Skip to content

Swallowed Star 408

ตอนที่ 408 หลีกเลี่ยงการต่อสู้

เหล่าอัจฉริยะต่างก็ระวังตัว ขณะที่หลัวเฟิงปลดปล่อยความต้องการฆ่าออกมา ดังนั้นรอบๆ ตัวเขาจึงไม่มีใคร ทุกคนต่างก็หลีกเลี่ยงและทิ้งระยะห่างจากเขาออกไปไกลมา นั่นทำให้หลัวเฟิงต้องค้นหาคู่ต่อสู้ด้วยตัวเอง

สายตาของเขามองไกลออกไปข้างหน้า ตรงไปที่ชายหนุ่มชุดทอง จิเนลรี ขณะนั้นจิเนลรี ได้มองมาที่หลัวเฟิงด้วย

“ไปนั่งไกลๆ” ในห้องเตรียมตัว จิเนลรีได้เยาะเย้ยหลัวเฟิง ฉากนั้นเกิดขึ้นในใจหลัวเฟิงทันที

เนื่องจากเป็นแบบนั้น

เหยื่อต่อไปเป็นเขา

“ฆ่า” ดวงตาของหลัวเฟิงเต็มไปด้วยความตั้งใจฆ่า

ซู่!

กระสวยทะยานฟ้ากลายเป็นลำแสงและพุ่งไปทางจิเนลรี

“บ้าชิบ! ข้ากลับได้พบกับคนที่ทรงพลังเช่นนี้ คนแรก” จิเนลรีกัดฟัน

ความคิดของเขาเต็มไปด้วยความเกลียดชัง

แม้เขาเป็นอัจฉริยะที่ถูกเลี้ยงดูโดยเหล่าราชวงศ์ของจักรวรรดิแกนวู แต่ก็เห็นได้ชัดว่ามีความแตกต่างระหว่างนักสู้ที่ก้าวสู่เส้นทางของกฎแห่งต้นกำเนิดกับคนที่ยังไม่ได้ผ่าน ดังนั้นเขาจึงกัดฟันและหันไปรอบๆ เพื่อหนี “พุชคิน พุชคิน”

เฉกเช่นเทพสงครามกำลังเข่นฆ่าคนอื่นๆ ในทางที่เขาเดินผ่าน พุชคินย่นคิ้วของเขา

“ไอ้เจ้าผมดำนั่น มันจะฆ่าข้า” จิเนลรีสื่อสารผ่านจิต “ช่วยข้า รีบ

ขัดขวางมัน”

“เจ้านี่สร้างแต่ปัญหาจริงๆ” พุชคินกล่าวด้วยเสียงโทนต่ำภายในหู

จิเนลรี

ตามการจัดอันดับในกลุ่ม พลังของพุชคินเป็นอันดับหนึ่ง จิเนลรีเป็น

อันดับสอง

เนื่องจากพวกเขามาจากกลุ่มเดียวกัน จิเนลรีสนิทกับพุชคินมานาน และได้ทำข้อตกลงกัน เมื่อทั้งสองร่วมมือกัน พวกเขาจะสามารถผ่านรอบสนามรบไปได้อย่างง่ายดาย ในตอนแรกทีมที่สร้างจากอันดับหนึ่งและสองของกลุ่ม สามารถที่จะผ่านรอบสนามรบได้โดยอัตโนมัติ นี่เกือบเหมือนสิ่งที่ตายตัว

แต่มันไม่สามารถช่วยได้ เนื่องจากจิเนลรีเองที่ไปยุ่งกับหลัวเฟิง

ถ้าจิเนลรีไม่ได้เยาะเย้ยเขา แม้ว่าหลัวเฟิงจะแข็งแกร่ง เขาคงไม่เต็มใจจะสู้กับหมายเลขหนึ่งและหมายเลขสองของกลุ่ม เนื่องจากคุณแค่อยู่ในสิบคนสุดท้ายที่เหลือของกลุ่ม คุณไม่จำเป็นต้องเสี่ยงเกินไป

