Skip to content

Swallowed Star 473

ตอนที่ 473 การฝึกฝนตลอด 30 ปี

ทางด้านผู้นำ นิกาย จักรพรรดิทรูหยันมองไปที่หลัวเฟิง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความดีใจ

“เมื่อครั้งแรกที่ผมเข้ามาในปฐมนครแห่งความโกลาหล ผมเป็นเพียง

นักสู้ตัวเล็กๆ ด้วยคำแนะนำเดียวของท่านจักรพรรดิทรูหยัน นั่นทำให้ผมเดินมาในเส้นทางที่ถูกต้อง สำหรับผมแล้ว นั่นคือคำแนะนำ ที่

ยิ่งใหญ่ เพราะมันส่งผลต่อการฝึกฝนในหลายล้านล้านปี ข้างหน้า” หลัวเฟิงก้มลงกราบ

ขณะที่นักสู้คนอื่นๆ มองเขาพูดด้วยความเลื่อมใส

“ผมขอเป็นลูกศิษย์ของท่าน”

“ผมตั้งใจจะขอเป็นลูกศิษย์ของท่าน!” เสียงดังก้องไปทั่วลานพลาซ่า

นักสู้กว่า 1,000 คน มองไปที่จักรพรรดิทรูหยัน

เขาจะยอมรับหรือไม่?

“ฮ่า…” จักรพรรดิทรูหยันมองไปที่หลัวเฟิงและหัวเราะอย่างสนิทสนม “ตั้งแต่วันนี้ไป เจ้าจะเป็นลูกศิษย์ของข้า จักรพรรดิทรูหยัน!”

อ่า!

นักสู้ที่ด้านล่างต่างตื่นตกใจ

“ตามข้ามา” ทรูหยันยืนขึ้น ขณะที่หลัวเฟิงและศิษย์คนอื่นๆ ก็เดินตามเขาออกไป

……

“จริงหรือที่จักรพรรดิทรูหยันยอมรับหลัวเฟิงเป็นศิษย์ของเขาแล้ว?” กูซีลัวขมวดคิ้ว

“ตอนนี้ทั้งหลัวเฟิงและโบแลนมีผู้นำนิกายระดับอมตะเป็นอาจารย์ของพวกเขา! และโหลจู เขามีอาจารย์เป็นผู้นำ จักรวรรดิ ในอนาคต การพัฒนาของพวกเขาจะต้องรวดเร็วจนน่าตกใจเลยทีเดียว!”

“ฉันต้องเข้าใจกฎต้นกำเนิดเวลาและรีบผ่านระดับ 3 อย่างรวดเร็ว ฉันจึงสามารถหาอาจารย์ได้”

……

“คนบ้า เขาไม่ยอมพ่ายแพ้ง่ายๆ” ในสนามฝึกซ้อม โหลจูที่เต็มไปด้วยเหงื่อพูดเบาๆ

“คู่แข่งไม่ได้มีแค่โบแลนเท่านั้น แต่ยังมีหลัวเฟิงอีกคน”

……

“บ้าจริง! จักรพรรดิทรูหยันยอมรับเขาจริงๆ?” เจ้าชายเผ่า

แมนก้า วูก้า บ่นเบาๆ จากนั้นเขาก็กลับไปฝึกอย่างหนัก

……

กลุ่มอัจฉริยะทุกคนต่างรู้สึกกดดันอย่างมาก เนื่องจากการที่จะได้เป็น

ศิษย์ของผู้นำนิกายย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย

ประการแรก!

หนึ่ง ต้องผ่านระดับที่ 3 นั้นเป็นความต้องการพื้นฐาน และพวกเขาทั้ง 1,000 คนมาจากการแข่งขันอัจฉริยะ ผู้ที่จะสามารถผ่านระดับที่ 3 ได้ภายใน 30 ปี มีจำนวนน้อยจนในมือข้างเดียวนับได้…จำนวนผู้ที่ผ่านระดับ 3 อาจมีไม่ถึง 5 คน

