ตอนที่ 458 สมบัติที่ 3 ของปฐมนครแห่งความโกลาหล

“มีทั้งหมด 9 ภาพในจารึก 9 จักรวาล ภาพที่ 1 ภาพฝนตก 9 หยด ทุก 2 หยด มีความแตกต่างกันอยู่ภายใน” ในขณะที่หลัวเฟิงฝังตัวเองอยู่ใน 108 คำเขาเปรียบเทียบคำ กับจารึก 9 จักรวาลในใจ “108 คำ เหล่านี้มี 9 คำที่สะท้อนภาพฝนตก”

9 คำ ดั่งเช่น 9 หยด หลัวเฟิงรู้สึกได้ถึงความหมายของพวกเขาเหมือนกัน 9 คำนี้ขีดเขียนได้ซับซ้อน เป็นสาเหตุให้เขารู้สึกถึง 9 รูปแบบดาบ

“ล้ำลึก”

ขณะที่หลัวเฟิงกำลังศึกษา 9 คำนี้มากขึ้น เขารู้สึกว่ามันลึกซึ้งเป็นอย่างมาก

ทุกๆ รูปแบบมันมีจักรวาลของมันเอง

ทุกรูปแบบเหมือนอธิบายจุดสำคัญพื้นที่จักรวาลของมัน

หลัวเฟิงในปัจจุบัน กำลังฝังตัวเองอยู่กับตัวอักษรบนระเบียง ภายในพื้นที่ข้อมือ บาบาต้ากำลังเบื่อและถอนหายใจ “แม้แต่อาจารย์ของคุณ ก่อนที่เขาจะกลายเป็นระดับอมตะ เขาไม่ได้ศึกษาสาระสำคัญของอวกาศอย่างลึกซึ้ง เหลียนลู่ ในการต่อสู้อัจฉริยะจากล้านๆ ปี ก่อน เขาอยู่อีกระดับหนึ่ง”

ทำความเข้าใจกฎอวกาศ มันไม่เป็นเรื่องที่ซับซ้อนมากนัก

เหมือนผู้คนบนโลกที่เรียนรู้การใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็เพียงพอ

แล้ว แต่เหลียนลู่กลับอธิบายถึงจุดสำคัญที่แท้จริงของจักรวาล แม้จะ

แสดงออกเป็น 108 คำเช่นเดียวกับ เหลียนลู่ ไม่เพียงแค่เรียนรู้วิธีการใช้โปรแกรม แต่อธิบายถึงวิธีการเขียนมันด้วย

อธิบายถึงสาระสำคัญ

การทำความเข้าใจกฎต้นกำเนิดอวกาศเหมือนกับ…คนเหล่านั้นยังอยู่

ท่ามกลางการทำความเข้าใจ ด้วยความเข้าใจนี้จะทำให้นักสู้รับรู้ได้ดีขึ้นด้วยความรู้สึกที่ติดมานี้ จะทำให้พวกเขาปลดปล่อยการโจมตีที่ผสมเข้ากับกฎ ทำให้เพิ่มพลังขึ้นอย่างมาก

ด้วยความรู้สึกเหล่านี้ ถ้ามีคนสอบถามเขา ไม่มีทางที่จะอธิบายได้เลย

“การดำรงอยู่ของจักรพรรดิทรูหยันใกล้เคียงกับผู้นำจักรวรรดิ การให้

หลัวเฟิงเข้ามาศึกษาสาระสำคัญของอวกาศ มันเป็นเส้นทางที่ถูกต้อง

แน่นอน” บาบาต้ากล่าว

“จากจุดเริ่มต้น เขาได้ศึกษาจุดสำคัญของกฎต้นกำเนิด การเรียนรู้จะช้าลงและช้าลง แต่การปรับปรุงจะเร็วขึ้นและเร็วขึ้น” บาบาต้ากล่าว “ไม่ต้องสงสัยเลยว่าแม้เจ้านายจะใช้เวลานับล้านล้านปี แทบจะไม่ได้

