Skip to content

Tales of Herding Gods 154

ตอนที่ 154 บดขยี้จิตวิญญาณฮึกหาญ

“ฆ่ามัน!”

หมอผีหญิงที่มีศีรษะและหางของเสือดาวตะโกนอย่างหนักหน่วง พร้อมกับยกกระจกทองแดงขึ้นมาฉายเงาสะท้อนของฉินมู่ ในกระจกมีวิญญาณท่าทางดุร้าย

ติง

ทันใดนั้นพลันมีกระบี่บินจํานวนมากแทงใส่ผิวกระจก ทว่ากระจกทองแดงนี้แข็งแรงอย่างเหลือเชื่อ สามารถป้องกันกระบี่บินเหล่านั้นได้ แต่ในพริบตาถัดมากระบี่บินเหล่านั้นก็วกเวียนเปลี่ยนทิศ กลายเป็นท่วงท่ากระบี่เจาะ ทะลวงทะลุผิวกระจกทองแดงไปโดยตรง แสงกระบี่ทะลุไปข้างหลังคันฉ่อง ทิ่มแทงใส่หมอผีหญิงที่อยู่ข้างหลังผู้นั้น

“ยาพิษหมอผีมีอะไรต้องกลัว” ฉินมู่เสื้อผ้าสะบัดไหวดังแฟลบๆ ยกมือหนึ่งขึ้นเรียกกระบี่บินกลับ

หมอผีฝึกหัดอีกคนที่ทั่วร่างมีขนเสืองอกออกมามีกรงเล็บและหางเสือ กู่ร้องคํารามขยํ้าเข้าใส่เขา สร้างแรงลมกระหึ่ม เข้าใกล้เขาอย่างรวดเร็วไม่ปล่อยโอกาสให้เขาใช้กระบี่

ฉินมู่ซัดหมัดออกไปข้างตัว ท่าเท้าของทั้งคู่พลันสลับวกเวียนไปมา เสียงหมัดรัวปังๆๆ ไม่หยุดหย่อนและหมอผีผู้นั้นก็โงนเงนหัวไปมา งอกเงยศีรษะพยัคฆ์ขึ้น ศีรษะพยัคฆ์ใหญ่คํารามร้องอย่างเกรี้ยวกราด และโจมตีวิญญาณเขาด้วยเสียงพยัคฆ์คําราม

ฉินมู่ใช้หมัดเป็นผนึกมือ ซัดแสงตะวันเผาวิญญาณหยางออกไป นิ้วทั้ง 5 พลันแบคลายออกจากหมัดทําท่ามุทรามารมหาอิสระ หมัดของเขาแปรเปลี่ยนไปมาอย่างรวดเร็ว สลับไปมาระหว่างวิชาพุทธและวิชามาร เสียงพยัคฆ์ทันได้คํารามแค่ 3 ครั้ง วิญญาณของหมอผีหัวเสือผู้นั้นก็ถูกวิชาฉินมู่ทําลายล้างแผดเผาจนแตกสลาย และร่างเนื้อก็ร่วงลงไปกับพื้นทันที

ตามมาด้วยหมอผีขั้นหกทิศก็ทะยานออกมาต่อสู้ วรยุทธ์ของเขานั้นเหนือลํ้ากว่าหมอผีฝึกหัดคนก่อนๆ หน้า วิชาเทวะของเขาใช้คล่องไหลลื่น ให้สามารถรักษารูปลักษณ์ของมนุษย์ปกติได้

แม้ว่าเขาจะผนึกสมบัติเทวะอื่นๆ แต่วิชาฝึกปรือของเขาก็กระตุ้นร่างกาย แปลงร่างเป็นกอริล่าดุร้ายในทันใด มือของเขาถือจับตะบองทองคําอันหนาใหญ่เท่าท่อนเสา แล้วจับมันฟาดใส่อย่างรุนแรง ด้วยพละกําลังอันอาจกวาดล้างกองพันทหารให้ปลิวกระเด็นไปได้ทั้งกองพัน