และถึงแม้จะผ่านระดับ 3 แล้วก็ตาม บรรดาผู้นำนิกายเหล่านี้ก็อาจจะ

ไม่ยอมรับได้ด้วยเช่นกัน

ผู้นำนิกายย่อยเหล่านี้ ส่วนใหญ่มีชีวิตมากว่าล้านล้านปี

โดยปกติแล้วพวกเขาจะไม่รับลูกศิษย์

เมื่อเวลาผ่านไป เหล่าอัจฉริยะเหล่านี้ยังคงพยายามตลอดเวลา พวกเขาพยายามฝึกฝนอย่างหนัก และนั่นทำให้พวกเขาพัฒนาขึ้นด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

1 ปี…2 ปี…3 ปี…4 ปี…5 ปี…

ในปีที่ 13 หลังจากที่พวกเขามาถึงปฐมนครแห่งความโกลาหล โหลจู

ผ่านระดับ 3

ในปี ที่ 19 หลัวเฟิงผ่านระดับ 4 และในวันนั้น โบแลนก็ผ่านระดับ 5! ทั้ง 2 คนไปไกลกว่าคนอื่นๆ และนั่นกระตุ้นโหลจูและคนอื่นๆ อีกหลายคนให้ไปทดสอบ แต่ก็ไม่มีใครประสบความสำเร็จ

ในปีที่ 21 วูก้า ผ่านระดับ 3

ในปีที่ 25 ลงยูและจาไลซี ผ่านระดับที่ 3

ในปีที่ 28 เฉวียนฉวี ผ่านระดับที่ 3

……

ในพริบตา 30 ปีผ่านไป!

……

ภายในปฐมนครแห่งความโกลาหล คฤหาสน์ของจักรพรรดิทรูหยัน

“หลัวเฟิง อีกเพียง 10 วัน เจ้าจะต้องออกจากปฐมนครแห่งความโกลาหล” ทรูหยันหัวเราะ ขณะที่เขามองไปที่หลัวเฟิง “หลังจากที่เจ้าออกไป ถ้าพบเจอปัญหาใดๆ ในขณะฝึกฝน เจ้าสามารถถามข้าได้ ในอนาคต ข้าหวังว่าเจ้าจะสามารถยืนด้วยตัวเองได้ หากพบเจอปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ ให้คิดถึงข้า เข้าใจไหม”

“ครับ อาจารย์” หลัวเฟิงยังคงสวมชุดเกราะสีแดงเข้ม ผมสั้นสีดำ เขายืนอยู่ที่นั่น แม้ว่าเมื่อเทียบกับคนอื่นๆ เขาจะมีร่างกายผอมกว่า แต่พลังงานที่เล็ดลอดออกมาจากร่างกายนั้นทำให้หัวใจสั่น

เมื่อเทียบกับเมื่อ 30 ปี ก่อนที่เขามาถึง ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นเด็กหนุ่มที่อ่อนแอ

มีความแข็งแกร่ง!

มันเกิดจากการเข้าใจกฎต้นกำเนิดอวกาศ เมื่อคนหนึ่งมีความเข้าใจที่

ลึกซึ้ง พลังงานกฎต้นกำเนิดจะฝังลึกลงไปในกระดูก นั่นทำให้เขามีออร่าที่พิเศษ

“ดีมาก” จักรพรรดิทรูหยันพยักหน้า เขาพอใจกับศิษย์คนนี้

“ไปเถอะ!” ทรูหยันยิ้ม

หลัวเฟิงคุกเข่าลงทำให้จักรพรรดิทรูหยันส่ายศีรษะและหัวเราะ “ยืนขึ้น”

“ขอบคุณอาจารย์สำหรับคำแนะนำ ตลอด 20 ปี” หลัวเฟิงยังคงคุกเข่า “ศิษย์ของท่านจะไม่ทำให้ท่านผิดหวัง”

ภายในใจของหลัวเฟิงมันเต็มไปด้วยความกตัญญู นักสู้ที่เต็มไปด้วยขนสัตว์สีทองร่างใหญ่ ที่ดูเหมือนกับคนสีทอง…ถึงแม้ว่าตำแหน่งของเขาสูงมาก แต่เขาจะจริงใจและใกล้ชิดกับเหล่าลูกศิษย์ของเขา

20 ปี!

หลัวเฟิงอยู่กับเขานานแค่ไหน?