แข็งแกร่งเท่าผู้บัญชาการเหลียนลู่ ที่ใช้เวลาไม่ถึง 1 แสนปี หลังจาก

กลายเป็นอมตะก็ได้รับสมญานามผู้บัญชาการ”

“เมื่อผมปลดปล่อยการเคลื่อนไหว ผมสามารถสร้างภายได้ถึง 20 ภาพ แต่สาเหตุที่ผมสร้างภาพได้เพิ่มขึ้น… ผมก็ยังไม่เข้าใจมันอยู่ดี” ขณะที่หลัวเฟิงกำลังศึกษา ความเหนื่อยล้าก็เริ่มเพิ่มขึ้น ทำให้เขาต้องบ่นออกมา “อย่างน้อยผมก็เข้าใจมันนิดหน่อย”

เพียงเล็กน้อย!!

แม้จะเข้าใจเพียงเล็กน้อยก็ทำให้เขาตกใจมาก

“บาบาต้า ผมใช้เวลาเรียนรู้นานแค่ไหน” หลัวเฟิงถาม

“ไม่น้อยกว่า 18 วัน” บาบาต้าตอบ

“เกินครึ่งเดือนแล้ว ผมเข้าใจรูปแบบที่ 1 เพียงเล็กน้อยเท่านั้น” หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ การเข้าใจกฎต้นกำเนิด เมื่อเทียบกับการเรียนรู้สาระสำคัญของมัน เห็นได้ชัดว่ามีความยากลำบากที่แตกต่างกัน

“จากความเร็วปัจจุบัน ผมจะใช้เวลานานเท่าไรในการศึกษารูปแบบที่ 1 มันน่าเสียดายที่ผมไม่มีคู่มือสะบัดเลือดด้วย”

108 คำเหล่านี้ มันเป็นเพียงแค่ตัวอักษร

คู่มือสะบัดเลือดเป็นวิธีการฝึกฝนที่แท้จริง ถ้าเขามีคู่มือ เขามั่นใจว่าการเรียนรู้ของเขาจะเร็วขึ้นมาก

“แค่ 800 คะแนน” หลัวเฟิงกัดฟัน

“หลัวเฟิง เพียงแค่คุณผ่านสะพานสวรรค์ระดับที่ 1 คุณจะได้รับ 1,000 คะแนน”

“ผมรู้” หลัวเฟิงส่ายหัว “ในปัจจุบันไม่มีอะไรรับรองว่าผมจะผ่านระดับที่ 1”

ความเข้าใจในกฎต้นกำเนิดอวกาศของเขามากขึ้น พลังของเขาจะมากขึ้น แต่เขาไม่มีความมั่นใจที่จะเอาชนะ

“ถ้าเพียงแค่ผมสามารถเข้าใจรูปแบบที่ 1 ได้ทั้งหมด ผมสามารถ

เชื่อมโยง 9 ใบมีดสีทองได้อย่างสมบูรณ์”

การศึกษาครั้งแรกของหลัวเฟิง ทำให้เขาได้เริ่มเข้าใจถึงประโยชน์ที่เขาจะได้จากรูปแบบที่ 1

หลัวเฟิงมองเข้าไปในปฐมนครแห่งความโกลาหล

“หลังจากการฝึกฝนเป็นเวลานาน ทำให้จิตใจของผมอ่อนล้า ผมอยากออกไปนอกเมืองเพื่อดูสมบัติที่ 3 ที่ผู้ต้อนรับกล่าว” หลัวเฟิงรู้ตัวว่าตอนนี้เขาไม่สามารถเรียนรู้ต่อได้ เขาจึงมุ่งหน้าไปทางออกเมืองเพื่อดูสมบัติอย่างที่ 3

สมบัติที่ 1 คือการไหลเวียนของกฎต้นกำเนิดที่สามารถเห็นได้ชัดเจน

สมบัติที่ 2 จารึกแห่งความสับสน

สมบัติที่ 3 มันคืออะไร

………

คฤหาสน์เก่าแก่ขนาดใหญ่ภายในเมือง

“ออกไป” ชายมนุษย์ลิงโบกมือของเขา

“ครับ อาจารย์”

