ตอนที่ 636 ท่านยายกับท่านลุง
นายอำเภอหูกล่าวจบก็กล่าวว่า “ตอนนี้เหยาเอ๋อร์ออกเรือนแล้ว แม้หย่าก็เป็นสตรีออกเรือนแล้ว ยังมีลูกติดสองคน วันหน้านางแต่งอีกหรือไม่แต่งอีกดี หากไม่แต่งอีก ตัวคนเดียวเลี้ยงดูลูก โดดเดี่ยวจริงๆ หากแต่งอีกครั้ง พาลูกสองคนไปด้วย จะแต่งกับผู้ใดดี และหากแต่งอีก ข้างกายชายผู้นั้นก็ใช่ว่าจะมีเหยาเอ๋อร์คนเดียว”
“ดังนั้นข้ารู้สึกว่าไม่หย่าดีกว่า ตอนนี้มีท่านหญิงกับซื่อจื่อคอยหนุน หากบุตรชายข้าหาเรื่องให้เหยาเอ๋อร์เสียใจอีก ท่านหญิงกับซื่อจื่อก็จัดการเขาได้เลย”
หูซ่านได้ฟังท่านพ่อเขาก็รีบรับรองกล่าวว่า “วันหน้าข้าล้วนฟังภรรยา รับรองจะไม่ทำให้ภรรยาเสียใจ”
ฮูหยินหูรีบกล่าวว่า “สะใภ้ วันหน้าข้าจะไม่ยุ่งเรื่องของเจ้าอีกแล้ว”
ตระกูลหูทุกคนล้วนให้คำรับรอง หลี่อวี้เหยาคิดถึงลูกสองคน คิดถึงความผูกพันกับหูซ่านหลายปีมานี้ กล่าวตามตรง หูซ่านก็ดีกับนางไม่เลว นอกจากเรื่องระหว่างนางกับท่านแม่เขาแล้ว ก็มีแค่เรื่องให้นางอดทนนางอุ่นเตียงครั้งก่อน เพราะนางร้องไห้เขาจึงได้ใจอ่อนเท่านั้น
หลี่อวี้เหยาลำบากใจ ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับซื่อจื่อลองประเมินในใจอย่างละเอียดแล้ว ก็คิดว่า หลี่อวี้เหยาไม่หย่าดีกว่า
หญิงหย่าสามีเดิมก็ยากแต่งอีกครั้ง ยังมีลูกติดอีกสองคน หากไม่แต่ง อยู่ตัวคนเดียวต่อ เด็กสองคนจะทำเช่นไร
ตระกูลหูทุกคนให้การรับรองแล้ว ยังมีจวนอู่กั๋วกงอยู่ วันหน้าหูซ่านกล้าทำให้เหยาเอ๋อร์โมโหอีก พวกเขาก็จะไม่เกรงใจเขาแล้ว
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ครุ่นคิดแล้วก็เรียกหลี่อวี้เหยา “หลิงตัง”
หลี่อวี้เหยาเดินมาข้างกายท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ดึงมือนางมากล่าวว่า “แม้ว่าหูซ่านไม่ดี แต่พวกเจ้าก็แต่งงานมีลูกกันถึงสองคนแล้ว ดังนั้นหากไม่หย่าได้ก็ไม่ควรหย่า แต่เจ้าวางใจ แม่กับพี่ชายเจ้าจะคอยดูแลเจ้า วันหน้าหากเขากล้าทำให้เจ้าเสียใจ พวกเราก็จะไม่ปล่อยเขาไป”
หลี่อวี้เหยาคิดถึงลูกสองคน ในที่สุดก็ไม่ยืนยันจะหย่าอีก มองไปยังท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กล่าวว่า “ได้ ข้าฟังคำท่านแม่”
ยามนี้คนตระกูลหูต่างโล่งอก
แต่ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เอ่ยต่ออีกว่า “แม้ว่าตอนนี้ไม่หย่า แต่หูซ่านยังต้องเขียนหนังสือรับรองว่า วันหน้าหากกล้าทำให้เหยาเอ๋อร์เสียใจ ลูกและสมบัติจะตกเป็นของเหยาเอ๋อร์ทั้งหมดและทั้งสองคนต้องหย่ากัน”
หูซ่านไหนเลยจะกล้าปฏิเสธ รีบพยักหน้าแสดงท่าทีเห็นด้วย