ฉินมู่เอื้อมมือชักไม้เท้าไผ่ออกมา และเหวี่ยงซัดปะทะเข้ากับตะบองทอง ทั้งคู่แลกเปลี่ยนกระบวนท่ากันไปมาด้วยความเร็วดุจสายฟ้า ทําให้ทุกๆ ที่เต็มไปด้วยเงาแสงทอง และในเสี้ยววินาทีถัดมา เงาแสงทองที่เกลื่อนทั้งบริเวณก็หายวับไปในทันใด เผยให้เห็นหน้าอกของหมอผีผู้นี้ถูกกระแทกแทงด้วยไม้เท้าไผ่ เขาแสดงสีหน้าแตกตื่น

แต่ว่าถึงอย่างไรเขาก็เป็นหมอผีขั้นหกทิศ ไม่ใช่หมอผีฝึกหัดธรรมดา เขารีบคลายผนึกสมบัติเทวะหกทิศในพริบตานั้นแต่ในจังหวะที่สมบัติเทวะของเขาถูกคลายผนึกนั่นเอง หัวใจของเขาก็ถูกหอกไม้ไผ่แทงทะลุ ร่างไร้วิญญาณของเขาร่วงลงไปกองกับพื้น

ฉินมู่ดึงไม้เท้าไผ่ของตนกลับมา หมอผีขั้นหกทิศนั้นในสันตินิรันดร์เรียกว่าผู้ฝึกวิชาเทวะ ชื่ออาจจะแตกต่างแต่โดยเนื้อแท้แล้วไม่มีอะไรต่างกัน

หากว่าผู้ฝึกวิชาเทวะนี้ไม่ได้ผนึกสมบัติเทวะหกทิศไว้แต่แรก คงเป็นการยากที่ฉินมู่จะสังหารเขา แต่ตราบเท่าที่ลดขั้นวรยุทธ์มา สู้ในขั้นเดียวกันกับฉินมู่ ฉินมู่ก็ย่อมสามารถสังหารศัตรูได้ ไม่ว่าขั้นวรยุทธ์ก่อนผนึกของคนผู้นั้นจะเป็นหกทิศหรือเจ็ดดาวก็ตาม

ตึง

มนุษย์ทองจอมพลังคนหนึ่งกระโดดขึ้นมาบนแท่นทองคํา เมื่อร่างเขาร่วงลงพื้นข้างหลังเขาก็เผยฝักมีดอ้าปากใส่ฉินมู่ทันควัน ในฝักมีดหลังของเขามีประกายแสงมีดพุ่งวาบออกมาเจิดจ้าเต็มฟ้า ฟาดฟันฉินมู่

และในเวลาเดียวกันนั้นมนุษย์ร่างทองจอมพลังก็ถือมีดคู่ใน 2 มือร่ายรํา 2 มีดเฉือนฟันใส่ฉินมู่พร้อมๆ กัน 2 มีดมาข้างหน้า และ 2 มีดมาข้างหลังดูราวกับงูยักษ์ที่เลื้อยพันอย่างน่ากลัว ม้วนฉกเข้าใส่ฉินมู่อย่างรวดเร็ว

ฉินมู่ถือมีดเชือดหมูในมือ กระบี่จากกล่องกระบี่ข้างหลังโบยบินออกมาต้านมีดบีนเหนือศีรษะ และมีดเชือดหมูในมือเขาก็ร่ายรํากระบวนท่า

ทุกเมฆเคลื่อนมีริ้วแสงประกายเงิน!

ร่างของทั้งคู่หนึ่งเล็กหนึ่งใหญ่ มนุษย์ทองจอมพลังนั้นสูงใหญ่กว่าฉินมู่ครึ่งตัว ทั้งคู่ปะทะกันในพริบตา 2 ประกายมีดเฉือนฟันขนานพื้นเหวี่ยงซัดไปราวกับจะผ่าภูเขาเบิกท้องฟ้าให้เห็นริ้วแสงเงินหลังเมฆ แสงมีดแดงฉานพวยพุ่งขึ้นสู่ฟ้ากรีดแยกระหว่างฟ้าและผืนดินเป็นระยะหลายลี้ มนุษย์ร่างทองจอมพลังผู้นั้นร่างแยกออกเป็น 4 เสี่ยง ถูกแสงมีดขวางนี้เฉือนคร่าชีวิตไปโดยมิอาจต้าน

