ตอนที่ 487 แม่ร้ายกาจมาก
ลู่เจียวรีบปลอบใจเขา “เอาละ อย่าเสียใจไป แม่ไม่มีทางเป็นอันใดไป เจ้าไม่เชื่อแม่หรือ”
ลู่เจียวมองซื่อเป่า ซื่อเป่าขอบตาแดงมองลู่เจียว ครุ่นคิดถึงความร้ายกาจของท่านแม่ตนแล้วก็หันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียง สุดท้ายก็ฝืนใจกล่าวว่า “ท่านแม่ จะไม่เป็นอันใดจริงๆ ใช่หรือไม่”
ลู่เจียวยกมือรับรองว่า “แม่รับรองว่าจะไม่เป็นอันใด พวกเจ้าอย่าได้เป็นห่วง แม่ร้ายกาจมาก”
ในที่สุดซื่อเป่าก็สบายใจขึ้น เขากอดคอลู่เจียวเอาไว้พลางเอ่ยว่า “ท่านแม่จะต้องกลับมาอย่างปลอดภัน วันหน้าข้าจะพยายามกินข้าว รีบโตไวๆ จะได้ปกป้องท่านแม่กับท่านพ่อ จะไม่ให้ผู้ใดมารังแกพวกท่านอีก”
“ได้สิ เช่นนั้นเจ้าก็ต้องฝึกวิชายุทธ์ให้ดี วันหน้าแม่กับท่านพ่อเผชิญอันตรายอันใด เจ้าก็จะได้ปกป้องพวกเรา”
ลู่เจียวเปลี่ยนเรื่องไปเช่นนี้ทำให้ซื่อเป่าลืมความหวาดกลัวไป เขาพยักหน้าเต็มแรงแสดงท่าทางรับรองว่าวันหน้าจะพยายามฝึกยุทธ์
ลู่เจียวปลอบใจซื่อเป่าเสร็จ ก็หันไปมองอีกสามคน “พวกเจ้าวางใจ แม่จะปกป้องตนเองให้ดี เพราะข้ายังต้องเลี้ยงดูพวกเจ้า”
“ขอรับ”
ลู่เจียวพูดกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่จบก็เงยหน้ามองไปยังเซียวซาน สั่งการว่า “ไปทำตามคำสั่งข้า”
“ขอรับ เหนียงจื่อ”
เซียวซานหันหลังออกไปจัดการตามคำสั่ง
ในห้อง มือปราบจ้าวกล่าวกับลู่เจียวว่า “สถานที่ห่างจากอำเภอชิงเหอไปทางใต้สามร้อยกว่าลี้ มีภูเขาลูกหนึ่ง มีหมอกควันหนาปกคลุมตลอดทั้งปี คนทั่วไปไม่กล้าขึ้นเขา ได้ยินว่าบนเขาลูกนั้นไม่เพียงแต่มีสัตว์ป่านานาชนิด ยังมีดอกไม้และหญ้าพิษอีกมากมายหลากหลายชนิด ในเขายังมีหมอกพิษ คนเข้าไปตายเก้ารอดหนึ่ง คนที่ออกมาได้ล้วนเป็นคนที่ร้ายกาจมาก”
“คนในพื้นที่ไม่กล้าขึ้นเขา คนไม่น้อยเรียกภูเขาลูกนี้ว่าป่าไม่หวนคืน เหนียงจื่อจะขึ้นเขาไปหาหญ้าหลิงซีจริงหรือ”
ลู่เจียวพยักหน้าทันที ความจริงนางเป็นห่วงว่าตนเองอาจจะเกิดเรื่องเช่นกัน แต่นางมีห้วงอากาศ ยามเผชิญอันตรายก็เข้าไปหลบภัยในห้วงอากาศได้ แต่นางบอกเรื่องนี้กับผู้อื่นไม่ได้ ดังนั้นทุกคนล้วนเป็นห่วงนาง
หลี่หนานเทียนกับโจวเส้ากงเป็นห่วงอย่างมาก “เหนียงจื่อ นี่มันอันตรายเกินไปหรือไม่”
ลู่เจียวรีบกล่าวว่า “ไม่เป็นไร พวกเราทำการระวังหน่อยก็พอ หากหายาถอนพิษไม่ได้ ท่านพี่ก็จะเกิดเรื่อง ตอนนี้ข้าใช้เข็มเงินสกัดจุดชีพจรใหญ่ของเขาไว้ เขาจะไม่เป็นอะไรในตอนนี้ แต่พวกเรามีเวลาเพียงแค่สามวัน ในสามวันต้องหาหญ้าหลิงซีกลับมาถอนพิษเขาให้ทัน ไม่เช่นนั้นร่างกายเขาก็จะถูกพิษนี้ทำลาย”
