ตอนที่ 573
โอ้แผ่นดินเทพที่กว้างใหญ่ไพศาล
ทำไมจะต้องเดินอ้อม
ไม่ว่าในแผนที่มู่ชิงเกอหรือแผนที่ของถงเถิง ต่างไม่ได้มีหมายเหตุบอกไว้
แต่ต่อให้รู้ว่าต้องอ้อม เวลานี้พวกนางก็เข้ามาแล้ว
หมอกนั้นมาอย่างแปลกประหลาด ทำให้พวกเขาไม่ทันได้ระวังตัวกันก็เข้ามาในบริเวณนี้ เมื่อ ผ่านหมอกประหลาดมาแล้ว พวกเขาจึงพบว่าที่นี่ซ่อนเมืองมนุษย์ธรรมดาไว้แห่งหนึ่ง
มนุษย์ธรรมดา?
มนุษย์ธรรมดา!
สายตาที่แจ่มใสของมู่ชิงเกอกวาดมองทั้งซ้ายขวา
เวลานี้นางกับถงเถิงกำลังยืนอยู่ตรงทางเข้าของเมือง ที่นี่ไม่มีกำแพงเมืองและประตูเมือง ราวกับเป็นหมู่บ้านที่กระจัดกระจาย แต่บ้านเรือนมีความเป็นเอกลักษณ์ ต่างมีรูปทรงของตัวเอง สีสันฉูดฉาด
ที่สำคัญที่สุดคือ คนที่ปรากฎอยู่เบื้องหน้า พวกนางล้วนเป็นหญิงสาวที่มีผ้าแพรคลุมหน้า
พวกนางนุ่งห่มเครื่องแต่งกายหลากสี จุดพิเศษที่เหมือนกันคือสีสันฉูดฉาด มีผ้าแพรคลุมหน้า ทำ ให้เห็นใบหน้าวับๆ แวมๆ รูปร่างอรชรอ้อนแอ้น ดูงดงามนัก
ที่สำคัญที่สุดคือ เสื้อผ้าพวกนางเปิดเผยสัดส่วนเต็มที่ ทั้งส่วนแขนขาและบริเวณสะดือล้วนเปิดเผยให้เห็น ไม่มีอะไรปกปิด
แววตานอกผ้าแพร หลังจากเห็นคนแปลกหน้าทั้งสองแล้วต่างเปลี่ยนเป็นร้อนแรง แฝงด้วยท่าที พร้อมเข้าจู่โจม
“ลูกพี่…นี่มันที่ไหนกัน” ถงเถิงถามอย่างงุนงง
เขารู้สึกว่า แววตาหญิงสาวเหล่านี้น่ากลัวมาก ราวกับว่าจะกลืนกินพวกเขาลงท้องอย่างนั้น
มู่ชิงเกอลอบสังเกตแววตาของหญิงสาวเหล่านี้เงียบๆ ในใจนึกถึงเรื่อง ‘เมืองหญิงสาว’ ใน เทพนิยายที่เคยอ่านพบเมื่อชาติก่อน
นางไม่รู้ว่า ที่นี่มีแม่นํ้าแม่ลูกที่หลังจากดื่มแล้วสามารถตั้งครรภ์ได้หรือไม่
ยิ่งไม่รู้ว่า ที่นี่มีเจ้าเมืองหญิงที่งดงามและมากราคะหรือไม่
ลางสังหรณ์บอกนางว่า ที่นี่ไม่สมควรอยู่นาน
“พวกเราออกจากที่นี่เถอะ” มู่ชิงเกอบอกถงเถิงเสียงเครียด
ถงเถิงผงกศีรษะ เขาคิดจะออกจากที่นี่อยู่แล้ว
เพียงแต่ พอพวกเขาสองคนถอยออกไป เหล่าหญิงสาวที่จับจ้องพวกเขาต่างก็เฮโลวิ่งเข้ามาล้อมพวกเขาเอาไว้ไม่ยอมให้ออกไป
พวกนางยื่นมือออกมาดึงรั้งมู่ชิงเกอกับถงเถิงอย่างบ้าคลั่ง
ถงเถิงทั้งหลบหลีก ทั้งตะโกนด้วยความตกใจว่า “ลูกพี่ พลังเทพของข้าหายไปหมดเลย”
พลังเทพหายหมด!