ฉินมู่เขย่ามีด ไล่โลหิตที่ติดใบของมันออกมา 2 มีดเสียบกลับเข้าฝัก นิ้วหนึ่งยกขึ้นชี้ไปข้างหลังตนเอง เสียงติงราวระฆังดังขึ้นเมื่อกระบี่หลุดออกจากฝัก พุ่งเข้าไปทะลุหน้าผากของหมอผีฝึกหัดอีกคนที่ยิงธนูปราณชีวิตใส่เขา

“พวกเราฆ่ามัน ล้างแค้นให้กับศิษย์พี่ศิษย์น้อง!” หมอผีฝึกหัดโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่องไม่หยุดยั้ง ฉินมู่สลับเท้าวกวนสะบัดเตะไปข้างหลัง หมอผีฝึกหัดที่กรูเข้ามาไม่ว่าจะโดนลูกเตะ หมัด กระบี่ มีด ของเขา ล้วนแต่ตกตายในพริบตา

ผ่านไปครู่หนึ่ง รอบบริเวณพลันเงียบสงัดไร้สรรพสําเนียง ข้างหน้าวังทองโหรวหลันบนบันไดทองนั้นนั้นเกลื่อนกลาดไปด้วยซากศพมากกว่า 40 ซากร่าง

ฉินมู่มองลงมาจากแท่น ที่ใต้แท่นนั้นเต็มไปด้วยสีหน้าแตกตื่นหวาดผวา แม้ว่าจะไม่ถึงกับถอยกรูดๆ ห่างไป แต่ก็ไม่มีใครกล้าเงยหน้าขึ้นสบตาเขา

หมอผีฝึกหัดเหล่านั้นเคยมีจิตวิญญาณฮึกหาญอันแข็งแกร่ง แต่บัดนี้พวกเขาถูกฉินมู่บดขยี้ไม่เป็นชิ้นดีหลังจากที่เห็นเพื่อนร่วมสํานักตกตายเป็นใบไม้ร่วงมากกว่า 40 คน จิตวิญญาณและความมุ่งมั่นย่อมเสื่อมถอย และตราบเท่าที่มันเสื่อมถอย ก็จะตกตํ่าลงเรื่อยๆ บ่มเพาะความหวาดกลัวขึ้นมาในจิตใจและเกิดความรู้สึกระย่นย่อว่าคงมิอาจเอาชนะฝ่ายตรงข้ามได้ เต็มไปด้วยความยําเกรง และหวาดผวา!

ในตอนที่ฉินมู่เห็นแม่ทัพตอริมูสั่งให้ทหารเก็บรวบรวมวิญญาณของกองทัพกบฏมาบรรณาการแก่วังทองโหรวหลันนั้น ฉินมู่ก็รู้สึกเดือดดาลต่อวังทองอยู่ในใจ ในตอนนั้นเขายังงุนงงอยู่บ้าง

แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าวังทองโหรวหลันใช้วิญญาณเหล่านั้นมาฝึกวิชายุทธ์

ที่มาคราวนี้มิได้ตั้งใจจะมาขวางประตู แต่จุดหมายสําคัญคือชิงครึ่งท่อนล่างของคนแล่เนื้อกลับไป ในเมื่อจุดยืนแตกต่างและความเป็นอริศัตรูชัดแจ้งเช่นนี้ งั้นก็ทําลายจิตวิญญาณของสํานักนี้ บดขยี้ความมั่นใจ เหยียบยํ่าวิชาและทักษะเทวะของพวกเขา สั่งสอนให้พวกเขารู้ว่าวิทยายุทธ์ที่ฝึกด้วยการดูดกลืนวิญญาณผู้อื่นนั้นไร้ค่าไม่มีราคาแม้แต่แดงเดียว!

