ตอนที่ 528 แผนร้าย
ลู่เจียวกล่าวจบ หลี่ว์หว่านก็เอ่ยขึ้นว่า “วันนี้ไม่ใช่วันคารวะอาจารย์ของเหล่ยเอ๋อร์หรือ พวกเจ้าพ่อลูกหมายความเช่นไร ดึงตัวนางมาคุยแต่เรื่องวิชาการแพทย์ รีบทำพิธีคารวะอาจารย์กันดีกว่า”
พอหลี่ว์หว่านเอ่ย มารดาฉีเหล่ยก็พยักหน้า “ใช่ พวกเจ้าสองคนอย่าเอาแต่ถามวิชาการแพทย์เจียวเจียว เรื่องนี้วันหน้าค่อยคุยกันเถอะ”
“ได้”
พิธีคารวะอาจารย์เริ่มต้นอย่างเป็นทางการ
ตามหลักการแล้ว พิธีคารวะอาจารย์ควรคารวะบูรพาจารย์ก่อน แต่ลู่เจียวไม่มีอาจารย์ ดังนั้นจึงลดขั้นตอนนี้ ทำพิธีคารวะอาจารย์ได้ทันที
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นนั่งอยู่ในตำแหน่งประธาน ฉีเหล่ยโขกศีรษะคำนับสามครั้ง ยกน้ำชา จากนั้นก็ยังมอบซองแดงกับสารฝากตัวเป็นศิษย์
สารฝากตัวเป็นศิษย์นี้เขาใช้เวลาเขียนสองสามวัน ความยาวถึงเจ็ดแปดหน้า เดิมเขาเขียนเพียงสองสามหน้า น่าเสียดายไม่ผ่านบิดาเขา บิดาเขาบอกให้เขาเขียนใหม่ เพราะเขียนได้ไม่จริงใจพอ สุดท้ายเขาจึงแก้ไขอีกครั้ง ก็ยังไม่พอใจ ก็แก้อีก แก้ไปมาถึงสี่ห้ารอบ สุดท้ายจึงได้ผ่าน
ลู่เจียวพลิกอ่านสารฝากตัวเป็นศิษย์แล้วก็เห็นใจฉีเหล่ยมาก แต่จากจุดนี้ก็เห็นได้ว่าตระกูลฉีให้ความสำคัญกับการคารวะอาจารย์นี้มาก
ลู่เจียวกล่าววาจาอบรม สาระหลักก็คือหวังให้ฉีเหล่ยอย่าได้ใช้วิชาแพทย์ทำร้ายผู้อื่น ห้ามใช้วิชาแพทย์วางอุบายผู้อื่น
กล่าวถึงเรื่องสุดท้าย ลู่เจียวยังมองฉีเหล่ยพร้อมกะพริบตาให้ทีหนึ่ง ทำเอาฉีเหล่ยหลุดหัวเราะออกมา
ผู้อื่นไม่รู้ว่า เขารู้ อาจารย์เขาผู้นี้ทำการไม่เป็นไปตามธรรมเนียม
“ศิษย์จะจดจำคำอบรมของอาจารย์เอาไว้”
สุดท้ายตระกูลฉีเปิดศาลบรรพชน เชิญเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเข้าไปด้วยความเคารพ เพื่อบอกกล่าวเรื่องนี้ต่อบรรพชน
พิธีคารวะอาจารย์จึงนับว่าเสร็จสิ้น ต่อมาก็เป็นงานเลี้ยง
เพราะลู่เจียวเป็นหญิง จึงไม่ได้แบ่งแยกโต๊ะแขกชายหญิง มีเพียงโต๊ะผู้ใหญ่ โต๊ะเด็ก
บรรยากาศครึกครื้นอย่างมาก คนตระกูลฉีต่างแสดงท่าทีชื่นชมรูปโฉมของครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียว
“หน้าตาดีกันจริง ทั้งครอบครัวหน้าตาดีกันมาก”
ฉีเจียบุตรสาวนายผู้เฒ่าฉีอุทานตกใจว่า “งามล้ำฉลาดเฉลียว”
บุตรเขยตระกูลฉีเป็นมหาบัณฑิตสำนักมนตรี ก้าวขึ้นมาจากการสอบเคอจวี่ พูดจาก็ย่อมมีวาจาดังผู้มีความรู้
แต่ตระกูลฉีทุกคนต่างมีมารยาทต่อครอบครัวเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างมาก ทำให้ครอบครัวเขาไม่ได้รู้สึกอึดอัดแม้แต่น้อย บรรยากาศงานเลี้ยงคารวะอาจารย์ดีมากๆ
จนกระทั่งพ่อบ้านตระกูลฉีเข้ามารายงาน “เรียนนายท่าน บ่าวรับใช้จวนอู่กั๋วกงขอพบ”
นายผู้เฒ่าฉีกับหมอหลวงฉีพอได้ฟังก็มีสีหน้าสงสัย เสียงสนทนาสรวลเสเฮฮาในงานเลี้ยงเงียบงันลงทันใด
คนตระกูลเซี่ยมีสีหน้าไม่เข้าใจ แต่ก็มิได้กล่าวอันใด
นายผู้เฒ่าฉีเอ่ยขึ้นว่า “พวกเขามาเชิญข้าไปตรวจอาการท่านหญิงหรือ”
