Skip to content

ทะลุมิติมาเป็นภรรยาของตัวร้าย 992

ตอนที่ 992 ทูต

ซั่งกวนเฮ่อถูกคุมตัวออกไป

ในห้องบรรทม พระสนมและขุนนางในราชสำนักคุกเข่าอยู่

แม้ว่าซั่งกวนเฉินไม่ได้ถูกวางยาจริง แต่ก็เหน็ดเหนื่อยอ่อนแรง คิดถึงว่ารัชทายาทที่ตนเลี้ยงดูมาด้วยตนเอง ถึงกับคิดสังหารตน เขาก็ปวดใจยากทนรับไหว ไม่มีใจคิดจัดการผู้ใดอีก

“ออกไปได้แล้ว”

“เพคะ/พ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาท”

ทุกคนพากันลุกขึ้นออกไป เพียงแต่ยังไม่ทันได้ถอยออกไป ก็เห็นมหาขันทีรีบร้อนวิ่งเข้ามารายงาน “ฝ่าบาท ไม่ได้การแล้ว รัชทายาทสลัดองครักษ์หลุดหนีไปได้แล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ซั่งกวนเฉินได้ยินวาจานี้ สีหน้าพลันย่ำแย่ ตอนนี้เขาเริ่มกังวลว่าซั่งกวนเฮ่อจะกลับมาล้างแค้นเขา

เขารู้ความสามารถของซั่งกวนเฮ่อดี และเขาก็รู้แล้วว่าบุตรชายโหดเหี้ยม ตนเองวางอุบายจับเขาเช่นนี้ ไหนเลยที่อีกฝ่ายจะไม่คิดกลับมาล้างแค้นตน

ซั่งกวนเฉินรีบมีราชโองการให้จับตัวโจรกบฏซั่งกวนเฮ่อ ทั้งในและนอกวังมีแต่ภาพวาดซั่งกวนเฮ่อ ในวัง ฮ่องเต้เองก็จัดกำลังคนเฝ้าแน่นหนา กลัวว่าซั่งกวนเฮ่อจะนำคนบุกเข้าวัง

น่าเสียดายซั่งกวนเฮ่อหายตัวไปไร้ร่องรอย

ตำหนักกวานซุยกง ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกำลังคุยเรื่องนี้กับลู่เจียว

“ท่านแม่ ท่านว่าซั่งกวนเฮ่อจะกลับมาสังหารฮ่องเต้หรือไม่”

ลู่เจียวคิดแล้วก็รู้สึกว่าตอนนี้ซั่งกวนเฮ่อน่าจะยังไม่กลับมาสังหารซั่งกวนเฉิน ในสายตาเขา ซั่งกวนเฉินไม่ใช่เรื่องสำคัญ ตอนนี้เขาควรคิดหายาถอนพิษ ควรรู้ว่าก่อนหน้านี้เขาถูกซั่งกวนเฉินกรอกยาพิษ

ลู่เจียวไม่เคยได้ยินยาพิษเช่นอู่ซินเฝินนี้มาก่อน น่าจะเป็นตำรับลับในวังหลวงซีเหลียง

ในวังมียาตำรับลับที่คนไม่รู้อีกมาก

“ข้าเดาว่าเขาน่าจะยังไม่กลับมา ตอนนี้เรื่องที่เขาควรทำที่สุดก็คือหายาถอนพิษ”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนคิดแล้วก็รู้สึกว่าเป็นไปได้ แต่ยาตำรับลับในวังไม่ได้ถอนง่ายดายเพียงนั้น ในระยะเวลาอันสั้นนี้ ซั่งกวนเฮ่อน่าจะยังไม่ปรากฏตัว

ลู่เจียวครุ่นคิดแล้วก็มองไปยังซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวว่า “เยี่ยนเอ๋อร์ ท่านแม่ตัดสินใจกับท่านพ่อบุญธรรมเจ้าแล้วว่าจะกลับแคว้นต้าโจว ในซีเหลียงนี้ ไม่มีอันตรายจากซั่งกวนเฮ่อแล้ว ตอนนี้รัชทายาทถูกปลด องค์ชายห้าขาพิการ ด้วยความสามารถม่อเอ๋อร์ อยู่ในซีเหลียงย่อมไม่ใช่เรื่องยากอันใด ท่านแม่กับท่านพ่อบุญธรรมเจ้าอยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อันใด พวกเราคิดกลับแคว้นต้าโจว”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนพอได้ฟังวาจานี้ ก็ร้อนใจ “ท่านแม่ เช่นนั้นข้ากลับแคว้นต้าโจวกับท่านแม่ด้วย”

ลู่เจียวเลิกคิ้ว “เจ้าเป็นองค์หญิงซีเหลียง หากจากไป เกรงว่าซั่งกวนเฉินคงจะไม่รับปาก”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนขมวดคิ้วคิดหาอุบาย “ข้าคิดหาทางรับมือฮ่องเต้เองเจ้าค่ะ”

