ตอนที่ 603 สามรางวัล
หลัวเฟิงรู้ว่าปกติมีเพียงรางวัลเดียวเท่านั้นที่จะมอบให้เขา การเลือกจาก 3 รางวัล น่าจะเป็นเรื่องไม่ปกติ
“3 รางวัล” หลัวเฟิงมองที่จักรพรรดิขนนกนภา ด้วยความหวัง
“สมบัติชิ้นที่ 1 คือ เกราะดักแด้(Chrysalis Armor)”
“มันเป็นเกราะที่ใช้มากที่สุดในระดับอมตะ มันมีคุณสมบัติในการ
ป้องกันที่ไม่เลวทีเดียว มันสามารถป้องกันการโจมตีของระดับต่ำกว่า
อมตะลงไปได้อย่างสมบูรณ์ ยกเว้นการโจมตีทางวิญญาณ เจ้าเป็นผู้อ่านจิตวิญญาณการป้องกันแบบนี้มันเหมาะสมกับเจ้า”
หลัวเฟิงตกใจจากสิ่งที่เขาได้ยิน การโจมตีของระดับห้วงมิติจะไม่มีผล ยกเว้นการโจมตีทางวิญญาณ มันเป็นเกราะที่ระดับอมตะนิยมใช้อีกด้วย
บาบาต้าตะโกนเข้ามาใจจิตของหลัวเฟิง
“เกราะดักแด้ ไม่มีความจำเป็นเถาวัลย์เทียมฟ้าดีกว่าเมื่อถึงระดับอมตะ แต่ถ้าด้านมูลค่าของมันเกราะนี้ก็ไม่เลว มันมีราคาประมูลถึง 8 แสน ถึง 1 ล้านองค์ประกอบผสม”
“รางวัลที่ 2 คือ เปลวไฟสีทอง(Flame void gold)ขนาดฝ่ามือ มันหนักประมาณ 3.1 ตัน”
“สิ่งนี้ เป็นวัสดุทำอาวุธที่มีค่า หลังจากที่กลายเป็นระดับอมตะ คุณต้องหาทางสร้างอาวุธจิตวิญญาณให้ตรงกับเทคนิคที่สร้าง วัสดุนี้เป็นของหายากที่เหมาะกับการสร้างอาวุธ”
หลัวเฟิงกะพริบตามองไปยังวัสดุขนาดเท่าฝ่ามือ
“3 คือเงิน รางวัลทั้งสองก่อนหน้านี้มีราคาประมาณ 5 แสน
องค์ประกอบผสม รางวัลที่ 3 ก็คือเงิน 5 แสนองค์ประกอบประผสม”
“ถ้าเจ้าไม่พอใจตัวเลือก 2 อย่างก่อนหน้านี้ เจ้าก็เลือกเป็นเงินแทน
เพื่อซื้อสิ่งที่เจ้าต้องการหลังจากนี้ได้”
“เจ้าเลือก 1 ใน 3 อย่างนี้ตามต้องการได้”
“เลือก”
ระดับอมตะที่อยู่ด้านล่างทั้งสอง 24 คนต่างตกใจ พวกเขาต่างไม่แสดงอาการออกมา
พวกเขาติดตามจักรพรรดิขนนกนภามายาวนาน พวกเขาเคยเห็นรางวัลจำนวนมาก หลายสิ่งอยู่ภายใต้ตัวเลือกขององค์กรจักรวาลเสมือน ปกติจะสุ่มเลือกรางวัลออกมาให้ตรงตามมูลค่าของ แท็กสีดำ 1 หมื่นชิ้น
ทว่าตอนนี้ จักรพรรดิขนนกนภา ได้นำรางวัลออกมา 3 ชิ้น เป็นธรรมดาที่พวกเขาจะตกใจ
ทั้งสามอย่างนั้น เงินเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดใน 3 อย่าง ถ้าหลัวเฟิงไม่พอใจ 2 ตัวเลือก เขายังใช้เงินซื้อสิ่งที่ต้องการได้ ทั้งหมดล้วนเป็นประโยชน์กับหลัวเฟิง
“บาบาต้า ผมควรเลือกอะไร” หลัวเฟิงถามบาบาต้าผ่านจิตสำนึก