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่มองไปยังนายอำเภอหูกล่าวว่า “ข้ากับบุตรสาวข้าแยกจากกันมาหลายปี ชีวิตที่เหลือไม่อยากแยกจากนางอีก ดังนั้นข้าจะพานางกลับเมืองหลวง เด็กๆ กับหูซ่านก็จะตามพวกเรากลับเมืองหลวงด้วย ข้าได้ยินว่าตอนนี้หูซ่านเป็นจวี่เหริน เข้าเมืองหลวงไป หากเขาอยากเรียนหนังสือต่อก็ไปเรียนต่อที่สำนักศึกษาไป่ลู่ รอสอบเคอจวี่ หากเขาไม่อยากเรียนแล้ว ตระกูลเราก็จะหาตำแหน่งงานให้เขาทำในเมืองหลวง พวกเจ้าไม่คัดค้านกระมัง”
พาไปให้ห่างจากแม่สามี ดูว่ายายเฒ่านี้จะทำอันใดได้
นายอำเภอหูกับฮูหยินหูย่อมเห็นด้วย หูซ่านไม่อยากเรียนต่อแล้ว บอกว่าตนเองไม่มีทางสอบจิ้นซื่อได้ ดังนั้นคิดขอให้บิดาเขาหางานให้เขาทำ แม้บิดาเขาเป็นนายอำเภอ แต่ก็หางานที่พอดูดีให้เขาทำไม่ได้ ตอนนี้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ออกหน้า เรื่องงานก็คงมีหวังแล้ว และยังได้ตำแหน่งงานในเมืองหลวงอีก
นายอำเภอหูดีใจประสานมือคำนับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ เอ่ยขอบคุณ “ขอบคุณท่านหญิงแล้ว”
นายอำเภอหูกล่าวจบ รีบมองไปยังฮูหยินหูกล่าวว่า “ยังไม่รีบไปจัดงานเลี้ยงต้อนรับท่านหญิงกับซื่อจื่อ อีก ใช่แล้ว ยังมีฮูหยินเซี่ยด้วย”
ในเรือนบุปผา ลู่เจียวอมยิ้มมองดูทุกอย่าง ตระกูลหูยอมลดศักดิ์ศรีเช่นนี้ หากไม่ใช่ตระกูลหูยอมลดศักดิ์ศรี เรื่องหย่านี้ก็คงสำเร็จไปแล้ว ดังนั้นนายอำเภอหูกับฮูหยินหูก็นับว่าส่งเสริมได้
ฮูหยินหูรีบลุกไปเตรียมงานเลี้ยง
ในเรือนบุปผา ทุกคนคุยสนทนากัน ไม่ได้คิดเล็กคิดน้อยเรื่องก่อนหน้านี้
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ถามบุตรสาวอย่างห่วงใยถึงเรื่องราวหลายปีมานี้ หลี่อวี้เหยาผ่านความทุกข์ในคราแรกมาแล้ว ตอนนี้จิตใจสงบลงมาก จึงเล่าออกไปทั้งหมดอย่างไม่ปิดบัง
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่นึกถึงหลานสองคน ก็อยากพบเด็กทั้งสองทันที
หลี่อวี้เหยาสีหน้าไม่ค่อยดีนัก ตอนนี้หลิงเสวี่ยบุตรสาวนางอยู่กับมารดาสามี ส่วนบุตรชายอยู่ในเรือนตนเอง
หลี่อวี้เหยาสั่งการสาวใช้ไปพาเด็กทั้งสองมา
หูหลิงเสวี่ยกับผิงอันถูกพามาอย่างรวดเร็ว
หลี่อวี้เหยาดึงมือพวกเขาเข้ามาแนะนำให้ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกง “นี่คือท่านยาย นี่คือท่านลุง เรียกท่านยายกับท่านลุงสิ”
หูหลิงเสวี่ยกับผิงอันแปลกใจมาก มองท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกง
แม้ว่าหูหลิงเสวี่ยอายุเพียงเจ็ดขวบ แต่ท่าทางเรียบร้อยสงบนิ่ง คำนับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับซื่อจื่อจวนอู่กั๋วกงอย่างเรียบร้อย “คารวะท่านยาย ท่านลุง”
ผิงอันน้อยเห็นพี่สาวเรียก ก็เลียนแบบพี่สาว “คารวะท่านยาย ท่านลุง”
