Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 1047

ตอนที่ 1047 พี่สาว

ใต้เท้าฟู่คิดถึงเรื่องนี้ขึ้นมา ในใจก็เสียใจอย่างไม่อาจบรรยาย ฮูหยินฟู่สะกิดเตือนเขาให้ระวังหน่อย ท่านนี้คือรัชทายาทหญิงที่เลื่ยงชื่อในความโหดเหี้ยม อย่าได้ทำให้รัชทายาทหญิงไม่พอพระทัย

เซียวหวงแสร้งทำเป็นไม่เห็น หันกลับไปมองฟู่หลินทีหนึ่ง ถามว่า “เขาเคยหาหมอหรือไม่ หมอว่าอย่างไร”

“หมอบอกว่าสมองเขาได้รับความกระทบกระเทือน ดังนั้นจึงได้กลายเป็นคนปัญญาเสื่อม”

เซียวหวงได้ยินใต้เท้าฟู่ พลันคิดถึงท่านย่า วิชาการแพทย์ท่านย่าร้ายกาจมาก สภาพฟู่หลินเช่นนี้ นางต้องรักษาได้อย่างแน่นอน

เซียวหวงหันไปมองใต้เท้าฟู่กล่าวว่า “แน่ใจว่าสมองเขาได้รับความกระทบกระเทือน จึงได้เป็นเช่นนี้หรือ”

ใต้เท้าฟู่ส่ายหน้า “กระหม่อมไม่รู้ แต่หมอที่มาตรวจต่างว่าสมองเขาได้รับความกระทบกระเทือน”

เซียวหวงขมวดคิ้วคิดอยู่ครู่หนึ่งกล่าวว่า “เช่นนั้น เราจะกลับเข้าวังไปทูลเสด็จแม่ อีกสักพักเราจะทูลให้เสด็จแม่เสด็จมาตระกูลฟู่ตรวจอาการให้เขาสักหน่อย ดูว่าเขาเป็นเพราะสมองได้รับความกระทบกระเทือนจนทำให้ปัญญาเป็นเช่นนี้หรือไม่ หากเพราะสมองเป็นเช่นนี้เพราะได้รับบาดเจ็บ เราจะให้คนส่งเขาไปเมืองหนิงโจวพบฮูหยินโจวกั๋ว ฮูหยินโจวกั๋วจะต้องรักษาเขาได้เป็นแน่”

ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ได้ยินก็นิ่งค้างไปทันที จากนั้นก็ดีใจอย่างมาก สวรรค์ หากบุตรชายรักษาหาย เช่นนั้นก็ย่อมเป็นวาสนายิ่งใหญ่ของตระกูลฟู่

ทั้งสองคนโผลงคุกเข่าทันที “ขอบพระทัยรัชทายาทๆ”

เซียวหวงพยักหน้าเล็กน้อย หันกลับไปมองฟู่หลินทีหนึ่ง ฟู่หลินเห็นนางมองมาก็ยื่นมือไปกอดตุ๊กตาเด็กผู้หญิงบนเตียงด้วยสัญชาตญาณ พึมพำไม่หยุดว่า “พี่สาว ข้าไม่กลัว ข้าไม่กลัว”

เซียวหวงได้ฟังวาจาเขาก็ราวกับสายฟ้าฟาด นิ่งตัวแข็งทื่อไปทันที ดวงตาพลันมีน้ำตาไหลอาบลงมาราวกับหยาดพิรุณ

ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่ที่คุกเข่าอยู่ต่างมองตาค้าง ไหนว่ากันว่ารัชทายาทหญิงร้ายมาก โหดเหี้ยมมากไม่ใช่หรือ เหตุใดนางอยู่ดีๆ จึงร้องไห้ขึ้นมา

นี่มันเรื่องอันใดกัน

ทั้งสองคนมองผ่านรัชทายาทหญิงไปยังฟู่หลินบนเตียงด้วยสายตาระแวดระวัง ใต้เท้าฟู่เอ่ยขึ้นอย่างระมัดระวังว่า “หลังจากเขาสมองเสื่อมแล้ว ก็เอาแต่วิ่งไปทั่ว บอกว่าต้องการหาพี่สาว ความจริงเขาไม่มีพี่สาว กระหม่อมก็ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาพลันกลายเป็นเช่นนั้น ต่อมาเขาก็เอาแต่เที่ยวตามหาไปทั่ว กระหม่อมไร้หนทาง จึงได้ให้ฮูหยินหาตุ๊กตาเด็กผู้หญิงมาตัวหนึ่ง พอเขาเห็นตุ๊กตาเด็กผู้หญิงก็สงบลง ต่อมาตุ๊กตานี้ก็อยู่กับเขามาตลอด อารมณ์เขาก็ค่อยๆ นิ่งสงบลง แต่อย่าได้แตะตุ๊กตาตัวนี้ เขาจะคลุ้มคลั่งขึ้นมาทันที”