แววตามู่ชิงเกอหดตัวลง หลบหลีกมือที่ยื่นมายังตัวนาง ขับเคลื่อนพลังเทพในกาย เป็นจริงดังนั้น พลังเทพของนางก็หายไปเช่นเดียวกัน
นางเวลานี้ไม่ต่างกับมนุษย์ธรรมดาเลย
‘นี่มันอะไรกันแน่’ มู่ชิงเกอใช้ความคิดอย่างรวดเร็ว
นางพยายามทบทวนเหตุการณ์ทั้งก่อนและหลังเข้ามาที่นี่ แต่ก็ไม่พบอะไรผิดปกติ ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็วาบเข้ามาในสมองนาง ทำให้นางอดคิดไม่ได้ว่า ‘หรือบริเวณนี้ถูกหมายเหตุว่าให้อ้อมไป เนื่องจากที่นี่ทำให้พลังเทพของมนุษย์เทพหายไปกลายเป็นมนุษย์ธรรมดา’
ความคิดเช่นนี้พอเกิดขึ้นแล้วก็ไม่สามารถระงับได้อีก
มู่ชิงเกอเวลานี้ไม่มีเวลาจะไปพิสูจน์การคาดเดานี้ เมื่อไม่มีพลังเทพก็ต้องต่อสู้ด้วยความ สามารถเฉพาะตัว
มู่ชิงเกอใช้วิชาคว้าจับ ทุ่มหญิงสาวที่อยู่ใกล้ตัวออกไปโดยไม่มีความเมตตาเลยแม้แต่น้อย
ถงเถิงเห็นมู่ชิงเกอต่อสู้ดุดันเช่นนี้ก็ประหลาดใจเล็กน้อย ใบหน้าโหดเหี้ยมขึ้นเช่นกัน
ทั้งคู่ไม่ได้ออมมือแม้แต่นิดผลักดันหญิงที่เข้าใกล้จนถอยออกไป จนกระทั่งไม่มีหญิงใดกล้าเข้ามาใกล้อีก แต่ยังคงล้อมพวกเขาไว้ไม่ให้ออกไป
“ลูกพี่ พวกนางเป็นอะไรไป ไม่เคยเห็นผู้ชายหรือ” ถงเถิงผวาจากอาการของหญิงเหล่านี้จนขนลุกขนพองไปหมด
มู่ชิงเกอตอบคำถามเขาไม่ได้ ในเวลานี้บอกได้เพียง “ไม่ว่าพวกนางจะเป็นอย่างไร พวกเราต้องคิดหาวิธีออกจากที่นี่รีบไปต่อ”
กำหนดเวลาของแดนฮ่วนเยวี่ยเหลือเพียงไม่ถึงสี่เดือน นางจะต้องไปถึงให้ทันกำหนด เนื่องจากนางไม่มีเวลารอจากหลังหนึ่งปีเพื่อไปทดสอบแดนเทพอื่น
“แต่พวกนางขวางอยู่ที่นี่แล้วพวกเราจะออกไปได้อย่างไร” ถงเถิงมองซ้ายมองขวาแล้วบอกมู่ชิงเกอ
บอกตรงๆ การลงมือกับผู้หญิง ทุบตีผู้หญิง เขายังไม่เคยชินนัก ดังนั้นเมื่อครู่นี้เขาจึงอาศัยหลักการยืมแรง เพียงแค่ผลักหญิงเหล่านี้ออกไป ไม่ได้ทำพวกนางบาดเจ็บจริงๆ
การลงมือของมู่ชิงเกอ ไม่ได้มีข้อระวังเหมือนเขา แต่เพื่อไม่ให้เพิ่มข้อขัดแย้ง นางจึงไม่ได้ลง มือโหดเหี้ยม เพียงผลักดันให้หญิงสาวเหล่านั้นถอยออกไปเช่นเดียวกันแต่ลงมือหนักกว่าเพื่อที่ว่าหลังจากพวกนางถอยออกไปแล้วจะหมดแรงที่จะโผเข้ามาใหม่
