคำนับและวิดีโอก็จบลง
หลัวเฟิงไม่พูดคำใด หลังจากที่ได้ฟัง….
แน่นอนว่ามีประโยชน์มากมายสำหรับเครือข่ายภายใน ‘บ้าน แห่งขีดสุด’ สิ่งที่ดึงดูดหลัวเฟิงมากที่สุดก็คือสามารถจ่ายเงินเชิญให้นักสู้ระดับแม่ทัพหรือแม้แต่ระดับเทพสงครามมาติวให้ผ่านทาง อินเทอร์เน็ตแบบตัวต่อตัวได้
……………
ถึงแม้ว่าเขาจะมีเงินถึง 20 ล้านหยวน หลัวเฟิงก็ไม่ได้รีบซื้อ อาวุธแต่อย่างใด เขาแค่พยายามจะทำความคุ้นเคยกับเครือข่าย ‘บ้านแห่งขีดสุด’ ก่อนเท่านั้น เว็บไซต์ของบ้านแห่งขีดสุดมีฟังก์ชั่น ค่อนข้างมาก มีหัวข้อแตกต่างหลากหลาย การรับภารกิจ การ โพสต์ภารกิจ การสนทนา การฝึกฝน และการบริจาค
อย่างไรก็ตาม หัวข้อใหญ่ที่ดึงดูดหลัวเฟิงก็คือ ‘บทสนทนาของนักสู้’ และ ‘ตลาดออนไลน์’
ในตลาดออนไลน์ ข้างในนั้นมีทุกอย่างครอบจักรวาล มีเทคนิคของวิชาเต๋าอินต่างๆ มากมายให้เลือก เทคนิคการเคลื่อนที่ วิชาดาบ การใช้อาวุธร้อน การใช้อาวุธเย็น ยารักษาโรคทางพันธุกรรม เป็นต้น ในส่วนนี้….ตลาดออนไลน์เป็นสถานที่ที่ต้องใช้เงิน
“บอร์ดสนทนาของนักสู้”
หลัวเฟิงคลิกเข้าไปในหัวข้อและก็เห็นกระทู้ ‘ฐานข้อมูล พื้นฐานของนักสู้” ในกระทู้นี้ ไม่มีการถามตอบแต่อย่างใด มีเพียงข้อมูลพื้นฐานจำนวนมาก
“นักอ่านจิต…นักอ่านจิต….”
หลัวเฟิงเลื่อนดูไปเรื่อยๆ ขณะที่พยายามหาข้อมูลเกี่ยวกับนัก อ่านจิต…ในที่สุด
“หือ? นี่มัน”
หลัวเฟิงเห็นหมวดหนึ่ง… ‘ข้อมูลพื้นฐานของนักอ่านจิต’
“พี่ๆ น้องๆ ครับ ดูเหมือนทุกคนจะรู้เรื่องนักอ่านจิตน้อยมากๆ ผมขอแนะนำอะไรซักหน่อยนะครับ” หลังจากที่หลัวเฟิงได้อ่าน ประโยคแรก เขาก็หัวเราะ ชัดเจนว่าสิ่งที่ถูกเรียกว่าข้อมูลพื้นฐานของนักสู้เป็นเพียงส่วนหนึ่งของข้อความที่นักสู้โพสต์ลงเท่านั้น ไม่ได้เป็นทางการแต่อย่างใดเลย
“นักอ่านจิตถูกเรียกว่าเป็นกลุ่มคนที่น่ากลัวที่สุดในบรรดาแวดวงนักสู้
อย่างแรกเลย คุณไม่สามารถฝึกฝนเพื่อให้เป็นนักอ่านจิตได้ นักอ่านจิตทุกคนมีของขวัญจากธรรมชาติและจะตื่นขึ้นด้วยตัว ของพวกเขาเอง!” เขาหัวเราะเพราะความไม่เป็นทางการของโพสต์ “ก่อนที่จะตื่นขึ้น พวกเขาอาจจะเป็นแค่นักสู้ทั่วๆ ไป แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อตื่นขึ้นแล้ว…ระดับของพวกเขาก็จะพุ่งทะยานขึ้น!
ทำไมระดับของพวกเขาถึงพุ่งสูงขึ้น?
