Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 905

ตอนที่ 905 นายหญิง

ในใจฉินเจามู่สั่นสะท้าน แต่ก็ดีใจมา กอดเซี่ยหลิงหลงแน่น คล้ายว่าได้ของล้ำค่าที่สูญเสียไปกลับคืนมา ในเวลานี้เขาเตือนตัวเองไว้แล้วว่าให้จดจำคำสัญญาตอนนี้ของตนเองไว้ให้ดี

“ขอบคุณ ขอบคุณเจ้าแล้ว”

ฉินเจามู่ได้พำนักที่ตระกูลเซี่ยอย่างเป็นทางการ เซี่ยหลิงหลงยังเขียนใบสั่งยาให้เขาบำรุงร่างกาย ยังเติมน้ำพุจิตวิญญาณลงไป ทำให้สุขภาพเขาฟื้นตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว

แต่แม้ว่าเซี่ยหลิงหลงให้อภัยเขาแล้ว แต่บรรดาพี่ชายตระกูลเซี่ยกลับไม่เบิกบานใจ ทุกวันตอนค่ำก็จะมาคุยกับเขา

นับว่าฉินเจามู่ได้รู้จักพลังความน่ากลัวของบรรดาพี่ชายภรรยาแล้ว เขาตัดสินใจแล้วว่าชีวิตนี้จะไม่มีทางทำให้หลิงหลงไม่พอใจอีก แค่เพียงบรรดาพี่ชายเหล่านี้ เขาก็หวาดกลัวมากพอแล้ว

เซี่ยหลิงหลงกับฉินเจามู่อยู่เมืองหลวงได้ครึ่งเดือนก็เตรียมกลับฉางหนิง

ฉินเจามู่เป็นจือฝู่เมืองฉางหนิง เซี่ยหลิงหลงตั้งสำนักยาหลวงที่เมืองฉางหนิง สำนักยาหลวงเพิ่งจะเป็นรูปเป็นร่าง ยังขาดนางไม่ได้ ดังนั้นสองสามีภรรยาตัดสินใจกลับฉางหนิง

ก่อนทั้งสองคนกลับฉางหนิงก็เข้าวังไปขอบพระทัยฝ่าบาท

เซียวเหวินอวี๋มีราชโองการพระราชทานแต่งตั้งเซี่ยหลิงหลงเป็นเหอซั่วจวิ้นจู่แคว้นต้าโจว และยังจะสร้างจวนจวิ้นจู่ให้ที่เมืองฉางหนิง

เซี่ยหลิงหลงยอมรับตำแหน่งเหอซั่วจวิ้นจู่ แต่กลับห้ามเรื่องสร้างจวนจวิ้นจู่

นางรู้ดีว่าเสด็จพี่รักและตามใจนาง แต่นางไม่อยากให้คนกล่าวร้ายเสด็จพี่ ก็เหมือนที่นางเลือกแต่งกับฉินเจามู่ ก็เพราะไม่อยากให้ตระกูลเซี่ยเกิดช่องว่างกับเสด็จพี่

“เสด็จพี่ หลิงหลงรู้น้ำพระทัยแล้ว หลิงหลงขอบพระทัยเสด็จพี่ แต่จวนจวิ้นจู่ก็ไม่ต้องสร้างแล้ว นำเงินสร้างจวนจวิ้นจู่ไปใช้กับเรื่องอื่นของแคว้นต้าโจวดีกว่า”

เซียวเหวินอวี๋มองไปยังเซี่ยหลิงหลง คิดถึงว่าตอนเด็กนางตัวเล็กๆ นุ่มนิ่มน่ารักน่าชังราวกับภาพวาดงดงามเช่นนั้น คล้ายกับเป็นเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน

