Skip to content

Swallowed Star 500

ตอนที่ 500 การสอบสวน

ภายใต้อิทธิพลของเทคนิคตราประทับจิตวิญญาณ ผู้นำ ตระกูล เพียว ขนนกพิสุทธิ์ ตอบคำถามทุกอย่างตามความจริง เขาไม่สามารถปกปิดอะไรได้เลย

“ดีมาก” หลัวเฟิง ยืนอยู่บนเมฆและถามว่า “คุณรู้หรือไม่ว่าใครอาจจะมีคริสตัลอีก?”

กระบวนการกลายเป็นนักรบเลือดต้องทำการดูดซับคริสตัลทั้งหมด 3

ชิ้น พวกเขาถึงจะได้รับการพิจารณาให้เป็นนักรบเลือดแล้ว!

เมื่อหลัวเฟิงรับรู้ถึงการเป็นนักรบเลือดและการเป็นนักรบดำที่เป็นตำนาน เขาก็มีความหวังว่าเขาจะกลายเป็นนักรบดำได้

แม้ว่าในโลกของแม่น้ำเลือด นักรบดำเป็นตำนาน แต่ตำนานดังกล่าวมีอยู่จริง และสามารถเกิดขึ้นได้

เห็นได้ชัดว่า หลัวเฟิง เป็นคนที่ไม่ยอมแพ้โดยไม่พยายาม

เขารู้จักตัวเองดีกว่าใคร!

“นายท่าน ผมสามารถยืนยันได้ว่าผู้อาวุโสของตระกูล และนายพลแห่งกองทัพหินลม มีคริสตัล ส่วนที่เหลือผมไม่สามารถรับประกันได้ แม้ว่าจะมีข่าวลืออื่นๆ บ้างก็ตาม” เพียว ขนนกพิสุทธิ์ ตอบอย่างสุภาพ

“ข่าวลือ?” หลัวเฟิง ขมวดคิ้ว

“ถูกต้อง มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับเจ้าเมืองของเรา ฉาง หินลม แม้ว่าผมจะไม่สามารถยืนยันว่าเขามีคริสตัลได้ก็ตาม” เพียวกล่าวว่า “ผมสามารถบอกได้ว่า มีความเป็นไปได้สูงที่เจ้าเมือง ฉาง หินลม จะมีคริสตัลที่ยังไม่ได้ดูดซับอีกอย่างน้อย 1 ชิ้นแน่นอน”

“อา?” หลัวเฟิง มองไปที่ เพียว ขนนกพิสุทธิ์

“ฉาง หินลม มีคนหนุนหลังที่ยิ่งใหญ่ อาจารย์ของเขาคือผู้นำ ระดับ

โลก” เพียว ขนนกพิสุทธิ์ อธิบาย “เขาประสบความสำเร็จในการดูดซับคริสตัลมานานแล้ว เขาต้องรอจนกระทั่งก้าวมาถึงระดับขอบเขต

หลังจากนั้นเขาก็กลายเป็นเจ้าเมืองอย่างรวดเร็ว และหลังจากนั้นเขาก็แอบมอบคริสตัลให้กับน้องชาย 1 ชิ้น”

“สำหรับนักรบ หากมีคริสตัลมากขึ้นย่อมเป็นเรื่องดี หลังจากได้ดูดซับแล้ว 1 ชิ้น พวกเขาย่อมต้องการที่จะดูดซับมันอีก!”

“เมื่อเขาสามารถมอบคริสตัลให้กับน้องชายได้ 1 ชิ้น นั่นหมายความว่ามันไม่ใช่เรื่องยากที่เขาจะหามันได้อีก” เพียว ขนนกพิสุทธิ์ บอกอย่างมั่นใจ “และด้วยบุคลิกที่เห็นแก่ตัวของ ฉางหินลม การที่เขามอบให้น้องชายเพียงชิ้นเดียว นั่นแสดงว่าเขาต้องมีอีกอย่างน้อย 1 ชิ้น ผมคิดว่าเขาอาจะมีมากกว่านั้น!”

หลัวเฟิงพยักหน้า มันทำให้เขาเข้าใจ

……

หลังจากนั้นหลัวเฟิงได้ฆ่า เพียว ขนนกพิสุทธิ์ และทำลายร่างกายของเขา

ในคืนที่มืดมิดเขากลับไปยังที่พักในเมืองเนินกลืนกิน

ตระกูลขนนกพิสุทธิ์มีรากฐานที่ฝังลึกอยู่ในเมืองเนินกลืนกิน รากฐานนี้ฝังลึกกว่าตระกูลหินลม ถ้าพวกเขาโกรธแค้น ทั้งหมดจะรู้สึกถึงความโกรธของพวกเขา