“เช่นนั้นก็ดี”

ลู่เจียววางแผนว่าจะอยู่ต่ออีกสองสามวันก็จะออกเดินทาง

ปรากฏเจ้ากรมมู่กราบทูลว่าเรื่องเจรจาสันติ แคว้นต้าโจวยอมตกลงการขอเจรจาสันติของซีเหลียงแล้ว แต่ซีเหลียงต้องส่งคนไปแคว้นต้าโจว ประการแรก ขอขมาต่อฮ่องเต้แคว้นต้าโจว ประการที่สอง ชดใช้ให้แคว้นต้าโจว เพราะสงครามก่อให้เกิดความสูญเสีย ข้อเสนอแคว้นต้าโจวคือชดใช้หนึ่งแสนตำลึง

คลังซีเหลียงไม่อุดมสมบูรณ์มากนัก แต่เงินแสนตำลึงย่อมพอรวบรวมได้ นับประสาอันใดกับซีเหลียงเป็นคนเริ่มก่อน อยู่ดีๆ ก่อสงครามสองแคว้น ประเด็นสำคัญก็คือสงครามทางเป่ยฉีก็เกิดขึ้นเพราะรัชทายาทซั่งกวนเฮ่อ

ฮ่องเต้ซีเหลียงซั่งกวนเฉินได้แต่ยอมรับอย่างจนใจ

ตอนประชุมท้องพระโรงยามเช้า ทุกคนเริ่มหารือเรื่องส่งทูตไปแคว้นต้าโจว องค์ชายหกซั่งกวนม่อก้าวออกมาขอไปเป็นทูตเจรจาสันติที่แคว้นต้าโจว

ยามนี้ทุกคนจึงได้ยืนข้างองค์ชายหกซั่งกวนม่อ เมื่อก่อนมีรัชทายาท องค์ชายหกดำรงตนสงบเสงี่ยมไม่เป็นที่สังเกตอย่างมาก หลายคนไม่ทันได้สังเกตเขา

ตอนนี้รัชทายาทถูกปลด องค์ชายห้าขาพิการ ผู้ที่มีโอกาสได้ขึ้นสู่บัลลังก์ที่สุดก็คือองค์ชายหกพระองค์นี้

ดังนั้นขุนนางเกินครึ่งในราชสำนักให้การสนับสนุนองค์ชายหกเป็นทูตไปแคว้นต้าโจว

ฮ่องเต้กลับไม่ยินดี ไม่ใช่ว่าไม่ชอบองค์ชายหก แต่กลับกันเพราะชอบองค์ชายหกจึงไม่ค่อยยินดีให้เขานำทูตไปเจรจากับแคว้นต้าโจว

ตอนนี้รัชทายาทถูกปลด องค์ชายห้าขาพิการ องค์ชายหกมีโอกาสขึ้นสู่ตำแหน่งรัชทายาทมากที่สุด และระยะนี้องค์ชายหกก็ใกล้ชิดกับฮ่องเต้มาก ฮ่องเต้พบว่า แม้องค์ชายหกเป็นองค์ชาย แต่กลับเก่งทั้งบุ๋นบู๊ เขาเหมาะสมที่จะเป็นรัชทายาทซีเหลียงที่สุด

เพราะมีความคิดนี้ ฮ่องเต้จึงเป็นห่วงว่าซั่งกวนม่อไปแคว้นต้าโจวแล้วจะพบเจออันตรายใด ดังนั้นจึงไม่อยากให้เขาไป

ซั่งกวนม่อกลับคิดว่าการได้ไปเจรจาสันติกับแคว้นต้าโจว เป็นเรื่องดีของทั้งสองแคว้น

เพราะเขารู้ว่าสองแคว้นสงบสันติเป็นเรื่องแน่นอนไม่มีทางแปรเปลี่ยน การที่เขาไปก็เท่ากับสร้างผลงานให้ซีเหลียง วันหน้าราษฎรเอ่ยถึงเขาก็จะบอกกันว่าเป็นเรื่องดีๆ ที่เขาทำให้กับซีเหลียง

แต่ซั่งกวนม่อมองออกว่าซั่งกวนเฉินไม่ยินดี เขารีบประสานมือกล่าวด้วยน้ำเสียงจริงใจว่า “เสด็จพ่อ การที่หม่อมฉันต้องนำทูตไปแคว้นต้าโจว เพราะหม่อมฉันได้ยินว่าวิชาการแพทย์ฮูหยินโจวกั๋วแคว้นต้าโจวเก่งกาจ ขาของเสด็จพี่ห้าพิการ หากฮูหยินโจวกั๋วแคว้นต้าโจวยินดีลงมือรักษาให้ ย่อมรักษาขาเสด็จพี่ห้าให้หายได้”