ความจริงเขาโชคดีที่ท่านแม่เข้มงวดกับหลิงหลง ไม่เช่นนั้นถูกพวกเขาตามใจจนโต จะต้องเป็นคนนิสัยเอาแต่ใจตนเอง แต่เพราะท่านแม่เข้มงวด ทำให้หลิงหลงรู้เหตุรู้ผล ใจกว้าง กิริยาท่าทางยังมีความคล้ายท่านแม่อย่างมาก

เซียวเหวินอวี๋อดยิ้มไม่ได้ “ได้ แล้วแต่เจ้า”

“ขอบพระทัยเสด็จพี่”

เซี่ยหลิงหลงยิ้ม

ฉินเจามู่ทูลลาเซียวเหวินอวี๋ “กระหม่อมจะพาหลิงหลงกลับเมืองฉางหนิงแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

เซียวเหวินอวี๋มองเตือนฉินเจามู่ “นี่เป็นครั้งแรกและครั้งสุดท้าย หากให้เรารู้ว่าเจ้ารังแกหลิงหลงอีก เราจะไม่ละเว้นเจ้า”

ฮ่องเต้หนุ่มสีหน้าเคร่งขรึม ฉินเจามู่รู้ว่าฮ่องเต้ตรัสจริง นี่เป็นโอกาสเดียวที่เขามี

ฉินเจามู่หันไปมองภรรยาข้างกาย ไม่เพียงแต่คนงาม จิตใจยังงาม นี่คือวาสนาดีงามของเขา

ฉินเจามู่ยื่นมือออกไปกุมมือเซี่ยหลิงหลง “กระหม่อมโชคดีได้แต่งกับหลิงหลง เป็นวาสนาของกระหม่อม ชีวิตที่เหลือนี้จะดีต่อนางดังหยกล้ำค่า”

เซียวเหวินอวี๋นิ่งมองเขาลุ่มลึก นับว่าพอใจแล้ว

สองสามีภรรยาขึ้นเรือเดินทางกลับเมืองฉางหนิงในตอนบ่ายวันนั้น

ณ ฉางหนิง ตระกูลฉินระยะนี้ไม่ค่อยสงบสุข ทั้งจวนมีแต่ควาเงียบเหงา บ่าวรับใช้ก็ไม่กล้าออกมาเดินไปมา

นายผู้เฒ่าหน้าดำคร่ำเครียดทุกวัน แม้แต่ที่นาก็ไม่ไป

ฮูหยินผู้เฒ่าก็ร่ำไห้ทุกวัน ไม่เพียงแต่นายผู้เฒ่าตำหนินาง แม้แต่บุตรชายและบุตรสาวคนเล็กก็ตำหนินาง

ทั้งจวนมีเพียงเซี่ยซวงหลานสาวนางคอยปลอบใจนาง “ท่านอา ท่านอย่าได้เสียใจไป รอพี่ชายกลับมาก็ดีเอง พี่ชายกตัญญูต่อท่านเช่นนั้น จะต้องไม่ตำหนิท่านเป็นแน่”

ฮูหยินผู้เฒ่าได้ฟังคำปลอบใจของเซี่ยซวง ในใจก็รู้สึกดีขึ้น “โชคดีที่มีเจ้า”

เซี่ยซวงยิ้มอ่อนโยน ความจริงในใจนางไม่ได้สงบดังภาพภายนอก

พี่ชายนำคนไปเมืองหลวงไล่ตามบุตรีตระกูลเซี่ย ไม่รู้ว่าสถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง ตระกูลเซี่ยเช่นนั้นคงไม่ให้นางหย่ากับพี่ชายกระมัง

หากเป็นเช่นนี้จริงก็ดีมาก ขอเพียงเซี่ยหลิงหลงไปแล้ว นางก็ย่อมเข้าไปอยู่ในเรือนด้านหลังของพี่ชายได้ แต่หากนางกลับมา เรื่องนี้ก็ยากแล้ว

