ตอนที่ 865 กำลังเข้าหอคอย

หอคอยที่แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลยังไม่อาจควบคุมมันได้ มันถือเป็น

หอคอยระดับตำนาน ทว่าตอนนี้ มันกำลังส่งการเรียกที่ทรงพลังมายังหลัวเฟิง

“จะสามารถได้รับหอคอยหรือไม่”

“จะได้เป็นเจ้าของหอคอยนี้ไหม?” หลัวเฟิงไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เกิด

แต่การเรียกนี้มันชัดเจนมากว่ามาจากหอคอย

“หลัวเฟิง หลัวเฟิง” บาบาต้าในรูปร่างหุ่นยนต์เด็กตะโกนอยู่ด้านข้างหลัวเฟิง

“ทำไมถึงหยุด”

“ไม่มีอะไร” หลัวเฟิงได้หายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบลง

มันเป็นช่วงเวลาที่สำคัญ ที่ต้องรักษาความสงบไม่ให้ใครมายุ่งเขากับ

“หอคอยดวงดาวอยู่ที่นี่มาแล้วนับล้านๆ ปี แม้แต่เจ้าแห่งจักรวาลก็

จัดการไม่ได้ มันเป็นเหมือนตำนาน”

“อาจารย์ได้มอบปีกซืออวู๋ ให้ข้า แต่ท่านไม่สามารถให้บางสิ่งแบบนี้

กับข้าได้ สิ่งนี้มันจะต้องแข็งแกร่งยิ่งกว่าปีกซืออวู๋”

“ถ้าสมบัตินี้ตกมาอยู่ในมือของข้า…มันเป็นความคิดที่บ้าเกินไปไหม?”

“สิ่งที่ทำให้เผ่าพันธุ์ชั้นยอดต้องต่อสู้กัน ตอนที่ถูกพบ เจ้าแห่งจักรวาลก็จะรีบมา แม้ว่าพวกเขาจะควบคุมมันด้วยตัวเองไม่ได้ แต่ก็ยังสามารถควบคุมมันผ่านการทำให้ข้ากลายเป็นทาสได้”

ความแข็งแกร่งและสมบัติเป็นสิ่งที่พึ่งพากัน

ปราศจากความแข็งแกร่งก็ย่อมไม่มีสิทธิ์ที่จะครอบครองสมบัติเช่นนี้

ปีกซืออวู๋ที่ผู้นำเมืองให้เขามานั้นไม่มีใครรู้ความสามารถของมัน ผู้นำ

เมืองจึงกล้าที่จะให้เขา

หอคอยดวงดาว…มันมีชื่อเสียงที่ยิ่งใหญ่มาก

ท่ามกลางเผ่าพันธุ์นับล้านล้านในจักรวาล จะมีใครบ้างที่ไม่รู้จักหอคอยดวงดาว?

หากหลัวเฟิงมีความแข็งแกร่งไม่พอที่จะใช้มัน ย่อมเป็นภัยกับตัว

การได้รับมันทำให้เขาต้องเลือกเพียงอย่างเดียว คือต้องซ่อนมันไว้

จนกว่าจะแข็งแกร่งกว่าเดิม จนถึงขั้นที่ไม่ต้องกลัวเจ้าแห่งจักรวาลจึง

สามารถใช้มันได้อย่างเปิดเผย

“ข้ากำลังคิดมากเกินไป เราควรลองพิสูจน์ดูก่อนว่าหอคอยนี้จะมีความเกี่ยวข้องกับคู่มือไร้ชื่อหรือไม่”

หลัวเฟิงกำลังนั่งอยู่บนยานดาวเคราะห์ยุนโม และมุ่งหน้าไปยังหอคอย

หอคอยที่ดูเหมือนจะอยู่ใกล้แต่กลับอยู่ไกล

ยานอวกาศที่บินด้วยความเร็วแสงใช้เวลา 10 วัน จึงเข้าถึงหอคอยที่แบ่งครึ่งจักรวาลในช่วงระยะที่มองเห็น