ห้องโถงของศาลาไม้สีม่วง ผู้อาวุโสของตระกูลขนนกพิสุทธิ์นั่งตรง

กลางของศาลา พร้อมกับหลานของเขาที่ยืนฟังอยู่ด้านข้าง ภายในห้องโถงขนาดใหญ่มีคนคุกเข่าอยู่ 10 คนและที่ด้านนอกห้องโถงอีก 100 คน

“ท่านปู่ คนเหล่านี้คือยามและหัวหน้ายามจากคฤหาสน์ของหยูเคฉี

พวกเขาทุกคนเห็น หยูเคฉีพาชายชุดดำคนหนึ่งมาด้วย” ชายชราคน

หนึ่งที่มีผมสีขาวกล่าวอย่างสุภาพ

“พูดมา คนที่สวมชุดดำมีลักษณะยังไง?” เตียว ขนนกพิสุทธิ์ หลับตา

ลงและพูดอย่างเย็นชา

“อ่า…ผมไม่ทราบ” หัวหน้ายามส่ายหัว

“หือ?” ใบหน้าของ เตียว ขนนกพิสุทธิ์ เปลี่ยนเป็นโกธรแค้น เขาจ้อง

มองไปที่ชายตรงหน้า

“พวกเราทั้ง 100 คน เห็นชายชุดดำ แต่ไม่มีใครจำรายละเอียดได้”

หัวหน้ายาม กล่าวต่อว่า “ในตอนนั้นพวกเราไม่ได้สนใจอะไรเป็น

พิเศษ พวกเรารู้เพียงแค่ว่าชายชุดดำคนนี้ดูเหมือนชายหนุ่มทั่วๆ ไป เขาไม่มีอะไรโดดเด่น แต่ตอนนี้เมื่อพวกเราพยายามนึกถึงใบหน้าของเขา มันเหมือนภาพที่เลือนรางในความทรงจำ พวกเราจำได้แค่เขาสวมชุดสีดำ พวกเราไม่สามารถจำอะไรได้มากกว่านี้”

เตียว ขนนกพิสุทธิ์ หันไปมองยังกลุ่มคนที่คุกเข่า

“ท่านผู้อาวุโส เราจำไม่ได้ เราจำไม่ได้จริงๆ”

“พวกเราเห็นใบหน้าของเขาจริงๆ แต่ในตอนนี้ไม่ว่าเราจะพยายาม

อย่างหนักแค่ไหนเราก็ไม่สามารถนึกได้”

“ผมได้จ้องมองเขาอย่างจริงจัง แต่ตอนนี้…”

……

กลุ่มยามทุกคนพูดอย่างหวาดกลัว

เตียว ขนนกพิสุทธิ์ ดูตกใจ

เหล่าทหารยามและหัวหน้าอยู่ในระดับท้องฟ้าขั้นสูง(ระดับดวงดาว

ขั้น 9) การได้รับอิทธิพลโดยที่พวกเขาไม่รู้ตัว แม้แต่ในนักสู้จิต

วิญญาณระดับจักรวาลก็สามารถทำได้ยาก หนึ่งต้องมีพลังงานจิต

วิญญาณที่แข็งแกร่งมากขึ้นและระดับสติ และการควบคุมพลังจิต

วิญญาณในระดับสูง

“นักรบคนนั้นเคยปรากฏตัวในเมืองเนินกลืนกินไหม?” เตียวเริ่มคิด

ขึ้น “แต่ในความเป็นจริงคือ เขาพยายามเข้ามาอย่างระมัดระวัง นี่

หมายความว่าเขาไม่ได้แข็งแกร่งเท่าผม ถ้าเขาแข็งแกร่งกว่า เขาก็ไม่จำเป็นต้องระมัดระวังถึงขนาดนี้”

“ฟังให้ดี!” เตียว ขนนกพิสุทธิ์ จ้องมองอย่างเย็นชา “ผู้นำ ตระกูลขนนกพิสุทธิ์ของเราถูกจับตัวไปภายใต้การดูแลของเรา และเราไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว นี่เป็นความอัปยศอดสูที่เกิดขึ้นกับตระกูลของเรา! เราต้องหาคนคนนี้ให้ได้ มิฉะนั้นตระกูลขนนกพิสุทธิ์ของเราจะถูกเยาะเย้ยจากผู้คนจำนวนนับไม่ถ้วนในเมืองเนินกลืนกิน!”

“ไป!”

“ไปตรวจสอบทุกคนที่น่าสงสัยอย่างละเอียด พลังของคนร้ายอย่างน้อยที่สุดอยู่ในระดับเมฆ หรืออาจเป็นไปได้ว่าอยู่ในระดับขอบเขต!

