ตอนที่ 780 การเดินทาง
“มีอย่างน้อย 12 อมตะระดับผู้บัญชาการงั้นสิ” หลัวเฟิงวางแก้วไวน์ลง
“ความจริงแล้ว ผมยังเคยได้สู้กับอมตะระดับผู้บัญชาการเลย ตั้งแต่มายังพื้นที่สนามรบภายนอกนี้”
“หยาง คุณต้องระมัดระวัง มันเป็นเรื่องง่ายที่จะตาย”
ซูฟาง ได้อธิบาย “ระดับนายพลชั้นยอดเทียบกับระดับผู้บัญชาการนั้นอาจจะดูเหมือนไม่ต่างกันมาก ด้านกำลังอาจจะเพียงแค่เล็กน้อย แต่ส่วนที่ต่างกันมากคือร่างอมตะ”
“เมื่อไปถึงร่างอมตะ มันเป็นเรื่องยากที่จะเอาชนะมากกว่าเดิมเป็นหมื่นเท่า”
“ผมและโบยี มีความแข็งแกร่งใกล้กับระดับผู้บัญชาการ ถ้าเราทำลายตัวเอง สามารถทำลายอมตะระดับผู้บัญชาการได้โดยสมบูรณ์”
“ทว่าเขาสามารถที่จะฟื้นร่างกายกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิมได้ ราวกับไม่มีความเสียหายใดๆ แม้การสละตัวเองก็ไม่ทำให้ศัตรูเกิดความ
เสียหาย แล้วจะต่อสู้ได้อย่างไร”
“ถ้าเราพบอมตะระดับผู้บัญชาการมีเพียงหนึ่งคำเท่านั้น…คือหนี” ทั้ง
สองส่ายหัวและถอนหายใจ
“ด้วยร่างอมตะ แม้จะทำลายร่างนับหมื่นครั้ง ก็ไม่เกิดความเสียหาย ร่างอมตะเป็นการอยู่ยงคงกระพันอย่างแท้จริง แม้แต่อมตะก็จะกลายเป็นเพียงแค่เหยื่อ”
หลัวเฟิงขมวดคิ้ว
มีเพียงสองทางที่จะฆ่าอมตะที่มีร่างกายอมตะ หนึ่งคือทำลายวิญญาณ
ส่วนอีกหนึ่งคือใช้กำลังที่รุนแรง ทั้งสองตัวเลือกยังคงมีความต้องการ
มากที่จะทำ เหมือนกับที่หลัวเฟิงเคยทำภารกิจโดยนำทีมอมตะระดับ
จักรพรรดิไปด้วย
“เราหยุดพูดถึงมันดีกว่า หยาง” โบยี ส่งเสียงที่มีความกังวลผสมอยู่
“คุณพึ่งมาถึงเกาะหมอก ถ้าคุณยังไม่มีจุดหมายในใจ เอาเป็นว่า…คุณตามพวกเราก่อนเป็นยังไง”
“ใช่แล้ว การผสานของเราพี่น้อง สามารถใช้ต่อสู้ในทวีปหยานจิ ได้” ซูฟาง กล่าว
สองอมตะมองหลัวเฟิงอย่างคาดหวัง
“ผมคงต้องรบกวนคุณสองคนแล้ว” หลัวเฟิงยิ้ม
การอยู่ติดกับทีมนี้จะทำให้ได้โอกาสจัดการนัวเลนชาน มันเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด
และที่สำคัญที่สุดคือแผนการที่เขาต้องการอยู่ในทวีปหยานจิ เป็นเวลานาน การสำรวจพื้นที่อันตรายจะเป็นโอกาสให้ได้รับประสบการณ์ที่ดี และจะได้รวบรวมข้อมูลสำหรับสถานที่นี้ด้วย
หลังจากยานอวกาศบินได้ราว 1 วัน ก็ได้เข้ามายังเทือกเขาที่ปกคลุมด้วยหมอก มันเป็นเหตุผลหนึ่งที่ถูกเรียกว่าเกาะหมอก เพราะ 1 ใน 3 ของเกาะได้ถูกปกคลุมด้วยหมอก
“เรากลับมาแล้ว”
“ฮ่า ฮ่า เรารอดแล้ว”
“เรามาถึงที่นี่ได้โดยที่ไม่เจอปัญหา มันคงต้องขอบคุณนักสู้ระดับห้วงมิติลึกลับคนนั้น”