ทว่าตอนนี้…

ตูม

ด้วยหนึ่งก้าวของพุชคิน วิ่งตรงไปข้างหน้าจิเนลรี ดวงตาขนาดใหญ่สี

เขียวจับจ้องไปที่ หลัวเฟิง และสื่อส่านผ่านจิตใจ “จิเนลรี มันคิดผิดเอง เราไม่จำเป็นต้องสู้กัน ถ้าเจ้าไว้ชีวิต จิเนลรี เราทุกคนก็สามารถผ่านรอบสนามรบได้”

หลัวเฟิงยืนอยู่บนกระสวยทะยานฟ้า มองไปที่ชายร่างยักษ์ตรงหน้าเขา

พุชคินยืนอยู่ตรงหน้าเขา เทียบได้กับอาคารสองชั้น และ หลัวเฟิง

เหมือนกับเด็กตัวเล็กๆ

“พุชคิน” หลัวเฟิงจ้องอย่างเย็นชาไปที่คู่ต่อสู้และคำราม “หลีกไป” พุชคินดูเหมือนจะโกรธ กำลังจะเตรียมพูดอะไรบางอย่าง

“หึม” ดวงตาของหลัวเฟิงเป็นประกาย

ตูม

สายรุ้งสีทองพุ่งตรงมาที่เขาทันที แล้วท่าทางของพุชคินเปลี่ยนไปอย่างมาก เขาคำรามขณะโบกกำปั้นขวาที่ถูกห่อหุ้มด้วยพลังงานสีเหลืองของธาตุดิน การเคลื่อนไหวของมือแทบจะเหมือนกับการเคลื่อนไหวของภูเขา มันดูเหมือนช้า แต่ความจริงเพื่อจัดการขัดขวางสายรุ้งสีทองของหลัวเฟิง เสียงที่ได้ยินคือเสียงของแผ่นดินที่แตกจากการปะทะพุชคินถูกบังคับให้ถอยหลังไปเกือบ 10 เมตร เขากัดฟันและจ้องเขม็งไปที่หลัวเฟิง

“หืม?” หลัวเฟิงผงะ “จากข้อมูลเกี่ยวกับพุชคินนี้ เขายังไม่ได้ก้าวมาในเส้นทางกฎต้นกำเนิดอย่างแท้จริง ดูที่เขาตอนนี้เหมือนมันจะเป็นจริง แต่ด้วยพลังมิติขั้น 9 เขาสามารถสร้างพลังที่แข็งแกร่งแบบนี้ได้”

แม้ว่าพลังมิติขั้น 6 ของหง สามารถฆ่าศัตรูที่มีพลังมิติขั้น 7 ได้

ปัจจัยที่จะกำหนดผู้ชนะในการรบไม่ได้มีเพียงแค่พลังงานทาง

พันธุกรรม พลังมิติ หรือกฎต้นกำเนิด แต่รวมไปถึงพลังจิต สภาพจิตใจ ประสบการณ์ และอื่นๆ ถ้าไม่มีพลังจิตหรือสภาวะจิตใจที่แข็งแกร่ง เขาย่อมไม่สามารถที่จะปลดปล่อยพลังงานได้ถึงครึ่งหนึ่งของพลังตัวเอง ถ้ามีจิตวิญญาณในการต่อสู้ที่แข็งแกร่งและพลังจิตที่รุนแรง เขาสามารถปลดปล่อยพลังงานได้อย่างเต็มที่ หรือกระทั่งปลดปล่อยพลังงานได้มากกว่าพลังที่แท้จริงของเขา

และพุชคินมีพลังมิติ ขั้น 9 เขาสามารถเข้าถึงอันดับที่ 9 ในดาวเคราะห์ที่ 89 เมื่อพิจารณาเรื่องนี้ ความแข็งแกร่งในการต่อสู้เพียงอย่างเดียวก็น่าตกใจ

อย่างไรก็ตามยังมีความต่างระหว่างคนที่ก้าวเข้าสู่กฎต้นกำเนิดกับคนที่ยังไม่ผ่าน

“พุชคิน คุณไม่ใช่คู่ต่อสู้ของผม หลีกไปซะ ไม่งั้นคุณจะไม่สามารถ

ผ่านสนามรบนี้ไปได้” หลัวเฟิงยืนอยู่บนกระสวยทะสายฟ้า จ้องอย่างเย็นชาลงมาที่พุชคิน ขณะที่พูดกับเขา