เซี่ยซวงคิดไปก็ถามฮูหยินผู้เฒ่าไป “ท่านอา วันนี้ท่านกินข้าวแล้วหรือยัง จะกินอันใดสักหน่อยหรือไม่ ข้าไปต้มโจ๊กเห็ดหูหนูขาวที่ท่านชอบมาให้ท่านกินสักหน่อยดีหรือไม่”

ฮูหยินผู้เฒ่าส่ายหน้า “ข้าไม่อยากกิน ไม่รู้ว่าเจามู่ตามพี่สะใภ้เจ้ากลับมาได้หรือไม่ ถ้าไม่กลับมาจะทำเช่นไร”

นางมองความคิดสามีนางออก หากสะใภ้ไม่กลับมาจริงๆ นางคงต้องถูกหย่าเป็นแน่

ฮูหยินผู้เฒ่าหวาดกลัวขึ้นมาแล้ว

เซี่ยซวงได้ฟังฮูหยินผู้เฒ่า ในใจนึกไม่พอใจ แต่สีหน้าไม่แสดงออก แต่กลับยิ้มกล่าวว่า “พี่ชายต้องพาพี่สะใภ้กลับมาได้อย่างแน่นอน สตรีเราหย่าร้างย่อมมีชื่อเสียงไม่ดี ตระกูลเซี่ยนางจะร้ายกาจอย่างไรก็คงไม่คิดให้บุตรีหย่าร้างอยู่บ้าน”

เซี่ยซวงเพิ่งกล่าวจบ นอกประตู สาวใช้ก็วิ่งเข้ามาตะโกนบอกว่า “ฮูหยินผู้เฒ่า ฮูหยินผู้เฒ่า ใต้เท้ากลับมาแล้วเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าตื่นเต้นลุกพรวดขึ้นยืนทันที ถามอย่างร้อนใจว่า “ฮูหยินล่ะ นางกลับมาด้วยหรือไม่”

สาวใช้หอบหายใจ กล่าวว่า “กลับมาเจ้าค่ะ ตามใต้เท้ากลับมาด้วยกัน ทั้งสองดูแล้วดีมากเจ้าค่ะ”

ฮูหยินผู้เฒ่าดีใจรีบเดินออกไป ใบหน้าเซี่ยซวงด้านหลังกระตุกอย่างเห็นได้ชัด

หญิงผู้นั้นไม่ได้บอกว่าจะหย่าหรือ ปรากฏมีเรื่องกันแล้วสุดท้ายก็กลับมา นี่นางจัดการกำราบพี่ชายตามอำเภอใจ ส่วนพี่ชายก็ยอมก้มหน้ายอมรับความผิดหรือ ถือสิทธิ์อันใดกัน

เซี่ยซวงโมโหมาก จากนั้นก็ครุ่นคิดว่าตนเองจะได้เป็นอนุพี่ชายหรือไม่

คนตระกูลฉินล้วนพากันออกไปเรือนด้านหน้า หน้าประตู ฉินเจามู่กำลังประคองเซี่ยหลิงหลงเข้ามา

ตระกูลฉินทั้งครอบครัวมองออกว่าฉินเจามู่อ่อนโยนกับเซี่ยหลิงหลงมากกว่าเมื่อก่อน

เมื่อก่อนแม้ใต้เท้าเอาใจฮูหยิน แต่ก็ยังคงวางท่าที ตอนนี้ไม่เหมือนเดิม อ่อนโยนและเอาใจฮูหยินอย่างออกนอกหน้ามาก ใบหน้ามีแต่รอยยิ้ม แววตามีแต่ความอ่อนโยน ปฏิสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองคน ผู้ใดก็มองออกว่าสนิทสนมใกล้ชิดกันมาก

นายผู้เฒ่ากับฮูหยินผู้เฒ่าเห็นแล้วก็สบายใจ

แต่เซี่ยซวงเห็นแล้วกลับปวดใจริษยา

ฉินอวิ๋นเหนียงน้องสาวคนเล็กตระกูลฉิน วิ่งเข้าไปหาเซี่ยหลิงหลง ยิ้มถามว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ พี่กลับมาแล้ว ข้าคิดถึงพี่มาก”

