ตอนที่ 509 การตัดสินใจ

ฉิงหยางเป็นผู้นำ ระดับโลกของโลกนี้ ตามระดับพลังในจักรวาล เขาอยู่ในระดับห้วงมิติ!

ขณะที่อสูรเขาทองและร่างเผ่าโมชานอยู่ในระดับขอบเขตขั้น 6 เท่านั้น

และนักสู้ระดับห้วงมิติมีจุดแข็งที่น่ากลัวที่สุดคือความสามารถในการ

ปลดปล่อยพลังของโลก พวกเขาสามารถควบคุมโลกภายในพวกเขา

เพื่อเพิ่มพลังของพวกเขาไปถึงระดับที่น่าตกใจ…ทำให้ความแตกต่าง

ระหว่างขอบเขตขั้น 1 และระดับห้วงมิติขั้น 1 นั้นแตกต่างกันมาก

“หากพบกับฉิงหยางในตอนนี้ คงจะเป็นการฆ่าตัวตายจริงๆ” หลัวเฟิงเข้าใจดี เขารีบบอกกับบาบาต้า “บาบาต้า ฉิงหยางเป็นผู้นำ ระดับโลก คุณคิดว่าจะทำยังไงต่อไป?”

แม้ว่าเขาจะมีแผนอยู่แล้ว แต่เขาขอให้บาบาต้าช่วยคิดอยู่ดี

เนื่องจากบาบาต้าผ่านประสบการณ์มามาก ทำให้เขาสามารถหาทาง

แก้ปัญหาต่างๆ ได้ง่ายขึ้น!

“หลบหนี รีบหนีไปยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งเท่านั้น” บาบาต้ากล่าว “ในเมื่อ

เขาเป็นผู้นำของเมืองโลก งั้นระยะทางจากเมืองโลกไปยังเมืองเนินกลืนกินควรอยู่ที่ประมาณ 100 ล้านกิโลเมตร ด้วยความเร็วแสง 300,000 กิโลเมตรต่อวินาที ข้อความจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงกว่าเขาจะได้รับ แต่ถ้าเขาใช้ความเร็วสูงสุดของเขาเพื่อมาที่นี่ในทันที!”

“ความเร็วสูงสุด?” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว

100 ล้านกิโลเมตร แม้แต่ระดับห้วงมิติ ก็คงจะใช้เวลาที่ยาวนาน

“แม้กระทั่งทูตพิเศษทั้ง 2 ที่มียานอวกาศลำนั้นก็ตาม ยานอวกาศลำนั้นแทบจะไม่สามารถเข้าถึงความเร็วแสงได้ มันต้องใช้เวลาประมาณ 3 ชั่วโมงกว่าจะมาถึงที่นี่!” บาบาต้ากล่าว

“แต่ในตอนที่ฉันฆ่าทูตพิเศษ ฉันสวมหน้ากากอยู่นะ” หลัวเฟิงกล่าวแย้ง

“อย่าคิดในแง่ดีเกินไป เมืองเนินกลืนกินใหญ่โตมาก คุณจะรู้ได้ยังไง

ว่าตอนนี้ไม่มีคนสังเกตเห็นคุณแล้ว? จำไว้ว่าตราบใดที่มีความอันตรายอย่าเสี่ยงกับมัน อย่าประมาทนักสู้ระดับห้วงมิติ” บาบาต้ากล่าว “ฉันได้พูดในสิ่งที่ฉันต้องการจะพูดแล้ว ที่เหลือคุณสามารถตัดสินใจได้ด้วยตัวเอง”

“คุณกำลังบอกว่าฉันอาจจะถูกจับได้?” หลัวเฟิงขมวดคิ้ว

หลบหนี?

หลังจากพบว่าทูตพิเศษโมได้ส่งข้อความและภาพขณะที่เขาฆ่าทูตพิเศษอีกคนไปให้กับ ฉิงหยาง หลัวเฟิงก็ตัดสินใจหลบหนีทันที!

