ตอนที่ 72 งูปล้องดำ 2 หัว
“งูปล้องดำ 2 หัวที่กำลังจะกลายเป็นมังกร มันต้องเป็นระดับบัญชาการขั้นสูงแน่ และเกือบจะเข้าขั้นจ่าฝูงแล้วด้วย!” เกาเฟิงแสดงสีหน้าจริงจังแล้วเอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “และเพราะมันเป็นงูปล้องดำ 2 หัวกลายพันธุ์ พิษของมันจึงทรงพลังร้ายกาจกว่าพวกงูปล้องดำทั่วๆ ไปมาก! มันมีถุงพิษที่เขี้ยวทั้ง 2 ข้าง และถุงพิษของมันยังมีมูลค่ามากกว่าถุงพิษของพวกที่ยังไม่ได้กลายพันธุ์ถึง 2 เท่า”
ก็คือ…
งูปล้องดำ 2 หัวตัวนั้นมีมูลค่ามากกว่างูธรรมดาในระดับเดียวกันถึง 4 ตัว! งูปล้องดำธรรมดาที่กำลังจะกลายเป็นมังกรมีมูลค่าอยู่ราวๆ 400 ล้าน เพราะงั้น งูปล้องดำ 2 หัวตัวนี้ตัวเดียวก็จะมีมูลค่าถึง 1,600 ล้าน! ราคานี้ใกล้เคียงกับสัตว์ประหลาดทั่วๆ ไปในระดับจ่าฝูงขั้นต่ำเลยทีเดียว
หลังจากที่เกาเฟิงพูดถึงจำนวนตัวเลข หัวใจของทุกคนก็เต้นตูมตามขึ้นมาทันที…พวกเขาฆ่าพวกระดับบัญชาการมาแล้วนับร้อยตัวในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
แต่ทั้งหมดนั่นไม่อาจเทียบกับมูลค่างูปล้องดำ 2 หัวตัวนี้ได้เลย! ชัดเจนอยู่แล้วว่า การฆ่าสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งมากขึ้น ย่อมทำเงินได้มากขึ้นอีกมหาศาลทีเดียว
“แน่นอน งูปล้องดำ 2 หัวตัวนั้นมันอันตรายมาก หากใครถูกมันโจมตีหรือถูกพิษไม่ว่าทางใดทางหนึ่ง นั่นคือตายแน่นอน!” เกาเฟิงกล่าวเสียงอึมครึม “และมันมี 2 สมอง เพราะฉะนั้น หัวทั้ง 2 ของมันสามารถโจมตีได้ทั้งคู่”
“เอาไหม?” เกาเฟิงมองดูคนอื่นๆ แล้วสุดท้ายก็หันมาที่หลัวเฟิง
ทุกคนต่างก็เงียบงันขณะที่มองมายังหลัวเฟิง
ทั้งหมดต้องการการตัดสินใจของหลัวเฟิง!
งูปล้องดำ 2 หัวจะทำเงินให้อย่างมหาศาล แต่ในขณะเดียวกัน มันก็อันตรายมากด้วย!
“ผมเอาด้วย!” หลังเฟิงขบกรามแน่น “หัวหน้า เอาไงครับ?”
ด้วยพลังจิตของเขา การหลบหลีกของเจาจะไม่ถูกจับทางได้แน่!
“หลัวเฟิง คอยสนับสนุนด้วย” เกาเฟิงขบกรามแน่น “นักสู้ยังไงก็อยู่บนความเป็นความตายอยู่แล้ว เว่ยเถี่ยส่งโล่นายมาให้ฉัน”
“นี่ครับ หัวหน้า” เว่ยเถี่ยยื่นโล่ไปให้เกาเฟิงอย่างไม่ลังเล
แล้วเกาเฟิงก็วางค้อนข้างหนึ่งของเขาลงกับพื้น เขาถือโล่ด้วยมือซ้ายและถือค้อนด้วยมือขวา เขาหัวเราะกับตัวเอง “นานเหลือเกิน ฉันแทบจะไม่เคยใช้โล่ในการต่อสู้เลย แต่งูปล้องดำ 2 หัวตัวนี้มันอันตรายเกินไป ฉันเองยังอดหวั่นใจไม่ได้เลย”
“หัวหน้า ผมจะโจมตีในระยะไกล และหัวเน้าเข้าประชิดมันนะครับ” หลัวเฟิงกล่าวเสียงต่ำ “ถ้ามีอะไรเกิดขึ้น ผมจะใช้พลังจิตไปที่โล่ไม่ก็ค้อนเพื่อช่วยในการหลบหลีกนะครับ”
“เข้าใจล่ะ” เกาเฟิงพยักหน้า
หลัวเฟิงมองไปที่อีก 3 คนที่เหลือ “ผมจะลงไปกับหัวหน้า ทุกคนอยู่ที่นี่นะครับ เอ้อนี่ พี่เฉินพี่คอยใช้ไรเฟิลคุ้มกัน…อย่าให้ทีมอื่นเข้ามาก่อกวนเรานะครับ!”