แม้ว่าเขาจะคิดไว้บ้างแล้ว จากประสบการณ์และมุมมองของเขานั้นยังแย่กว่าบาบาต้ามาก
“ชุดเกราะดักแด้ยังไม่ความจำเป็นในเวลานี้ ถึงการทำให้เถาวัลย์เทียมฟ้ากลายเป็นระดับอมตะนั้นยากยิ่งกว่าการทำให้เป็นระดับขอบเขตขั้น 9 ด้วยการสนับสนุนจากองค์กรจักรวาลเสมือนคุณสามารถหาดียิ่งกว่านี้ได้”
“เมื่อคุณหาทางวิวัฒนาการเถาวัลย์เทียมฟ้าไปสู่ระดับอมตะได้ เกราะดักแด้นี้ก็ไม่มีความจำเป็นที่ต้องใช้อีกเลย”
“แล้วสำหรับเงินก็ไม่มีความจำเป็น”
“เนื่องจากบัญชีธนาคารของอาจารย์คุณ ตราบที่คุณเป็นระดับขอบเขตคุณจะได้รับมรดกของเขา คุณจะไม่มีทางขาดเงิน”
“ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับคุณคือ เปลวไฟสีทอง”
“แม้เขาจะบอกว่า รางวัลทั้งสองนั้นมีมูลค่าเท่ากับ 5 แสนองค์ประกอบผสม”
“แต่ด้วยตำแหน่งของเขา ทำให้เขาหามันมาได้ด้วยราคา 5 แสน
องค์ประกอบผสม”
“ตามความจริงแล้ว เกราะดักแด้จะประมูลกันที่ 8 แสน ถึง 1 ล้าน
องค์ประกอบผสม และเปลวไฟสีทอง จะประมูลกันที่ 1.5 ล้าน ถึง 2 ล้านองค์ประกอบผสม”
“ทำไมเปลวไฟสีทองถึงมีราคาแพงกว่าชุดเกราะ ในเมื่อเขาบอกว่าทั้งสองมีราคาเท่ากัน”
“นั่นเพราะว่ามันเป็นวัสดุที่หายาก เกือบทั้งหมดถูกนำมาโดยสิ่งมีชีวิตที่สมบูรณ์แบบ”
“วัสดุหายากนี้ ถึงจะถูกบอกมาเป็นจำนวนเงิน แต่ด้วยความสามารถ
ของจักรพรรดิขนนกนภาอาจจะสามารถหาซื้อมันได้”
“ถึงแม้เราอาจใช้จ่ายเป็น 2 เท่าก็ไม่อาจจะหามันมาได้ ในตรงกันข้ามเกราะดักแด้นั้นมีจำนวนมาก”
“หลัวเฟิงคุณต้องสร้างเทคนิคของตัวเองขึ้นมา มันเป็นเส้นทางของนักสู้ที่แข็งแกร่ง และระดับห้วงมิติก็มักจะเริ่มสร้างเทคนิคของตัวเอง”
“เมื่อคุณเริ่มสร้างเทคนิคของตัวเอง คุณต้องเริ่มหาวัสดุสำหรับสร้าง
อาวุธของคุณเองด้วย”
———–
หลัวเฟิงตัดสิ้นใจเลือกรางวัลที่ต้องการได้แล้ว
“ท่านจักรพรรดิขนนกนภา ผมเลือกรางวัลชิ้นที่ 2 เปลวไฟสีทอง ครับ”
หลัวเฟิงกล่าวอย่างสุภาพ
โพยูน ที่อยู่ด้านล่างขมวดคิ้ว
“ไอ้เจ้าหนูนี้เลือกตัวเลือกที่ดีที่สุดใน 3 อย่าง ช่างเป็นคนโชคดีจริงๆ”
“ฮ่า ฮ่า…” จักรพรรดิขนนกนภาหัวเราะออกมาเสียงดัง
“ดีมาก ของชิ้นนี้เป็นของเจ้า”
เขาโยนมันออกไป และมันก็ปรากฎขึ้นตรงหน้าของหลัวเฟิงในทันที มันส่องแสงสีทองไปทั้งพื้นที่โดยรอบ
“พระเจ้านี่มัน เทเลพอร์ต” หลัวเฟิงตกใจอยู่ภายใน
เขาเห็นมันอย่างชัดเจนว่าหายไปจากมือของจักรพรรดิขนนกนภา และมาปรากฎตรงหน้าเขา เขารู้สึกถึงคลื่นพลังบางๆ