อย่างแรกเลย มีนักอ่านจิตอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรกมีพลัง ควบคุมวัตถุต่างๆ ได้ หรือพูดอีกอย่าง พวกเขาสามารถควบคุมวัตถุต่างๆ เช่น เข็มหรือดาบ และสามารถใช้ของพวกนั้นโจมตีในระยะไกลได้! วัตถุที่ถูกพวกเขาควบคุมจะมีพลังมากกว่าลูกกระสุนจากไรเฟิลหนักเสียอีก ลูกกระสุนจากปืนไรเฟิลส่วนใหญ่จะพุ่งไปได้เป็นทางตรง แต่ทว่า ไม่มีกฎใดๆ สำหรับวัตถุที่นักอ่านจิตควบคุม! มันไม่เพียงแต่เคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ แต่พลังทำลาย ของพวกมันยังแตกต่างกันอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่น มีข้อจำกัดของพลังทำลายที่ลูกกระสุนจากปืน กลหรือไรเฟิลหนักสามารถทำได้ ปืนไรเฟิลชั้นดียังมีปัญหาในการ สังหารสัตว์ประหลาดระดับบัญชาการขั้นต้น แต่ทว่า พลังของเข็ม หรือดาบที่ถูกนักอ่านจิตควบคุมจะแข็งแกร่งขึ้นด้วยพลังจิตของพวกเขา! ดังนั้น จึงมีนักอ่านจิตจำนวนมากที่สามารถฆ่าสัตว์ประหลาดตัวจ่าฝูงได้
และอีกประเภทของนักอ่านจิต ประเภทที่สองนี้พวกเขาจะใช้ พลังจิตโจมตีศัตรูแบบตรงๆ เลย!
นักสู้ประเภทนี้จะเป็นพวกที่ลึกลับมาก พวกเขาจะโจมตี วิญญาณของสัตว์ประหลาด และเมื่อพวกเขาฆ่าได้ สัตว์ประหลาด จะตายโดยปราศจากรอยแผลแม้แต่แห่งเดียว! แต่อย่างไรก็ตาม การโจมตีวิญญาณเป็นเรื่องยากมาก ดังนั้น ผมได้ยินว่าพวกนัก อ่านจิตที่รู้เทคนิค ‘การโจมตีจิตวิญญาณ’ เป็นพวกที่หาได้ยากมาก
นอกเหนือจากเทคนิค ‘การควบคุมสิ่งของด้วยพลังจิต’ และ ‘การโจมตีด้วยจิต’ ก็มีนักอ่านจิตในตำนานที่รู้เทคนิคมากกว่านั้น แต่เรื่องนั้นผมไม่ค่อยแน่ใจนัก”
หลัวเฟิงอ่านดูทุกคำโดยไม่ให้พลาดจุดใดเลย
“แต่อย่างไรก็ตาม สิ่งที่น่าอิจฉาก็คืออัตราการเติบโตของนักอ่านจิต! นักอ่านจิตจะมีพลังจิตที่ทรงพลังโดยธรรมชาติ เพียงแต่ว่าตอนเป็นเด็ก ร่างกายของพวกเขาจะไม่สามารถรับมือกับพลังจิตได้ ดังนั้น มันจึงยังหลับใหลอยู่ในภวังค์ แต่พอร่างกายของพวก เขาแข็งแกร่งและแข็งแกร่งขึ้น จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง พลังจิตก็จะ แสดงตัวออกมา!
ยิ่งร่างกายแข็งแกร่งขึ้น พลังจิตยิ่งจะแข็งแกร่งขึ้นเท่าที่มัน ต้านทานได้!
นักสู้แบ่งเป็นระดับ
นักรบ : ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง
ระดับแม่ทัพ : ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง
และระดับเทพสงคราม : ขั้นต้น ขั้นกลาง ขั้นสูง
9 ระดับที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง! ระดับของ สมรรถภาพร่างกายก็จะมีความแตกต่างกันถึง 2 ระดับเมื่อเปรียบเทียบกับพลังจิต ยกตัวอย่างเช่น ถ้านักอ่านจิตมีสมรรถภาพร่างกายอยู่ในระดับนักรบขั้นต้น พลังจิตของพวกเขาก็จะอยู่ในระดับนักรบขั้นสูง! และถ้าสมรรถภาพร่างกายของพวกเขา อยู่ในระดับนักรบขั้นกลาง พลังจิตของพวกเขาก็จะอยู่ในระดับแม่ทัพขั้นต้น…
นักอ่านจิตจะมีช่วงเวลาที่เติบโตเร็วมาก!