เด็กๆ ส่งเสียงเรียกกันอย่างคล่องแคล่ว แต่พอเรียกเสร็จก็ยู่ปากขึ้นทันที
“ท่านแม่ ไม่ใช่มีท่านยายกับท่านลุงแล้วหรือ เหตุใดยังมีอีก”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่มองเด็กน้อยสองคน ในใจก็เฝื่อนขมอย่างไม่อาจระงับ นางกวักมือให้เด็กสองคนเข้ามาหา พอหูหลิงเสวี่ยกับผิงอันเดินเข้ามา นางก็ก้มลงอุ้มเด็กทั้งสองขึ้นมา
“ข้าคือท่านยายแท้ๆ ของพวกเจ้า นี่คือลุงแท้ๆ ของพวกเจ้า วันหน้าพวกเจ้าต้องการสิ่งใด ท่านยายกับท่านลุงก็จะมอบให้พวกเจ้า”
หูหลิงเสวี่ยหน้าตาเหมือนกับหลี่อวี้เหยามาก ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่เห็นนางท่าทางเหมือนผู้ใหญ่ตัวน้อย ก็อดนึกถึงบุตรสาวตนตอนเด็กไม่ได้ นางเป็นเช่นนี้หรือไม่
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ปวดร้าวในใจจนพูดไม่ออก ยิ่งมองหูหลิงเสวี่ยก็ยิ่งชอบใจ
หูหลิงเสวี่ยหันขวับไปมองมารดาตน
หลี่อวี้เหยาบอกนางว่า “นี่คือท่านยายแท้ๆ ท่านยายที่ให้กำเนิดท่านแม่ ตอนนั้นท่านแม่ถูกโจรลักพาตัวไปขาย ท่านยายในตอนนี้จึงได้รับเลี้ยงท่านแม่ไว้”
หูหลิงเสวี่ยเข้าใจแล้ว หันหน้าไปพูดจาสนิทสนมกับท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ขึ้นมาทันที “ท่านยาย ท่านหาพวกเราพบได้อย่างไร”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ส่งยิ้มให้ลู่เจียวทันที กล่าวว่า “ท่านน้าลู่เจ้าเขียนจดหมายไปบอกยาย”
หูหลิงเสวี่ยได้ฟังท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ ก็มองลู่เจียว นางเผยรอยยิ้มกว้างเอ่ยเรียก “ท่านน้าลู่ ท่านน้าก็มาด้วย”
ผิงอันเห็นลู่เจียวก็เบิกบานใจส่งเสียงเรียกดัง “ท่านน้า ท่านน้าก็มาด้วย”
ลู่เจียวยิ้มพลางพยักหน้า “ใช่ ข้ามาเยี่ยมพวกเจ้าแล้ว คิดถึงน้าไหม”
หูหลิงเสวี่ยกับผิงอันน้อยเบิกบานใจ “คิดถึง”
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่กับเนี่ยเยี่ยหลิงเห็นท่าทางเด็กสองคน ก็รู้ว่าลู่เจียวสนิทสนมกับพวกเขามาก
ใบหน้าเนี่ยเยี่ยหลิงค่อยๆ แดงเล็กน้อย ก่อนหน้านี้เขายังสงสัยว่านางเห็นสถานะน้องสาวเขา จึงได้มีเจตนาอื่น ตอนนี้ดูท่านางดีกับน้องสาวมาตลอด
ท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่มองลู่เจียว คิดถึงว่านางไม่เพียงแต่ช่วยพวกนางสองแม่ลูก ยังช่วยนางตามหาบุตรสาว ในใจท่านหญิงเหวินอันเซี่ยนจู่ซาบซึ้งใจลู่เจียวอย่างไม่อาจเอ่ยเป็นคำพูดได้
ดังนั้นนางมองไปยังหลี่อวี้เหยากล่าวว่า “หลิงตัง ได้ยินว่าเจ้ากับเจียวเจียวสาบานเป็นพี่น้องกันแล้ว”
“ใช่ เจียวเจียวเดิมยังไม่เห็นด้วย แต่ข้ายืนยันจะเป็นพี่น้องกับนางให้ได้”
กล่าวถึงลู่เจียว หลี่อวี้เหยาก็เบิกบานใจ อารมณ์ดีขึ้นมามาก