แม้ว่าเขาจะสามารถใช้ศรคลั่งเทเลพอตไปได้ แต่หลัวเฟิงกำลังมีความคิดที่ยุ่งเหยิงจากการเรียกอยู่ในใจ เขาจึงบินไปด้วยตัวเองบินเป็นเวลา 10 วัน เพื่อสงบจิตใจ

หอคอยดวงดาวมีวังวนกลุ่มก๊าซอยู่รอบๆ มัน แต่ฐานล่างกลับไม่มีอยู่

เลย ทางเข้าที่ชั้นต่ำสุดชั้น 1 นั้นมี 9 ทางเข้า แล้วก็มีนักสู้ระดับ

จักรพรรดิกับผู้บัญชาการจำนวนมากอยู่รอบๆ พวกเขามาเพื่อเสี่ยงโชคของพวกเขา

“เรามาถึงแล้ว”

ลำแสงสีเงินหยุดตัวลงหน้าทางเข้า

หลัวเฟิงในปีกสีเงินและเกราะสีเงินมาถึงทางเข้าที่มองไม่เห็นยอดด้านบน

“มาดูว่ามันจะยอมรับข้าเป็นเจ้านายไหม”

หลัวเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึกๆ ด้วยความกังวล เขากำลังสงบ แต่เซลล์ภายในกำลังเผาไหม้อย่างตื่นเต้น

หลัวเฟิง ได้ใช้มือสัมผัสกับประตูทางเข้าสีดำ ที่เย็นเหมือนน้ำแข็ง และสูงนับล้านกิโลเมตร เขาเต็มไปด้วยความคาดหวังจากการสัมผัสมัน

เมื่อครั้งเกราะทหาร เกราะนายพล มันได้เข้ามาในร่างกายทันที แล้ว

ควบคุมได้ง่ายดาย

หลัวเฟิง ขมวดคิ้ว เนื่องด้วยไม่มีปฏิกิริยาใดๆ จากประตูเลย

“ยอมรับข้า” หลัวเฟิงส่งพลังงานวิญญาณไปยังหอคอย

มันเหมือนกับหยดน้ำ ที่ตกลงไปในมหาสมุทร แล้วก็ถูกกลืนหายไป

ในทันที หอคอยยังคงไร้ปฏิกิริยากับหลัวเฟิง

หลัวเฟิงได้พยายามใช้เลือด และเปลี่ยนตำแหน่งไปทางประตูอื่น…ลองทำทุกอย่างที่น่าจะเป็นไปได้

แต่มันกลับล้มเหลว แล้วก็ล้มเหลวอย่างต่อเนื่อง

“เกิดอะไรขึ้น”

“ทำไมไม่มีปฏิกิริยาตอบสนอง? ทำไมถึงควบคุมไม่ได้? มันน่าจะมี

ปฏิกิริยาบ้าง”

“ข้ารู้สึกถึงการเรียกของหอคอยที่รุนแรง แต่ไม่ว่าจะพยายามยังไงก็ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ”

มีเงาโผล่มาจากด้านหลังหลัวเฟิง แล้วเข้ามาใกล้ด้านข้างเขา

“จักรพรรดิดาบสายน้ำ?” มีเสียงดังขึ้น

หลัวเฟิงหันไปมองที่มาของเสียง นักสู้เผ่าพันธุ์อื่นที่มี 3 เขาโค้งและเขี้ยว ด้านหลังมีหางกิ้งก่า มี 4 ขาและ 2 แขน หลัวเฟิงได้ตอบกลับไปด้วยรอยยิ้ม

“จักรพรรดิอีแร้ง”

อีแร้ง นั้นมีชื่อเสียงในหมู่จักรพรรดิชั้นยอดของฐานที่ 24 เป็นเรื่องที่

หลัวเฟิง รับรู้มาจากการพูดคุยทั่วๆ ไป

“ฮ่า ฮ่า อะไรจะบังเอิญเช่นนี้” อีแร้ง ยิ้ม

เขาดูดุร้ายมาก และเขาเป็นนักรบจากเผ่าพันธุ์อื่น ทว่าเขากำลังยิ้มอย่างมีความสุขและดูเป็นมิตร