“พวกเจ้าในที่นี้ มีใครไหมที่ฝึกคัมภีร์หมอผีอาวุโสโหรวหลัน”

ฉินมู่กวาดตามองไปรอบหนึ่ง สีหน้านิ่งเฉยไร้อารมณ์ จากนั้นมุมปากเขาก็ยกยิ้มหยันขึ้นช้าๆ “ไสหัวออกมา ข้าอยากลองฆ่าดูสักคน”

ข้างหน้าประตูทางเข้า มีแต่ความเงียบที่ตอบเขากลับมา และข้างหลังประตูวังทองสีหน้าของเหล่าหมอผีใหญ่ในวังก็เขียวคลํ้าจากโทสะ และผ่านไปสักครู่หนึ่ง ก็มีเด็กหนุ่มก้าวออกมา

หมอผีใหญ่วัยกลางคนกล่าวกับเขา “ซามูโร่ จุดอ่อนของเจ้าเด็กนี่ อยู่ที่หัวไหล่ซ้ายกระดูกหัวไหล่ท่อนที่ 2 นี่เป็นจุดอ่อนจากวิชาฝึกปรือของเขา เป็นจุดที่ปราณมิได้โคจรไปบ่มเพาะ”

หมอผีหนุ่มกล่าวอย่างเคร่งขรึม “เมื่อครู่ข้าก็รู้สึกคลับคล้ายคลับคลา แต่มิอาจระบุตําแหน่งที่แน่นอนได้ ขอบคุณราชาหมอผีที่ชี้แนะ”

สีหน้าของคณบดีป้าซานมืดคลํ้าลงทันที แค่นเสียงกล่าว “ราชาหมอผีในฐานะรุ่นอาวุโส เจ้าไร้ยางอายแบบนี้จะดีหรือ”

“ข่านบู๊ เชิญ!”

หมอผีวัยกลางคนผู้นั้นถูกกระทบกระเทียบสีหน้าก็ไม่แปรเปลี่ยน เขายกมือขึ้นแล้วกล่าว “ในอดีตข้าพ่ายแพ้ในมือเจ้า และเรียนรู้ประสบการณ์อันเจ็บปวด แต่เดี๋ยวนี้วรยุทธ์ของข้ารุดหน้าไปอย่างก้าวกระโดด และหวนนึกถึงความพ่ายแพ้ครั้งก่อน ก็อดรู้สึกอับอายมิได้ หมายให้สวรรค์เมตตาให้ข้ามีโอกาสแก้มือ และเจ้าก็ส่งหัวมาที่นี่จนได้”

คณบดีป้าซานทะยานขึ้นไปบนอากาศทันที รัศมีแสงที่ส่องออกมาราวกับกระบี่ยักษ์ผ่าฟ้าไป 150 วา เสียงของเขาส่งมาจากกลางฟ้าสูงลิ่ว “วรยุทธ์ของผู้คนที่นี่ล้วนแต่ตํ่าต้อย ข้าเกรงว่าถ้าสู้กับเจ้าข้างล่าง พวกเขาคงถูกหางเลขจากแรงสะเทือนตายกันหมด เจ้าและข้าจะไปประลองกันที่ภูเขาหิมะแทน!”

หมอผีใหญ่หันไปมองหมอผีอาวุโส หมอผีอาวุโสโบกมือแล้ว กล่าวเสียงขรึมขลัง “ไปได้”

แสงทองทะยานโลดไล่แสงมีด 2 เส้นแสงกรีดผ่านฟ้าครามไปยังภูเขาหิมะ

ภูเขานั้นสูงเทียมเมฆ หิมะขาวกว้างไกลไม่รู้จบ แสงทองร่วงลงมาทันทีละลายหิมะหนาหนัก และในแสงทองนั้นมีแสงมีดสีเงินยวง เย้ยหิมะวูบขึ้น สัประยุทธ์กันไปมาสะเทือนโลกหล้า ทว่าผู้คนในวังทองโหรวหลันรู้สึกเพียงแค่แรงสั่นสะเทือนเท่านั้น

ที่ใต้ประตูภูเขาวังทอง ฉินมู่เหลียวหลังกลับไปและเห็นซามูโร่ เดินมาจากโถงใหญ่ของวังทองโหรวหลัน

คณบดีป้าซานหลอกล่อยอดฝีมือจํานวนมากออกไปจากวังทองโหรวหลัน คงหมายให้เขาฉวยจังหวะนี้ลอบเข้าไปเสาะหาร่างครึ่งท่อนของคนแล่เนื้อ แต่ที่หน้าวิหารวังทอง ก็ยังคงมียอดฝีมือรุ่นใหญ่หลายคนยืนอยู่