เซี่ยหลิงหลงยิ้มยื่นมือไปบีบแก้มฉินอวิ๋นเหนียงทีหนึ่ง “คิดถึงข้าหรือคิดถึงของที่ข้าทำให้กิน”

ฉินอวิ๋นเหนียงยิ้มกล่าวว่า “ทั้งหมดๆ”

น้องชายสามีก็วิ่งเข้าไปหานาง “พี่สะใภ้ใหญ่ ระยะนี้ข้าตั้งใจเรียนหนังสือ ครั้งนี้เดาว่าน่าจะมีหวังสอบซิ่วไฉได้ ไว้สอบซิ่วไฉได้ ข้าก็จะเปิดสำนักศึกษาแล้ว”

น้องชายสามีตอนนี้เป็นถงเซิง เขาไม่ชอบเรียนหนังสือ ก่อนหน้านี้เซี่ยหลิงหลงคุยกับเขาว่าวันหน้าจะทำอันใด

แม้ว่าสอบได้แค่ถงเซิง เพราะเรียนหนังสือมานาน ทำอย่างอื่นก็ไม่ได้ ดังนั้นเซี่ยหลิงหลงจึงเสนอให้เขาไม่ว่าอย่างไรก็ต้องสอบซิ่วไฉให้ได้ แล้วเปิดสำนักศึกษาสอนนักเรียน ชีวิตที่เหลือที่ของเขาก็จะดำรงชีพได้แล้ว

ฉินเสี่ยวซูรู้สึกว่าชีวิตเช่นนี้ไม่เลว พอใจอย่างมาก ดังนั้นระยะนี้จึงพยายามตั้งใจเรียน เพื่อสอบซิ่วไฉในปีนี้ให้ได้

ฉินเจามู่มองน้องชายและน้องสาวตนเองสนิทสนมกับพี่สะใภ้ ก็อดโมโหตัวเองไม่ได้ ปกติเขาทำแต่งาน แต่ไรมาไม่รู้ว่าที่บ้านเขา หลิงหลงสนิทกับน้องชายน้องสาวเขาเช่นนี้

ความจริงนางทำสิ่งที่ตนเองควรทำ แต่เขากลับไม่เคยปกป้องนาง ในฐานะสามี เขาไร้ความรับผิดชอบจริงๆ

ฉินเจามู่เงยหน้ามองไปยังบิดามารดาตรงหน้า สีหน้านายผู้เฒ่าเต็มไปด้วยความดีใจ

แต่ฮูหยินผู้เฒ่ามีสีหน้าละอายใจอย่างมาก ไม่กล้าสบตานาง

ฉินเจามู่อดถอนหายใจไม่ได้ มารดาตนเองเป็นหญิงบ้านนา ไหนเลยจะเคยปกครองดูแลตระกูลใหญ่ เขาช่างเลอะเลือนรัก

ฉินเจามู่ครุ่นคิดแล้วก็เอ่ยว่า “เอาละ ทุกคนตามข้ามา ข้าต้องการเปิดประชุมตระกูลฉิน”

สำหรับเขา คนตระกูลฉินไม่มีผู้ใดคัดค้าน แต่ละคนตามหลังฉินเจามู่กับเซี่ยหลิงหลงเข้าไปในห้องโถงตระกูลฉิน เซี่ยซวงตามหลังพวกเขาเข้าไปด้วย

ฉินเจามู่มองนางทีหนึ่ง แต่ก็ไม่ได้ห้าม ครั้งนี้เขาจะจัดการปัญหาญาติผู้น้องผู้นี้ให้เรียบร้อย

