ตอนที่ 651 หลัวเฟิงและเปควั้น
“ฝ่าบาทหลัวเฟิง อัจฉริยะของเผ่าเขาทองเราไม่ได้อ่อนแอไปกว่าอัจฉริยะมนุษย์”
“มาตราฐานของ ผู้ที่ถูกแนะนำ โดยโดเย นั้นไม่ธรรมดา”
การเลี้ยงดูอัจฉริยะเผ่าเขาทองมีมากกว่ามนุษย์ แม้แต่อัศวินจักรวาล
ยังให้คำแนะนำ แก่เหล่าอัจฉริยะ
“สิบอันดับแรกของรุ่นนี้ มีพี่น้อง เปซือ ที่เยี่ยมที่สุด”
“ส่วนอีกทั้ง 9 คนในสิบอันดับแรก มีความเข้าใจกฎระดับเดียวกับ
สะพานสรรค์ขั้น 9”
“คนที่แข็งแกร่งที่สุดคือคนพี่ เปซือ คนน้องเปฉิว เป็นคนเดียวที่มี
อำนาจผ่านระดับ 10”
“ดูเหมือนว่าหนุ่มสาวนับพันต้องการท้าทายคุณ เหมือนว่าเจียอั้ยตรง
นั้นก็เป็นหนึ่งในสิบอันดับสุงสุดของอัจฉริยะระดับขอบเขต”
หลัวเฟิงรู้สึกอายเล็กน้อย ที่หนุ่มสาวเผ่าเขาทองมารวมตัวกัน
เขาไม่ได้คิดถึงมันในทีแรกว่านี่คืออัจฉริยะของทั้งเผ่าพันธุ์
ถึงแม้พวกเขาจะอ่อนแอ่กว่ามนุษย์ แต่ก็ไม่ได้เป็นพวกอ่อนแอ่แต่อย่างใด
10 อันดับแรกของอัจฉริยะมนุษย์ระดับขอบเขตที่เป็นสมาชิกระดับตั้ง
ต้น 9 ของพวกเขาผ่านระดับ 10 มีเพียง 1 ที่ผ่านระดับ 11
“ระดับที่ 10 กับ 9 มีความแตกต่างกันมาก”
“ความยากมันจะกระโดดขึ้นทุกๆ 3 ระดับ อัจฉริยะส่วนมากอยู่ในระดับที่ 9 ยากที่ผ่านระดับที่ 10” หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ
“ผมไม่คาดว่าจะมี ระดับขอบเขตที่สามารถผ่านระดับ 10 ในเผ่าเขา
ทอง ดูเหมือนว่าพลังของพวกเขาใกล้เคียงกับสมาชิกระดับตั้งต้น”
เปฉิวมีความสามารถที่จะแข่งขันกับผู้นำ อัจฉริยะระดับขอบเขตใน
ภูมิภาคตั้งต้น
“โชคดีที่ผมไม่ต้องต่อสู้กับเปฉิว แต่เป็นเปควั้น…แต่ด้วยความแข็งแกร่งของผมในปัจจุบัน ผมไม่มีโอกาสชนะเลย”
“การเผชิญหน้ากับเปควั้นเป็นสิ่งที่อันตรายมาก”
หลัวเฟิงได้เข้าใจว่าเขากำลังเจอปัญหาแล้ว
“อัจฉริยะมนุษย์ หลัวเฟิง คุณกลัวหรือ” หนุ่มผิวดำ ได้คำรามออกมา ตาของเขากำลังเปล่งแสงมาที่หลัวเฟิง
“ฮ่า ฮ่า ผมตกลงสู้กับคุณ ไม่จำเป็นต้องเลือกเวลาและสถานที่” หลัวเฟิงตอบ
“เยี่ยม” เปควั้นปล่อยเสียงแห่งความสุข
“ เราจะออกไปในทันที เวลาคือวันนี้ สถานที่คือเวทีนอกเมือง”
“ได้” หลัวเฟิงพยักหน้า
“เปควั้น”