เขาคาดว่าจะต้องใช้เวลาสักพัก ก่อนที่คนในสนามรบนี้จะตายมากพอ และเหลือเพียง 10คน แล้วการต่อสู้ก็จะสิ้นสุด อาจส่งผลให้จิเนลรีรอดชีวิต

พุชคินกำหมัดและจ้องไปที่หลัวเฟิง ด้วยดวงตาสีเขียวขนาดใหญ่ ก่อนที่เขาจะมุ่งไปหากลุ่มอัจฉริยะที่อยู่ห่างออกไปแทน

“พุชคิน” จิเนลรี่ที่หลบอยู่ด้านหลัง รีบตะโกนผ่านพลังงานพันธุกรรมทันที

“อ๊ากกกก” พุชคินไม่สนใจ เขาแกว่งกำปั้นอย่างบ้าคลั่งและไล่ฆ่า

อัจฉริยะทีละคน

หลัวเฟิงมองไปที่จิเนลรี

ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของเขา ในกลุ่ม 100 คนนี้ มีเขาเพียงคนเดียวที่ผ่านกฎต้นกำเนิด ขณะที่เขาใช้อาวุธนันเชียน เพียงการเคลื่อนไหวเดียว

อาจพูดได้ว่าพุชคินได้รับบาดเจ็บแล้ว ถ้าเขายังสู้ต่อไป พุชคินต้องตายแน่ๆ

หลัวเฟิงไม่ต้องการเสียเวลากับพุชคินอีกต่อไป

พุชคินไม่ต้องการที่จะตายเพราะจิเนลรี แล้วการไม่สู้ จึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับเขา

“บ้าชิบ” จิเนลรีสาปแช่งภายใต้ลมหายใจ ขณะที่เขาพยายามหลบหนี

เร็วที่สุดเท่าที่ทำได้

“กำลังหนี?”

หลัวเฟิงไล่ล่าเขาอย่างรวดเร็วด้วยกระสวยทะยานฟ้า

“บ้าเอ้ย มันเร็วมาก” การแสดงออกของจิเนลรีย่ำแย่มาก

เมื่อเข้าใจกฎต้นกำเนิด ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐาน การโจมตี การป้องกัน การบิน หรือการเคลื่อนไหวบนพื้น จะมีการพัฒนาขึ้นมาก หลัวเฟิงสามารถตามจิเนลรีได้ทันในชั่วพริบตา

“ระยำเอ้ย” ดาบโค้งยาว 2 เล่มปรากฏขึ้น เขาพยายามดิ้นรน ขณะ

ตะโกน “ไปตายซะ”

ขณะที่เขาย่างก้าว พื้นที่รอบๆ ตัว จิเนลรีเริ่มบิดเบี้ยว ขณะที่เขาวิ่งไปหาหลัวเฟิงทันที

“พลังมิติแสง” หลัวเฟิงไม่ประมาทเกินไป เขาลดความเร็วลง

“เทคนิคแรก”

สายตาของหลัวเฟิงยังเย็นชา

เมื่อเทียบกับบางคนที่ก้าวสู่กฎต้นกำเนิด หลัวเฟิงยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้น นั่นเพราะกฎที่เขาเข้าใจ ทำให้เขาสามารถปลดปล่อยอาวุธนันเชียนได้

“ตูม”

สายรุ้งสีทองยิงเหมือนลำแสงสีทองโจมตีจิเนลรีทันที

“เคร้ง”

จิเนลรีไขว้ดาบของเขาและผลักไปข้างหน้า ด้วยหนึ่งการปะทะ ทั่วทั้ง

ร่าง และคอสั่นสะเทือน จนคายเลือดสดๆ ออกมาจากลำคอ “เหมือนกับอัจฉริยะที่แท้จริงในพื้นที่ลับของจักรวรรดิแกนวู เมื่อใคร

เข้าใจกฎต้นกำเนิดของทอง พวกเขาจะมีพลังที่แข็งแกร่งอย่างบ้าคลั่ง”