ถ้าเขาบินหลบหนีในระดับเมฆชั้น 18 และนั่งอยู่บนยานอวกาศของเผ่าหุ่นยนต์ ใครจะสามารถค้นหาเขาพบ?

สิ่งเดียวคือ…แม้ว่าเขาจะปลอดภัยตัวเอง แต่นาบูและนาคีล่ะ?

ถ้าความลับของเขาถูกเปิดเผยจริงๆ

ทั้งสองคนนี้จะได้รับผลกระทบอย่างแน่นอน ตระกูลเล็กๆ อย่าง

ตระกูลนา หากนักสู้ระดับห้วงมิติโกรธแค้น ตระกูลนาจะต้องถูกบดขยี้

“ตระกูลนาจะเป็นยังไงบ้าง?” หลัวเฟิงถาม

“ตระกูลนา อะไร?” บาบาต้าถามอย่างสงสัย

หลัวเฟิงได้เล่าสั้นๆ เกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้

“อืม นั่นเป็นเรื่องที่ลำบากใจมากๆ ความสัมพันธ์ของคุณและตระกูล

นา แม้จะมีเพียงไม่กี่คนที่รู้แต่ก็ไม่อาจมองข้ามได้ ด้วยความสามารถ

ของนักสู้ระดับห้วงมิติ และนี่ยังเป็นอาณาเขตในการปกครองของเขา

การค้นหาย่อมไม่ยากนัก แต่เรื่องนี้ หลัวเฟิง คุณควรรีบกลับไปยังเมืองเนินกลืนกินและคุยกับพวกเขา ให้พวกเขาได้ตัดสินใจด้วยตนเอง ว่าพวกเขาต้องการออกจากเมืองหรืออยู่ในเมืองเนินกลืนกินต่อไป หากพวกเขาต้องการออกจากเมืองให้พวกเขาไปกับคุณ…คุณสามารถพาพวกเขาทั้งสองไปยังอีกฝั่งของโลก! ทวีปที่แตกต่างกันของโลกนี้เหมือนกับประเทศของคุณ พวกเขามีการแข่งขันและมีสงคราม ถ้าพวกเขาหนีไปอีกด้านหนึ่งของโลก ฉิงหยางก็ไม่สามารถค้นหาในคลื่นมนุษย์จำนวนมหาศาลได้ง่ายๆ”

“ตกลง” หลัวเฟิง พยักหน้า “เราจะทำอย่านั้น”

ในขณะนี้เขาไม่สนใจเกี่ยวกับการดูดซับคริสตัลแม่น้ำเลือด หลังจากที่เขาจัดการแก้ไขสิ่งต่างแล้วค่อยทำการดูดซับก็ยังไม่สายเกินไป

หวืด!

หลัวเฟิงพุ่งผ่านท้องฟ้า เขาเร่งความเร็วจนมาถึงเมืองเนินกลืนกินด้วยความเร็วที่น่าตกใจ

เมืองเนินกลืนกินในยามค่ำคืน ยังคงคึกคัก มันเต็มไปด้วยการค้า

ที่พักตระกูลนา

“เหตุการณ์ที่เกิดในช่วงไม่กี่วันมานี้? ผู้อาวุโสสูงสุดของตระกูลขนนก

พิสุทธิ์ตายแล้ว และตอนนี้ คฤหาสน์ของเจ้าเมืองก็กลายเป็นสนามรบ

ไปแล้ว” นาบูยืนอยู่ที่ราวบันไดชั้น 3 ของคฤหาสน์ เขายืนพิงและจ้อง

ไปที่คฤหาสน์อื่นๆ ในเมืองที่อยู่ห่างไกล

“นาบูเข้ามา” เสียงดังกึกก้องขึ้น

“หือ?” นาบูตกใจมาก แม้ว่าเขาจะตกใจ แต่เขาก็หันกลับเดินเข้าไป

และเห็นชายหนุ่มผมดำ สวมชุดเกราะสีดำ นั่งอยู่ที่นั่น นาบูรู้สึกสงสัย “ในตอนดึกเช่นนี้ และนักรบลึกลับคนนี้กลับมาที่บ้านของข้า?”

