ตอนที่ 673 ลดภรรยาเป็นอนุ
ฮูหยินนายอำเภอยืนขึ้น แต่สีหน้ายังคงยโสอย่างมาก นางเลิกคิ้วมองลู่เจียวกล่าวว่า “ที่แท้ก็เป็นฮูหยินถงจือ ข้าเป็นฮูหยินนายอำเภอเจิ้ง และยังเป็นคุณหนูจากจวนหนานหยางป๋อ”
ลู่เจียวรับคำอ้อเสียงหนึ่ง ที่แท้เป็นคุณหนูจวนหนานหยางป๋อ มิน่าจึงได้หยิ่งยโสเช่นนี้ แต่จวนหนาน หยางป๋อน่าจะไม่ให้คุณหนูที่ถือกำเนิดจากภรรยาเอกแต่งกับนายอำเภอตัวเล็กๆ อย่างมากก็เป็นคุณหนูจากอนุภรรยา ดังนั้นจึงได้ถูกจวนหนานหยางป๋อนำออกมาแต่งให้กับนายอำเภอเล็กๆ เชื่อมไมตรี
ขณะลู่เจียวกำลังคิดอยู่ จางเหนียงจื่อก็ยิ้มเอ่ยว่า “เกรงว่าฮูหยินนายอำเภอคงไม่รู้ว่า เซี่ยถงจือกับสามีท่านเป็นสหายร่วมชั้นเรียนกัน”
ฮูหยินนายอำเภอได้ยินจางเหนียงจื่อก็แค่นเสียงในลำคอ
ลู่เจียวกลับมีสีหน้าประหลาดใจ มองไปยังจางเหนียงจื่อ “ใต้เท้านายอำเภอกับอวิ๋นจิ่นเป็นสหายร่วมชั้นเรียนหรือ”
ลู่เจียวคิดถึงว่าข่าวที่พ่อบ้านเซียวรายงานมาก่อนหน้านี้ บอกว่าเซี่ยต้าเฉียงที่หมู่บ้านตระกูลเซี่ยสนิทกับนายอำเภอที่มาใหม่ หากนายอำเภอท่านนี้เป็นสหายร่วมชั้นเรียนกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น เขาก็คงรู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นขัดแย้งกับคนตระกูลเซี่ย เช่นนั้นเขาทำเช่นนี้ ต้องมีเจตนาอื่น
ลู่เจียวมองจางเหนียงจื่อ จางเหนียงจื่อรีบกล่าวทันทีว่า “ก็คือคุณชายเจิ้งที่สนิทสนมกับใต้เท้าเซี่ย”
ลู่เจียวไม่ได้ใส่ใจ แต่พอมาคิดให้ละเอียดอีกที ก็มีสีหน้าแทบไม่อยากจะเชื่อ นางหันไปมองฮูหยินนายอำเภอทีหนึ่ง คงไม่ใช่นางเข้าใจผิดกระมัง นายอำเภอแซ่เจิ้งคงไม่ใช่เจิ้งจื้อซิ่ง หากเป็นเจิ้งจื้อซิ่ง ฮูหยินนายอำเภอควรเป็นจู้เป่าจูถึงจะถูก เหตุใดจึงได้กลายเป็นหญิงที่มีที่มาน่าประหลาดผู้นี้ได้
แต่ลู่เจียวยังคงถามฮูหยินนายอำเภอด้วยสัญชาตญาณทันที “นายอำเภอก็คือเจิ้งจื้อซิ่งหรือ”
ฮูหยินนายอำเภอแค่นเสียงฮึในลำคอ “เขาก็คือท่านพี่ข้าเอง”
ฮูหยินนายอำเภอคิดถึงท่านพี่ตนเองตอนบอกเรื่องพวกนั้นกับนาง นางก็โมโห สหายร่วมชั้นเรียนอันใด ก็แค่คนชั่วเท่านั้น ท่านพี่นางสนิทกับเขาเช่นนั้น ตอนเขาได้รับบาดเจ็บเป็นอัมพาต ยังไปเยี่ยมมอบเงินให้ ปรากฏพอเขาหาสายสัมพันธ์ได้ กลับไม่รู้จักช่วยเหลือท่านพี่นาง
ฮูหยินนายอำเภอรู้สึกโกรธแค้นแทนสามีตนเองอย่างมาก
สีหน้าลู่เจียวย่ำแย่อย่างยิ่ง นางมองฮูหยินนายอำเภออย่างแทบไม่อยากจะเชื่อ เอ่ยถามน้ำเสียงเข้มว่า “ฮูหยินเจิ้งจื้อซิ่งไม่ควรเป็นจู้เป่าจูหรือ เหตุใดจึงกลายเป็นเจ้า”