“เปควั้น”
“เปควั้น”
อัจฉริยะเผ่าเขาทองต่างตื่นเต้นและตะโกน ชื่อเปควั้น
ด้วยฐานะ10 อันดับแรกของอัจฉริยะระดับขอบเขต เขาย่อมคู่ควรที่จะต่อสู้กับอัจฉริยะมนุษย์
“ทุกคนใจเย็น” เปควั้น เดินไปยังเพื่อนร่วมเผ่าพันธุ์นับพัน
“ข้า เปควั้น จะเป็นผู้ชนะเพื่อเผ่าเขาทองของเรา อย่างแน่นอน”
“ชนะ”
“ชนะ”
“ชนะ”
เหล่าหนุ่มสาวตะโกนอย่างตื่นเต้น
หลัวเฟิงมองไปเงียบๆ พร้อมกับคิด “ชัยชนะครั้งนี้ผมต้องไม่ปล่อยให้มันหลุดลอยไป ผมจะต้องชนะ”
การต่อสู้ครั้งนี้ไม่ใช่เพียงแค่ของตัวเอง แต่เป็นของเผ่าพันธุ์ด้วย
ถ้าเขาแพ้ ชื่อของเปควั้นจะผ่านไปอีกมากมายหลายปี พวกเขาจะถูก
จดจำ วันที่เปควั้นได้เอาชนะมนุษย์ หลัวเฟิง มันจะตอกย้ำทำให้หลัวเฟิงขายหน้าไปตลอดไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน
“มนุษย์หลัวเฟิง เราไปที่สังเวียนนอกเมืองกัน”
“ไปเถอะ” หลัวเฟิงพยักหน้า
กลุ่มของหลัวเฟิและเปควั้น พร้อมกับกลุ่มอัจฉริยะได้มุ่งหน้าไปยังสังเวียนนอกเมือง ระหว่างทางหลายคนได้ส่งข่าวผ่านจักรวาลเสมือนให้เพื่อนๆ ทุกคน
เผ่าเขาทองที่ยอมจำนนต่อมนุษย์ ทำให้พวกเขามีสิทธิ์ที่จะใช้จักรวาลเสมือน แต่ยังถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่ ส่วนมากจะมีการติดต่อกันในเผ่าตัวเอง สิทธิ์พิเศษส่วนใหญ่ถูกจำกัด
แต่การสื่อสารพื้นฐานยังเป็นไปด้วยดี
ข่าวถูกแพร่กระจายไปราวสายฟ้า ทั่วทั้งเมืองศักดิ์สิทธิ์
“อัจฉริยะหลัวเฟิงกำลังจะต่อสู้กับอัจฉริยะเปควั้นของเรา”
“ในสนามประลองนอกเมือง”
“มันกำลังจะเริ่มแล้ว”
“ใช่แล้ว อัจฉริยะมนุษย์ คุณได้ยินถูกแล้ว มนุษย์”
ผู้ที่อยู่ในเมืองศักดิ์สิทธิ์ที่ยุ่งอยู่กับตัวเอง ก็ปล่อยทุกอย่างไปแล้วบินไปยังสนามประลองนอกเมือง ราวกับแม่น้ำ ที่ไหลออกไปทางนอกเมือง ด้วยความภาคภูมิใจในเผ่าพันธุ์ จากความไม่พอใจที่ต้องยอมจำนนต่อมนุษย์ ทำให้พวกเขารู้สึกด้อยกว่ามนุษย์
ทำให้พวกเขาปรารถนาชัยชนะ
หวังว่าอัจฉริยะของเขาต้องชนะอัจฉริยะของมนุษย์
สนามประลองนอกเมือง เป็นจุดที่พิเศษของเมืองศักดิ์สิทธิ์ การห้ามฆ่ากันในเมืองทำให้สถานที่นี้ถูกสร้างขึ้น เพื่อรับรู้การต่อสู้ที่แท้จริง