“ท่านเฟิง” นาบูคำนับ

“รอสักครู่” หลัวเฟิงนั่งอยู่ที่นั่น

หวืด!

ประตูด้านล่างเปิดออก และมีเสียงฝีเท้าวิ่งขึ้นบันไดมาอย่าง

รวดเร็ว จากนั้นร่างของนาคีก็ปรากฏขึ้น เมื่อเขาเห็นหลัวเฟิง เขากล่าวอย่างตื่นเต้นว่า “ท่านพี่เฟิง คุณมาหาพวกเรา ทำไมคุณเรียกให้ผมไปหา”

“หือ?” นาบูยิ่งสงสัยมากขึ้น ทำไมนักรบลึกลับคนนี้ต้องการพบพวก

เขาทั้งคู่

“เวลาเป็นสิ่งสำคัญมากตอนนี้ ผมจะไม่อ้อมค้อม ผมจะบอก

สถานการณ์กับพวกคุณสั้นๆ” หลัวเฟิงเน้นย้ำ

นาบูกำลังตกใจ เขาพูดว่า “ท่านเฟิง เชิญพูด”

หลัวเฟิงอธิบายเกี่ยวกับสถานการณ์ให้พวกเขาฟังอย่างรวดเร็ว ใบหน้าของนาบู เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ เมื่อเขาฟังจบ เขาตกใจอย่างยิ่ง “พระเจ้าช่วย ผู้อาวุโส ตระกูลขนนกพิสุทธิ์ เจ้าเมือง ฉาง หินลม แม้กระทั่ง ทูตพิเศษจากศาลาอมตะ พวกเขาถูกนักรบลึกลับที่อยู่ตรงหน้านี้ ฆ่าตายหมด!”

เรื่องนี้มัน…

ทูตพิเศษจากศาลาอมตะ!

นักรบลึกลับคนนี้น่ากลัวเกินไป!

หน้านาบูซีดและนาคีก็ตะลึงด้วย…พวกเขาเหล่านี้คือบุคคลในตำนาน

ทั้งหมด

“และผมจะให้พวกคุณเลือก” หลัวเฟิงเน้นย้ำ “อยู่ในเมืองเนินกลืนกินแห่งนี้ หรือติดตามข้าจากไป! ถ้าพวกคุณอยู่ที่นี่ มีความเป็นไปได้สูงที่ความลับจะถูกเปิดเผย”

นาบูขมวดคิ้วในใจของเขากำลังคิดถึงสิ่งต่างๆ

นาคีก็กำลังสับสน

หลัวเฟิงนั่งอยู่บนเก้าอี้มองไปที่พ่อและลูก เขารู้สึกผิดต่อพวกเขา ถ้าไม่ใช่เพราะเขาทั้งสองคนนี้อาจจะสามารถมีชีวิตปกติทั่วไป อย่างไรก็ตามเนื่องจากการมาถึงของเขาตระกูลนาจึงถูกลากเข้าสู่อันตรายด้วย

“เอ่อ…ท่านเฟิง” นาบูเอ่ยขึ้น

“คุณตัดสินใจแล้วหรือยัง?” หลัวเฟิงมองไปที่นาบู

“ถูกต้อง” นาบูพยักหน้า “ข้าตัดสินใจที่จะอยู่ในเมืองเนินกลืนกินแห่ง

นี้และใช้ชีวิตตามปกติของข้า แต่ข้าต้องการให้ท่านเฟิงพาลูกชายของข้าออกจากเมืองเนินกลืนกินไป!”