“ไม่ต้องห่วง ฉันจะคอยดูให้” เฉินกู่หัวเราะ “ถ้าอยากให้ยิงก็แจ้งมาเลยนะ”
“โอเค”
ด้วยนาฬิกาสื่อสาร สมาชิกทุกคนในทีมสามารถติดต่อกันได้อยู่แล้ว
“หัวหน้า ไปครับ” หลัวเฟิงและเกาเฟิงดิ่งลงบันไดอย่างรวดเร็ว การปะทะกับสัตว์ประหลาดในระดับนี้ เฉินกู่กับ 2 พี่น้องเว่ยไม่อาจช่วยอะไรได้มากกว่านี้แล้ว
หลัวเฟิงกับเกาเฟิงลงถึงชั้นล่างและลัดเลาะไปตามซากปรักหักพังด้วยความคุ้นเคย ทางเดินนั้นเป็นทางไปยังที่อยู่ของงูปล้องดำ 2 หัวตัวนั้น
“ตูม…!”
“ฟ่อ…” เสียงขู่ดังแสบแก้วหูดังมาจากที่ไกลออกไป
หลัวเฟิงกับเกาเฟิงต่างมองหน้ากัน แล้วนาฬิกาสื่อสารของทั้งสองคนก็สั่นขึ้นเล็กน้อย หลัวเฟิงก้มดูก็เห็นแถบตัวหนังสือปรากฏขึ้นบนหน้าจอ… “มีนักสู้ 3 คนปรากฏตัวขึ้นกะทันหันและกำลังปะทะกับงูปล้องดำ 2 หัวนั่นอย่างดุเดือด”
เกาเฟิงซึ่งได้อ่านข้อความเช่นกันก็กล่าวขึ้นแผ่วเบา “ไม่นึกว่าจะมีทีมอื่นมาเห็นมันก่อน ยังไงซะ ลองเข้าไปดูกันเถอะ”
“ไปครับ” หลัวเฟิงพยักหน้าเอาด้วย
ทั้งสองเคลื่อนที่เข้าไปใกล้และก็ถึงมุมตรงนั้นอย่างรวดเร็ว ที่มุมหนึ่ง หลัวเฟิงแอบดูนักสู้ 3 คนกำลังต่อสู้อยู่กับงูปล้องดำ 2 หัวอย่างดุเดือดห่างออกไปราวสิบกว่าเมตร นักสู้ 3 คนดูเหมือนจะมาจากทางเอเชียใต้ไม่ก็เอเชียตะวันตก เส้นผมของพวกเขาหยิกเป็นลอนๆ และผิวของพวกเขาค่อนข้างเข้ม
ชายศีรษะล้านซึ่งดูเหมือนจะเป็นผู้นำทีมถือไม้เท้าโลหะสีทองเข้มยาวราว 3 เมตร
ไม้เท้าในเมืองของเขาดูคดเคี้ยวราวกับมังกรแหวกว่าย ทุกครั้งที่หัวทรงสามเหลี่ยมของงู 2 หัวนั้นขู่ฟ่อและพุ่งโจมตีเข้ามาที่เขา ไม้เท้าอันนั้นก็ไวพอที่จะปะทะปัดป้องได้ทุกครั้งไป ถ้าไม่สามารถฟาดเข้าที่หัว ไม้เท้าอันนั้นก็พุ่งไปฟาดเข้าที่ตัวของงูตัวนั้นแทน บางครั้ง ‘จะงอย’ ของไม้เท้านั่นก็ทิ่มเอาบ้าง เป็นเหตุให้มันขู่ฟ่อออกมาอย่างเดือดดาลเป็นที่สุด!
ในขณะที่อีก 2 คนต่างก็มีโล่เหลี่ยมพร้อมกับดาบอันใหญ่อยู่ในมือ ทั้งคู่เคลื่อนเข้าไปใกล้พร้อมกับโจมตีกันเป็นทีม การประสานงานของพวกเขาดูน่าทึ่งทีเดียว
โครม!