นัวเลนชานเดินตามทหารคนอื่นไปตามทางเดินที่เข้าไปยังค่ายที่อยู่ในเทือกเขา ภายในได้ถูกขุดเพื่อสร้างเป็นฐานทัพขนาดใหญ่
“การที่หลัวเฟิงเข้ารวมกองทัพมา ดูเหมือนเขาต้องการฆ่าข้าแน่ๆ” นัวเลนชานมอง 3 เงาที่เดินอยู่ห่างออกไป
“แค่อยู่ในกองทัพ แกจะทำอะไรได้ ถ้าฆ่าข้าก็จะมีความผิดร้ายแรง และต้องจ่ายผลที่ตามมาแน่”
———-
“หยาง คุณสามารถพักอยู่ที่นี่ เราจะให้รายละเอียดเกี่ยวกับเกาะหมอก เมื่อเรากลับมาและสิ่งที่เราเข้าใจเกี่ยวกับสถานที่นี้เราจะบอกกับคุณ เราจะพักกันอยู่ที่นี่ 15 วันก่อนที่เราจะออกเดินทางอีกครั้ง”
ซูฟาง และโบยี ได้มาส่งหลัวเฟิงในสถานที่เงียบสงบ
หลังจากนั้นหลัวเฟิงได้รับข้อมูลจากเครือข่ายจักรวาลเสมือน
มีข้อมูลน้อยมากของทวีปหลัก แต่มีข้อมูลจำนวนมากของเกาะหมอก
“รายละเอียดข้อมูลของอมตะระดับผู้บัญชาการทั้ง 12 ในเกาะหมอก”
หลัวเฟิงกำลังนั่งมองข้อมูลทั้งภาพและรายละเอียดที่แสดงออกมา
“เผ่ามารชื่อเล่นว่า กรงล้องู”
“เผ่าแมลงชื่อเล่นว่า ศิลา”
“พันธมิตรเผ่าหุ่นยนต์ชื่อเล่นว่า ดาบประกายแสง”
“ชื่อเล่นว่า หมอกดำ”
“ชื่อเล่นว่า ฝันร้าย”
หลัวเฟิงมองข้อมูลของอมตะระดับผู้บัญชาการ แบ่งออกเป็น
เผ่ามาร 3 เผ่า
หุ่นยนต์ 2 เผ่า
แมลง 4 เผ่า
และมนุษย์ 3 มีพันธมิตรจำนวนมากใน 4 เผ่าพันธุ์ชั้นยอด
———-
ผ่านไป 15 วัน ซูฟาง และโบยี ได้นำกองทัพเข้าไปในยานอวกาศ เพื่อออกไปหาเป้าหมาย เวลานี้เขามีความมั่นใจเพราะมี หลัวเฟิงอยู่บนยานด้วย
หลัวเฟิง ซูฟาง และโบยี ยืนอยู่ภายในห้องควบคุม
“เราค้นพบเป้าหมายแล้ว” ซูฟาง เปิดภาพขึ้นมา เป็นสิ่งมีชีวิตที่เต็มไปด้วยเกล็ดจำนวนมาก จากภาพรวมจะต้องมีไม่ต่ำกว่า 1 หมื่น จากการตรวจสอบอุปกรณ์สแกน พวกเขามี 2 อมตะ ทั้งสองไม่ได้อยู่ในข้อมูลของ 12 อมตะระดับผู้บัญชาการ ทั้งสองควรจะเป็นระดับนายพล
“เราควรจะโจมตีพวกเขาไหม” ซูฟาง มองไปยังหลัวเฟิงและโบยี
“ใช่” โบยี กัดฟัน
“หยาง?” ซูฟาง มองหลัวเฟิง
“ผมมาที่นี่เพื่อรับคะแนน ลงมือเลย” หลัวเฟิงยิ้ม
“ไปกัน”
ซูฟาง ได้ออกคำสั่งไปยัง 3 ห้องพัก
“ฟังให้ดี การต่อสู้จะเริ่มขึ้นใน 4 นาที เป้าหมายของเราเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่าขยะแขยงเผ่าคิวซิ”
———-
นัวเลนชานมองไปยังภาพสิ่งมีชีวิตรูปแบบเกล็ด “สิ่งมีชีวิตที่น่าเกลียดพวกนี้ให้คะแนนดีมาก”
“ครับ กัปตัน”
“รับทราบ”
ระดับขอบเขต และ ระดับจักรวาลได้แสดงความตื่นเต้น
“หลัวเฟิง ดูสิว่าจะทำอะไรข้าที่อยู่ในกองทัพได้ ในขณะที่ข้าได้เก็บคะแนนเพิ่มขึ้น” นัวเลนชานคิด