ตระกูลฉินทั้งครอบครัวนั่งลงในห้องโถงกลาง ฉินเจามู่มองไปยังทุกคนในตระกูลฉินกล่าวว่า “หลิงหลงได้รับพระราชทานแต่งตั้งเป็นเหอซั่วจวิ้นจู่ วันหน้านางก็คือจวิ้นจู่แห่งแคว้นต้าโจว”

พอเอ่ยวาจานี้ออกมา คนในห้องโถงก็ตื่นตกใจ ฮูหยินผู้เฒ่าตื่นตกใจที่สุด จวิ้นจู่ มากบารมีเช่นนี้ สะใภ้คงไม่จัดการนางเพราะเรื่องก่อนหน้านี้กระมัง

เซี่ยหลิงหลงยิ้มมองฉินเจามู่ทีหนึ่งกล่าวว่า “จวิ้นจู่เป็นเพียงแค่บรรดาศักดิ์ ถึงข้าเป็นจวิ้นจู่ ข้าก็ยังเป็นสะใภ้ตระกูลฉิน ในฐานะสะใภ้ ภาระรับผิดชอบที่ควรทำข้าก็จะทำ ดังนั้นพวกท่านไม่ต้องตื่นตกใจ เมื่อก่อนเป็นเช่นไร วันหน้าก็เป็นเช่นนั้น”

คนตระกูลฉินมองนาง พากันโล่งอก

ฉินเจามู่ยื่นมือไปกุมมือเซี่ยหลิงหลง กล่าวน้ำเสียงนุ่มนวลว่า “วันหน้าทุกเรื่องในตระกูลฉินมอบให้ หลิงหลงจัดการ ไม่มีผู้ใดเห็นค้านกระมัง”

ฉินเจามู่มองไปยังมารดาตนเอง

ผู้อื่นย่อมไม่มีความเห็น ฉินเสี่ยวซูกับฉินอวิ๋นเหนียงแทบอยากจะให้พี่สะใภ้ใหญ่ดูแลบ้าน พี่สะใภ้ใหญ่ดูแลบ้าน ของกินของใช้ล้วนชั้นเลิศ แต่พอท่านแม่ตนดูแลบ้านก็ตระหนี่ถี่เหนียว ทำให้ทุกคนรำคาญใจมาก

ฉินอวิ๋นเหนียงกับฉินเสี่ยวซูยกมือสนับสนุนทันที “ข้าสนับสนุนให้พี่สะใภ้ใหญ่ปกครองดูแลตระกูลฉิน”

นายผู้เฒ่าฉินเองก็เห็นด้วย “สะใภ้ปกครองดูแลตระกูลเป็นเรื่องสมควร”

กล่าวจบก็มองเตือนฮูหยินผู้เฒ่าทีหนึ่ง ฮูหยินผู้เฒ่ารีบเอ่ยว่า “ข้าก็เห็นด้วย”

เซี่ยหลิงหลงได้ฟังทุกคนก็ยิ้มกล่าวว่า “ข้าจะกตัญญูต่อท่านพ่อท่านแม่ ดีกับน้องชายน้องสาว และเป็นภรรยาที่ดีของท่านพี่”

ตระกูลฉินทุกคนต่างโล่งอก พี่สะใภ้เหมือนกับเมื่อก่อน

ฉินเจามู่มองไปยังเซี่ยซวง เซี่ยซวงเห็นสายตาเยียบเย็นของเขาก็ลุกขึ้นยืนตัวสั่น “พี่ชาย ข้า…”

ฉินเจามู่ไม่มองนาง แต่มองไปยังเซี่ยหลิงหลง เอ่ยขึ้นว่า “หลิงหลง เจ้าคิดจะทำอย่างไรกับนาง”

เซี่ยหลิงหลงอมยิ้มมองไปยังเซี่ยซวง ค่อยๆ เอ่ยขึ้นว่า “ข้าไม่อยากให้วันหน้านางมาเยือนตระกูลฉินอีก”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version