ประมาณ 10 อมตะระดับล่างและห้วงมิติ พวกเขาทั้งหมดทำความ

เคารพอย่างสุภาพและออกไป

“หลัวเฟิงไม่ซื้อคู่มือสะบัดเลือดจริงๆ?” จักรพรรดิทรูหยันกำลังนั่งอยู่บนเก้าอี้ขณะหน้าบึ้ง พร้อมกับส่วนหนึ่งของจิตสำนึกเชื่อมต่อกับ AI “เขา

เป็นสมาชิกของจุดเริ่มต้นที่แท้จริง เขาควรได้รับ 1 หมื่นคะแนน หรือ

ว่าเขาใช้มันทั้งหมดต้องแต่เริ่มแรก?”

จากการสื่อสารกับ AI เขาทราบว่าหลัวเฟิงได้ใช้คะแนนทั้งหมดของเขา

จักรพรรดิทรูหยันก็หมดคำพูด

“เขาได้ซื้อคู่มือลวงตา” จักรพรรดิทรูหยันส่ายหัว “ด้วยความ

แข็งแกร่งในปัจจุบันของเขา ไม่จำเป็นที่ต้องซื้อคู่มือลวงตา เขาควรจะซื้อเทคนิคพื้นฐานมากกว่า เจ้าหนูนั้นใช้คะแนนทั้งหมดของเขาไปตรงนั้น จริงๆ แล้ว…”

จักรพรรดิทรูหยันขมวดคิ้ว “นี่ทำให้มันลำบากขึ้น”

“อัจฉริยะเหลียนลู่ต้องใช้เวลา 1 แสนปี เพื่ออธิบาย 108 รูปแบบ และอธิบายส่วนสำคัญของกฎต้นกำเนิด มันเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะเข้าใจโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมันทดสอบสติปัญญา อารมณ์ และระดับความเข้าใจ ถ้าไม่มีใครเป็นอัจฉริยะที่แท้จริง มันยากที่จะศึกษาเรื่องนี้”

จากจุดเริ่มต้น ใครที่เริ่มเข้าใจส่วนสำคัญของกฎต้นกำเนิดอวกาศ ใน

อนาคตความสำเร็จเขาจะสูงมาก

แม้จะทราบวิธีการ แต่วิธีนี้ก็ไม่แพร่หลาย ส่วนใหญ่เป็นเพราะความ

ต้องการของ อารมณ์ สติปัญญา และความเข้าใจอวกาศ ทั้งหมดนี้สูง

มาก

เรื่องแรกต้องมีความเข้าใจอวกาศสูงมาก ถ้าใครไม่รู้สึกถึงกฎอวกาศ

เขาก็ไม่สามารถศึกษาได้ลึกพอ

ส่วนเรื่องสติปัญญาและอารมณ์ เขาจะต้องรักษาความสงบนิ่งขณะกำลังศึกษา แล้วจะต้องไม่โลเลหรือใจร้อน แล้วจะต้องไม่เสียความตั้งใจในการฝึกฝน

อารมณ์เป็นเรื่องที่สำคัญ และระดับความเข้าใจกฎอวกาศ ก็สำคัญยิ่ง

กว่าการเดินทางไปเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งหลายคนจะเสียเวลาไปนานมาก แม้อัจฉริยะอันดับ 1 อย่างเหลียนลู่ ใช้เวลาทั้งหมด 1 แสนปี คนที่มีพรสวรรค์และสติปัญญายังต้องการเวลา 1 ล้านปี และอัจฉริยะทั่วไปจะเสียเวลา 1 พันยุคสมัย

“แม้ว่า 30 ปี ภายในเมืองแห่งความสับสนนี้จะสำคัญมาก หากให้เขา

รู้สึกสูญเสียบ้าง เป็นการสูญเสียแค่ไม่กี่ปีก็ดี” จักรพรรดิทรูหยันส่าย

หัว “นั่นจะทำให้เขาจำมันไปอีกนาน ให้เข้าใจว่าสิ่งมีค่าบางอย่างไม่

ควรใช้ จนกว่าจะรู้วิธีใช้อย่างคุ้มค่าในอนาคต”

