Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 573

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 573

ตอนที่ 573 อยากเล่าก็เล่า

ลู่เจียวยิ้มพลางส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่เป็นไร เมื่อวานเป็นเพราะเหนื่อยเกินไป หลังจากได้นอนไป ตอนนี้ก็รู้สึกดีขึ้นแล้ว”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นจ้องมองนาง “ไม่เป็นไรจริงหรือ”

ลู่เจียวยิ้มมองเขากล่าวว่า “เจ้าไม่เชื่อข้าหรือ ข้าบอกว่าไม่เป็นไรก็คือไม่เป็นไร”

นางกล่าวจบก็คิดลุกลงจากเตียงไปล้างหน้า เซี่ยอวิ๋นจิ่นพลันยื่นมือไปดึงนางกลับมานั่งบนเตียง “เจียวเจียว ข้าอยาก…”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกำลังคิดจะเล่าเรื่องที่ได้พบกับกับหลินหรูเยว่ในงานเลี้ยงฉยงหลินให้ลู่เจียวฟัง ไม่คิดว่า เจ้าหนูน้อยทั้งสี่จะวิ่งกันเข้าประตูมา “ท่านแม่ หายดีแล้วหรือ”

“ยังเหนื่อยอีกหรือไม่ ต้องการพักผ่อนอีกไหม”

“หรือให้ข้าท่องชื่อสมุนไพรให้ท่านแม่ฟัง”

“ข้าร้องเพลงให้ท่านแม่ฟังอีกครั้งก็แล้วกัน”

ลู่เจียวยิ้มมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กล่าวว่า “แม่นอนมาทั้งคืน ตอนนี้ไม่เป็นอันใดแล้ว ดังนั้นอย่าได้เป็นห่วง ใช่แล้ว วันนี้พวกเจ้าจะไปเป็นงานเลี้ยงที่บ้านไปท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวนี่”

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ได้ฟังคำพูดลู่เจียว เห็นสีหน้านางเหมือนว่าไม่เหนื่อยแล้วจริงๆ เด็กๆ จึงได้วางใจลงได้อย่างแท้จริง

“ท่านแม่ พวกเราไปกินอาหารเช้ากัน”

“ตกลง”

ลู่เจียวลงจากเตียง เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังถอนหายใจอย่างจนปัญญา เอาละ รอคืนนี้ค่อยกลับมาบอกก็แล้วกัน

หลังจากกินอาหารเช้าอาหารเช้า ทั้งครอบครัวก็ไปร่วมงานเลี้ยงที่จวนตระกูลหลิว

รถม้ามาถึงหน้าประตูตระกูลหลิว พบว่าตระกูลหลิวหน้าประตูมีรถม้าขวักไขว่ คนก็ยืนกันแน่นมาก

รถม้าตระกูลเซี่ยได้แต่เข้าแถวหลัง ค่อยๆ รออยู่ในรถม้า เจ้าหนูน้อยทั้งสี่นั่งไม่ติด ชะโงกหน้าออกไปมองข้างนอก จากนั้นก็ตกใจร้องส่งเสียงดังขึ้นว่า “โอโฮ รถม้ามากมาย คนก็มากมาย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวมองออกไปด้านนอก ทั้งสองคนพากันเลิกคิ้วครุ่นคิด มิน่าฮ่องเต้จึงได้คิดจะข่มบารมีหลิวโส่วฝู่ คิดกำจัดเขา ภาพเหตุการณ์เช่นนี้เรียกได้ว่าเป็นบุคคลอันดับหนึ่งในแคว้นต้าโจว ฮ่องเต้จะปล่อยให้ขุนนางดำรงอยู่เช่นนี้ได้อย่างไร แม้แต่บรรดาองค์ชายก็แย่งกันไปประจบสอพลอเขา

“หลิวโส่วฝู่ควรดำรงตนสงบเสงี่ยมสักหน่อย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นค่อยๆ เอ่ยขึ้น ลู่เจียวพยักหน้าเห็นด้วยก่อนจะเอ่ยว่า “เขาควรจะกระจายอำนาจในมือตนเองออกไป จากนั้นก็ค่อยๆ ถอย สุดท้ายก็ขอลาจากตำแหน่งกลับบ้านเกิด นี่จึงจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาตัวให้รอดปลอดภัย และยังเป็นการรักษาบุตรชายของเขาให้รอดปลอดภัยเช่นกัน”