ในใจเซียวหวงปวดร้าวอย่างที่สุด ตอนนี้นางแทบจะแน่ใจแล้วว่าฟู่หลินคนนี้ก็คือน้องชายนางในภพก่อน ดูท่าสุดท้ายเขาตายหน้าหลุมศพนาง ดังนั้นชาติภพนี้เขาจึงได้มาปรากฏตัวกับนางที่นี่ในตอนนี้ได้

ก็เพื่อให้นางได้ตอบแทนผลที่เขาได้กระทำเพื่อนางหรือ

เซียวหวงเดินเข้าไปลูบศีรษะฟู่หลิน กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “ฟู่หลิน พี่สาวจะรักษาเจ้าให้หาย”

นางกล่าวจบก็เดินออกไป ฟู่หลินเหม่อมองนาง เอ่ยเรียกว่า “พี่สาว”

ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่คุกเข่าอยู่ที่พื้นยามนี้ตัวแข็งทื่อเป็นหินไปแล้ว แม้แต่จะออกไปส่งแขกก็ยังลืม พอรัชทายาทไปแล้ว สองสามีภรรยาจึงได้สบตากันอย่างระมัดระวัง กล่าวว่า “เมื่อครู่เจ้าได้ยินไหมว่ารัชทายาทว่าอันใด”

“นางคล้ายจะบอกว่าพี่สาวจะรักษาเจ้าให้หาย”

“นี่มันเรื่องอันใดกัน”

“บางทีพวกเราอาจฟังผิดไป”

ฮูหยินฟู่ทำใจให้สงบลงแล้วก็คิดว่าตนเองฟังผิดไป จากนั้นก็ผลักสามีตนเอง “เจ้ารีบพาคนไปส่งรัชทายาท”

พอใต้เท้าฟู่พาคนรีบตามออกไปถึงหน้าประตู เซียวหวงก็พาคนจากไปแล้ว

เซียวหวงกลับเข้าวัง ก็ไปเข้าเฝ้าฮองเฮาซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน

ยามนี้ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกับเซียวเหวินอวี๋พักผ่อนไปแล้ว พอได้ยินขันทีรายงาน ว่ารัชทายาทหญิงขอเข้าเฝ้า ทั้งสองคนคิดว่าเกิดเรื่องอันใดขึ้น รีบให้เซียวหวงเข้าเฝ้าทันที

สองฝ่ายพบกัน เซียวเหวินอวี๋กับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนต่างมองสีหน้าผิดปกติของเซียวหวงออก สีหน้าซีดขาว ขอบตาแดงก่ำคล้ายกับร้องไห้มา

เซียวเหวินอวี๋พลันเป็นห่วงขึ้นมา เดินไปตรงหน้าเซียวหวง ดึงมือนางมาเอ่ยถามอย่างเคร่งเครียดว่า “หวงเอ๋อร์ เกิดเรื่องอันใดขึ้น ฝันร้ายอีกแล้วหรือ”

เซียวหวงส่ายหน้า มองเซียวเหวินอวี๋กล่าวว่า “เสด็จพ่อ หม่อมฉันไม่ได้ฝันร้าย ก่อนหน้านี้หม่อมฉันไปจวนใต้เท้าฟู่พบคุณชายใหญ่ฟู่หลินมาเพคะ”

เซียวเหวินอวี๋ไม่รู้เรื่องฟู่หลิน คืนนี้ฮองเฮาไม่ได้บอกเขาเรื่องนี้

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเดิมไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้ ตอนนี้ได้ยินเซียวหวงเอ่ยถึงก็บอกเรื่องนี้กับเซียวเหวินอวี๋

จากนั้นนางก็หันไปมองเซียวหวง ถามอย่างห่วงใยกล่าวว่า “หวงเอ๋อร์ เหตุใดจึงไปพบฟู่หลินผู้นั้น ในเรื่องนี้มีอันใดที่เสด็จพ่อกับเสด็จแม่ไม่รู้หรือไม่”

เซียวหวงคิดอยู่ครู่หนึ่งมองไปยังเซียวเหวินอวี๋กับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน “เสด็จพ่อ เสด็จแม่ หม่อมฉันไม่ได้บอกพวกท่านเรื่องหนึ่ง ฟู่หลินเคยช่วยหม่อมฉันไว้ครั้งหนึ่ง หม่อมฉันอยากตอบแทนคุณเขา”

ความจริงนางไม่ได้คิดปิดบังเรื่องในภพก่อน แต่เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องเหนือความเป็นจริงอย่างมาก ที่สำคัญที่สุดก็คือนางไม่อยากให้เสด็จพ่อและเสด็จแม่รู้ว่านางมาเกิดพร้อมกับความทรงจำวัยผู้ใหญ่ นางอยากให้พวกเขามองนางเป็นบุตรสาวที่พวกเขาให้กำเนิดมาอย่างสนิทใจ

ดังนั้นเซียวหวงไม่ได้เล่าเรื่องภพก่อนให้เซียวเหวินอวี๋และซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนฟัง

ทั้งสองคนดูแล้วก็ไม่ได้สงสัยแม้สักนิด เพราะก่อนหน้านี้เซียวหวงมักจะเดินทางไปกลับเมืองหนิงโจวกับเมืองหลวง เคยเกิดเรื่องครั้งหนึ่ง แม้ว่าต่อมาปลอดภัยดี แต่ก็มีเรื่องเช่นนี้จริง ดังนั้นทั้งสองคนจึงไม่สงสัยนาง

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนถามว่า “ไหนบอกว่าฟู่หลินเป็นคนปัญญาเสื่อมไม่ใช่หรือ”

เซียวหวงพยักหน้า “เพคะ หม่อมฉันคิดทูลขอให้เสด็จแม่เสด็จออกจากวังหลวงไปตรวจอาการให้ฟู่หลินเป็นการส่วนตัวสักครั้ง ดูว่าสมองเขาได้รับความกระทบกระเทือนเพราะเส้นประสาทจริงหรือไม่ หากใช่ หม่อมฉันจะส่งเขาไปเมืองหนิงโจวขอให้ท่านย่ารักษาให้เขา หากสมองเขาไม่ได้ผิดปกติเพราะได้รับบาดเจ็บจนสมองเสื่อม หม่อมฉันค่อยหาวิธีอื่น ไม่ว่าอย่างไร หม่อมฉันจะต้องรักษาเขาให้หายให้ได้เพคะ”

แม้ว่าเซียวหวงอายุสิบห้า ทว่าแต่เล็กจนโตไม่ค่อยได้สนใจชายหนุ่มผู้ใดเช่นนี้ นี่เป็นครั้งแรกที่นางใส่ใจชายหนุ่มผู้หนึ่งเช่นนี้ เซียวเหวินอวี๋กับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนแปลกใจมาก ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนรับปากนางทันที “ได้ พรุ่งนี้เสด็จแม่จะตามเจ้าไปตระกูลฟู่เป็นการส่วนตัว ตรวจดูว่าคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง”

ยามนี้เซียวเหวินอวี๋กับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไม่ได้คิดสงสัยว่าบุตรสาวจะชอบฟู่หลินที่สมองเสื่อมผู้นั้น บุตรสาวยอดเยี่ยมเช่นนี้จะไปชอบคนสมองเสื่อมได้อย่างไรโนเวล-พีดีเอฟ

เซียวหวงได้ฟังซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ก็โล่งอก “ขอบพระทัยเสด็จแม่”

“เอาละ พรุ่งนี้เสด็จแม่จะตามเจ้าออกจากวังหลวงสักครั้ง เจ้าก็อย่าได้เคร่งเครียดเกินไป ท่าทางเช่นนี้ไม่เหมือนเป็นตัวเจ้าเลยสักนิด”

เซียวหวงไม่อยากให้เสด็จพ่อเสด็จแม่เป็นห่วง จึงเผยรอยยิ้มพร้อมกับขอตัวกลับตำหนักตนเอง

เซียวเหวินอวี๋มองซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวว่า “เรารู้สึกว่าหวงเอ๋อร์แปลกไป แท้จริงฟู่หลินผู้นี้เป็นผู้ใดกันแน่ เห็นอยู่ว่าเป็นหนุ่มปัญญาเสื่อม จะมีโอกาสมาช่วยหวงเอ๋อร์ได้อย่างไร เราจะส่งคนไปสืบเรื่องนี้”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนรีบห้ามซียวเหวินอวี๋

“ในเมื่อฝ่าบาทแต่งตั้งหวงเอ๋อร์เป็นรัชทายาท ก็อย่าได้สืบเรื่องส่วนตัวของนางโดยไม่มีอันใดเช่นนี้ ฝ่าบาทควรเชื่อใจหวงเอ๋อร์”

เซียวเหวินอวี๋คิดแล้วก็รู้สึกว่าก็ใช่ คนเราล้วนมีความลับส่วนตัว หวงเอ๋อร์ไม่ยินดีเอ่ย ก็ย่อมมีเหตุผลของนาง ไยเขาต้องหาทางสืบเรื่องความลับของเด็กหนุ่มผู้นั้น หวงเอ๋อร์รักเขากับเสด็จแม่นางมาก เขาไม่อาจทำร้ายจิตใจบุตรสาวได้

“ได้ ทำตามที่เจ้าว่า”

เซียวเหวินอวี๋กับซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไปเข้านอน เซียวหวงกลับเข้าตำหนักไปพักผ่อน เพียงแต่คืนนี้นางฝันเห็นภาพสุดท้ายของฟู่หลิน เขาคล้ายว่าละทิ้งทุกสิ่ง ไม่กินไม่ดื่ม เฝ้าอยู่หน้าหลุมศพนางจนต่อมาหิมะตก เขาหนาวตายรางกายกลาบเป็นน้ำแข็ง สิ้นใจตายอยู่หน้าหลุมศพนาง หลอมรวมกับสุสานนางเป็นหนึ่งเดียว

เซียวหวงน้ำตาไหลอาบแก้มอีกครั้ง หัวใจราวกับถูกฉีกขาด เจ็บปวดอย่างยิ่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version