จักรพรรดิทรูหยันคิดถึงเรื่องนี้

แม้ว่าเขาจะใส่ใจเกี่ยวกับหลัวเฟิง มันเป็นเพราะส่วนใหญ่เขาเลือกเส้นทางนิกายเดียวกัน เพียงคำแนะนำเล็กน้อยก็เพียงพอแล้ว นั่นเพราะเขาไม่ได้เกี่ยวข้องมากพอที่จะช่วยเหลือ หรือทำสิ่งต่างๆ ให้กับหลัวเฟิง ซึ่งปัจจุบันเขาไม่ได้ทำอะไรเลย

ปฐมนครแห่งความโกลาหล กำแพงที่ทอดยาวไปตลอดแนว

ประตูที่เปิดออก มีนักสู้จำนวนมากเข้าและออก หลัวเฟิงมุ่งตรงไปยังประตูนั้น

“ป้ายหินอยู่ไหน?” หลัวเฟิงยืนอยู่ที่ทางเข้า กำลังมองไปตามกำแพงที่ยืดยาวออกไป ที่ถูกกลืนหายไปในพลังงานแห่งความสับสน

ในที่สุดเขาก็เห็นด้านหินขนาดใหญ่ทางด้านซ้าย มันเป็นเพียงคำสั้นๆ ที่เขียนด้วยภาษาจักรวาลว่า สมบัติที่ 3 ของนครแห่งความโกลาหล

“วิญญาณสับสนปฐมกาล” สายตาหลัวเฟิงแวววาว

เนื้อหาป้ายหินนั้นมีไม่มาก

วิญญาณสับสนปฐมกาล : เมื่อคุณอยู่ในพื้นที่จักรวาลปฐมกาล จักรวาลปฐมกาลจะสร้างสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด แล้วมีลักษณะที่แปลกประหลาด ปัจจุบันพวกเขาเรียกว่าสัตว์ประหลาดแห่งความสับสนปฐมกาล สัตว์ประหลาดเหล่านี้มีความแข็งแกร่งที่แตกต่างกัน พวกมันมีความเชี่ยวชาญในกฎต้นกำเนิดที่ต่างกัน บางตัวมีมากกว่าตัวอื่นๆ

การฆ่าสัตว์ประหลาดแห่งความสับสนปฐมกาล จะทำให้ร่างกายของพวกมันสลายไปและกลายเป็นพลังงานแห่งความสับสนจำนวนมาก และจะมีการสร้างแสงเขียวเข้ม โดยแสงสีเขียวเข้มคือแกนชีวิตพวกมัน พวกมันไม่ได้มีจิตวิญญาณ มันเป็นเพียงแค่แสงแห่งชีวิต แสงนี้มีชื่อว่าวิญญาณแห่งความสับสน

ตราบเท่าที่ใครดูดซับวิญญาณแห่งความสับสนเข้าสู่ร่างกายของเขา

วิญญาณของเขาจะเปลี่ยนไปทีละน้อย หลอมรวมเข้ากับพื้นที่จักรวาลได้ดีขึ้น

“หลัวเฟิง” เสียงนี้ทำให้เขาหันหลัง ขณะที่กำลังอ่านป้ายหิน

โหลจูที่ห่างออกไปบนอากาศ ลงมาที่พื้นทันทีและเดินด้วยเท้าเปล่าเข้าหาหลัวเฟิง ขณะที่ยิ้มอยู่ “ฮ่า ฮ่า…ผมไม่เห็นคุณในช่วงหลายวันมานี้ คุณกำลังเตรียมพร้อมที่จะออกไปล่าสัตว์ประหลาดแห่งความสับสน? คุณต้องระมัดระวัง เพียงแค่การล่าสัตว์ประหลาดแห่งความสับสน เราได้สูญเสียคนในกลุ่มอัจฉริยะของเราไปแล้ว”