พอทุกคนได้ฟังลู่เจียวต่างก็พูดไม่ออก อย่างไรก็คงไม่อาจนั่งมองดูสุขภาพคุณชายถูกทำลายไปกับตาเช่นนี้ หากเป็นเช่นนี้ เกรงว่าคุณชายคงอยู่ไม่สู้ตาย
ลู่เจียวตกลงเรื่องนี้เรียบร้อย ก็เริ่มแบ่งงาน “ท่านอาเซียวกับหร่วนจู๋อยู่บ้านคุ้มกันท่านพี่ข้ากับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ข้าพาหลี่หนานเทียน โจวเส้ากงกับหร่วนไคไปป่าไม่หวนคืนหาหญ้าหลิงซี”
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ หร่วนจู๋รีบเสนอว่า “เหนียงจื่อ ข้าไปป่าไม่หวนคืนกับเหนียงจื่อ ให้พี่ชายข้าอยู่คุ้มกันคุณชายกับคุณชายน้อยทั้งสี่กับท่านอาเซียวเถอะ”
หร่วนจู๋กล่าวจบ หร่วนไคก็ไม่เห็นด้วย ขมวดคิ้วกล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “น้องพี่ ฟังคำสั่งเหนียงจื่อ”
หร่วนจู๋กลับไม่มองหร่วนไค เอาแต่จ้องมองลู่เจียว “เหนียงจื่อ ให้ข้าไปเถอะ”
ลู่เจียวหันไปมองหร่วนจู๋ รู้ว่าสาวใช้คิดปกป้องพี่ชายตนเอง จึงได้ตกลงเห็นด้วย
“ได้”
หร่วนไครีบคิดแย้งทันที หันหน้าไปมองลู่เจียวเอ่ยว่า “เหนียงจื่อ ให้น้องสาวข้าอยู่เถอะ”
หร่วนจู๋ถลึงตาใส่เขาทีหนึ่ง มองลู่เจียวด้วยสีหน้าหนักแน่น กล่าวว่า “ฝีมือข้าดีกว่าพี่ชายข้า หากคนบงการปรากฏตัวออกมา ข้าจะช่วยเหนียงจื่อจับเขาไว้”
วาจาหร่วนจู๋นี้กล่าวโดนใจลู่เจียวพอดี
ตอนนี้นางอยากจับตัวองครักษ์ลับให้ได้อย่างที่สุด อยากดูว่าแท้จริงเป็นผู้ใดกันแน่
“ได้ ให้หร่วนจู๋ไป”
หร่วนไคยังคิดเอ่ยค้านต่อ แต่ลู่เจียวมองเขาแล้วกล่าวว่า “ข้าจะพานางกลับมาอย่างปลอดภัย เจ้าอย่าได้เป็นห่วง”
ลู่เจียวกล่าวจบ มือปราบจ้าวก็รีบกล่าวว่า “เหนียงจื่อ ข้าไปด้วย”
ลู่เจียวหันไปมองมือปราบจ้าว กล่าวอย่างอ่อนโยนว่า “มือปราบจ้าวไม่จำเป็นต้องไป ท่านค่อยดูแลครอบครัวข้าให้ดีก็พอ”
พอลู่เจียวกล่าว มือปราบจ้าวก็คุกเข่าลงทันที ขอร้องว่า “เมื่อก่อนไม่ได้บอกชาติกำเนิดคุณชายให้กระจ่าง ขอแค่คอยคุ้มกันอยู่ข้างกายคุณชายเงียบๆ ในเมื่อตอนนี้สถานะเปิดเผยแล้ว ข้าก็ควรติดตามอารักขาข้างกายคุณชาย ตอนนี้คุณชายถูกคนลอบทำร้าย ข้าก็ควรปกป้องภรรยาเขาให้ดีถึงจะถูก”
ความหมายของมือปราบจ้าวก็คือจะติดตามลู่เจียวไปป่าไม่หวนคืน แต่ลู่เจียวเป็นห่วงสถานการณ์ในบ้านมากกว่า
ตอนนี้เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ยังเล็ก ลู่เจียวกลัวว่าจะมีคนปองร้ายเจ้าหนูน้อยทั้งสี่อีก ดังนั้นจึงคิดให้มือปราบจ้าวช่วยนางดูแลบ้าน
“มือปราบจ้าว หากท่านอยากช่วยพวกเราจริง ก็อยู่บ้านช่วยข้าดูแลอวิ๋นจิ่นกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่”
มือปราบจ้าวลังเล “แต่เจ้า?”