แม้ว่าเขาจะรู้สึกขอบคุณอาจารย์ ฮูยันโบ เจ้านายของดาวเคราะห์ยุน

โม แต่พวกเขาไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์กันมาก่อน แต่ว่าในปฐมนครแห่ง

ความโกลาหล เขาได้มีปฏิสัมพันธ์กับจักรพรรดิทรูหยันมานานกว่า 20 ปี และความสัมพันธ์ระหว่างอาจารย์กับลูกศิษย์ก็ผูกพันธ์กัน

“ฮ่าฮ่า จะไม่ทำให้ข้าผิดหวังหรือ?” ทรูหยันยิ้ม เขาลูบคางและ

หัวเราะ “เป้าหมายแรกของข้าคือ เจ้าต้องเข้าไปในพื้นที่ลับสุดยอด!

เป้าหมายที่สองคือการกลายเป็นอมตะและได้รับฉายาจักรพรรดิ! เข้าใจไหม?”

“ครับท่านอาจารย์!” หลัวเฟิงตอบอย่างหนักแน่น

“เฮ้ย…ตลอดหลายล้านปี ที่ผ่านมา ข้ามีลูกศิษย์มากกว่าหนึ่งร้อยคน แต่มีเพียง 3 คนที่ได้กลายเป็นนักสู้ระดับอมตะ และต่อมากลายเป็น

จักรพรรดิ” ทรูหยันหัวเราะ ดวงตาของเขาจ้องมอง “ตอนนี้ ขึ้นอยู่กับ

เจ้า”

หลัวเฟิงรู้เป็นอย่างดีว่าอาจารย์ของเขา มีลูกศิษย์ทั้งหมด 92 คน มี 23 คนเสียชีวิตไปแล้ว

และอยู่ในปฐมนครแห่งความโกลาหลเพียง 35 คนเท่านั้น

บางคนมีฉายาอย่างเป็นทางการ

มีเพียง 1 คนเท่านั้นที่กลายเป็นจักรพรรดิ ซึ่งเป็นศิษย์รุ่นที่ 3 ที่เรียกว่าไทจู เขาเป็นนักสู้ที่แข็งแกร่งจากตระกูลนาคาโม เขาได้กลายเป็นศิษย์มานานแล้ว อาจารย์ของเขาดำรงอยู่มานานกว่าหนึ่งพันล้านปี นั่นทำให้ชื่อเสียงของศิษย์รุ่นที่ 3 โด่งดังมาก เขาเป็นเหมือนแรงบันดาลใจให้กับลูกศิษย์คนอื่นๆ

ไทจู กับฉายา จักรพรรดิกระหายเลือด

ในแง่ของชื่อเสียง เขาโดดเด่นยิ่งกว่าอาจารย์ของเขา แต่อาจารย์ของเขามีความแข็งแกร่งใกล้เคียงกับผู้นำ จักรวรรดิ

“ไปเถอะ” ทรูหยันยิ้มและโบกมือให้เขา

“ครับอาจารย์”

หลัวเฟิงลุกขึ้นไป

……

เขาเดินออกจากคฤหาสน์ของอาจารย์ เขาหันไปมองความรู้สึกหดหู่ในใจ

“นี่คือครั้งสุดท้าย…หลังจากที่ออกไปจากเมืองนี้ ผมจะต้องจากอาจารย์ไป” หลัวเฟิงส่ายหัว

“คุณยังเด็กอยู่ เมื่อคุณได้รับการฝึกฝนเป็นเวลา 10 ล้านปี แล้วคุณจะคุ้นเคยกับมัน” เสียงบาบาต้าดังขึ้น

“ตกลง” หลัวเฟิง ขมวดคิ้ว “การฝึกฝนเป็นเวลา 10 ล้านปี เป็นเรื่องสำคัญสำหรับอนาคต ตอนนี้ฉันเพิ่งมีชีวิตอยู่ได้ 100 ปี ไม่จำเป็นต้องพูดถึงเรื่องไกลแสนไกลเช่นนี้”

ขณะที่เขาเดินไปตามซอย หลัวเฟิงถอนหายใจ

“30 ปี!”