ตรวจสอบจากเส้นทางทั้งหมดดูว่ามีนักรบลึกลับคนใดได้ปรากฏตัว

ขึ้น! จำไว้ว่า แม้ว่าพวกเจ้าจะพบเขาแล้ว อย่าลงมือทันที ให้รีบ

รายงานข้าแทน” เตียว ขนนกพิสุทธิ์ มองไปรอบๆ “ถึงแม้ว่า เพียว

ขนนกพิสุทธิ์จะไม่ถูกสังหาร แต่เขาก็ไม่เหมาะที่จะเป็นผู้นำ อีกต่อไป

การค้นหาผู้ร้าย…คือการทดสอบที่ข้ามอบให้ทุกคน เมื่อเรื่องนี้ได้ข้อสรุปแล้ว ข้าจะเลือกผู้นำ ตระกูลคนใหม่ ไปได้”

“ครับท่าน!”

นักรบจำนวนมาก ดวงตาเต็มไปด้วยความหวัง พวกเขาตอบรับพร้อมกันและรีบออกไป

เวลานี้ พวกเขาต้องทำให้ดีที่สุด

เพื่อที่จะได้เป็นผู้นำ ตระกูลคนใหม่ เหล่าชนชั้นสูงของตระกูลต่างก็

ปลดปล่อยจุดแข็งที่ซ่อนไว้ทั้งหมด เพื่อใช้ตรวจสอบข้อมูลลับทั้งหมดที่เกี่ยวกับนักรบลึกลับหรือสิ่งมีชีวิตลึกลับที่สงสัย ด้วยวิธีนี้ข้อมูลและข่าวสารทั้งหมดต่างก็ถูกรวบรวมอย่างรวดเร็ว

วันที่ 2 รุ่งเช้า

หวืด…ทหารหุ้มเกราะสีเทา จำนวน 10,000 คน ลอยขึ้นเต็มท้องฟ้า

เป็นเหมือนเมฆสีดำ ที่ลอยอยู่เหนือเมือง กับผู้นำในชุดเกราะสีแดงเข้ม ลักษณะของเขาคล้ายคลึงกับเจ้าเมือง ฉางหินลม แต่เขามีท่าทางที่บ้าคลั่ง และใช้ความรุนแรง การปรากฏตัวของเขาเต็มไปด้วยความโหดเหี้ยมและป่าเถื่อน

“ถุ้ย!” เซน หินลม ถ่มน้ำลายไปด้านข้าง “ไม่พบ เพียว ขนนกพิสุทธิ์

เขาถูกลักพาตัวไปที่ไหนกัน พี่ใหญ่ก็เกินไป ถึงกับต้องให้ข้าออกมา

ช่วยค้นหา!”

“ฮ่า ฮ่า ฮ่า แต่ที่ตระกูลขนนกพิสุทธิ์ คงวุ่นวายน่าดู ข้าสงสัยจริงๆ ว่าใครเป็นผู้ลงมือ เขากลับเข้าไปลักพาตัวถึงในคฤหาสน์ของเขาเอง การได้ยินเรื่องแบบนี้ทำให้ข้ามีความสุข” เซน หินลม หัวเราะเบาๆ รองนายพลทั้งสองที่อยู่ด้านข้าง ยิ้มขณะที่ได้ยินเรื่องนี้

นายพล เซน หินลม ควบคุมกองกำลังของเมืองเนินกลืนกิน แต่เขาทำทุกอย่างที่เขาพอใจ แม้เขาและเพียว ขนนกพิสุทธิ์ จะเป็นสหายกัน แต่ในเวลาเดียวกันพวกเขาก็เป็นคู่แข่งกัน เมื่อเกิดเรื่องร้ายแรงกับคู่แข่ง เขาย่อมพอใจ

หากเพียว ขนนกพิสุทธิ์ ตายไปจริงๆ การตายนี้ ย่อมทำให้เขามี

ความสุขมาก

และเขาก็ไม่รีบร้อนที่จะค้นหา เขารอให้ผ่านวันหยุดก่อนจึงเริ่มนำกองทัพเข้ามาค้นหา

“ค้นให้ทั่ว ไปข้างหน้า ที่กระโจมเมฆบิน” หนึ่งในรองนายพลกล่าว

“หืม!” เซน หินลม เหลือบมองและพูดลอยๆ “กระโจมเมฆบิน เป็นโรงแรมที่ดีที่สุดในเมืองเนินกลืนกิน ผู้ร้ายมีความแข็งแกร่งและมีสถานะ อาจเป็นไปได้ที่เขาจะพักอยู่ที่นั่น”

รองนายพลกล่าว “ท่านนายพล ถ้าผู้ร้ายนำ เพียว ขนนกพิสุทธิ์ ไป เขาอาจจะไม่อยู่ที่นั่นแล้ว เขาอาจจะหลบหนีไปอยู่ในที่ปลอดภัยและเงียบสงบ”

“เพียะ!”