เพราะว่านักอ่านจิตมีพลังจิตที่ทรงพลังมากโดยธรรมชาติ มัน เพียงแค่หลับใหลอยู่ในภวังค์ของพวกเขาเท่านั้น! เมื่อไรก็ตามที่ ร่างกายของพวกเขาแกร่งขึ้น พลังจิตที่กำลังหลับใหลอยู่ก็จะแสดง ตัวออกมามากขึ้น…ยิ่งร่างกายแกร่งขึ้นเท่าไหร่ พลังจิตก็จะยิ่ง แกร่งขึ้นเท่านั้น…จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อพลังจิตที่หลับใหลอยู่ได้ แสดงตัวออกมา หลังจากนั้นอัตราการเติบโตของนักอ่านจิตจึงจะ เริ่มชะลอตัวลง”
เมื่อหลัวเฟิงอ่านส่วนนี้แล้ว เขาก็อดสงสัยไม่ได้
ที่แท้…
เมื่อนักอ่านจิตแข็งแกร่งขึ้น ก็หมายความว่าพลังจิตที่หลับใหล อยู่กำลังแสดงตัวออกมา เมื่อร่างกายแข็งแกร่งพอจึงจะต้านทาน กับพลังจิตได้!
“ดังยั้น พลังของนักอ่านจิตจะขึ้นอยู่กับปริมาณของพลังจิตที่ พวกเขาด้านทานได้นั่นเอง
บางครั้งพลังจิตที่หลับใหลอยู่อาจมีสภาพเป็นของเหลว หรือ กึ่งของเหลวกึ่งของแข็ง และบางครั้งก็อาจเป็นของแข็งเลยก็ได้!
ตามตำนานว่าไว้ ถ้าพลังจิตมาในรูปแบบของแข็ง พลังจิตของ ผู้นั้นจะดีเยี่ยมสุดๆ! พวกเขาจะเป็นผู้ที่มีศักยภาพสูงสุดในบรรดานักอ่านจิต ขณะที่ร่างกายของพวกเขาเติบโต พลังจิตที่มีสภาพของแข็งจะค่อยๆ คลายตัวออกมา ซึ่งมันจะทำให้พวกเขาแข็งแกร่งขึ้นด้วย
จนกระทั่งวันหนึ่ง เมื่อพลังจิตนั้นละลายออกมาหมดแล้ว ‘ช่วงเวลาของการเติบโตของพวกเขาก็จะจบลง!”
หลัวเฟิงข่มความตื่นเต้นเอาไว้แล้วอ่านต่อไปจนกระทั่งจบทั้งหมด
หลัวจากนั้น หลัวเฟิงก็ทำการค้นหาฐานข้อมูลและสืบค้นเนื้อหาเพิ่มอีก 2 หัวข้อเกี่ยวกับนักอ่านจิต
“สิ่งที่พวกเขาระบุไว้เหมือนกันมากทีเดียว ดูเหมือนพวกเขา คงจะพูดความจริงแน่ๆ” หลัวเฟิงพยักหน้า “แสดงว่า…ความมืด ลูก บอลทองคำที่อยู่ในจิตใต้สำนึกเรามันก็น่าจะเป็นพลังจิตจำนวน มหาศาลที่มาในรูปของแข็ง! เราโชคดีจริงๆ ที่รอดชีวิตจากการตื่น ของมันมาได้”
หลัวเฟิงตื่นเต้นประหลาดใจ
ตามสิ่งที่เขาอ่านดูใน 3 หัวข้อที่ถูกโพสต์ไว้นั้น เมื่อนักอ่านจิตตื่นขึ้น พลังจิตจำนวนมหาศาลก็จะระเบิดอยู่ในจิตใต้สำนึกของพวกเขา ถ้าพวกเขาล้มเหลวในการตื่น พวกเขาอาจจะเสียสติไม่ก็ ตายจากการขาดเลือดเลยก็ได้!
“ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมเราถึงได้ปวดหัวแทบทุกวันตอนที่เป็นเด็กแถมยังถึงขั้นโคม่าอีกสองสามครั้ง” หลัวเฟิงตระหนักรู้ได้ทันที “ดูเหมือนว่าร่างกายของเราตอนนั้นคงอ่อนแอมากเลยไม่สามารถรับมือกับพลังจิตอันมหาศาลได้ ถึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เราปวดหัว! ตอนนี้เมื่อระดับสมรรถภาพร่างกายของเราพุ่งสูงขึ้นแล้ว อาการปวดหัวจึงห่างหายไป และตอนนี้อาการปวดหัวของเราก็ไม่ เหลืออยู่แล้ว”
เป็นเพราะหลัวเฟิงตื่นขึ้นแล้ว อาการปวดหัวของเขาจึงได้จางหายไป
“ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าความมืดและลูกบอลทองคำจะเป็นรูปแบบของพลังจิตที่เราได้รับ
สงสัยจริงๆ ว่ามันจะมีพลังจิตมากแค่ไหนกันข้างโนนั้น” หลัวเฟิงคิด
…………..
[1] อาวุธร้อนในที่นี้ หมายถึง อาวุธที่ใช้แล้วเกิดความร้อน เช่น อาวุธปืนต่างๆ