เครื่องออกกำลังกายเก่าสนิมเขลอะที่วางอยู่เรียงรายอยู่ในบริเวณนั้นแตกหักกระจายจากการสะบัดหางของงูปล้องดำ 2 หัว และชายศีรษะล้านคนนั้นก็ล่าถอยอย่างรวดเร็ว ไม้เท้าปานลมกรดอันนั้นปัดป้องเศษโลหะต่างๆ อย่างคล่องแคล่วจนแทบมองไม่ทัน
“เทคนิคยอดเยี่ยม” เกาเฟิงกล่าวชื่นชมลอดไรฟัน “ชายหัวล้านคนนั้นอาจเป็นระดับแม่ทัพขั้นสูง และอีก 2 คนก็น่าจะอยู่ในระดับแม่ทัพขั้นกลาง”
หลัวเฟิงพยักหน้า
ชายผู้นั้นกล้าที่จะปะทะกับงูปล้องดำ 2 หัวแบบซึ่งหน้า ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่จะบอกว่าเขาแข็งแกร่งแน่ๆ
“ฟ่อ…ฟ่อ…”
งูปล้องดำ 2 หัวกำลังเกรี้ยวกราด สายตาอันเย็นชาบนหัวอันใหญ่โตของมันสามารถทำให้รู้สึกเสียวไปทั้งสันหลังได้เลย มันหดตัวพร้อมกับอ้าปากกว้างขณะที่เตรียมเข้าโจมตี ภายใต้การพุ่งเข้าโจมตีอันเกรี้ยวกราดของงูปล้องดำ 2 หัว ทั้ง 3 คนนั้นก็ล่าถอยออกไปแล้วส่งเสียงสนทนากันเอะอะ หลังจากที่ได้ยินบทสนทนาระหว่าง 3 คนนั้นหลัวเฟิงกับเกาเฟิงก็รู้ได้ทันทีว่าพวกเขาเป็น…ชาวอินเดีย!
หลังจากการต่อสู้ หัวข้างหนึ่งของงูปล้องดำตัวนั้นก็ได้รับบาดเจ็บเลือดทะลักจากฝีมือของไม้เท้าชายศีรษะล้านคนนั้น! แต่อย่างไรก็ตาม บาดแผลของมันก็ไม่ได้ร้ายแรงมากนัก
“วูบ!”
“วูบ!”
“วูบ!”
นักสู้ชาวอินเดียทั้ง 3 คนนั้นพุ่งตรงมาทางที่หลัวเฟิงและเกาเฟิงซุ่มอยู่
“ลุยเลยถ้าพวกนายสู้ได้” ชายศีรษะล้านโพล่งออกมาเป็นภาษาจีน ในตอนนั้น งูปล้องดำ 2 หัวก็ขู่ฟ่อขณะที่พุ่งเข้ามา
หลัวเฟิงกับเกาเฟิงหัวเราะอย่างเยือกเย็นและไม่พูดอะไรอีกต่อไป จากนั้นพวกเขาก็หลบไปข้างๆ อย่างรวดเร็ว พวกเขาไม่ได้โง่พอที่จะพุ่งตรงเข้าใส่งูปล้องดำ 2 หัวนั่น ชายศีรษะล้านผู้นำทีมสบถด่าพร้อมกับพุ่งไม้เท้ายาว 3 เมตรของเขาใส่งูปล้องดำ 2 หัว
“เอาล่ะ ลุย”
หลัวเฟิงคว้ามีดปาของเขาออกมาขณะที่หลบหลีกและมีดปาอันนั้นเป็นชุด 9! เขาปามันออกไปด้วยความเร็วสูง!
มีดปาพุ่งตรงเข้าไปยังหัวฝั่งซ้ายของงูยักษ์ปานสายฟ้า ในฐานะที่เกือบจะเป็นมังกรแล้ว งูปล้องดำ 2 หัวจึงฉลาดมาก มันเห็นว่ามีมนุษย์ตัวจ้อยกำลังปามีดใส่มัน ดังนั้น มันจึงโยกหัวไปมาอย่างรวดเร็ว สมองของงูทำงานเร็วมาก!
หัวข้างซ้ายของมันกลายเป็นภาพเบลอมองแทบไม่ทัน
“ความฉลาดของแกมันจะฆ่าแกเอง” หลัวเฟิงหัวเราะอย่างเยือกเย็น “เปลี่ยน!”
เขาจงใจปามีดออกไปเพื่อทำให้งูปล้องดำ 2 หัวจอมฉลาดคิดว่าเขาใช้อาวุธลับออกไปแล้ว การใช้สามัญสำนักธรรมดาเพื่อขว้างมีดออกไปนั้นไม่สามารถเปลี่ยนทิศทางมันได้ในอากาศ แต่เสียใจด้วย…หลัวเฟิงไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญอาวุธลับ แต่เขาแข็งแกร่งกว่านั้นเป็นร้อยเท่า!
เมื่อระยะห่างเหลือไม่ถึงเมตรระหว่างมีดปากับหัวของงูยักษ์ มีดก็เปลี่ยนทิศทางไปเล็กน้อย ด้วยการเปลี่ยนทิศทางไปเล็กน้อยนี้ทำให้มีดพุ่งตรงไปยังดวงตาบนหัวข้างซ้ายของงูปล้องดำทันที
“ฟ่อ…” งูปล้องดำ 2 หัวขู่ลั่นด้วยความโกรธแค้น และในขณะนั้นเอง มันก็ขยับหัวเคลื่อนไปทางซ้ายอย่างเข้าทาง!
