ตอนที่ 633 ถูกตบแล้ว
ฮูหยินหูกับหูซ่านคิดไม่เข้าใจว่า ฮูหยินเซี่ยคือผู้ใด แต่ไม่นานก็ตั้งสติได้ทัน ฮูหยินเซี่ยก็คือลู่เจียว ภรรยาเซี่ยอวิ๋นจิ่น
คิดถึงว่าหลี่อวี้เหยากับลู่เจียวสาบานเป็นพี่น้องกัน ฮูหยินหูก็มีสีหน้าไม่ดีนัก นางหันไปมองหูซ่าน “ฮูหยินเซี่ยคงไม่ได้มาให้ท้ายภรรยาเจ้ากระมัง หากเป็นเช่นนี้ แม่คงต้องอบรมนางให้หนัก เรื่องในบ้านอย่าได้แพร่ออกไปข้างนอก เหตุใดนางจึงเอาเรื่องตระกูลหูออกไปเล่าข้างนอก”
หูซ่านเองก็มีสีหน้าไม่ดี เรื่องในบ้านแพร่ออกไปดูเสียหน้ามาก
หูซ่านรับคำ “ท่านแม่วางใจ ข้าจะบอกนางเอง”
แม้ว่าฮูหยินหูกล่าวเช่นนี้แต่กลับไม่อาจไม่ไปต้อนรับนาง มองดูสองสาวใช้ที่พื้น สั่งการว่า “เอาละ ออกไปได้”
สองสาวใช้งุนงง ตอนนี้พวกนางนับว่าเป็นอนุคุณชายแล้วหรือยัง
แต่ทั้งสองคนไม่กล้าถาม ลุกขึ้นออกไปทันที ฮูหยินหูลุกขึ้นพาหูซ่านออกไปต้อนรับ
ตอนนี้ลู่เจียวเป็นฮูหยินถงจือระดับหก ตำแหน่งสูงกว่านายท่านพวกเขา ดังนั้นพวกเขาย่อมต้องไปต้อนรับ
พอทุกคนเดินตรงมาถึงนอกประตู
หน้าประตูจวนตระกูลหูมีขบวนอลังการรออยู่ หน้าสุดเป็นรถม้าหรูหราคันหนึ่ง บนรถม้า ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ดึงมือลู่เจียวมากุมไว้แน่น “เจียวเจียว บุตรีข้าหน้าตาเหมือนข้าจริงหรือ”
“ใช่แล้ว นางหน้าตาเหมือนกับท่านหญิงมาก ท่านหญิงอย่าเพิ่งใจร้อน อีกสักครู่ก็จะได้พบนางแล้ว”
ลู่เจียวเพิ่งกล่าวจบ เสียงฮูหยินหูก็ดังขึ้น “คารวะฮูหยินเซี่ย”
ลู่เจียวรีบเลิกม่านมองออกไป เห็นหน้าประตูจวนตระกูลหูเปิดออก พวกฮูหยินหูกับหูซ่านพาคนออกมาต้อนรับ
นางยิ้มรับคำก่อนจะลงจากรถม้า จากนั้นก็ประคองท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ออกจากรถม้า
ด้านหลังมีซื่อจื่อเนี่ยเยี่ยหลิงกระโดดลงจากหลังม้าก้าวเข้ามายืนข้างมารดาตน
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เป็นบุตรีองค์หญิงใหญ่ สตรีสูงศักดิ์แท้จริง ย่อมเปล่งรัศมีสูงศักดิ์รอบกาย
ฮูหยินหูเป็นแค่ฮูหยินนายอำเภอเล็กๆ ก็มองออกว่านางไม่เหมือนหญิงธรรมดาทั่วไป และชายที่ยืนข้างนางก็ดูแล้วไม่ใช่ชาวบ้านธรรมดา กิริยาท่าทางไม่เพียงแต่เปล่งบารมีสูงศักดิ์ ทำให้คนรู้ว่าคนตรงหน้าเหล่านี้เป็นกลุ่มคนสูงศักดิ์
ฮูหยินหูเผชิญหน้ากับคนเหล่านี้ก็รู้สึกเคร่งเครียดขึ้นมา อดถามลู่เจียวไม่ได้ว่า “พวกเขาคือ…คือผู้ใด”
ลู่เจียวแนะนำท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงให้ฮูหยินหูรู้จัก “ท่านนี้คือท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ บุตรีองค์หญิงใหญ่ ท่านนี้คือบุตรชายของนาง ซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกง”
ท่านหญิง? ซื่อจื่อ?