“เมื่อถึงเวลาจบ มันย่อมจบลง” หลัวเฟิงมีความสุข “ฉันแข็งแกร่งกว่า

ตอนที่ฉันมา”

ร่างกายมนุษย์โลกของเขา ในขณะที่เขาไม่ได้รับการฝึกฝนมันยังคงอยู่ในระดับจักรวาลขั้น 1 แต่เมื่อเขาออกจากปฐมนครแห่งความ

โกลาหล…เขาสามารถใช้สระว่ายน้ำชีวิตและสามารถพัฒนาความ

แข็งแกร่งให้ไปถึงระดับจักรวาลขั้น 9 ได้โดยที่ไม่มีคอขวดใดๆ เขา

สามารถพรุ่งตรงไปยังระดับขอบเขตได้อย่างง่ายดาย

ตระกูลโมชานอยู่ในระดับเดียวกับอสูรเขาทอง

ก่อนที่จะมาถึงจักรวาลต้นกำเนิด หลัวเฟิงได้เตรียมโลหะที่จำเป็นสำหรับการเลื่อนระดับขอบเขตไว้เป็นจำนวนมาก ไม่อย่างนั้นเขาคงจะวิวัฒนาการด้วยความเร็วทั่วไป

รวม 30 ปี ในปฐมนครแห่งความโกลาหล

ภายในช่วงเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา เขาผ่านไปยังระดับขอบเขตขั้น 1!

และระดับขอบเขตขั้น 1 ถึง 3 ต้องใช้เวลา 150 ปี

4 ถึง 6 ปีต้องใช้ 600 ปี

7 ถึง 9 ต้อง 3,600 ปี

ระดับขอบเขตขั้น 9 ก้าวขึ้นไปยังระดับห้วงมิติ ต้องใช้เวลาประมาณ

5,000 ปี

การใช้กลุ่มโลหะที่เหมาะสมที่สุดในช่วงระดับขอบเขต จะเพิ่ม

ประสิทธิภาพในการวิวัฒนาการได้สูงสุดถึง 52 เท่า มันเป็นเวลา 20 ปี

ในปฐมนครแห่งความโกลาหล

ซึ่งหมายถึงการวิวัฒนาการปกติของมันเกิดขึ้นไวกว่าพันปี!

เพราะฉะนั้น…อสูรเขาทอง ในปัจจุบันและตระกูลโมชาน อยู่ในระดับ

ขอบเขตขั้น 6!”

“ถ้าฉันไปที่สระว่ายน้ำแห่งชีวิตและวิวัฒนาการไปยังระดับจักรวาลขั้น 9 ฉันต้องหยุดอยู่ที่นั่น ถ้าฉันต้องพยายามก้าวข้ามไปถึงระดับขอบเขต…” หลัวเฟิงคิดว่า “คงเป็นเรื่องลำบากในทางทฤษฎี เมื่อฉันเป็นระดับขอบเขตขั้น 1 ฉันสามารถขึ้นตรงไปยังระดับขอบเขตขั้น 9 ได้เลย ฉันแตกต่างจากคนอื่นๆ การเติบโตของฉันขึ้นอยู่กับโลกภายใน”

เนื่องจากโลกภายในของเขาเป็นระดับขอบเขตขั้น 6 เขาจึงไม่มีปัญหาคอขวดเลย

อย่างไรก็ตามถ้าโลกภายในไม่เติบโต ร่างกายของเขาก็ไม่มีทางที่จะ

เติบโตได้

“เมื่ออสูรเขาทองและเผ่าโมชานเข้าสู่ระดับขอบเขตขั้น 9 จากนั้นฉันก็จะทำให้ร่างมนุษย์ของฉันขึ้นสู่ขั้น 9” หลัวเฟิงกล่าว

“ในปฐมนครแห่งความโกลาหล การพัฒนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของฉันคือ

การทา ความเข้าใจกฎต้นกำเนิด” หลัวเฟิงร้องตะโกน

การศึกษาจารึก 9 จักรวาล รวมทั้งคำสอนของอาจารย์ทรูหยัน พร้อม

กับเทคนิคสะบัดเลือด ทำให้การพัฒนาของเขาเพิ่มขึ้นมาก

10 ปีที่ผ่านมาเขาได้เข้าใจเทคนิคสะบัดเลือด รูปแบบที่ 1 อย่างสมบูรณ์

ในรูปแบบแรก ส่วนที่ยากที่สุดคือการทำความเข้าใจ และทำตาม

คำแนะนำ มีรูปแบบของใบมีดทั้ง 108 รูปแบบ และมันสามารถ

เปลี่ยนแปลงได้อีกรูปแบบละ 9 ใบมีด ดังนั้นหลัวเฟิงใช้เวลา 3 ปี จึงจะทำความเข้าใจกับรูปแบบแรก และสามารถใช้ออกได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นั่นทำให้เขาสามารถผ่านสะพานระดับที่ 2 และ 3 ได้

…ยิ่งเขาเข้าใจเท่าไหร่ เขาก็ยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

ในปี ที่ 28 ของการอยู่ในปฐมนครแห่งความโกลาหล หลัวเฟิงได้เข้าใจรูปแบบใบมีดที่ 9!

เมื่อมาถึงจุดนี้ ภาพเม็ดฝนแห่งจารึก 9 จักรวาล

ไม่ได้เป็นความลับสำหรับหลัวเฟิงอีกต่อไป เขาก็เข้าใจมันอย่างสมบูรณ์!

จารึกรูปแบบที่ 1 ฝน 9 หยด

เริ่มแรก 9 หยด แตกตัวออกเป็น 27 หยุด จากนั้นกระจายเป็น 72

ตอนนี้มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเวลาที่จะออกจากปฐมนครแห่งความ

โกลาหล ขณะที่หลัวเฟิงยังไม่เข้าใจรูปแบบใบมีดที่ 10

“ถึงแม้ว่าผมจะยังไม่เข้าใจรูปแบบมีดที่ 10 แต่เมื่อเข้าใจภาพจารึก ก็ทำให้ผมพัฒนาขึ้นมากในช่วง 3 ปีนี้” หลัวเฟิงคิด “มีเวลาอีก 10 วัน ก่อนที่ผมจะออกไป ผมจะทดสอบสะพานสวรรค์อีกครั้ง และดูว่าจะ

สามารถผ่านระดับ 5! ไปได้ไหม ถ้าผ่านไปได้ ผมจะได้รับโอกาสใน

การศึกษาจารึกอีกครั้ง! และด้วยโอกาสการศึกษาครั้งสุดท้ายนั้น ผมจะสามารถดูดซับมันอย่างช้าๆ หลังจากที่ผมจากไป”

……

ปลาขนาดใหญ่กำลังบินอยู่ในห้วงอวกาศที่แปรปรวน

ภายในปลาขนาดใหญ่นี้

“ท่านอัศวินจาก 1,000 อัจฉริยะในชุดนี้ มี 816 คน ที่ยังคงมีชีวิตอยู่” จักรพรรดิหยกในชุดเกราะกำลังโค้งคำนับ เธอยังคงพูด “ผู้ที่พิเศษ

ที่สุดคือโบแลน เขาได้ผ่านระดับ 5 มาแล้ว ต่อไปคือ หลัวเฟิง เขาผ่านระดับ 4 แล้ว และมีผู้ผ่านระดับ 3 ห้าคนด้วยกัน ที่น่าตกใจที่สุดของกลุ่มนี้คือ หลัวเฟิง ในปี ที่ 19 ของเขา เขาได้ผ่านระดับ

4 เขาไกลเกินกว่าคนอื่นๆ เขามีความสามารถใกล้เคียงกับโบแลน

ที่สุด”

นักสู้อมตะอีก 10 ต่างก็รับฟัง

อัศวิน 9 ดาบ นั่งอยู่บนบัลลังก์และพยักหน้าเบาๆ ว่า “โบแลน? หลัวเฟิง?”

หวือ…

ปลายังคงเดินหน้าต่อไป

อัศวิน 9 ดาบ นั่งอยู่ในยานอวกาศร่างปลา มุ่งหน้าไปยังปฐมนครแห่งความโกลาหล เขาเตรียมที่จะมารับกลุ่มของหลัวเฟิงเดินทางไปสู่จักรวาลที่แท้จริง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version