“ข้าเคยได้ยินเรื่องราวของเจ้ามา และกำลังอยากพบเจ้าอยู่เสมอ มันเป็นเรื่องบังเอิญจริงๆ ที่ได้พบเจ้าที่หอคอยนี้ ก่อนหน้านี้เจ้ากำลังพยายามเป็นเจ้าของมันใช่หรือไหม”

หลัวเฟิงตะลึง

“ขอเวลาสักครู่ ข้าอยากจะลองด้วย” อีแร้ง ได้เดินมาด้านข้าง และ

พยายามลองทั้งเลือดและจิตวิญญาณกับหอคอย

หลังจากนั้น เขาก็หันมาพร้อมกับส่ายหัว

“ชิ ดูเหมือนข้าไม่มีโชค นักสู้ที่มาครั้งแรกทุกคนจะต้องลอง แต่ก็ไม่

เคยมีใครสักคนที่ประสบความสำเร็จ”

หลัวเฟิงยิ้มและพยักหน้า “ข้าก็ล้มเหลวเช่นกัน”

“จักรพรรดิดาบสายน้ำ เราสำรวจหอคอยนี้ด้วยกัน เป็นอย่างไร?”

“มันมีอันตรายมากมายอยู่ภายในหอคอย ตัวหอคอยก็เป็นอันตราย

เช่นกัน ด้วยจักรพรรดินับแสนได้ทำให้การต่อสู้ ยิ่งน่ากลัว”

คำเชิญขึ้นอยู่กับความแข็งแกร่ง อีแร้ง ยังไม่ได้เชิญใครเมื่อเขามาถึง

แล้วชื่อเสียงของจักรพรรดิดาบสายน้ำ ก็ยอดเยี่ยม เป็นธรรมดาที่ต้องการอยู่ข้างเขา

“ไม่ล่ะ ขอบคุณ” หลัวเฟิงยิ้มพร้อมปฏิเสธ

อีแร้ง ไม่ได้ดึงดันต่อ พวกเขาต่างเผ่าพันธุ์กัน รวมทั้งความคิดและ

ความลับอื่นๆ ย่อมเป็นธรรมดาที่จะไม่ถามต่อ เขายิ้มและตอบกลับ

“งั้นข้าขอตัวเข้าไปก่อน” หลังจากนั้นเขาก็หายตัวเข้าไปในหอคอย

หลัวเฟิงรอสักพักก่อนที่ก้าวเข้าไปด้านใน หลังจากการยืนยันว่าหอคอยมีการเชื่อมโยงที่พิเศษกับเขา

หลัวเฟิงได้มุ่งหน้าเข้าไปเพียงลำพัง…เขามีทาสของเขา จึงไม่มีความจำเป็นที่จะให้จักรพรรดิชั้นยอดไปกับเขา

หลัวเฟิงได้เดินเข้าไปในหอคอยอันกว้างใหญ่ ในทุกก้าวมีระยะทางหมื่นกิโลเมตร ทุกก้าวที่เขาผ่านได้ทิ้งภาพเบลอ และเสียงที่ก้องอยู่ภายในหอคอย

หลัวเฟิงได้ตรวจสอบหอคอยเล็กน้อยก่อนที่จะคุยกับศรคลั่งครู่หนึ่ง เขาจึงเข้าใจเกี่ยวกับโครงสร้างภายใน

หอคอยดวงดาวมันคือตึกระฟ้าขนาดใหญ่ที่มีห้องจำนวนมากมาย

ภายใน ทุกๆ ห้องคือพื้นที่หวงห้าม และทุกห้องมีพื้นที่หวงห้าม

นอกจากนี้…พื้นที่หวงห้ามจะมีการเปลี่ยนแปลงกันเป็นบางครั้ง

หลัวเฟิงอยู่ในส่วนหนึ่งของพื้นที่หวงห้าม เส้นทางเดินก่อนหน้านี้ได้ถูกผนึกและหายไปจากด้านหลังของเขา มันได้เปลี่ยนเป็นพื้นทะเลทรายอันไร้สิ้นสุด ที่ขอบมันมีบาเรียที่มองไม่เห็นคอยหยุดไม่ให้ใครเข้าใกล้

