Skip to content
Home » Blog » ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 605

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 605

ตอนที่ 605 ก็แค่คนธรรมดาสามัญเท่านั้น

ภรรยาเฉินมู่อู่กล่าวจบก็มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่น กล่าวว่า “เซี่ยอวิ๋นจิ่น ตอนนี้เจ้าเป็นขุนนางใหญ่ขนาดนี้แล้ว น่าจะหางานให้มู่อู่เราทำได้บ้าง ได้ยินว่าลูกน้องขุนนางใหญ่เช่นนี้ต้องมีพวกจู่ปู้อะไรพวกนี้ เจ้าก็จัดให้มู่อู่บ้านเราไปทำบ้างได้หรือไม่ พวกเจ้าเป็นศิษย์พี่ศิษย์น้อง เขาไปก็จะได้ช่วยงานเจ้าได้พอดี”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ตอบ สีหน้าอาจารย์เฉินย่ำแย่อย่างมาก เขาโมโหถลึงตาใส่ลูกสะใภ้รอง

“หุบปาก ไสหัวไป”

ครั้งก่อนก็เพราะลูกสะใภ้คนนี้จึงได้ผิดใจกับอวิ๋นจิ่น ครั้งนี้นางเอาอีกแล้ว

อาจารย์เฉินนึกเสียใจอย่างที่สุด เหตุใดตอนนั้นจึงได้แต่งสะใภ้ไม่ได้ความเช่นนี้มาเป็นภรรยาบุตรชายรองได้

แต่ภรรยาเฉินมู่อู่กลับไม่รู้ตัว ยังคงส่งเสียงโหวกเหวกใหญ่โต “ท่านพ่อ มู่อู่ตอนนี้ไม่มีอันใดทำ ก็ให้ไปช่วยเซี่ยอวิ๋นจิ่นทำงานสักหน่อยก็ได้ เขาไม่ได้เป็นขุนนางระดับหกแล้วหรือ งานเล็กๆ น้อยๆ ก็คงไม่เป็นอันใด”

อาจารย์เฉินถูกนางทำเอาโมโหจนความดันพุ่งสูง สีหน้าเขียวคล้ำ อาจารย์แม่ตกใจรีบปลอบใจเขา “ท่านพี่อย่าโมโหไป นางมันตัวไม่ได้เรื่อง”

เฉินมู่อู่สีหน้าย่ำแย่อย่างยิ่ง เดินไปตรงหน้าภรรยาตนแล้วก็ลากนางออกไป

ภรรยาเขายังไม่พอใจจะไป ตะโกนอย่างโมโหว่า “เจ้ามาลากข้าทำไม ข้าหางานให้เจ้าทำอยู่ เขาสอบจ้วงหยวนได้เป็นขุนนาง เป็นเพราะท่านพ่ออบรมสอนสั่งมาดี วันนี้เขาเจริญรุ่งเรืองแล้ว ช่วยเจ้าสักหน่อยจะเป็นอันใดไป อีกอย่างตอนนั้นหากไม่ใช่ภรรยาเขาแย่งชิงเขาไป เขาก็เป็นเขยตระกูลเฉินเราแล้ว เจ้าก็เป็นพี่เขยแล้ว ให้เขาช่วยสักหน่อยจะเป็นอันใดไป”

ทุกคนในห้องต่างได้ยินคำพูดภรรยาเฉินมู่อู่ อาจารย์เฉินโมโหเดือดหายใจแทบไม่ทัน ลู่เจียวรีบเข้าฝังเข็มให้เขาสองเล่ม จึงทำให้เขาหอบหายใจเบาลง

อาจารย์แม่โมโหปาดน้ำตา “เหตุใดจึงได้แต่งนางคนไม่เรื่องเช่นนี้มาได้”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นมองอาจารย์เฉินกล่าวว่า “ท่านอาจารย์ มู่อู่ไม่มีอันใดทำหรือ ข้าสามารถช่วย…”

อาจารย์เฉินรีบเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม “เจ้าอย่าไปสนใจนาง ตอนนี้เจ้าเพิ่งจะรับตำแหน่ง ยังยืนไม่มั่น ไปทำงานของเจ้าก่อนเถอะ”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นเองก็มิได้ปฏิเสธ กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “ได้ แต่ท่านอาจารย์วางใจ รอให้ข้าจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วก็จะต้องช่วยหางานที่ดีให้มู่อู่ เพียงแต่หากภรรยาเขาอยู่…”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นไม่ได้กล่าวต่อ แต่ในใจอาจารย์เฉินกับอาจารย์แม่เข้าใจกระจ่าง มีภรรยาเช่นนี้อยู่ด้วย เฉินมู่อู่ไม่มีทางทำงานอันใดทั้งนั้น ดังนั้นภรรยาเช่นนี้ไม่อาจเอาไว้ ไม่เช่นนั้นชีวิตเฉินมู่อู่ก็คงอยู่ได้แต่ในตำบลชีหลี่