ฮูหยินหูตกใจสะดุ้ง สีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ ราชวงศ์ห่างไกลจากนางมาก ตอนนี้ได้ยินก็รู้สึกว่าไม่ใช่เรื่องจริง
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ก้าวเข้ามาดึงมือฮูหยินหูไปกุมอย่างตื่นเต้น “เจ้าก็คือแม่สามีของหลิงตังหรือ”
ฮูหยินหูอึ้งไปทันที ตอนนี้ยังตั้งสติไม่ทัน ได้แต่ยืนนิ่งไม่เคลื่อนไหวอยู่เป็นนาน
หูซ่านเองก็นิ่งอึ้ง ไม่รู้ว่าควรมีปฏิกิริยาอย่างไร
ท่าทางของเขาอยู่ในสายตาของซื่อจื่อเนี่ยเยี่ยหลิง ก็ได้แต่รู้สึกดูแคลน น้องเขยตนเองไยจึงโง่เง่าเช่นนี้
หากน้องสาวยินยอม ก็หย่าผู้ชายเช่นนี้เสียก็ได้
เนี่ยเยี่ยหลิงแอบครุ่นคิดในใจ
ลู่เจียวเงยหน้าไม่เห็นหลี่อวี้เหยา ก็เอ่ยขึ้นอย่างนุ่มนวลว่า “พี่อวี้เหยาล่ะ”
ฮูหยินหูกับหูซ่านได้สติคืนมา กลัวลู่เจียวรู้ว่าหลี่อวี้เหยาโดนรังแกแล้วจะมาเอาเรื่องพวกนาง ดังนั้นเอ่ยขึ้นว่า “นางสุขภาพไม่ค่อยดี ดังนั้นจึงพักผ่อนอยู่ในบ้าน”
“อ้อ เช่นนั้นรบกวนพวกท่านพาพวกเราไปเยี่ยมนางหน่อย”
ฮูหยินหูกับหูซ่านท่าทางไม่ยินดี สาเหตุหลักก็เพราะกลัวอารมณ์หลี่อวี้เหยายังไม่สงบนิ่ง ทำให้ลู่เจียวมองออก
แต่คนก็มากันแล้ว ไม่ให้พวกเขาพบกันก็คงเป็นไปได้ยาก
ฮูหยินหูคิดไปคิดมาก็พยักหน้า “ได้ พวกเราพาพวกเจ้าเข้าไปเยี่ยม”
ไม่เชื่อว่าสะใภ้ตนจะไม่รู้หนักเบา ทำเสียเกียรติตระกูลหูก็จะเป็นการเสียเกียรตินางเองด้วย
ฮูหยินหูคิดเช่นนี้ ในใจก็สงบลงไม่น้อย หันหลังพาลู่เจียวกับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่และซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงเดินไปยังเรือนพักหลี่อวี้เหยา
ตลอดทางมา ฮูหยินหูแอบถามลู่เจียวอย่างระมัดระวังว่า “ท่านหญิงกับซื่อจื่อมาตระกูลหูเราด้วยเรื่องอันใดกัน”
ลู่เจียวมองท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกง ยิ้มกล่าวว่า “อีกสักครู่พวกท่านก็รู้แล้ว”
เพราะยังไม่อาจแน่ใจว่าหลี่อวี้เหยาก็คือหลิงตัง บุตรีท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ ดังนั้นนางจึงไม่กล้าพูด
พอทุกคนก้าวเข้าไปในเรือนหลี่อวี้เหยา สาวใช้เห็นพวกลู่เจียวมาก็รีบหันหลังวิ่งไปรายงานหัวหน้าสาวใช้ว่ามีแขกมา
หัวหน้าสาวใช้รีบเข้าไปแจ้งหลี่อวี้เหยาในห้อง
หลี่อวี้เหยาปาดน้ำตา จัดแจงตนเองให้เรียบร้อยเตรียมออกมาต้อนรับ
นางออกมาต้อนรับก็เห็นคนที่มาคือลู่เจียว น้ำตาก็ไม่อาจระงับได้อีกต่อไป คล้ายว่าได้พบญาติสนิท ความเก็บกดอัดอั้นในใจก็พลันระงับไม่อยู่
ลู่เจียวเห็นนางเช่นนี้ก็รู้ว่านางโดนรังแกมา