สีหน้าของซามูโร่เคร่งเครียดแต่สายตาฉายแววตื่นเต้น ร่างของเขาก็เป็นสีทอง ตอนที่ฉินมู่ต่อสู้กับหมอผีฝึกหัดเมื่อครู่เขาก็สังเกตการณ์อยู่ข้างๆ

เหตุผลที่เขามิได้ก้าวออกท้าสู้โดยทันทีนั้นนอกจากเพื่อเสาะหาช่องโหว่ในวิชาฝีมือของฉินมู่แล้ว เขายังหมายให้หมอผีหลายคนนั้นผลัดกันสู้กับฉินมู่อย่างไม่หยุดหย่อนเพื่อผลาญพลังวัตรของฉินมู่ และเพิ่มโอกาสเอาชนะของเขาให้มากขึ้น

และบัดนี้เมื่อเขาค้นพบจุดอ่อนของฉินมู่ แถมฉินมู่ยังต่อสู้ประมือกับผู้คนมากกว่า 40 คน โอกาสเหมาะของเขาก็มาถึง

สีหน้าของฉินมู่สงบนิ่งราวบ่อโบราณอันไร้ระลอกคลื่น ดูสงบนิ่งไม่คล้ายกับเพิ่งผ่านศึกกลุ้มรุมต่อสู้กว่า 40 คนมาหยกๆ ทันใดนั้นร่างของทั้ง 2 คนพลันพุ่งทะยานไปข้างหน้า ปราณชีวิตใต้เท้าฉินมู่พลันระเบิดปะทุความเร็วของเขาทวีขึ้นอย่างมหาศาล และร่างวูบเข้าไปประชิดซามูโร่ซัดหมัดออกไปทันที

สายฟ้าวสันต์ในทะเลบูรพา!

ร่างของซามูโน่ส่งเสียงดังก้องเมื่อหมัดนั้นเข้าปะทะ เสียงนั้นดังเลื่อนลั่นเหง่งหง่างดุจระฆัง ฉินมู่พลันรู้สึกราวกับว่าหมัดอันเชี่ยวกรากดุจมหานทีทะลวงทะเลของเขาปะทะเข้ากับเขื่อนแข็งแกร่งอันมิอาจทะลวงทําลายได้แม้แต่นิด

ร่างของซามูโร่ดูราวกับว่าหล่อหลอมขึ้นมาจากโลหะที่แข็งที่สุดในโลก ยิ่งกว่านั้นยังแกร่งทนทานอย่างเหลือเชื่อ

ร่างของซามูโร่สั่นเทิ้มหนึ่งครา แล้วพลันแปรเปลี่ยนเป็นมนุษย์ศีรษะนก ข้างหลังงอกเงยปีกคู่ ปีกทั้ง 2 ข้างเปล่งแสงทองเจิดจรัส ประกอบไปด้วยขนคมกริบดุจกระบี่ทองคํา กระบี่ทองเหล่านั้นกระทบกันไปมาเปล่งเสียงเคร้งคร้าง แล้วเฉือนตัดไปข้างหน้า!

ฉินมู่ใช้ฝีเท้าอันวกวนล่าถอยกลับไป กล่องกระบี่ที่หลังของเขาพลันพ่นกระบี่จํานวนมากออกมาต่อต้านกับกระบี่ขนนกที่ซัดพุ่งเข้าใส่

ทันใดนั้นเขาก็พบว่าปีกทั้ง 2 ของซามูโร่นั้นมีความพิเศษพิสดาร ระหว่างกระบี่ขนนกเหล่านั้นมีเส้นด้ายปราณชีวิตเชื่อมโยงกันอยู่ เขาสะท้านใจเล็กน้อยเมื่อพบว่าดูท่าจะไม่ดีแล้ว

ฟิ้ว

ปีกอันประกอบไปด้วยกระบี่ขนนกคมกริบจํานวนมาก พลันแยกกระจัดกระจายเป็นกระบี่บินจู่โจมใส่ฉินมู่จากทุกทิศทาง