ผู้ใดจะรู้ว่าพ่อบ้านส่ายหน้า “พวกเขาไม่ได้มาเชิญนายผู้เฒ่าไปตรวจอาการให้ท่านหญิง พวกเขามาขอพบลู่เหนียงจื่อ”
นายผู้เฒ่าฉีกับหมอหลวงฉีมองพ่อบ้านด้วยท่าทางตกใจ คิดว่าตนเองฟังผิด
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็ตกใจ หันหน้าไปมองพ่อบ้านจวนตระกูลฉี พวกเขาไม่ได้รู้จักจวนอู่กั๋วกง
หลี่ว์หว่านฮูหยินขุนพลหวังขมวดคิ้วกล่าวว่า “ลู่เหนียงจื่อไม่รู้จักคนจวนอู่กั๋วกง เจ้าเข้าใจผิดหรือไม่”
ลู่เจียวเห็นทุกคนในงานเลี้ยงเหมือนระวังตัวกับจวนอู่กั๋วกงอยู่ไม่น้อย ก็อดเลิกคิ้วสงสัยไม่ได้
พ่อบ้านรีบกล่าวทันทีว่า “พวกเขาบอกเช่นนี้”
นายผู้เฒ่าฉีโบกมือให้พ่อบ้านไปเชิญบ่าวจวนอู่กั๋วกงเข้ามา
พ่อบ้านหันหลังออกไป
นายผู้เฒ่าฉีหันไปมองลู่เจียว “เจียวเจียว เจ้ารู้จักคนจวนอู่กั๋วกงหรือ”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่รู้จัก มีอันใดหรือ”
ดูท่าจวนอู่กั๋วกงมีผู้ป่วยที่ยากรักษาหรือ ดังนั้นทุกคนจึงมีสีหน้าไม่ดีนัก
ลู่เจียวเพิ่งคิดจบนายผู้เฒ่าฉีเอ่ยขึ้นว่า “จวนอู่กั๋วกงมีคนป่วย ก็คือท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เป็นบุตรีองค์หญิงใหญ่ องค์หญิงใหญ่โปรดปรานอย่างมาก ต่อมาแต่งงานเป็นภรรยาเอกอู่กั๋วกง เดิมความสัมพันธ์สองสามีภรรยาก็ดีมาก ยังให้กำเนิดบุตรชายสองบุตรสาวหนึ่ง ผู้ใดจะรู้ว่า วันหนึ่งท่านหญิงพาบุตรสาวออกไปเที่ยว กลับทำบุตรสาวหาย”
“ท่านหญิงรักบุตรสาวคนนี้มาก ปรากฏทำบุตรสาวหายไป นางตำหนิตนเองและรู้สึกผิด กอปรกับคิดถึงบุตรสาว สุดท้ายสติก็ไม่ปกติ มักอาละวาดตบตีผู้อื่น อู่กั๋วกงเชิญหมอมารักษานางหลายคน ล้วนไร้หนทางรักษา ตอนนี้อาการป่วยนางยิ่งหนักกว่าเดิมแล้ว ตอนดีๆ ก็อุ้มหมอนเรียกว่าบุตรสาว ตอนไม่ดีก็จะจับคนมาบีบคอและกัด บอกว่าคนผู้นั้นลักพาตัวบุตรสาวนางไป”
“จวนอู่กั๋วกงมักมีคนได้รับบาดเจ็บสาหัส เพราะถูกท่านหญิงทำร้ายบาดเจ็บ”
ตระกูลฉีสองพ่อลูกเคยรักษาให้นาง รักษาได้ดีขึ้นเล็กน้อย จากนั้นหลังจากรักษาไปอีกสองสามครั้ง พวกเขาเองก็ไร้หนทางแล้ว
คิดไม่ถึงว่าคนจวนอู่กั๋วกงถึงกับมาอีกครั้ง ที่ต้องการพบยังเป็นลู่เจียว
นายผู้เฒ่าฉีสองพ่อลูกรู้สึกเป็นห่วง “อู่กั๋วกงยังพอพูดจาด้วยเหตุผล คนที่ไม่นิยมหลักการเหตุผลก็คือองค์หญิงใหญ่ หมอหลายคนรักษาท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ไม่หายถูกโบยจนตาย”
นายผู้เฒ่าฉีหันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “ครอบครัวพวกเขารู้จักเจ้าได้อย่างไร”
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นขมวดคิ้ว ทั้งสองคนพลันคิดถึงท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่
หญิงผู้นั้นโมโหพวกนางมาก เพราะพวกเขารักษาหลิวจื่อเหยียนหาย
นางย่อมต้องลงมือจัดการพวกเขา ดังนั้นเรื่องจวนอู่กั๋วกงครั้งนี้เป็นไปได้ว่าจะเป็นนางก่อขึ้น