มู่ชิงเกอมองไปรอบๆ เห็นเหล่าหญิงสาว ล้อมอยู่ไม่ยอมแยกย้ายไปจึงเอ่ยเสียงเย็นเฉียบว่า “ท่านทั้งหลาย พวกเราไม่ได้ตั้งใจจะบุกเข้ามาที่นี่ ตอนนี้กำลังจะจากไปแล้ว ขอให้ทุกท่านอำนวยความสะดวกด้วย”
“ลูกพี่ ข้าว่าพวกหญิงบ้าเหล่านี้ไม่ฟังหรอก” ถงเถิงกระซิบบอก
ฟังไม่ฟังก็เรื่องหนึ่ง บอกไม่บอกก็อีกเรื่องหนึ่ง อย่างไรก็ไม่อาจต่อสู้กันโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว มู่ชิงเกอเม้มปาก คิดแผนในใจ
“ฮึ ในเมื่อเข้ามาแล้ว ยังคิดจะไปหรือ ไม่สู้อยู่ต่อร่วมชีวิตกับพวกเราจะดีกว่า ที่นี่พี่สาวน้องสาวเยอะแยะ สนุกสนานกว่าการฝึกฝนบำเพ็ญของพวกเจ้ามากมายนัก” เสียงผู้หญิงดังแว่วมา
มู่ชิงเกอกับถงเถิงเงยหน้ามองไปก็เห็นกลุ่มคนแยกออก หญิงร่างสูงคนหนึ่งเดินออกมา
หญิงคนนั้นไม่ได้ใส่ผ้าแพรคลุมหน้า หน้าตาธรรมดา คิ้วกับตาห่างกันเล็กน้อย ดูซื่อๆ ไม่ได้สะสวย แต่มีกลิ่นอายความโหดเหี้ยมไม่เบา
แต่ดูจากท่าทีที่คนอื่นมีต่อนางแล้ว น่าจะเป็นหัวหน้าพวกนาง
“คุยเหตุผลไม่ได้แล้ว ไม่ต้องพูดเหตุผลกันแล้ว น่าตายนัก! พลังเทพหายหมด หาไม่แล้วจะสะกดพวกเขาให้แน่นิ่ง มิตัดเรื่องยุ่งยากได้หรือ” ถงเถิงพูดไม่หยุด
แต่คำพูดของเขา กลับทำให้มู่ชิงเกอสะกิดใจ
นัยน์ตานางวาบขึ้นถามเขาว่า “ถั่วของเจ้าล่ะ แบ่งให้ข้าหน่อย”
ถงเถิงชะงักถามด้วยอาการไม่อยากจะเชื่อ “ลูกพี่ จนเวลานี้แล้วท่านยังอยากกินถั่ว ท่านควรคิดหาว่ามียาอะไรที่จะล้มพวกนางได้ทั้งหมดมากกว่านะ พวกเราจะได้หลุดไปได้”
“ไม่ต้องพูดมาก เอามา” มู่ชิงเกอตัดบท
ถงเถิงจนปัญญาหยิบถั่วกำหนึ่งส่งให้มู่ชิงเกอ
หลังจากมู่ชิงเกอรับ แล้วก็กำไว้ในมือ มองไปทางหญิงคนนั้น “ขอถามอีกครั้ง ให้ไปหรือไม่ให้”
หญิงคนนั้นยิ้มเยาะ “พวกเจ้ามาถึงนี่ พลังเทพสูญสิ้นทั้งหมดยังคิดจะข่มขู่พวกเราอีกหรือ มนุษย์เทพที่สูญสิ้นพลังเทพ เกรงว่าจะสู้ไม่ได้แม้กระทั่งมนุษย์ธรรมดาอย่างพวกเรา”
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะที่มุมปาก มือที่กำถั่วสะบัดออกไปอย่างแรง ถั่วในมือกระจายออกไปทุกทิศทาง พุ่งไปยังหญิงสาวเหล่านั้น