เพียงแต่คนเช่นหลิวโส่วฝู่ จะยอมกระจายอำนาจในมือตนเองออกไปได้หรือ

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวกำลังคุยกันอยู่นั้น เอ้อร์เป่าที่ตะกายอยู่ข้างหน้าต่างก็ร้องเรียกดังขึ้น “ท่านแม่ รีบมาดูเร็ว หญิงไม่ดีผู้นั้นก็มางานด้วย”

ซานเป่ากับซื่อเป่ามองตามมือเอ้อร์เป่าชี้ไป ก็ส่งเสียงร้องดังพร้อมกันว่า “เป็นนางจริงด้วย นางมางานบ้านท่านปู่หลิวกับท่านย่าหลิวได้อย่างไร”

“พวกเราต้องคอยจ้องมองนางให้ดี หากนางมารังแกท่านแม่ พวกเราจะไม่ยอมปล่อยนางไป”

ซื่อเป่าโมโหฮึดฮัดกล่าวขึ้น

ในรถม้า ลู่เจียวมองออกไปก็เห็นรถม้าพวกเขาอยู่ด้านหน้าไม่ไกลนัก ในรถม้าจวนเฉิงเต๋อโหว หลินหรูเยว่กำลังเลิกหน้าต่างมองออกมา

พอลู่เจียวเห็นหลินหรูเยว่ แววตาก็วาบขึ้น ปากก็เม้มคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม หลินหรูเยว่ก็มางานจวนตระกูลหลิว ดีจริงเลย วันนี้นางก็จะดูว่าหญิงผู้นี้เกี่ยวข้องอันใดกับเซี่ยอวิ๋นจิ่นหรือไม่ หากพวกเขาเกี่ยวข้องกัน ด้วยความเข้าใจของนางที่มีต่อหลินหรูเยว่ ไม่น่าจะไม่แสดงออกอันใดกระมัง

ในรถม้า เซี่ยอวิ๋นจิ่นได้ฟังเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ก็หันไปมองด้านนอกด้วยสัญชาตญาณ เขาย่อมเห็นหลินหรูเยว่ แต่เขาถอนสายตาคืนกลับมาทันที ตอนเขาหันไปมองลู่เจียว ทันได้เห็นมุมปากลู่เจียวคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม

เซี่ยอวิ๋นจิ่นสะดุ้งในใจ เริ่มรู้สึกถึงลางไม่ดีขึ้นมา พร้อมกันนั้นเขาก็เริ่มคาดเดาออกว่า ลู่เจียวคงรู้เรื่องเขากับหลินหรูเยว่ ผู้ใดบอกนาง หรือว่า…

เซี่ยอวิ๋นจิ่นครุ่นคิดรวดเร็ว คิดถึงเรื่องเมื่อวานเขาได้เจอกกับหลินหรูเยว่ที่หอปาซ่าน จากนั้นก็ทั้งสองคนก็ออกมาด้วยกัน เจียวเจียวคงไม่ได้มาเห็นพอดีกระมัง

เซี่ยอวิ๋นจิ่นร้อนใจจนเหงื่อผุดเต็มใบหน้า เขารีบมองลู่เจียว “เจียวเจียว มีเรื่องหนึ่งข้าอยากบอกกับเจ้า”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเพิ่งกล่าวจบ พ่อบ้านตระกูลหลิวคนหนึ่งก็วิ่งมาอยู่นอกรถม้า “เซี่ยจ้วงหยวนกับลู่เหนียงจื่อมาแล้ว นายหญิงผู้เฒ่ากับนายผู้เฒ่าเราให้ข้าน้อยมารอต้อนรับเซี่ยจ้วงหยวนกับลู่เหนียงจื่อ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นคิดเอ่ยก็ไม่อาจได้เอ่ย ในใจก็ยิ่งกลัดกลุ้ม มือหนึ่งกำมือลู่เจียวแน่น ลู่เจียวหันหน้าไปมองเขา ยิ้มตาหยีเอ่ยว่า “ท่านพี่เป็นอะไรหรือ”

รอยยิ้มนี้ยิ่งทำให้ในใจเซี่ยอวิ๋นจิ่นเกร็งแน่น แต่ต่อหน้าเจ้าหนูน้อยทั้งสี่กับพ่อบ้านตระกูลหลิว เขาไม่อาจเล่าเรื่องเขากับหลินหรูเยว่ได้ สุดท้ายได้แต่กัดฟันกล่าวว่า “เจียวเจียว เรื่องไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด คืนนี้กลับไปข้าเล่าให้เจ้าฟังอย่างละเอียด ดีหรือไม่”