“พ่อ!” ดวงตาของนาคีแดงก่า เขาตะโกนว่า “ข้าไม่ต้องการทิ้งท่าน!”

“อย่าทำให้เรื่องมันยุ่งยาก!” นาบูตะโกน

“พ่อ!” นาคีพูดเบาๆ เขากำลังจะร้องไห้

หลัวเฟิงเงียบ เขามองดูภาพนี้อย่างเงียบๆ

“ท่านเฟิง ข้าคาดว่าคนที่พบปะกับท่านจะมีน้อยมาก และพวกเราก็พบกันแค่ 2 หรือ 3 ครั้งเท่านั้น มันไม่ถือว่าพวกเราสนิทกันมาก และท่านผู้นำเมืองโลก อาจจะมาสอบถามข้าว่าใครคือนักฆ่า” นาบูยิ้ม “สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ…ข้าไม่สามารถหลบหนีได้…”

ดวงตาของนาบูเต็มไปด้วยความเศร้าโศก “ข้าไม่สามารถละทิ้งธุรกิจ

ของตระกูลได้!”

“อื่ม” หลัวเฟิงพยักหน้า “นาบู เพื่อความปลอดภัยของคุณ ก่อนที่ผมจะไป ผมจะใช้เทคนิคพิเศษของผม เพื่อลบความจำของคืนนี้! และจากนี้ใครก็ตามที่ใช้เทคนิคจิตวิญญาณเพื่อตรวจสอบ พวกเขาก็จะไม่พบอะไร”

“ยอดมาก” นาบูพยักหน้า ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวัง “ท่านเฟิง ท่านสามารถให้เวลาข้าอยู่กับนาคีสักหน่อยได้ไหม?”

“ไม่มีปัญหา” หลัวเฟิงเดินออกจากคฤหาสน์ไป เขาอดทนรอ

……

หลัวเฟิงรู้สึกเสียใจ

……

ภายในบ้านนาบูและนาคีร่ำลากัน

“อย่าร้องไห้” นาบูยิ้มและมองลูกชายของเขา

พ่อและลูกต่างก็ร้องไห้ นาคีเติบโตขึ้นและได้รับการดูแลอย่างดีจากพ่อของเขา และเมื่อถึงเวลาจริงๆ เขาก็ไม่อยากจากพ่อของเขาไปไหน

“เราต้องมองสิ่งต่างๆ ในหลายๆ แง่มุม ตลอดเวลา” นาบูมองอย่าง

จริงจังไปที่ลูกชาย

“นาคี ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีทั้งดีและไม่ดีเสมอไป การที่เราได้พบ

กับท่านเฟิงครั้งนี้…มันอาจดูเหมือนเป็นภัยพิบัติทำให้เราต้องแยกกัน

แต่เจ้าต้องเข้าใจ ท่านเฟิงสามารถจากไปได้ง่ายๆ แต่เขากลับมาบอกพวกเรา นั่นหมายถึงอะไร? นั่นหมายความว่าเขาชอบพวกเรา และเขาเสียใจต่อเรื่องที่เกิดขึ้น”

“โชคลาภและโชคร้าย มันมาด้วยกันเสมอ!”

“นี่อาจเป็นภัยพิบัติสำหรับตระกูลนา แต่มันก็เป็นโอกาสที่เราจะก้าว

ไปข้างหน้าอย่างมาก!”