ฉากนี้ทำเอาหญิงสาวเหล่านั้นตกใจจนเบิกตากว้าง
ถงเถิงเองก็ตกตะลึงตาค้าง
หญิงสาวที่ถูกถั่วเหล่านั้นโดนตัวล้วนตัวแข็ง ยืนนิ่ง แม้แต่จะออกเสียงก็ยังทำไม่ได้ทำได้เพียงกลอกลูกตาไปมา
“ให้ตาย ลูกพี่ ท่านยอดมาก” ถงเถิงร้องขึ้นมาด้วยใจระทึก แววตาผุดความนับถือบูชาขึ้นมาอย่างเต็มเปี่ยม
“เอามาอีก” มู่ชิงเกอยื่นมือไปข้างหน้าถงเถิง พลางแบมือออก
ครั้งนี้ถงเถิงควํ้าถั่วออกมาอีกกำอย่างไม่ลังเล วางลงในมือมู่ชิงเกอ บอกนางว่า “ลูกพี่วางใจได้ ถั่วมีมากพอ”
“เจ้าใช้วิธีพิสดารอะไร” หญิงสาวหน้าตาธรรมดามองมู่ชิงเกอด้วยความหวาดหวั่น
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะอย่างดูแคลนวิชาสกัดจุดที่นางเรียนรู้เมื่อชาติก่อน เผ่าพื้นเมืองแผ่นดินเทพเช่นนี้จะเข้าใจหรือ
ไม่เสียเวลาต่อปากต่อปาก มู่ชิงเกอสาดถั่วออกไปอีกครั้ง หลังได้รับบทเรียนจากคราวก่อน เหล่าหญิงสาวที่ครั้งก่อนยังไม่โดนถั่วซัดใส่ต่างกรีดร้องกันอย่างบ้าคลั่ง วิ่งหนีกระจัดกระจายหายไป
แต่ยังมีคนอีกมากที่หลบไม่พันเงื้อมมือของมู่ชิงเกอ พวกนางถูกสกัดจุดจนยืนแน่นิ่ง
“ลูกพี่ นี่” ถงเถิงวางถั่วใหม่ลงบนมือมู่ชิงเกอทันที
สองคนเข้าขากันได้อย่างไม่มีที่ติ เพียงไม่กี่ ครั้งหญิงสาวทั้งหมดต่างถูกสกัดจุดเอาไว้ เหลือแค่หญิงสาวหน้าตาธรรมดาคนนั้นนางถอยไปข้างหลังไม่หยุด ด้วยอาการหวาดหวั่น “เจ้า…เจ้าอย่าเข้ามานะ ข้าจะบอกเจ้าให้ ต่อให้เจ้าจัดการพวกข้าทั้งหมดได้ พวกเจ้าก็ออกไปจากที่นี่ไม่ได้”
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ ค่อยๆ เดินเข้าไปใกล้นาง “ไม่เป็นไร พวกเราจะหาทางเอง หาไม่พบก็ค่อยกลับมาที่นี่ ข้าจะฆ่าคนหนึ่ง หาไม่พบอีกก็ฆ่าอีกคน ที่นี่มีหลายร้อยคน ฆ่าไม่กี่ร้อยครั้ง คงจะหาทางออกพบกระมัง”
คำพูดของนางทำให้ถงเถิงใจสั่นขึ้นมา
ส่วนสีหน้าหญิงสาวคนนั้นก็ซีดลงทันที พูดเสียงสั่นว่า “เจ้า…ทำไมเจ้าถึงโหดร้ายทารุณเช่นนี้…”
“โหดร้ายทารุณหรือ ข้าไม่คิดว่าอย่างนั้นนะ” ในสายตาของหญิงสาวนางนั้นรอยยิ้มของมู่ชิงเกอดูน่ากลัวอย่างถึงที่สุด