ลู่เจียวชี้ไปที่หร่วนจู๋ข้างกาย “มีหร่วนจู๋ จะไม่เกิดเรื่องอันใด”
มือปราบจ้าวรู้ว่าฝีมือหร่วนจู๋ร้ายกาจมาก คิดแล้วก็เห็นด้วย “ได้ ท่านวางใจไปหายาถอนพิษให้คุณชาย ข้าจะต้องช่วยท่านดูแลคุณชายกับคุณชายน้อยทั้งสี่ให้ดี”
ลู่เจียวพยักหน้าสั่งการต่อ “พรุ่งนี้เช้าพวกเราก็ออกเดินทางไปป่าไม่หวนคืนกัน”
หากไม่ใช่เพื่อต้องการปล่อยข่าวออกไปล่อปลามาติดเบ็ด ลู่เจียวก็อยากเดินทางไปป่าไม่หวนคืนในคืนนี้มากกว่า
แต่เพื่อล่อคนบงการมาติดเบ็ด นางได้แต่ไปช้าสักคืน
ในห้องทุกคนเองก็เข้าใจความคิดนาง ต่างรับคำพร้อมเพรียง
มือปราบจ้าวและพวกหลี่หนานเทียนเดินออกไป ลู่เจียวบอกให้เฝิงจือกับพวกหร่วนจู๋ไปพักผ่อน
สุดท้ายเหลือแค่ลู่เจียวกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่เฝ้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น
ลู่เจียวเดิมคิดให้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ไปพักผ่อน ส่วนนางอยู่เฝ้าเซี่ยอวิ๋นจิ่น แต่ทำอย่างไรเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็ยืนยันไม่ยอมไปนอน
สุดท้ายลู่เจียวให้พวกเขานอนบนเตียงเซี่ยอวิ๋นจิ่น
นางเฝ้าอยู่ข้างเตียง คุยกับลูกๆ ทั้งสี่
“พวกเจ้าต้องเชื่อแม่ แม่จะต้องหายาถอนพิษมาให้ท่านพ่อพวกเจ้าได้ เขาจะต้องไม่เป็นอันใด”
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่พยักหน้าเต็มแรง “พวกเราเชื่อว่าท่านแม่ทำได้ ขอแค่ท่านแม่ต้องกลับมา”
ยามนี้เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เป็นห่วงความปลอดภัยของลู่เจียวมากกว่า เพราะพวกเขาฟังออกว่าคนบงการที่ลอบทำร้ายท่านพ่อร้ายกาจมาก ดังนั้นพวกเขายิ่งคิดก็ยิ่งกลัว กลัวว่าท่านแม่จะไม่กลับมาอีก
เจ้าหนูน้อยทั้งสี่มองลู่เจียวด้วยความเป็นห่วง อดหลั่งน้ำตาออกมาไม่ได้
สี่หนูน้อยยกมือไปกุมมือลู่เจียวไว้ สะอื้นไห้กล่าวว่า “ท่านแม่จะต้องกลับมา พวกเราจะอยู่บ้านรอท่านแม่”
“อืม ไม่เป็นไร แม่จะกลับมาอย่างปลอดภัย พวกเจ้าวางใจ”
นางกล่าวจบก็มองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กล่าวว่า “แม่ร้องเพลงให้พวกเจ้าฟังดีกว่า วันนี้แม่จะร้องเพลงใหม่ให้พวกเจ้าฟัง”