Skip to content

พลิกปฐพี 659

ตอนที่ 659

เจ้ามีคุณสมบัติพอหรือ

“เจ้ากับเขา รอดได้เพียงคนเดียวเท่านั้น”

คำพูดของผู้เฝ้ามองทำให้ตาดำของมู่ชิงเกอหดลงเล็กน้อย ทันใดนั้น นางก็ยิ้มออกมา

ผู้เฝ้ามองดูมู่ชิงเกอ ไม่ได้เอ่ยคำ

หลังจากยิ้มแล้ว นางก็ใช้นํ้าเสียงสงบนิ่งถึงขั้นเยือกเย็นเอ่ยว่า “ผู้เฝ้ามองมาหาข้า ที่แท้ก็เพื่อจะบอกข้าเรื่องนี้หรือ”

ผู้เฝ้ามองยังคงไม่พูดอะไร

นางพูดต่อว่า “ระหว่างข้ากับมู่เทียนอินนั้น ตั้งแต่ตอนที่เขาคิดฆ่าข้าครั้งแรกก็กำหนดเอาไว้แล้วว่ารอดได้เพียงคนเดียวเท่านั้น อิกทั้งข้ามั่นใจว่า คนที่ตายต้อง เป็นเขา”

“ดูเจ้ามีความมั่นใจมาก” ผู้เฝ้ามองดูมู่ชิงเกอแล้วพูดขึ้น

มู่ชิงเกอยิ้มที่มุมปาก “ไม่ใช่มีความมั่นใจ เพียงเพราะข้าไม่อยากตาย เมื่อข้าไม่อยากตาย คนที่ตายย่อมเป็นเขาเท่านั้น”

ผู้เฝ้ามองจ้องมู่ชิงเกอ เนิ่นนานจึงพูดขึ้นว่า “เจ้าไม่เลวจริงๆ สามารถเดินทีละก้าวจากโลกข้างล่างมาถึงที่นี่ได้ และแม้จะเผชิญหน้ากับข้าก็ไม่มีอาการตื่นตกใจแม้ เพียงนิด เจ้านี่ไม่เลวเลยจริงๆ”

สายตามู่ชิงเกอผุดแววเยาะเย้ย

นางไม่อาจยอมรับความคิดของผู้เฝ้ามองได้แล้วเหตุใดตัวเองต้องก้มหัวให้เขาด้วย ที่นางก้าวเดินทีละก้าวจนมาถึงที่นี่ไม่ใช่ต้องการการยอมรับจากคนอื่น ยิ่ง ไม่ได้ต้องการคำชมจากคนอื่น นางยืนหยัดและต่อสู้ไม่หยุดเพื่อเป้าหมายในใจตัวเองเท่านั้น

ตลอดเส้นทางนี้ มีคนเกลียดนางจนเข้ากระดูก มีคนถากถางให้ร้าย มีคนลอบวางแผนทำลาย ทั้งมีคนต้องการฆ่านางอย่างเปิดเผย แต่ขณะเดียวกันก็มีคนฝากชีวิตไว้ที่นาง มีคนยอมตายเพื่อนาง

นางถือว่าทั้งหมดนี้เป็นการเคี่ยวกรำอย่างหนึ่ง ปณิธานของนางไม่เคยเปลี่ยนแปลง

ดังนั้นที่ผู้เฝ้ามองใช้คำพูดเช่นนี้ต่อหน้านางก็เพื่อให้นางดีอกดีใจจนเนื้อเต้น รู้สึกว่าตัวเองได้รับการยอมรับหรือ

หึ น่าหัวเราะ

‘ข้ามู่ชิงเกอเป็นอย่างไรจำเป็นที่จะต้องคนอื่นมาวิจารณ์ตั้งแต่เมื่อไรกัน’ มู่ชิงเกอคิดอย่างหยิ่งยโสในใจ

“เขา…อยู่ข้างกายเจ้าสินะให้พวกเราพบกันได้หรือไม่” ผู้เฝ้ามองพูดขึ้นกะทันหัน

เขาหรือ

หมายถึงใครกัน…

มู่ชิงเกอจ้องผู้เฝ้ามองตรงๆ โดยไม่กริ่งเกรงแม้แต่นิด ทั้งไม่ครั่นคร้ามเลยสักนิดเดียว แม้ว่าเวลานี้นางจะไม่สามารถขยับร่างกายได้แม้แต่น้อยแต่นั้นก็ไม่ได้ทำ ให้นางแกร่งกล้าน้อยลง