ทหารในกองทัพกว่า 2 หมื่นได้บินออกมาจากยานอวกาศ นัวเลนชานอยู่ในหมู่พวกเขาด้วย
เกิดเสียงระเบิดขึ้น สร้างระลอกคลื่นที่น่ากลัว ได้ทำให้อวกาศ
รอบๆ เกิดการฉีกขาด
“การต่อสู้เริ่มแล้ว”
นัวเลนชานเหลือบมองไปยังมนุษย์ 3 คนที่อยู่ด้านบน หนึ่งปกคลุมด้วยไฟ อีกหนึ่งปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และอีกหนึ่งมีออร่าของนกขนาดใหญ่
พวกเขาต่อสู้กับสองอมตะที่ทรงพลังที่ใช้หมัดตัดผ่านอวกาศ และอีก
หนึ่งใช้ 9 ดาบ
“ตาย” ทหารมนุษย์ทุกคนได้เข้าต่อสู้กับศัตรูกว่า 1 หมื่น
“ได้เวลาเก็บแต้มแล้ว” ตาของนัวเลนชานเต็มไปด้วยความตื่นเต้น นักสู้ระดับขอบเขตขั้น 9 ทั้งสอง ได้เข้ามาหานัวเลนชาน
“หาที่ตาย” นัวเลนชานได้แสดงโลกภายในออกมากดดันอีกฝ่าย
แสงกระจายออกมา 8 ทิศทาง
สองนักสู้เผ่าคิวซิ ถูกหั่นเป็นชิ้นๆ ทำให้ระดับห้วงมิติขั้น 9 คำรามและพุ่งเข้าหานัวเลนชาน ทำให้นัวเลนชานหลบหนี
“น้อง 5 ระวัง”
“หลบไป ปล่อยเจ้านี่ให้เรา”
ด้วยความสัมพันธ์ที่นานปี ทำให้นักสู้จุดสูงสุดระดับห้วงมิติเข้ามาช่วยเป็นสิ่งที่ทำให้นัวเลนชานมีความสุข แม้ว่าจะเป็นอิสระจากกองทัพแล้ว เขาก็ไม่คิดจะออกไปสำรวจคนเดียวเพราะกองทัพจะคอยออกมาช่วยเหลือเขา
ระดับห้วงมิติขั้น 3 ยังคงต้องการความช่วยเหลือ และมันยังต้องใช้
เวลานานมากที่จะเข้าถึงระดับห้วงมิติขั้น 9
“ตาย” เขาเริ่มต้นฆ่าระดับขอบเขตขั้น 9 อีกครั้ง เขาสนุกกับสถานการณ์เป็นตาย เหมือนกับปลาได้น้ำ
นัวเลนชานได้ฆ่าอย่างตื่นเต้น
“หลัวเฟิงไม่ได้เอาพืชระดับอมตะออกมา”
หลัวเฟิงได้ต่อสู้กับหนึ่งในอมตะ แม้ว่าศัตรูจะบาดเจ็บรุนแรงแต่ก็ยังจัดการขั้นเด็ดขาดไม่ได้
“ถ้าเขาเอาพืชอมตะออกมามันจะชนะแน่นอน แต่ถ้าไม่เอาออกมา..มันคงจะยากกว่ามาก”
นัวเลนชานหันกลับไปสังหารหมู่ต่อ โดยตรงเข้าหานักสู้ที่อ่อนแอ ทำ
ให้ระดับห้วงมิติของศัตรูเข้ามาหาด้วยความโกรธแค้น
ขณะนั้นได้เกิดการระเบิดขึ้น
แสงวาบจากดาบได้ตัดผ่านพื้นที่ที่นัวเลนชานอยู่
มันได้ตัดผ่านร่างของนัวเลนชาน ทำให้ร่างของเขาระเบิดเป็นชิ้นๆ
ก่อนที่จะตายเขาเปิดตากว้างด้วยความโกรธจากภายใน
“หลัวเฟิง!!!”
การฟันนี้ได้ผ่านนักสู้ตัวเล็กๆ ของศัตรูที่อยู่รอบๆ นัวเลนชาน ตายตามไปด้วย
หลัวเฟิงที่กำลังติดพันกับอมตะศัตรูที่ใช้ 9 ดาบ ได้คอยสังเกตด้วยหางตา
หลัวเฟิงได้พ่นลมออกทางจมูกอย่างเย็นชาและทำการต่อสู้ต่อ
“ผมไม่เชื่อว่า ถ้าไม่ใช้พืชระดับอมตะจะฆ่าเขาไม่ได้” หลัวเฟิงหัวเราะ