ลู่เจียวกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดแล้วก็มีสีหน้าเย็นเยียบขึ้นมาไม่น้อย
นอกประตู พ่อบ้านกำลังพาบ่าวจวนอู่กั๋วกงเดินเข้ามา
คนที่มาก็คือพ่อบ้านจวนอู่กั๋วกง พอเข้ามาก็คำนับนายผู้เฒ่าฉีกับหมอหลวงฉี
นายผู้เฒ่าฉีถามพ่อบ้านจวนอู่กั๋วกง “พวกเจ้ามาหาลู่เหนียงจื่อ อยู่ดีๆ มาหานางทำไมกัน”
พ่อบ้านเอ่ยอนอบน้อมว่า “ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่ทูลเสนอองค์หญิงใหญ่ว่าลู่เหนียงจื่อวิชาการแพทย์เก่งกาจมาก รักษาอาการป่วยให้คุณชายใหญ่ใต้เท้าโส่วฝู่จนหายดี องค์หญิงใหญ่ได้ฟังรีบรับสั่งให้พวกเรามาเชิญลู่เหนียงจื่อไปจวนอู่กั๋วกงสักครั้ง”
คนตระกูลฉีรู้ว่าลู่เจียวรักษาหลิวจื่อเหยียนหาย ยามนี้ได้ยินพ่อบ้านจวนอู่กั๋วกงพูดถึง ยังจะมีอันใดไม่เข้าใจ ท่านหญิงหลันหยางจวิ้นจู่หญิงอสรพิษผู้นั้นโมโหที่ลู่เจียวรักษาหลิวจื่อเหยียนหาย ดังนั้นจึงคิดยืมดาบฆ่าคน
นายผู้เฒ่าฉีกัดฟันกรอดสบถด่า “นังอสรพิษถึงกับให้ร้ายเจียวเจียว ช้าเร็วสักวันหนึ่งนางจะต้องได้รับผลกรรมตามสนอง”
นายผู้เฒ่าฉีด่าจบ หันไปมองลู่เจียวกล่าวว่า “เจียวเจียว ข้าไปจวนอู่กั๋วกงกับเจ้า อย่าได้เป็นห่วง ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ตอนยังดีก็สงบมาก ไม่เกิดอาการคลุ้มคลั่ง”
ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย “ไม่เป็นไร นางเป็นผู้ป่วย การรักษาผู้ป่วยคือหน้าที่ของหมอ ในเมื่อจวนอู่กั๋วกงมีคนมาเชิญ ข้าก็จะไปสักครั้ง”
นางกล่าวจบหันไปมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “เจ้าพาลูกๆ กลับไปรอข้าที่บ้าน อย่าได้เป็นห่วง ไม่มีอันใด”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นสีหน้าเย็นเยียบ แววตาเผยกลิ่นอายเยียบเย็นดุดัน
“ข้าไปเป็นเพื่อนเจ้า”
ลู่เจียวส่ายหน้า “ไม่ต้อง เจ้าพาลูกทั้งสี่กลับไปก่อน อีกอย่างอย่าแสดงทีท่าเช่นนี้ ท่าทางเช่นนี้ของเจ้าจะทำให้ลูกทั้งสี่วุ่นวายใจ”
เจ้าหนูน้อยทั้งสีเริ่มวุ่นวายใจกันแล้ว พากันวิ่งไปยืนข้างกายพวกเขา
ลู่เจียวยิ้มกล่าวกับเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ว่า “แม่ไปรักษาอาการป่วย ไม่เป็นอันใด พวกเจ้าต้องเชื่อวิชาการแพทย์ของแม่ แม่ร้ายกาจมาก”
ลู่เจียวกล่าวจบก็กำหมัดชูไปมา เจ้าหนูน้อยทั้งสี่เห็นนางเช่นนี้ก็มีสีหน้าดีขึ้น
เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ ค่อยๆ เก็บงำรัศมีเยียบเย็นรอบกายลง ยิ้มกล่าวว่า “อืม ข้าเชื่อ เจียวเจียวออกหน้าเอง จะต้องรักษาท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ได้ เช่นนั้นข้าพาลูกทั้งสี่กลับไปรอเจ้าที่บ้าน”
“ตกลง”
ลู่เจียวลุกขึ้น นายผู้เฒ่าฉีกับฉีเหล่ยรีบลุกตามนางออกไป
“พวกเราไปจวนอู่กั๋วกงเป็นเพื่อนลู่เหนียงจื่อ”
พ่อบ้านจวนอู่กั๋วกงไม่ปฏิเสธ เพราะพวกเขาเองเห็นลู่เจียวท่าทางอายุยังน้อย ก็ไม่ค่อยจะเชื่อว่าลู่เจียวรักษาอาการฮูหยินได้