เป็นที่รู้กันว่า มีดปาของหลัวเฟิงที่ปาออกไปนั้นมีความเร็วยิ่งกว่าเสียง เร็วยิ่งกว่าลูกกระสุนไรเฟิลด้วยซ้ำ!
ระยะห่างเพียงเมตรเดียวกับความเร็วอันยิ่งกว่าเสียง ยิ่งกว่าเศษหนึ่งส่วนพันวินาที!
และเพราะมีดปานั้นเคลื่อนที่เร็วมาก แม้แต่หลัวเฟิงก็ยังไม่แน่ใจเลยว่ามันเปลี่ยน 1 เมตร หรือ 1.5 เมตร เพราะเหตุนี้การเปลี่ยนทิศเพียงเล็กน้อยอาจหมายถึงการเปลี่ยนจากเป้าหมายเดิมเป็นถึง 10 เมตร ถึงแม้ว่าจะมีปฏิกิริยาเร็วแค่ไหน ในช่วงเวลาสั้นๆ นั้น หลัวเฟิงก็สามารถเปลี่ยนทิศทางมีดได้เพียงครั้งเดียว!
และในห้วงเวลาอันแสนสั้นนั้น ไม่เพียงแต่งูปล้องดำ 2 หัวจะมีปฏิกิริยาโต้ตอบเพียงอย่างเดียว แต่มันยังหลบได้อีกด้วย! แน่นอน เพราะห้วงเวลาอันสั้นนั้น งูปล้องดำ 2 หัวนั้นกลับหลบหลีกได้อย่างรวดเร็วเกินคาด
ฉึก!
มีดปาของหลัวเฟิงพุ่งตรงเข้าที่ปากของงูปล้องดำ 2 หัวแล้วทะลุทะลวงออกไปอีกด้านหนึ่งจนเกล็ดด้านนั้นหลุดออกไป
เคร้ง…
ทิ้งไว้แต่เพียงรอยขาวของบาดแผล และมีดปาของเขาที่กระเด็นตกไปที่พื้น
“ระบบป้องกันตัวน่ากลัวจริงๆ” หลัวเฟิงตะลึงงัน “ความสามารถในการหลบหลีกน่าทึ่งมาก มันเปลี่ยนทิศทางในเศษเสี้ยววินาที และสามารถหลบมีดปาได้ทันด้วย เจอของจริงแล้วสิเรา!”
หลัวเฟิงรู้แล้วว่าการจัดการกับงูปล้องดำ 2 หัวนี้ด้วยตัวเองเป็นเรื่องยากนัก
“ฟ่อ…” 2 หัวของมันหันมา กลับมาหาหลัวเฟิงแล้ว ที่หัวซ้ายของมันมีรอยแผลที่ปาก และเลือดสีเขียวก็เริ่มไหลนองออกมาอย่างต่อเนื่อง
“Good!”
ชายศีรษะล้านผู้มีไม้เท้าเป็นอาวุธหัวเราะออกมาอย่างเยือกเย็น ขณะที่ล่าถอย เขาก็ตะโกนออกมาเป็นภาษาจีนแบบไม่ค่อยชัด “รวมทีม แบ่งครึ่งๆ?”
เขาจ้องมาทางหลัวเฟิง
หลัวเฟิงกับเกาเฟิงมองหน้ากัน
“ก็ได้” หลัวเฟิงบอก
“โอเค!” เกาเฟิงทำท่าทางให้รู้ว่าตกลง
นักสู้จากอินเดีย 3 คน พร้อมหลัวเฟิงและเกาเฟิงทั้งหมดตัดสินใจร่วมมือกันทันที ความแข็งแกร่งของชายศีรษะล้านเป็นที่ยอมรับของหลัวเฟิงและเกาเฟิง ในขณะที่การปามีดของหลัวเฟิงได้รับการยอมรับจากทั้ง 3 คนนั้น! มีแต่ความแข็งแกร่งเท่านั้นที่จะทำให้ได้รับการยอมรับและยำเกรงจากผู้อื่น!
และขณะนี้รอบนอกของเมื่องในฝันว่านเคอก็มีทีมนักสู้ 9 คนกำลังเคลื่อนตรงเข้ามาทางนี้อย่างช้าๆ ภายในทีม 9 คนนั้นมีสมาชิกของทีมเขี้ยวพยัคฆ์รวมอยู่ด้วย
“หือ? นั่นเสียงงูนี่นา และน่าจะเป็นระดับสุดยอดซะด้วย”
ในบรรดา 9 คนนั้น ผู้เฒ่าผมสีดอกเลาโพล่งขึ้นมา