“เขาป้องกันมันได้จริงๆ?” หลัวเฟิงย่นคิ้ว

“ตูม” สายรุ้งสีทองพุ่งไปที่เขาอีกครั้ง

“ข้าไม่สามารถป้องกันได้ แต่ข้าไม่มีทางเลือก ในตอนนี้ มันเร็วมาก

เกินไป ข้าหลบไม่พ้น” จิเนลรีคิดอย่างหนักเพื่อหาทางแก้ปัญหา “ข้า

สามารถใช้ดาบทั้งสองขวางได้อีกครั้ง แต่ทว่าตอนนี้แขนของข้าอ่อน

แรงลง ข้าได้รับบาดเจ็บด้วยพลังทำลายครั้งแรก”

ดาบทั้งสองถูกกระแทกออกไปทันที ส่วนสายรุ้งสีทองโค้งเล็กน้อยและพุ่งผ่านด้านขวา จิเนลรีหน้าซีด ขณะที่สายรุ้งสีทองผ่านหน้าผากของเขา หัวของเขาระเบิด

จิเนลรีตาย เขาถูกกำจัดออกจากการแข่งขันอย่างสมบูรณ์

ฉากนี้ทำให้ใบหน้าของพุชคินที่เต็มไปด้วยขนสีทองกระตุก “จิเนล

รี สามารถป้องกันได้เพียงครั้งเดียว และตายด้วยการโจมตีที่สอง แม้แต่อาเฟเคอะซิยังไม่สามารถป้องกันได้สักครั้ง…ข้าเกรงว่าจะสามารถป้องกันได้สี่หรือห้าครั้งเท่านั้น ไอ้เจ้านี่มันแข็งแกร่งเกินไป”

สายรุ้งสีทองสว่างสไสว มันแข็งแกร่งดั่งดวงอาทิตย์ และแหลมคมอย่างไม่น่าเชื่อ

การต่อสู้ทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 5 นาที จำนวนผู้รอดชีวิตลดเหลือ 10 คน

การต่อสู้สิ้นสุด

“คนบ้า ไอ้นี่เป็นคนบ้า”

“ไอ้เจ้าคนผมดำนั่นเป็นใคร”

อัจฉริยะทั้งหมดที่ยังหลงเหลืออยู่มองไปที่หลัวเฟิง พวกเขาพยายามปิดบังความกลัวไว้ หลายคนไม่รู้จักชื่อหลัวเฟิง เพราะในระหว่างการแนะนำ พวกเขาทั้งหมดอยู่ภายในห้องเตรียมตัวไม่ได้มีโอกาสเห็นรูปหลัวเฟิง กระทั่งหลัวเฟิงเช่นกันไม่ได้เห็นรูปและรู้จักผู้เข้ารวมคนอื่น

หากจะพูดให้ถูก ต้องบอกว่าเขารู้ชื่อของพุชคินและจิเนลรีเท่านั้น

ด้วยชื่อเสียงที่มีมากของพวกเขา

ชื่อเสียงของหลัวเฟิงเมื่อเทียบกับพวกเขาแล้ว มีน้อยมาก

“กลุ่มสนามรบที่ 382 ผู้ถูกกำจัดทั้งสิ้น 90 คนและผู้รอดชีวิต 10 คน จะเข้าสู่รอบถัดไป เพื่อแย่งชิงใน 900 รายชื่อสุดท้าย” เสียงต่ำขึ้นดังในใจทุกคนในสำนัก

อีกเก้าคนที่มีชีวิตรอดรวมถึงพุชคิน ทุกคนมองไปที่ชายผมดำแบกแท่งยาวสีทองเข้มที่เต็มไปด้วยรังสีแห่งการฆ่าฟัน

ถ้าถามใคร คนที่น่าหวาดกลัวที่สุดในกลุ่มของหง คือคนเถื่อน

ภายในกลุ่มนี้ต้องเป็น ‘คนบ้า’ หลัวเฟิง อย่างแน่นอน

“หลัวเฟิง”

“หลัวเฟิง”

“หลัวเฟิง”

“หลัวเฟิง”

“หลัวเฟิง”