ฮูหยินนายอำเภอได้ฟังคำพูดลู่เจียว สีหน้าก็พลันแปรเปลี่ยน นางกล่าวไม่พอใจว่า “หญิงบ้านนอกแซ่จู้จะมาเป็นภรรยาเอกท่านพี่ข้าได้อย่างไร ฮูหยินเซี่ยโปรดอย่าได้เข้าใจผิด ข้าก็คือนายหญิงตระกูลเจิ้ง หญิงแซ่จู้เป็นแค่อนุ”
ลู่เจียวคิดถึงจู้เป่าจูผู้แสนไร้เดียงสามองโลกสวยงาม น่ารักและมีน้ำใจ ในใจรู้สึกได้ถึงความเศร้าใจปริ่มทะลักขึ้นมา
ตอนนี้นางเข้าใจกระจ่างแล้ว เจิ้งจื้อซิ่งตะกายไปเชื่อมสัมพันธ์กับบุตรีอนุจวนหนานหยางป๋อ ลดสถานะภรรยาเอกตนเป็นอนุ แต่งกับบุตรีอนุจวนหนานหยางป๋อเป็นภรรยาเอก จากนั้นก็อาศัยอิทธิพลจวนหนานหยางป๋อ ได้มาซึ่งตำแหน่งนายอำเภอชิงเหอ
ลู่เจียวถึงกับคาดเดาว่าเขาอาจจะไม่เพียงแค่ตะกายเอื้อมถึงจวนหนานหยางป๋อ ทว่ายังมีผู้อื่นร่วมอีกด้วย เช่น อ๋องจิ้น อย่าได้หาว่านางคิดมาก ประการแรก พฤติกรรมที่มาตีสนิทกับเซี่ยต้าเฉียงนั้นเห็นได้ชัด รู้อยู่ว่าเขาไม่ถูกกับเซี่ยอวิ๋นจิ่น เขาเป็นสหายร่วมชั้นเรียนเซี่ยอวิ๋นจิ่น รู้ว่าเซี่ยอวิ๋นจิ่นกับเซี่ยต้าเฉียงไม่ถูกกัน ยังไปตีสนิทกับเซี่ยต้าเฉียง ผู้ใดก็ล้วนรู้ว่าเขามีเป้าหมายอื่น
ณ เวลานี้ ลู่เจียวนึกรังเกียจเจิ้งจื้อซิ่งอย่างที่สุด
นางไม่แม้แต่จะเหลือบมองฮูหยินนายอำเภอ นำคนเดินไปนั่งลงในห้องโถงกลางทันที
ฟางซื่อฮูหยินนายอำเภอเห็นว่าพอตนเอ่ยสถานะตนเอง ลู่เจียวผู้นี้ถึงกับไม่ให้เกียรตินาง สีหน้านางจากเขียวเป็นขาว จากขาวเป็นแดง โมโหขอบตาแดงก่ำ หญิงผู้นี้ไม่เห็นนางอยู่ในสายตาเกินไปแล้ว ฮูหยิน ถงจือเล็กๆ ถึงกับกำเริบเสิบสานเช่นนี้ นางจะจดจำลู่เจียวไว้แล้ว รอให้อ๋องจิ้นขึ้นสู่ตำแหน่ง นางจะต้องให้ท่านพี่นางจัดการลู่เจียวกับสามีนาง
ฟางซื่อโมโหลงนั่งกระแทก จางเหนียงจื่อกับเกิ่งเหนียงจื่อเห็นบรรยากาศไม่ดี ก็รีบเข้าไปให้บ่าวหญิงยกขนมและน้ำชามา
ในห้องโถง แขกสตรีอำเภอชิงเหอต่างไม่อยากสนทนากับฟางซื่อที่คิดว่าตนเองสูงส่ง แต่พอคิดถึงสถานะฟางซื่อ อย่างไรพวกนางก็ต้องเข้ามาเอ่ยชมนางสักคำสองคำ เพราะพวกนางเข้ามายกยอ สีหน้าฟางซื่อจึงดีขึ้นไม่น้อย แววตาที่มองลู่เจียวแอบมีแววสะใจอยู่ไม่น้อยเช่นกัน
ลู่เจียวไม่คิดจะสนใจนาง ตอนนี้นางเป็นห่วงจู้เป่าจู หญิงผู้นั้นไม่รู้ว่าถูกทรมานจนเป็นเช่นไรแล้ว
ลู่เจียวคิดไปดูนางสักหน่อย แต่พอคิดถึงว่าตอนนี้นางเป็นอนุเจิ้งจื้อซิ่ง นางไปแล้วจะได้พบหน้าหรือ ตอนนี้นางยิ่งรังเกียจคนชั่วเช่นเจิ้งจื้อซิ่งนัก
ทางฝั่งแขกสตรี แม้ว่าฟางซื่อขัดแย้งกับลู่เจียวจนไม่มองหน้ากัน แต่จากนั้นก็ไม่ได้เกิดเรื่องอันใด ประการแรก ฟางซื่อรู้สถานะลู่เจียว แม้นางโมโห แต่ลู่เจียวก็เป็นฮูหยินถงจือระดับหก นางต่อกรไม่ไหว ส่วนลู่เจียวเองก็ไม่คิดสนใจฟางซื่อ