“อุปกรณ์สแกน ฉายภาพโลก การสแกนด้วยพลังงานจิตวิญญาณ

สามารถที่จะใช้งานได้แค่ภายในพื้นที่หวงห้าม โดยที่ไม่สามารถที่จะ

ส่งออกไปนอกพื้นที่อื่น การเทเลพอตก็ใช้ได้เพียงแค่ภายในเช่นกัน”

ใช้การเทเลพอตผ่านจักรวรรดิเทพสามารถที่จะนาเขาออกไปได้ แต่เขาต้องการหาทางผ่านระหว่าง 2 พื้นที่

“หอคอยดวงดาวที่สูง 9 ปีแสง มันจะต้องมีช่องระหว่างพื้นที่หวงห้าม

นับไม่ถ้วน” หลัวเฟิง มองดูรอบๆ พื้นที่

ทะเลทรายเกิดการสั่นไหวไปทั่ว

หลัวเฟิงตกใจหันไปมอง ทรายทั้งหมดได้สั่นอย่างรุนแรง วัตถุขนาดใหญ่เหมือนจะปีนออกมาจากทราย

“ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้จากศรคลั่งเลย” หลัวเฟิงเรียกศรคลั่งออกมา

ศรคลั่งปรากฎออกมาพร้อมกับพูดอย่างนอบน้อม “นายท่าน”

หลังจากที่เห็นการสั่นไหวของทรายเขาก็แสดงท่าทีเปลี่ยนไป

“การสั่นสะเทือนนี้? นายท่าน หอคอยดวงดาวนี้เต็มไปด้วยอันตราย

และทุกๆ พื้นที่หวงห้ามจะมีอันตรายอยู่ และอันตรายอยู่หลายระดับ”

“สิ่งที่อันตรายที่สุดของหอคอย เป็นนักสู้จำนวนมากที่ฆ่ากัน ทว่า

อันตรายจากห้องก็เป็นสิ่งที่น่ากลัว ยิ่งเกิดความไม่สงบมากจะยิ่ง

อันตรายมาก”

“นายท่าน คุณได้เข้ามาถึงไหน? ทำไมพื้นที่หวงห้ามถึงสั่นสะเทือน

อย่างรุนแรงเช่นนี้?”

“นี่เป็นห้องแรกที่ข้าเข้ามา” หลัวเฟิงมองไปที่ทราย

ทรายกระจายขึ้น ราวกับสัตว์ร้ายที่คุ้มคลั่งจากการปลุกให้ตื่น เม็ดทรายได้กระจายออกมาจนทำให้เห็นเกราะสีแดงทั้งตัวที่อยู่ด้านใน ร่างกายที่ยาวกว่า 1 พันกิโลเมตร กับคมมีดมากกว่า 1 หมื่น ตะขาบที่เหมือนกับโลหะ ดวงตาหยกที่เต็มไปด้วยความตั้งใจฆ่าได้มองมายังหลัวเฟิง

“นี่คือผู้คุ้มกันต้องห้าม เกรด 1 พันกิโลเมตร” ตาของศรคลั่งเปิดกว้าง ก่อนที่จะหันไปหาหลัวเฟิง

“นายท่าน ท่านสามารถดึงดูด ผู้คุ้มกันเกรด 1 พันกิโลเมตรได้ในห้อง

แรก? ข้าเคยมาที่นี่มานานกว่าหมื่นปี ได้ผ่านห้องต่างๆ มามาก ผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งที่สุดที่เคยได้พบเพียงแค่เกรด 100 กิโลเมตร”

หลัวเฟิงขมวดคิ้ว “ข้ารู้สึกถึงการเรียกที่รุนแรงมาจากหอคอย แต่ก็ไม่อาจเป็นเจ้านายมัน และไม่มีปฏิกิริยาพิเศษใดๆ จากมัน”

“แต่การเข้ามายังห้องแรก ผู้คุ้มกันที่แข็งแกร่งก็ปรากฎตัว…อย่างน้อยยังดีกว่าที่ไม่มีปฏิกิริยาใดๆ”

หลัวเฟิงและศรคลั่งก็เหมือนกับมดตัวเล็กเมื่ออยู่ต่อหน้าของผู้คุ้มกัน

ต้องห้าม