ทันใดนั้นถั่วเม็ดหนึ่งในมือก็ถูกมู่ชิงเกอดีดออกไป จี้สกัดจุดของนางโดยไม่คาดคิด ทำให้นางนิ่งไป เพียงแต่นางไม่เหมือนคนอื่น ถึงแม้นางจะขยับไม่ได้แต่ก็ยังพูดได้
มู่ชิงเกอค่อยๆ เดินไปเบื้องหน้านาง อมยิ้มอย่างชั่วร้าย “ถ้าเจ้าเลือกได้ก็ไม่มีใครต้องตาย”
แต่หญิงคนนั้นกลับกัดฟันแน่น ไม่ยอมคิโรราบ
มู่ชิงเกอถอยหลังไปสองก้าว มุมปากยังคงรักษารอยยิ้มนั้นไว้เช่นเดิม “เริ่มต้นเกมได้”
พูดจบ นางก็ใช้ท่าก้าวดาราก่อกำเนิดไปปรากฎตัวอยู่เบื้องหน้าหญิงสาวคนหนึ่ง ปลอกนิ้วมือหลิงหลงตวัดไปที่ลำคอของนาง
“หยุด!” หญิงหน้าตาธรรมดารีบร้องบอก สายตาเต็มไปด้วยความโกรธและหวาดกลัว
มู่ชิงเกอหยุด แต่ปลอกนิ้วยังคงบาดผิวหนังลำคอที่ละเอียดอ่อนจนเลือดไหลหยดลงสีแดงฉาน เป็นการพิสูจน์ว่านางไม่ได้โกหก
ถงเถิงมองมู่ชิงเกออย่างตกตะลึง ถึงแม้จิตใจหวาดหวั่นแต่ก็ไม่ได้พูดอะไร
“เจ้าบอกว่าหาทางออกไม่พบจึงจะฆ่าคนไม่ใช่หรือ” หญิงสาวคนนั้นตะโกนใส่มู่ชิงเกอราวกับกำลังตำหนิที่เขาไม่รักษาสัจจะ
แต่มู่ชิงเกอกลับยิ้มอย่างชั่วร้าย “ใช่ แต่ข้ารู้สึกว่าการหาครั้งแรกจะต้องหาไม่พบอย่างแน่นอน ไม่อยากเสียเวลา ฆ่าคนหนึ่งทิ้งก่อนดีกว่า”
พูดจบ มือของนางก็ยกขึ้นมาอีก แววตาเหี้ยมโหด
“หยุด! ข้าให้พวกเจ้าไป ให้พวกเจ้าไป” หญิงหน้าตาธรรมดารีบพูด
นางกลัวแล้ว กลัวแล้วจริงๆ
นางพบว่าคนตรงหน้านี้ไม่เหมือนมนุษย์เทพคนก่อนๆ ที่นางเคยพบที่พอหมดพลังเทพแล้วก็เกิดความหวาดผวา ละทิ้งศักดิ์ศรีของมนุษย์เทพไป
คนตรงหน้านี้นางไม่อาจหาเรื่องด้วยได้
หญิงคนนั้นกะพริบตา ตาซ้ายนางพลันโปร่งใส แสงสายหนึ่งพุ่งออกมาจากด้านใน ที่ที่แสงพาดผ่าน ปรากฎทางไปสู่โลกภายนอกขึ้น
‘ความลับที่จะออกไปซ่อนอยู่ในตาของนางงั้นหรือ’ มู่ชิงเกอประหลาดใจมาก
นางส่งสายตาให้ถงเถิง ทั้งคู่ไปยังทางออกทันที
“นี่ ปล่อยพวกเราด้วย” หญิงคนนั้นตะโกนเสียงดัง
เสียงมู่ชิงเกอลอยมาจากที่อันห่างไกล “อีกสองชั่วยาม จุดของพวกเจ้าก็จะคลายออกเอง”
ออกจากแผ่นดินพิสดารนั้นแล้ว มู่ชิงเกอกับถงเถิงก็ยังคงมุ่งหน้าไปยังแดนฮ่วนเยวี่ยต่อ