“หลังจากเสร็จสิ้นภารกิจภูเขาปีศาจ คุณควรจะกลับไปยังดินแดนตั้ง
ต้น”
หลัวเฟิงเก็บเปลวไฟสีทองไว้ในแหวนอวกาศของเขา
“ครับ แม้ผมจะได้รับตำแหน่งสมาชิกตั้งต้นมา แต่ผมใช้เวลาอยู่แต่ใน
ภูเขาปีศาจ ยังไม่เคยเข้าไปในดินแดนตั้งต้น”
หลังจากจบการสนทนาจักรพรรดิขนนกนภา ก็หายไปในทันที
ต่อมาหลัวเฟิงก็มาอยู่บนยานอวกาศที่จัดเตรียมไว้เป็นพิเศษไว้สำหรับเขา
“จักรพรรดิขนนกนภา เป็นคนอ่อนโยน”
หลัวเฟิง สัมผัสวัสดุรูปเปลวไฟสีทอง เขารู้สึกถึงคลื่นอวกาศได้จากมันเล็กน้อย
“วัสดุนี้ช่างประหลาด”
ทันทีที่หลัวเฟิงเข้าสู่จักรวาลเสมือน ก็ส่งจดหมายถึงจักรพรรดิทรูหยัน บอกเรื่องราวเกี่ยวกับเขาและรางวัลที่เขาเลือก
หลังจากนั้นเขาก็ได้รับคำตอบจากอาจารย์
เมื่อหลัวเฟิงเปิดอ่าน…
“อาจารย์บอกว่าเขาเคยช่วยชีวิตจักรพรรดิขนนกนภา มีไม่กี่จักรวรรดิที่รู้เรื่องนี้ มันไม่ได้ถูกแพร่กระจาย ชื่อเสียงเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ จักรพรรดิขนนกนภา ถ้าคุณเคารพเขา เขาจะให้กลับมา 10 เท่า”
“อาจารย์ท่านช่างโหดร้าย”
เป็นธรรมดาที่คนมีความภาคภูมิใจมาก เขาย่อมไม่อาจติดหนี้ได้
“อาจารย์บอกว่าเขามีศัตรูจำนวนมาก ให้ผมระวังตัวไว้ แต่เขาก็ยังมี
เพื่อนที่ทรงพลังอยู่เหมือนกัน”
———-
หลังจากผ่านไป 3 เดือน ยานอวกาศก็เข้าสู่ดินแดนตั้งต้น
หลังจากเคลื่อนย้ายกลับสู่จักรวาลหลัก มันก็บินอีกครึ่งวันก่อนถึง พื้นที่อาศัยของดินแดนตั้งต้น
“ฝ่าบาทหลัวเฟิง ข้างหน้าคือ คฤหสน์หมายเลข 113”
ชายสูงกำยำที่มีปีก 3 คู่ ชี้ไปยังภาพจำลองข้างนอก ช่วยให้หลัวเฟิงมองเห็นถึง ดวงดาวทั้ง 136 ที่อยู่ในระยะไกล
มันเป็นดวงดาว 136 ดวง ที่โคจรอยู่ในอวกาศ
หลัวเฟิงมองมันก็คิดถึงภาพผู้นำวังสวรรค์ทลาย ใช้ดาวเคราะห์ไฟสีดำ 9 ดวงให้เขาเห็น
“มันค่อนข้างคล้ายกัน”
หลัวเฟิงรู้สึกถึงการเคลื่อนไหวของดาวเคราะห์ทั้ง 136 ดวง ที่กำลัง
หมุนเวียน มันให้ความรู้สึกคล้ายกับกฎต้นกำเนิดอวกาศ
“ดาวเคราะห์ทั้ง 136 ดวงนี้ ถูกสร้างขึ้นสำหรับอัจฉริยะโดยเฉพาะ มันสามารถสร้างพื้นที่ของตัวเอง แม้แต่ผู้นำจักรวรรดิในจักรวาลยังไม่อาจบุกรุกเข้ามาในพื้นที่นี้ได้”
“นี่เป็นสิ่งที่องค์กรจักรวาลเสมือนใช้พลังงานและทรัพยากรมากมาย
เพื่อเตรียมพร้อมไว้สำหรับคนรุ่นหลัง”
หลัวเฟิงตกใจมาก ดาวเคราะห์ทั้ง 136 ดวง สร้างพื้นที่ของตัวเองได้