สองสามีภรรยาสองคนตัดสินใจจะกลับไปถามเฉินมู่อู่ หากเขาต้องการภรรยาเช่นนี้ เช่นนั้นชีวิตนี้ก็อยู่แต่ตำบลชีหลี่นี่ไป หากคิดออกไปบุกเบิก ภรรยาเช่นนี้ไม่อาจเก็บไว้

เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเห็นว่าสายแล้ว ก็ลุกขึ้นจะกลับ

“เพราะต้องไปรับตำแหน่งที่เมืองหนิงโจว ดังนั้นวันนี้จึงได้แวะมาที่นี่ก่อน วันหน้าค่อยมาเยี่ยมอาจารย์กับอาจารย์แม่ใหม่”

อาจารย์เฉินกับอาจารย์แม่ไม่ได้รั้งพวกเขาไว้กินข้าว อาจารย์แม่ออกมาส่งพวกเขา

เจ้าหนูน้อยทั้งสี่กำลังจะไป นางหันไปมองเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ข้างๆ ก็อดอุทานในใจไม่ได้ว่า เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ดีจริง

ในเวลานี้ซื่อเป่ากำลังเอียงหน้ามองนาง พอมองไปเช่นนี้ทำเอาอาจารย์แม่มองตาค้าง เพราะดวงตาเขาช่างเหมือนกับบุตรสาวตน บุตรสาวนางเกิดมาก็มีเรียวตาดอกท้อ ยิ้มทีก็จะโค้งราวจันทร์เสี้ยว น่ารักมาก

ดวงตาซื่อเป่าก็เช่นกัน อาจารย์แม่มองจนจิตใจสั่นไหว นิ่งอึ้งไปในชั่วขณะ

แต่ซื่อเป่าเพียงแค่เอียงหน้ามองนางทีหนึ่งก็หันหลังวิ่งตามไปดึงมือลู่เจียวด้านหน้า “ท่านแม่”

ลู่เจียวเห็นอาจารย์แม่จ้องมองซื่อเป่า ในใจก็รู้สึกไม่สบายใจ ยื่นมือไปคว้ามือซื่อเป่าหันหลังให้อาจารย์แม่ยิ้มกล่าวว่า “อาจารย์แม่ ไม่ต้องส่ง พวกเรากลับแล้ว”

อาจารย์แม่ได้สติก็โบกมือมองส่งเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวทั้งครอบครัวขึ้นรถม้าจากไป

พอนางกลับมาที่ห้องอีกครั้ง ก็มีท่าทางเลื่อนลอย อาจารย์เฉินถามอย่างห่วงใยกล่าวว่า “เจ้าเป็นอันใดหรือ”

อาจารย์แม่พลันหันไปมองอาจารย์เฉิน ร้องไห้กล่าวว่า “หากบุตรสาวเรามีบุตรชายสักคนจะดีเพียงใด”

อาจารย์เฉินกล่าวอย่างแปลกใจว่า “อยู่ดีๆ เหตุใดคิดเรื่องพวกนี้”

คิดถึงบุตรสาวขึ้นมา เขาเองก็เสียใจ เฉินอิงเป็นเด็กดีเชื่อฟังมาแต่เล็ก และยังหน้าตาดีมาก ตอนนั้นผู้ใดเห็นนางก็ต้องเอ่ยชม แต่เด็กดีที่เชื่อฟังเช่นนี้กลับยืนยันไม่เห็นด้วยกับการแต่งงานที่พวกเขาเลือกให้ สุดท้ายทำเอาตนเองต้องตายจากไป

อาจารย์แม่ร่ำไห้ปาดน้ำตา “ก่อนหน้านี้ข้าเห็นลูกๆ ของครอบครัวอวิ๋นจิ่น ดวงตาเขาเหมือนบุตรสาวเรามาก หากบุตรสาวเรามีลูกต้องเหมือนกับเขาอย่างแน่นอน”

อาจารย์เฉินได้ฟังอาจารย์แม่ก็ไม่พอใจทันที ตำหนิว่า “เจ้าอย่าได้พูดจาเหลวไหล ลูกๆ ครอบครัวอวิ๋นจิ่นจะมาเหมือนบุตรสาวเราได้อย่างไร วันหน้าอย่าได้เอ่ยเช่นนี้อีก”