บนกระบี่ทองคําเหล่านี้งอกเงยไว้ด้วยดวงตาสีดําสนิทอย่างไม่น่าเชื่อ มันกลอกตามองไปมา ดูน่าประหวั่นพรั่นพรึง กระบี่ขนนกเหล่านี้แต่ละเล่มผนึกขังวิญญาณผู้คนเอาไว้ ทําให้กลายเป็นจิตวิญญาณในกระบี่

สายตาของฉินมู่กวาดมองดวงตาเหล่านี้ และพลันรู้สึกวิงเวียน รู้ทันทีเลยว่าไม่ชอบมาพากล เขาจึงหลับตาทันที แล้วชักมีดออกมาจากกลางหลัง

ลมฝนราตรีทลายเมือง!

ประกายมีดของเขาเร็วหวือ เหวี่ยงฟาดทั้งบนและล่างอย่างไม่หยุดยั้ง เสียงติงติงตังตังจากการปะทะดังมาอย่างต่อเนื่อง ในลมฝนราตรีทลายเมือง มีนัยของการต่อสู้ในคํ่าคืนอันมืดมิดอยู่ ซึ่งหมายความว่ากระบวนท่านี้ไม่จําเป็นต้องใช้ดวงตามองเพื่อเล็งกระบวนท่า

กระบี่ของซามูโร่นั้นพิสดารพันลึก ถ้าใช้สายตามองก็จะตกเป็นเหยื่อของกระบวนท่า ดังนั้นฉินมู่ใช้ลมฝนราตรีทลายตีตอบโต้ จึงนับว่าเลือกได้เหมาะเหม็ง

คัมภีร์หมอผีอาวุโสโหรวเหลานับว่าไม่ธรรมดาจริง มีความพิลึกชั่วร้ายอย่างยิ่ง

กระบี่และดาบปะทะกันอย่างดุเดือด พลันฉินมู่พบว่าพละกําลังในกระบี่ของคู่ต่อสู้นั้นด้อยกว่าเขา เนื่องด้วยจุดแข็งของสํานักวิชาบู๊นั้นอยู่ที่ว่าผู้ใช้จะจับอาวุธด้วย 2 มือ ทําให้ถ่ายเทพละกําลังทั้งร่างโถมเข้าไปในอาวุธได้สะดวกดาย

กระบี่ทองของซามูโร่ถูกขับไล่ให้ถอยร่นด้วยลมฝนราตรีทลายเมือง มันถูกชักกลับไปประกอบเป็นปีกคู่อีกครั้ง ทั้ง 2 ปีกสะบัดไหวปัดป้องเพลงมีดของฉินมู่ดังติงตังถี่ยิบ

ทันใดนั้น ฉินมู่ก็ปล่อยมีด 2 มือ ซัดหมัดออกไปร่ายกระบวนท่าแสงตะวันเผาวิญญาณหยาง ซามูโร่ถูกพลังหมัดของเขาฉายแสงโชนในวิญญาณของเขาสั่นสะท้านไปวูบหนึ่งแต่กระบวนท่าของเขาไม่สับสน ทว่าดวงตาที่งอกเงยบนกระบี่ขนนกของเขาอันถูกแสงตะวันแผดเผาก็กรีดร้องด้วยเสียงอันน่าเวทนา และระเหยหายเป็นควันสีคราม

มืออีกข้างฉินมู่ผนึกมุทรามารฟ้ามหามายา แต่ซามูโร่ก็ยังไม่หวั่นไหว คัมภีร์หมอผีอาวุโสโหรวเหลานั้นในเมื่อใช้วิญญาณผู้อื่นในการฝึกวิทยายุทธ์ ย่อมมีวิธีการบ่มเพาะวิญญาณตนให้แข็งแกร่งเสถียรด้วย

ร่างของเขาเหนียวแน่นทนทานขนาดฟ้าคํารามแปดจู่โจมก็ยังไม่อาจสะเทือนได้

ฉินมู่มุ่นคิ้วเล็กน้อย ทันใดนั้นชี้นิ้วออกไป จากปากกล่องกระบี่พลันพรั่งพรูกระบี่บินออกมา 36 เล่ม ก่อรูปรวมกันเป็นท่วงท่ากระบี่เจาะ ทิ่มทะลวงใส่กระบี่ของซามูโร่!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version