การต่อสู้ก็เป็นสิ่งที่ถูกห้ามภายในเมืองศักดิ์สิทธิ์ มีเพียงในสนาม
ประลองเท่านั้นที่ให้ต่อสู้ มันคล้ายกับพื้นที่สนามประลองของสำนัก
ขวานยักษ์
“นายท่าน ที่นั่งของสนามประลองเรามี 100 ล้านที่ แต่ทว่าวันนี้ที่นั่ง
ของเราไม่พอ”
หนุ่มผิวเทาชี้ไปในระยะไกล ส่วนหนุ่มผิวสีทองก็มองตาม
ในท้องฟ้า มันเต็มไปด้วยเงาของผู้คนเผ่าเขาทอง
เมืองศักดิ์สิทธิ์มีผู้คนกว่าสองพันล้านที่นี่ ผู้คนที่อยู่ที่นี่ทั้งหมดเป็นนักสู้ที่กำลังฝึกฝนอยู่
“ที่นั่งไม่พอ สั่งให้รีบจัดที่นั่งทั้งหมด ตามขั้นตอนพิธีฉลองของเรา”
“ครับ” หนุ่มผิวเทาตอบกลับ
พื้นที่สนามประลองได้ถูกปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว ที่นั่งที่สะดวก
สบายได้ถูกเปลี่ยนให้เหมาะกับการรับคนเข้าจำนวนมาก
“คนจำนวนมาก” หลัวเฟิงนั่งอยู่ในส่วนที่พัก มองไปยังท้องฟ้าผ่านหน้าต่าง
เขาเห็นผู้คนที่เหมือนกับเมฆสีดำ มันนานกว่า 10 นาทีแล้ว
“พวกเขามาเพื่อรอดู” ดิลลันก็มองดูเช่นกัน
“นี่มันน่าตกใจมาก มนุษย์ไม่มีทางสร้างพื้นที่ขนาดใหญ่ในโลกให้ผู้ชมเข้ามา ปกติจะจัดในจักรวาลเสมือน มันสะดวกแล้วไม่มีความสับสน”
“ใช่ จักรวาลเสมือนมีความแตกต่าง” หลัวเฟิงส่ายหัว
“ฝ่าบาท”ดิลลันมองหลัวเฟิง
หลัวเฟิงหันมา
“คุณมีหลักประกันหรือไม่”
“ไม่มี การต่อสู้ครั้งนี้ผมไม่มีตัวเลือกอื่น นอกจากต้องชนะ”
3 ชั่วโมงผ่านไป
“ฝ่าบาทหลัวเฟิง คุณสามารถเข้าไปที่เวทีได้แล้ว” ผู้อาวุโสชิฟานจีเดินเข้ามา
หลัวเฟิงลุกขึ้น
“โปรดระมัดระวังด้วย การต่อสู่ในสนามประลองนี้ ถ้าประมาทคุณจะ
ตาย”
หลัวเฟิงพยักหน้า เขาเข้าใจเรื่องนี้ มันเป็นการต่อสู้ในความจริง ไม่ใช่จักรวาลเสมือน มันเกี่ยวกับเกียรติของสองเผ่าพันธุ์
หลัวเฟิง เดินออกไปจากห้องตามทางเดิน โดนที่พนักงานของสนาม
ประลองได้นำเขา
เสียงเชียร์ดังขึ้นไปทั่วทั้งสนาม
หลัวเฟิงมองไปรอบๆ สนามประลอง เงาผู้คนเต็มไปทั่วทั้งสนามประลอง เหนือขึ้นไปก็มีอีกมากที่อยู่กลางอากาศ
“เปควั้น”
“เปควั้นต้องชนะ”
“ต้องชนะ”
เสียงรบกวนเต็มไปทั่วพื้นที่
หลัวเฟิงมองไปด้านหน้า ที่หนุ่มชุดเกราะสีเขียวผิวสีดำ เปควั้น
เขาต้องชนะ
แม้เขาตายก็ต้องชนะ