หากอวิ๋นจิ่นมีใจต่อบุตรสาวเขา ก็คงอยู่ร่วมกันไปแล้ว ไหนเลยจะมีโอกาสให้ผู้อื่น

อาจารย์แม่ได้แต่กลั้นน้ำตารับคำ “ท่านพี่อย่าได้โมโห ข้ารู้แล้ว”

บนรถม้าตระกูลเซี่ย ลู่เจียวมองเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “วันหน้าจะมาตระกูลเฉินอีก เจ้ามาคนเดียวก็พอ อย่าให้พวกเราตามมาด้วย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพอได้ฟังก็รู้ความหมายในวาจาของลู่เจียว นางกลัวอาจารย์เฉินกับอาจารย์แม่จะพบว่าซื่อเป่าหน้าตาเหมือนกับเฉินอิง

“ได้ วันหน้าข้ามาเยี่ยมอาจารย์กับอาจารย์แม่คนเดียวก็พอ”

ลู่เจียวพยักหน้า ความจริงตามหลักการแล้วนางควรให้ซื่อเป่ารับรู้เรื่องอาจารย์เฉินกับอาจารย์แม่ แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่เหมาะ ตระกูลเฉินรู้เรื่องนี้คราแรกก็อาจดีใจ แต่จากนั้นเล่า เกรงว่าไม่มีทางดีใจ อีกอย่าง ยังมีป้าสะใภ้ที่ไม่ได้เรื่องอีก หากรู้สถานะซื่อเป่า ไม่รู้ว่าจะหัวเราะเยาะเช่นไร

ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร นางจะไม่ให้ซื่อเป่ารับรู้เรื่องอาจารย์เฉินกับอาจารย์แม่ในตอนนี้ รอให้วันหน้าเขาโตก่อน ค่อยบอกชาติกำเนิดเขา เขายินยอมก็นับญาติเอาเอง

ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็เปลี่ยนประเด็นอื่น “เหตุใดอาจารย์เฉินกับอาจารย์แม่จึงได้แต่งหญิงเช่นนั้นมาเป็นลูกสะใภ้ ช่างไม่ได้เรื่อง”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นถอนหายใจ เมื่อก่อนเขาเติบโตมากับเฉินมู่อู่สนิทกันมาก ไม่ว่าอย่างไรก็คิดไม่ถึงว่าเขาถึงกับแต่งภรรยาเช่นนี้

“ช่างเถอะ อย่าไปพูดถึงนางเลย ก็แค่คนธรรมดาสามัญเท่านั้น”

ลู่เจียวพยักหน้าเล็กน้อย มองไปยังเซี่ยอวิ๋นจิ่นกล่าวว่า “พวกเราตรงไปเมืองหนิงโจวเลยหรือ”

“อืม ตรงไปเลย”

ลู่เจียวสั่งการหลินต้าขับรถม้าตรงไปเมืองหนิงโจว

หน้าประตูเมือง พ่อบ้านเซียวกำลังนำโจวเส้ากงมารออยู่ พอเห็นรถม้าตระกูลเซี่ยมา ทั้งสองคนรีบออกไปรอรับ

หลินต้าหยุดรถม้า พ่อบ้านเซียวรีบเข้ามารายงานรวดเร็ว “บ่าวคารวะใต้เท้า ฮูหยิน”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นค่อยๆ เลิกม่านออกมาถามว่า “สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง หาบ้านได้แล้วหรือยัง”

“เรียนใต้เท้า หาบ้านได้แล้ว ห่างจากที่ทำการเมืองออกไปถนนสองสาย ขนาดใกล้เคียงกับบ้านเดิมของพวกเราก่อนหน้านี้ เพียงแต่ราคาแพงอยู่สักหน่อย”

เซี่ยอวิ๋นจิ่นพยักหน้าเล็กน้อย กล่าวว่า “แพงก็สมควร เมืองหนิงโจวไม่ได้ด้อยไปกว่าอำเภอชิงเหอ บ้านที่นี่ก็ย่อมต้องแพง ตอนนี้จัดของเรียบร้อยแล้วหรือยัง”

“เรียนใต้เท้า จัดการเรียบร้อยแล้วขอรับ”

“ดีมาก นำทางไปเลย”

พ่อบ้านเซียวกับโจวเส้ากงสองคนหันหลังขึ้นรถม้า ทั้งสองคนนำทางตรงไป

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version