ดังนั้นจึงไม่ได้เกิดเหตุปะทะอันใดอีก จนจ้าวหลิงเฟิงรับเจ้าสาวกลับมา แขกสตรีไม่น้อยพากันจะไปชมเจ้าสาวคนใหม่ แต่ลู่เจียวนั่งอยู่ที่เดิม ก่อนหน้านี้นางไปมอบของขวัญให้เถียนฮวนมาแล้ว ตอนนี้จึงไม่ไปร่วมวงครึกครื้นแล้ว คนมากเกินไปจะพลาดมากระแทกนางได้ง่าย นางไม่อยากให้ลูกในท้องเกิดเรื่อง
ลู่เจียวนั่งนิ่งไม่ขยับ ฟางซื่อก็แอบร้อนใจ นางมองออกว่าลู่เจียวตั้งครรภ์ ยังคิดฉวยโอกาสลงมือกระแทกท้องหญิงผู้นี้ให้แท้งสักหน่อย ปรากฏลู่เจียวนั่งนิ่งราวภูผาไท่ซาน ไม่ขยับแม้แต่น้อย
ในใจฟางซื่อแอบโมโหมาก ลู่เจียวพลันเงยหน้ามองแววตานาง คล้ายว่ารู้ความคิดนาง ฟางซื่อถึงกับหลั่งเหงื่อเย็นออกมาทันที สุดท้ายไม่กล้าสบตาลู่เจียว พาคนเดินออกไปชมความครึกครื้นในห้องเจ้าสาว
สุดท้าย ในห้องโถงเรือนด้านหลังเหลือเพียงแค่ผู้สูงวัยไม่กี่คน พวกนางไม่ชอบเสียงดังครึกครื้น จางเหนียงจื่ออยู่ในห้องโถงเป็นเพื่อนคุยกับพวกนาง
ลู่เจียวเห็นฟางซื่อไปแล้ว ก็หันหน้าไปถามจางเหนียงจื่อกับหญิงที่เหลือในห้อง “พวกท่านรู้ไหมว่า ฮูหยินคนเดิมของนายอำเภอเป็นอย่างไรบ้าง นางไม่เป็นอันใดกระมัง”
ในห้องโถง จางเหนียงจื่อกับบรรดาสตรีอีกสองสามคนต่างส่ายหน้า “พวกเราไม่เคยได้เห็นอนุผู้นั้น นางไม่เคยออกมา บอกว่าสุขภาพไม่ดี รักษาตัวอยู่ในเรือนด้านหลังมาตลอด”
ลู่เจียวแอบหนักใจ สุดท้ายก็อดพาเฝิงจือกับหร่วนจู๋เดินออกจากห้องโถงไปไม่ได้ เจ้าหนูน้อยทั้งสี่ถูก จ้าวอวี้หลัวดึงไปกินเลี้ยงที่เรือนข้างแล้ว
ลู่เจียวมองไปยังหร่วนจู๋ หรี่เสียงให้เบาลงสั่งการว่า “เจ้าให้จ้าวเหิงไปตระกูลเจิ้งดูหน่อยว่า อนุจู้ที่เคยเป็นฮูหยินเจิ้งคนเก่าตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง จำไว้ให้เขาแอบเข้าตระกูลเจิ้ง อย่าให้ผู้ใดเห็น”
หร่วนจู๋รับคำออกไป
ลู่เจียวขมวดคิ้วมองตามหลังนางออกไป ที่นางให้จ้าวเหิงไปตระกูลเจิ้ง เพราะจ้าวเหิงเป็นมือปราบอยู่อำเภอชิงเหอมาหลายปี คุ้นเคยกับอำเภอชิงเหอยิ่งกว่าผู้ใด และเขาเป็นมือปราบมาหลายปี พบเจอเรื่องราวมาไม่น้อย ไม่เหมือนหร่วนจู๋ที่จะเห็นใจเรื่องจู้เป่าจูมากเกินไป เรื่องนี้ต้องทำการอย่างรอบคอบ
ลู่เจียวกำลังคิดเรื่องจู้เป่าจู บรรดาผู้หญิงที่ไปชมและหยอกเย้าเจ้าสาวที่ห้องหอก็กลับมา
“คิดไม่ถึงว่าคุณหนูเจ็ดตระกูลเถียนแต่งตัวขึ้นมาก็งามเพียงนี้ ยืนคู่กับท่านจ้าวแล้วเรียกได้ว่าคู่สวรรค์สร้างโดยแท้”
“อืม ทั้งสองคนเหมาะสมกันมาก คุณหนูเจ็ดเถียนนับว่าพบความทุกข์ก่อนแล้วจึงพบกับความสุขในที่สุด ก่อนหน้านี้เสียสละเรื่องแต่งงานตนเพื่อตระกูลเถียน ก็นับว่าคนดีได้ผลกรรมดีตอบแทนกระมัง”