องค์ชายหกเอ่ยเช่นนี้ ฮ่องเต้ก็ได้แต่ทอดถอนใจ ดูๆ พี่น้องสนิทสนมมีน้ำใจต่อกันเช่นนี้ไม่ดีหรือ

องค์ชายหกเห็นอยู่ว่าหากองค์ชายห้ารักษาขาหาย เขาก็คือคู่แข่งที่แข็งแกร่งที่สุด แต่เขายังคงยินดีทำเพื่อให้ขาเสด็จพี่ตนเองหายดี

ความผูกพันพี่น้องเช่นนี้ดีเพียงใดกัน ไหนเลยจะเหมือนรัชทายาทที่โหดเหี้ยมเช่นนั้น

ขุนนางในราชสำนักพากันรู้สึกถึงความเมตตาขององค์ชายหก องค์ชายเช่นนี้จึงคู่ควรเป็นรัชทายาทในใจของทุกคน

สุดท้ายซั่งกวนเฉินตกลงยอมให้ซั่งกวนม่อพาทูตไปแคว้นต้าโจว พร้อมกับให้องค์ชายห้าเดินทางไปด้วย

ตกค่ำ องค์หญิงแปดซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนรู้เรื่องนี้ก็ไปขอซั่งกวนเฉินจะตามทูตซีเหลียงไปแคว้นต้าโจวด้วย

ฮ่องเต้ได้ฟังคำพูดนางก็เลิกคิ้ว “ลูกแปด นี่คิดจะไปกับคณะทูตเพื่ออภิเษกเชื่อมไมตรีกับแคว้นต้าโจวหรือ เราได้ยินว่าฮ่องเต้แคว้นต้าโจวรูปงามไม่ธรรมดา และคนผู้นี้ก็ไม่เจ้าชู้ พระสนมในวังไม่มาก แม้ว่ามีฮองเฮาแล้ว แต่หากลูกแปดยินดีไปอภิเษกเชื่อมไมตรี อย่างไรก็คงได้แต่งตั้งเป็นพระสนม”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง คิดถึงว่าเซียวเหวินอวี๋เป็นชายรูปงามสง่าจริง แต่นางไม่ได้คิดจะร่วมสามีกับหญิงอื่นจริงๆ

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนครุ่นคิดมองไปยังซั่งกวนเฉินกล่าวว่า “เสด็จพ่อ หม่อมฉันเพียงแต่ได้ยินว่าแคว้นต้าโจวอุดมสมบูรณ์ อยากไปดูความรุ่งเรืองของแคว้นต้าโจว ไม่ได้คิดอภิเษกเชื่อมไมตรีกับแคว้นต้าโจวเพคะ”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวจบก็ดึงมือซั่งกวนเฉินมาประจบเอาใจ “เสด็จพ่อ หม่อมฉันปีนี้อายุสิบหกแล้ว รอให้กลับจากแคว้นต้าโจว ก็น่าจะควรได้เวลาหาคู่ครองแล้ว วันหน้าชีวิตนี้คงไม่ได้ก้าวออกจากซีเหลียงอีก เสด็จพ่อให้หม่อมฉันตามเสด็จพี่ไปนะเพคะ”

“เสด็จพ่อ หม่อมฉันจะไม่ให้ผู้ใดรู้ว่าหม่อมฉันคือองค์หญิงซีเหลียง หม่อมฉันจะหลบซ่อนอยู่ในขบวนเสด็จพี่หก ปลอมตัวเป็นบ่าวรับใช้เสด็จพี่หกเพคะ”

ซั่งกวนเฉินไร้วาจาจะกล่าวอย่างยิ่ง แต่เห็นบุตรสาวคนงามดึงมือประจบเอาใจเขาเช่นนี้ก็ทำใจปฏิเสธไม่ลง สุดท้ายคิดถึงคำพูดซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ตอนนี้นางอายุสิบหกแล้ว ไม่นานก็จะได้เวลาหาคู่ครองแล้ว พอออกเรือนไป ชีวิตวันหน้าก็ต้องอยู่แต่ในจวน ยามนี้ให้นางไปเปิดหูเปิดตาดูแคว้นต้าโจวก็ย่อมได้

“ได้ เสด็จพ่ออนุญาต”

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนดีใจขอบพระทัยในพระเมตตาทันที

ตอนนี้ไปก่อนค่อยว่ากัน วันหน้ารอให้ถึงแคว้นต้าโจว หากนางอยากอยู่ต่อ ก็จะแสร้งทำเป็นผิดอากาศล้มป่วยตาย แสร้งทำเป็นแกล้งตายก็ย่อมได้

ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนคิดเช่นนี้แล้วก็กลับออกไปอย่างดีใจมาก

คณะขุนนางทูตซีเหลียงออกเดินทางออกจากเมืองหลวงอย่างรวดเร็ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version