เซน หินลม ตบหน้ารองนายพลเลือดไหล ขณะที่รองนายพลคนอื่นๆ

ตกใจ

“เจ้าโง่” เซน หินลม เหลือบไปมองอย่างเย็นชา เขาว่า “ถ้าข้าพูดว่า

กระโจมเมฆบินก็ต้องเป็นที่กระโจมเมฆบิน เจ้าคิดว่าเราจะหาคนร้าย

ให้กับตระกูล ขนนกพิสุทธิ์จริงๆ หรือ?”

รองนายพล พยักหน้าไม่กล้าที่จะส่งเสียง

“อย่าพูดโง่ๆ อีก ถ้าเจ้าพูดโง่ๆ เช่นนั้นอีกครั้ง ข้าจะย้ายเจ้าไปทำ

หน้าที่อื่นๆ ปกติเจ้าเป็นคนฉลาดมาก สมองของเจ้าไปกระแทกกับ

กำแพงมาหรือไง?” เซน หินลม ลูบคางและมองขึ้นไป เขามองไปที่กระโมเมฆบิน “ไป ข้าจะให้โอกาสเจ้า เจ้านักรบระดับเมฆทั้งหมด และนักรบที่เจ้าคิดว่าแข็งแกร่งทุกคนออกมา ข้าต้องการสำรวจพวกเขาทั้งหมด”

“ครับท่าน!” รองนายพลที่ถูกตบกล่าวเบาๆ

……

เขานำลูกน้องของเขาทั้ง 10,000 คน วิ่งเข้าไปในกระโจมเมฆบิน

บริเวณท้องฟ้าเหนือกระโจมเมฆบินมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 10 กม. บริเวณทางเข้าเต็มไปด้วยกองกำลังทหารจำนวนมาก ทำให้ที่นั่นเต็มไปด้วยความวุ่นวาย

“เจ้าของ อย่าหาว่าผมไม่ไว้หน้าคุณเลย แต่คุณก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น! นายพลสั่งให้ควบคุมนักรบระดับเมฆของคุณ และแขกทุกคนที่คิดว่าอาจจะเป็นนักรบทรงพลัง ออกมาทั้งหมด” รองนายพลกล่าว ขณะที่มีทหารกลุ่มใหญ่ยืนอยู่ข้างหลังเขา

“เข้าใจ!”

“เราจะปฏิบัติตาม” เจ้าของร่างอ้วนที่มีตาเล็กๆ ออกคำสั่งและกลุ่ม

ผู้ช่วยจำนวนมากเดินนำทางไป

ระดับเมฆ ห้องหมายเลข 2 ในศาลาที่เงียบสงบ

หลัวเฟิงสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายและอ่านหนังสือ หลังจากผ่านมาเหตุการณ์นั้นมาครึ่งคืน แต่ตามเวลาโลกมันเป็นเวลา 2-3 วัน

“เพราะ เพียว ขนนกพิสุทธิ์ ถูกฉันฆ่าตาย ตอนนี้ทั้งเมืองเต็มไปด้วย

ความวุ่นวาย แต่ก็ไม่ส่งผลต่อฉัน ฉันจะรอจนถึงตอนค่ำคืนนี้ เพื่อ

จัดการ เซน หินลม” หลัวเฟิงวางแผนการของเขา ขณะอ่านหนังสือ ซึ่งมันง่ายมากสำหรับเขา ทันใดนั้นเสียงดังก้องมาจากข้างนอก และตามมาด้วยเสียงตะโกน

“ออกมาเร็วๆ เข้า!”

“รีบออกมา!”

“ท่านนายพลมีคำสั่ง ขอท่านลูกค้ารีบออกมาเร็วๆ”

“ไวๆ เร็วอีก”

“รีบไป เร็ว”

ที่ด้านนอกยังมีเสียงดัง

หลัวเฟิงคึกคักเมื่อเขาได้ยินเรื่องนี้ เขาเดาได้เพราะการตายของเพียว ขนนกพิสุทธิ์ ทำให้เกิดความวุ่นวายไปทั่วเมือง แต่เขาไม่คิดว่าจะส่งผลกับเขาด้วยเช่นกัน

เสียงฝีเท้าข้างนอกดังขึ้นอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นประตูถูกเปิดอย่าง

รุนแรง และทหาร 10 คนรีบวิ่งเข้ามา นำโดยพนักงานชาย พวกเขาเดินเข้าไปในศาลา พนักงานชายเห็น หลัวเฟิงภายในและกล่าวว่าขอโทษ “ท่านนายพล มีคำสั่งให้ออกค้นหาคนร้าย ท่านช่วยตามออกไปด้วย”

“ไปเร็วๆ รีบออกไป”

กลุ่มทหารรีบวิ่งเข้ามาตะโกนใส่หลัวเฟิง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version