ผู้ชม 1 ล้านคน จากอาณาเขตดวงดาวภูเขามังกรดำ โห่ร้องด้วยความยินดีและตื่นเต้นเป็นอันมาก ทุกคนตะโกนอย่างสุดกำลัง การแสดงออกของพวกเขาดูเหมือนจะบ้า และไม่สนใจคอของเขา

“หลัวเฟิง เขาเป็นใคร” ขณะที่พวกเขากำลังถูกเคลื่อนย้ายออกมา

ผู้รอดชีวิตทั้ง 9 เริ่มพูดคุยและคาดเดา

พระราชวังจักรวรรดิภูเขามังกรดำ ปะทุขึ้น

พลเมืองทั้งหมดหลายล้านล้านคนจากเกาะภูเขามังกรดำ ต่างตะโกน

ออกมา

อาณาเขตดวงดาวทั้งหมดกว่า 8,000 กาแลคซี ผู้คนนับไม่ถ้วนที่เฝ้าดูการถ่ายทอด ต่างก็ตื่นเต้นด้วยเช่นกัน

“ทั้งโหด ทั้งทรงพลัง”

“หลัวเฟิงเป็นคนที่น่าหวาดกลัวมาก”

“ข้ารู้สึกหวาดเสียว และตื่นเต้นมาก”

“แข็งแกร่ง เขาเป็นอัจฉริยะจากอาณาเขตภูเขามังกรดำ”

คนนับไม่ถ้วนของอาณาจักรนี้กำลังตื่นเต้น

ในอดีตนับ 1 แสนล้านปี ที่ผ่านมา จริงๆ แล้วมีอยู่หลายครั้งที่

จักรวรรดิภูเขามังกรดำ ได้เข้าสู่ 10,000 อันดับแรกได้ ซึ่งคู่ควรกับ

ความภาคภูมิใจและทำให้พวกเขาตื่นเต้น แต่หลังจากเข้าถึง 10,000

อันดับแรก ส่วนใหญ่มันขึ้นอยู่กับโชค มันผ่านมาเป็นเวลานานแล้ว

นับตั้งแต่จักรวรรดิภูเขามังกรดำ ที่สามารถแสดงพลังที่แข็งแกร่งและ

เด็ดขาด จากนักสู้ชั้นยอดในการต่อสู้

“พลังของหลัวเฟิงมีความแข็งแกร่งมาก มันเป็นการทำลายล้างโดยไม่มีทางต้านทาน คนอ่อนแอก็จะถูกกำจัดด้วยการโจมตีเพียงครั้งเดียว”

“ผมได้ยินว่า หลัวเฟิงใช้อาวุธนันเชียน คุณไม่รู้เหรอว่ามันเป็นอะไร? มันเป็นหนึ่งในเก้าอาวุธเทพของผู้อ่านจิตวิญญาณสายควบคุม”

“หลังจากรอบสนามรบผ่านไป การต่อสู้ตัวต่อตัว ความแข็งแกร่งของ

หลัวเฟิงสามารถไปอยู่ใน 900 รายชื่อได้”

“หลัวเฟิงสามารถเป็นตัวแทนจักรวรรดิแกนวูได้แน่นอน และแข่งขันกับอัจฉริยะจากจักรวาลอื่น แล้วหลัวเฟิงยังมาจากจักรวรรดิภูเขามังกรดำ ของเราด้วย”

ความบ้าคลั่ง

ข่าวลือของหลัวเฟิงเริ่มแพร่กระจายไป รวมถึงแฟนคลับก็เริ่มเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ในหลายเกมจักรวาลเสมือน มีหลายคนที่ใช้ชื่อ ‘ฉันรักหลัวเฟิง’

‘นายท่านหลัวเฟิง’

‘ฉันเป็นภรรยาหลัวเฟิง’

‘ผมเป็นรุ่นพี่หลัวเฟิง’

แม้กระทั่ง

‘ข้าเป็นอาจารย์ของหลัวเฟิง’

ชื่อเล่นดังกล่าวผุดขึ้นไปทั่วระหว่างการต่อสู้ครั้งนี้ ความแข็งแกร่งของหลัวเฟิง ทำให้เขาได้รับชัยชนะเหนือคนนับล้านล้าน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version