ในใจลู่เจียวรู้สึกโมโหอยู่บ้างเช่นกัน เมื่อวานนางรอเขาเล่า เขาไม่เล่า ตอนนี้กลับคิดเล่า อยากเล่าก็เล่า ไม่อยากเล่าก็แล้วไป

“ตามใจเจ้า”

นางกล่าวจบหันหน้าไปไม่ยอมมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอีก ไหนเลยเซี่ยอวิ๋นจิ่นจะยังไม่เข้าใจ เจียวเจียวเห็นเขากับหลินหรูเยว่จริงๆ นางเดิมก็ไม่ชอบหลินหรูเยว่ สุดท้ายมาพบว่าเขากับหลินหรูเยว่เดินมาด้วยกัน แค่คิดก็รู้ได้ว่านางโมโหเพียงใด ดังนั้นเมื่อวานสีหน้านางจึงได้ไม่ดีเช่นนั้น

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองลู่เจียวด้วยแววตาเว้าวอน “เจียวเจียว อย่าได้โมโห เรื่องไม่ใช่อย่างที่เจ้าคิด ไว้คืนนี้พวกเรากลับไปคุยกันนะ”

รถม้าขับมาถึงหน้าประตูจวนตระกูลหลิวพอดี ลู่เจียวลุกขึ้นพาเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ลงจากรถม้า ไม่ได้สนใจ เซี่ยอวิ๋นจิ่น

เซี่ยอวิ๋นจิ่นยิ้มเฝื่อน ค่อยๆ ตามลงไป แต่งานเลี้ยงตระกูลหลิวครั้งนี้ ผู้ชายอยู่เรือนด้านหน้า ผู้หญิงอยู่เรือนด้านหลัง ดังนั้นคนตระกูลเซี่ยเพิ่งจะลงมา ตระกูลหลิวก็ส่งพ่อบ้านสองคนมารอรับ พ่อบ้านมองเซี่ยอวิ๋น จิ่นกล่าวด้วยความเคารพนอบน้อมว่า “เซี่ยจ้วงหยวน เชิญตามบ่าวมา”

บ่าวหญิงก็มองลู่เจียวกล่าวว่า “ลู่เหนียงจื่อ นายหญิงผู้เฒ่ากำลังรอท่านอยู่”

ลู่เจียวพยักหน้า “ไป”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นด้านหลังมองตามลู่เจียวที่ไม่สนใจเขา เขาไม่กล้าส่งเสียงเรียกนาง ได้แต่เรียกเฝิงจือกำชับ ว่า “หากเกิดเรื่องอะไร เจ้ารีบให้คนมาตามข้า รู้ไหม”

เฝิงจือรับคำพยักหน้า หร่วนจู๋ตบหน้าอกรับรองกล่าวว่า “คุณชายวางใจ ข้าจะคุ้มครองเหนียงจื่อกับคุณชายน้อยเอง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกลับไม่ค่อยวางใจ เพราะวันนี้หลินหรูเยว่มาจวนตระกูลหลิวด้วย หากนางไปพูดจาเหลวไหลอันใดต่อหน้าเจียวเจียว เจียวเจียวคงจะยิ่งโมโห อีกอย่างเขาเองก็กลัวหลินหรูเยว่จะวางอุบายเจียวเจียว

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองตามพวกลู่เจียวไป จากนั้นก็เรียกถงอี้มา สั่งการถงอี้ให้คิดหาทางไปเรือนด้านหลังไปคอยอารักขาพวกลู่เจียว

ถงอี้กล่าวอย่างจนปัญญาว่า “เรือนด้านหลังมีผู้คุ้มกัน ข้าน้อยเข้าไปเกรงว่าจะไม่เหมาะ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองเขากล่าวว่า “เจ้าหน้าตาไม่เลว แต่งกายเป็นหญิงปะปนเข้าไปก็เหมาะมาก วันนี้มีคนมาก ไม่มีใครสนใจเจ้าหรอก”

ถงอี้สีหน้าเฝื่อนขม สุดท้ายก็ตอบรับอย่างเสียไม่ได้ว่า “บ่าวเข้าใจแล้ว”

“ไป จำไว้ว่าต้องคอยจ้องมองคุณหนูใหญ่จวนเฉิงเต๋อโหวให้ดี อย่าให้นางมีโอกาสทำร้ายเหนียงจื่อ”

ถงอี้มองเซี่ยอวิ๋นจิ่นอย่างไร้วาจาจะกล่าว นายเขารู้นานแล้วว่าหลินหรูเยว่ไม่ประสงค์ดี แล้วเหตุใดไม่บอกกับเหนียงจื่อเองให้กระจ่าง จริงๆ เลย!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version