ดวงตาของนาบูแวววาว “ในทวีปเลือดทุกวันนี้มีผู้คนนับล้านตายไป

ตลอดเวลา ชีวิตของพวกเราเต็มไปด้วยความเสี่ยง สิ่งที่ดีที่สุดคือการหาอาจารย์ที่แข็งแกร่งเท่านั้น! และท่านเฟิงคือนักรบที่แข็งแกร่งอย่างแน่นอน เจ้าไม่ได้ยินเหรอ แม้แต่ผู้อาวุโส ตระกูลขนนกพิสุทธิ์ เจ้าเมืองของเรา และทูตพิเศษ 2 คน จากศาลาอมตะยังถูกเขาสังหาร ระดับพลังที่น่ากลัว”

“ในทวีปนี้ ความมั่งคั่งคืออะไร? นั่นคือพลังเพียงอย่างเดียว!” นาบูม

องไปที่นาคี

“นาคี เจ้ามีความฝันที่จะเป็นนักรบที่ยิ่งใหญ่ของทวีปใหญ่นี้! ใน

อนาคตเจ้าอาจกลายเป็นผู้นำ ของดินแดนทั้งหมด ควบคุมชีวิตผู้คนนับล้านคน”

นาคีตกใจมาก

“จำไว้!”

“นี่เป็นโอกาสอันดี เจ้าต้องคว้ามัน!” นาบูมองลูกชายของเขา “หลังจากที่ข้าตายแล้วข้าถึงจะสามารถมองหน้าบรรพบุรุษของตระกูลนาได้! เข้าใจไหม?”

“หืมม ท่านพ่อ” ดวงตาของนาคีเต็มไปด้วยน้ำตา แต่เขาพยักหน้าอย่างดุเดือด

“ดีมาก” นาบูยิ้ม เขาขยับศีรษะของลูกชายและค่อยๆ กอดเขาไว้และ

พูดเบาๆ ว่า “สิ่งที่ข้าห่วงมากที่สุดคือลูกชายของข้า ตระกูลนาไม่มีกองกำลังที่แข็งแกร่งเหมือนกับตระกูลยู เมื่อไม่มีกำลังทหาร พวกเขาก็ถูกทำลายล้างภายในคืนเดียว ข้าเป็นห่วงเจ้า เจ้าต่างไปจากข้า ข้าสามารถทำการค้าได้ แต่เจ้าไม่…จากนี้ไปข้าก็ไม่ต้องกังวลอีกต่อไป…ไปเถอะ ลูกรัก”

นาคีร้องไห้ ขณะที่เขากอดพ่อของเขาแน่น

……

หลังจากนั้นไม่นาน

ภายในคฤหาสน์ หลัวเฟิงยืนอยู่ตรงหน้านาบู เน้นย้ำว่า “ผมจะลบความทรงจำในคืนนี้ของคุณ หลังจากนี้ คุณจะไม่รู้ว่าลูกชายของคุณหายไปไหน”

“ดีมาก ถ้าข้าไม่รู้…คนอื่นย่อมไม่มีทางรู้” นาบูยิ้มและพยักหน้า

“อื่ม” หลัวเฟิงพยักหน้า

ทันใดนั้นมีเส้นด้ายพลังจิตวิญญาณบุกเข้าไปในจิตวิญญาณของ

นาบู พวกมันเริ่มค้นหาและแยกแยะความทรงจำของเขา เทคนิคการ

ค้นหาจิตวิญญาณทั่วไปย่อมไม่สามารถแยะแยะได้ พวกมันทำได้แค่

ค้นหาความทรงจำ ทั้งหมดเท่านั้น แต่เทคนิคตราประทับจิตวิญญาณ

ทาสของหลัวเฟิงสามารถทำได้ เขาได้ค้นหาและทำการลบความทรงจำ ที่เกิดขึ้นในคืนนี้เท่านั้น

หลังจากนั้นไม่นาน

“อืม เกิดอะไรขึ้น?” หัวของนาบูอยู่ในอาการสับสน เขามองไปรอบๆ ห้องที่ว่างเปล่า และพบว่าตัวเองกำลังนั่งอยู่ในห้องทำงานของเขา “ข้าเพิ่งจะหลับไปหรือ?”

นาบูลืมสิ่งที่เกิดขึ้นในคืนนี้แล้ว

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าลูกชายของเขาได้จากเมืองเนินกลืนกินไปกับหลัวเฟิงแล้ว