นางมองฮูหยินหูกับหูซ่านคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม ครั้งนี้ตระกูลหูน่าจะโดนของจริงเข้าบ้างแล้ว
ลู่เจียวก้าวเข้าไปประคองหลี่อวี้เหยา ถามอย่างอ่อนโยนว่า “พี่อวี้เหยาเป็นอะไรไปหรือ”
ยามนี้หลี่อวี้เหยาสนใจแต่ลู่เจียว ไม่ทันได้สนใจท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับเนี่ยเยี่ยหลิงซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกง
นางยื่นมือไปกอดลู่เจียวกล่าวว่า “เจียวเจียว พวกเขารังแกกันเกินไปแล้ว ก่อนหน้านี้นางอุ่นเตียงผู้นั้นวางยาพิษข้า ผ่านไปได้ไม่นาน แม่สามีก็จะยัดเยียดให้ท่านพี่อีกแล้ว ชีวิตเช่นนี้จะจบลงเมื่อใด หากไม่ใช่หลิงเสวี่ยกับผิงอัน ข้าก็อยากหย่าจริงๆ ข้าไม่อยากอยู่ตระกูลหูแล้ว ธรรมเนียมไม่จบไม่สิ้น เสียงตำหนิไม่จบไม่สิ้น อีกอย่างหูซ่านก็เอาแต่หูเบา ตะวันออกว่าดี ตะวันตกก็ว่าดี เห็นอยู่ว่ารับปากข้าว่าจะส่งนางอุ่นเตียงออกจากจวน ปรากฏถูกนางอุ่นเตียงกล่อมสองคำก็ได้อยู่ต่อ ทำเอานางอุ่นเตียงโกรธแค้นข้า จึงได้วางยาพิษข้า หากไม่ใช่เจียวเจียวพบว่าข้าโดนยาพิษ ข้าก็คงถูกนางอุ่นเตียงทำตายไปแล้ว”
“ข้าตายไป ตระกูลหูอย่างมากก็ตั้งโลงศพให้ข้าใบหนึ่ง ฝังแล้วก็แล้วไป เสียทีที่ข้ามีบุตรชายหญิงให้ตระกูลหูพวกเขา ปรากฏถึงกับมีจุดจบเช่นนี้”
คำพูดหลี่อวี้เหยาทำเอาท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ด้านหลังสีหน้าแปรเปลี่ยน แววตานางดุดัน หันไปมองฮูหยินหูข้างๆ
ฮูหยินหูถูกนางมองจนสะดุ้ง ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ยกมือตบหน้าฮูหยินหูอย่างไม่คิดเกรงใจทันที ก่อนตามไปตบอีกที
การตบหน้าฉาดนี้ทั้งหนักทั้งแรง ทำเอาคนตกใจสะดุ้งกลัว
ทุกคนหันไปมองท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ด้วยสัญชาตญาณทันที
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่โมโหจนกายสั่นเทิ้ม แววตาเต็มไปด้วยความดุดันโกรธแค้น ยามนี้นางคล้ายแม่วัวที่ปกป้องลูกน้อย
นางมองฮูหยินหู กัดฟันกรอดกล่าวว่า “นังชั้นต่ำ บุตรีข้าต้องมาเป็นทาสให้ตระกูลหูเจ้ารังแกหรือ ตระกูลหูพวกเจ้ามันตัวอันใด พวกบ้านนาก็เท่านั้น ถึงกับมีหน้ามาเอ่ยอ้างธรรมเนียมอันใด หญิงชั่วที่รู้แต่รังแกสะใภ้”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่มีสถานะสูงศักดิ์ แต่นางแต่ไรมาไม่เคยรังแกสะใภ้
คิดไม่ถึงว่าฮูหยินนายอำเภอตัวเล็กๆ ถึงกับรังแกบุตรีนางเช่นนี้ พอท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่คิดขึ้นมาก็โมโหเดือดดาล
นางแทบจะทุบฮูหยินหูให้ตาย