ตลอดทางพวกเขาพยายามหลบเลี่ยงเมืองต่างๆ เพื่อลดความยุ่งยาก แม้เป็นเช่นนั้นพวกเขาก็ยัง ได้เห็นวิถีชีวิตท้องถิ่นของชาวบ้าน ทั้งพื้นที่กว้างขวางของทุ่งหญ้า ภูเขา ทะเลทราย ภูเขาหิมะ สิ่งต่างๆเหล่านี้ล้วนเป็นทิวทัศน์ของโลกมนุษย์ธรรมดา ยิ่งเข้าใกล้แดนฮ่วนเยวี่ยทิวทัศน์ที่ปรากฎก็ยิ่งดูเลือนรางขึ้นทุกที
“โอ้ แผ่นดินเทพที่กว้างใหญ่ไพศาล ได้เห็นเจ้าแล้วข้ารู้สึกเบิกบานหัวใจทุกวันเลย” ท่ามกลางทุ่งหญ้า ถงเถิงกางสองแขน ใบหน้าดื่มดํ่ากับสายลมที่พลิ้วผ่านและแสงอาทิตย์อัสดงที่ยังคงเหลืออยู่
มู่ชิงเกอได้ยินแล้วในใจก็เย็นเยียบ นางไม่นึกว่าตัวตนของถงเถิงจะเป็นคนไม่เต็มเต็งคนหนึ่งเสียได้
ถึงแม้ในใจจะไม่อาจชื่นชมวิธีการแสดงออกถึงความสุขภายในจิตใจของเขาได้ แต่มู่ชิงเกอก็ยังยอมรับคำพูดหนึ่งของเขา นั่นคือความ ‘กว้างใหญ่ไพศาล’ แผ่นดินเทพช่างกว้างกว้างใหญ่ไพศาลจริงๆ
นี่เป็นเพียงแค่แผ่นดินเทพตะวันออก ระยะทางจากเสี่ยวเทียนอี้ถึงแดนฮ่วนเยวี่ยก็มีสิ่งที่น่าชื่นชมตลอดทางแล้ว
เป็นครั้งแรก ที่นางมีความสนใจต่อแผ่นดินนี้ นอกจากการแก้แค้นและการพัฒนาความแข็งแกร่ง
“ลูกพี่ ต้องอีกนานเท่าไรจึงจะถึงแดนฮ่วนเยวี่ย” หลังจากระบายความพลุ่งพล่านในจิตใจแล้ว ถงเถิงก็ถามมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอทบทวนแผนที่ในใจแล้วมุมปากก็เผยรอยยิ้ม “ใกล้แล้ว อีกหนึ่งเดือน พวกเราก็จะถึงแดนฮ่วนเยวี่ย”
“หนึ่งเดือน ในที่สุดก็จะถึงแล้ว พวกเราจะถึงแดนฮ่วนเยวี่ยแล้ว”
ใช่แล้ว เวลาครึ่งปี นางเข้าสู่แผ่นดินเทพราวสองปีแล้ว เวลาสองปีนี้ เวลาหนึ่งปีครึ่ง นางปิดประตูบำเพ็ญอยู่ที่เสี่ยวเทียนอี้ที่เหลืออีกครึ่งปีนางอยู่ในระหว่างทางที่จะไปยังแดนฮ่วนเยวี่ย
เวลาในแผ่นดินเทพมารราวกับไม่ได้เร่งร้อน เวลาสองปีสำหรับโลกข้างล่างแล้ว อาจเกิดเรื่องราวมากมายเหลือเกิน แต่เมื่ออยู่ที่นี่อาจเป็นเพียงแค่การปิดประตูบำเพ็ญหรือเพียงแค่เร่งเดินทางก็หมดไปแล้ว
มู่ชิงเกออดไม่ได้จับกระดิ่งที่คาดไว้ที่เอวตลอดขึ้นมา ในเวลาสองปีนี้นางคิดถึงกระดิ่งที่เอว หลายครั้ง ในที่สุดนางก็ยืนอยู่บนผืนแผ่นดินเดียวกับซือมั่ว ได้เฝ้ามองท้องฟ้าดวงดาวเดียวกันกับเขา…