‘นายน้อย ให้ข้าออกไปเถอะ’ เสียงราชครูดังขึ้นในสมองมู่ชิงเกอ

นี่ทำให้มู่ชิงเกอรู้ว่า ‘เขา’ ที่ผู้เฝ้ามองพูดถึงนั้นหมายถึงใคร

แววตานางเปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย ที่ข้างกายมู่ชิงเกอเกิดการเคลื่อนตัวของพลังช่องว่าง เงาร่างของคนคนหนึ่งปรากฎขึ้นที่ข้างกายนาง พอเขาปรากฎตัวก็ยกมือขึ้นโบกวูบหนึ่งโดยทันที พลังที่กักตัวมู่ชิงเกอกับหยินเฉินไว้จนไม่สามารถกระดุกกระดิกได้พลันสลายหายไป พวกเขาจึงกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง

พอเคลื่อนไหวได้หยินเฉินก็รีบเดินมาที่ข้างมู่ชิงเกอ นัยน์ตาสีเลือดจ้องผู้เฝ้ามองอย่างระแวดระวัง หุ่นเทพมารเองก็เข้ามายืนอยู่ทางด้านซ้ายขวาของมู่ชิงเกอ

หยินเฉินคิดจะขยับ แต่มู่ชิงเกอห้ามไว้

นางมองไปยังสองชายชราที่ยืนอยู่ตรงหน้า พวกเขาต่างสวมชุดขาวถือไม้เท้า ผมเงินหน้ามีเลือดฝาด แม้แต่บารมีก็พอๆ กัน

ที่ทำให้นางผิดคาดก็คือไม่คิดว่าราชครูจะแข็งแกร่งถึงเพียงนี้ เพียงแค่โบกมือก็สามารถคลายการกักขังจากผู้เฝ้ามองลงได้

ผู้เฝ้ามอง…

ความจริงแล้ว ทั้งคู่ต่างเป็นผู้เฝ้ามองของตระกูลมู่ เพียงแต่ ไม่ว่ามู่ชิงเกอหรือมู่เทียนอินต่างไม่รู้ว่าผู้ชี้นำทางของตัวเองมีชื่อว่าอะไร

คนหนึ่งเรียกว่าราชครูอีกคนหนึ่งเรียกว่าอาจารย์

“ศิษย์พี่ ไม่ได้พบกันนานแล้วนะ” ราชครูเอ่ยปากด้วยรอยยิ้มน้อยๆ

ผู้เฝ้ามองก็เอ่ยปากขึ้นเช่นกัน เพียงแต่ท่าทีของเขายังคงเย็นชา “ไม่ได้เจอกันนานจริงๆ เจ้ากลับมาได้เร็วกว่าที่ข้าคาดคิดไว้”

ราชครูยิ้มผงกศีรษะ “ใช่แล้ว เลือกเจ้านายดีคนหนึ่งได้ จึงกลับมาได้เร็วหน่อย”

“ดูเจ้าเชื่อมั่นมาก” ผู้เฝ้ามองพูด

ราชครูยิ้มถามกลับว่า “หรือว่าศิษย์พี่ไม่มีความมั่นใจต่อคนที่ตัวเองบ่มเพาะขึ้นมาหรือ”

ผู้เฝ้ามองตอบอย่างนิ่งสงบว่า “ความเชื่อมั่นของข้าไม่สำคัญ ความเชื่อมั่นของเจ้าเองก็ไม่สำคัญ ที่สำคัญที่สุดอย่างเดียวคือ การฟื้นฟูตระกูลมู่ นี่เป็นหน้าที่ของเจ้า และข้าในฐานะผู้เฝ้ามองตระกูลมู่”

รอยยิ้มบนใบหน้าราชครูค่อยๆ ลดลง เขาดูออกว่าที่คืนนี้ศิษย์พี่ตนมาพบมู่ชิงเกอนั้น มีความหมายที่ไม่ธรรมดา

“ศิษย์พี่ ท่านคิดจะทำอะไร” ราชครูถามอย่างระแวดระวัง

ผู้เฝ้ามองสั่นศีรษะช้าๆ “เรื่องที่ข้าทำในหมื่นปีนี้มีเพียงเรื่องเดียว”

ราชครูเม้มปาก คิ้วขมวดแน่น ไม่ได้พบกันหมื่นปี เขายังคงไม่สามารถอ่านความคิดศิษย์พี่ตัวเองออกได้ เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เขาก็ยังคงไม่อาจคาดเดาอะไรได้เช่นเคย

“กำลังที่เหลืออยู่ของตระกูลมู่ไม่สมควรสิ้นเปลืองไปกับการต่อสู้ภายใน ในเมื่อคนที่เจ้าเลือกเวลานี้มาถึงแผ่นดินเทพแล้วก็เป็นเวลาที่ต้องตัดสินชี้ขาดกันได้แล้ว” ผู้เฝ้ามองพูดขึ้นอย่างไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย

คำพูดนี้มีความหมายที่ซ่อนเร้นทำให้มู่ชิงเกอและราชครูต่างตะลึงงันไป

ผู้เฝ้ามองมองไปที่มู่ชิงเกอ

ดวงตาที่ใสกระจ่างของมู่ชิงเกอเองก็จ้องมองเขาโดยไม่หลบหลีก

“เมื่อครู่นี้ข้าบอกเจ้าว่า เจ้ากับมู่เทียนอินรอดได้เพียงคนเดียวเท่านั้น” ผู้เฝ้ามองพูดช้าๆ “คำพูดนี้ ข้าก็บอกเขาไปแล้วเช่นกัน”

คนทั้งหอคอยนิ่งสงบลง รอคำพูดต่อไปของผู้เฝ้ามอง

“เทียนอินคิดฆ่าเจ้า เจ้าก็คิดฆ่าเทียนอิน เช่นนั้นข้าจะให้โอกาสพวกเจ้า ให้พวกเจ้าสามารถประลองตัวต่อตัวกันอย่างจริงจัง” ผู้เฝ้ามองพูดอีก

“ศิษย์พี่ท่าน…” ราชครูเอ่ยขึ้นอย่างอดไม่ได้ แต่พอเขาเปิดปาก ผู้เฝ้ามองก็ยกไม้เท้าหยุดคำต่อไปที่เขาจะเอื้อนเอ่ย

ผู้เฝ้ามองยังคงมองมู่ชิงเกอแล้วพูดต่อว่า “แผ่นดินเดิมตระกูลมู่อยู่แผ่นดินเทพตะวันตก ข้าให้เวลาเจ้าหนึ่งเดือนไปให้ถึงที่นั้น เทียนอินก็จะคอยเจ้าอยู่ที่นั้น เมื่อถึงเวลานั้น พวกเจ้าสองคนก็จะอยู่บนแผ่นดินเดิมของตระกูลมู่และต่อสู้ชี้ขาดกันที่นั่น ผู้ชนะจะเป็นนายน้อยที่แท้จริงของตระกูลมู่ รับผิดชอบภารกิจหนักหนาในการนำตระกูลมู่ทั้งหมดกลับคืนสู่ความรุ่งเรืองและแก้แค้น”

“ไม่ได้” ผู้เฝ้ามองเพิ่งจะพูดจบ มู่ชิงเกอยังไม่ทันตอบ ราชครูก็รีบคัดค้าน

ความร้อนรนของเขาทำให้มู่ชิงเกอกับผู้เฝ้ามองต่างมองไปที่เขา

แววตาของมู่ชิงเกอฉายแววสงสัย นางไม่เข้าใจว่าเหตุใดราชครูต้องคัดค้านอย่างร้อนใจเช่นนี้ด้วย

ท่ามกลางความสงสัยของมู่ชิงเกอราชครูจึงเอ่ยว่า “หลังจากตระกูลมู่ล่มสลายลง เส้นทางไปยังแผ่นดินเดิมของตระกูลมู่ก็เต็มไปด้วยอันตรายนานาชนิด ทั้งยังมีคนจากดินแดนเทพอื่นคอยทำการค้นหาอยู่ที่นั่น อันตรายเกินไป ต้องเปลี่ยนสถานที่”

เขาพูดจบก็มองไปที่ผู้เฝ้ามอง

แต่ผู้เฝ้ามองกลับไม่แสดงท่าทีใดๆ เพียงพูดอย่างเยือกเย็นว่า “หากไม่มีแม้แต่ความกล้าหาญและฝีมือในการไปยังแผ่นดินเดิมของตระกูลมู่แล้วจะมีคุณสมบัติอะไรมาแย่งชิงตำแหน่งนายน้อยตระกูลมู่ได้”

คำพูดของเขาทำให้ราชครูพูดไม่ออก เขามองไปที่มู่ชิงเกอแล้วพูดอีกว่า “การต่อสู้ครั้งนี้เป็นการต่อสู้ระหว่างเจ้ากับมู่เทียนอิน ข้าจะไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวด้วย เขาเองก็จะไม่ยุ่งเกี่ยวด้วยเช่นกัน”

เขาชี้ไปที่ราชครู

“ข้ารู้ว่าเจ้ากำลังหาเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่าง ข้าบอกเจ้าได้ว่าเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างถูกแบ่งออกเป็นห้าส่วน ในมือข้าเวลานี้มีอยู่แล้วสองส่วน ที่เจ้านั้น…คงมีอยู่แล้วหนึ่งส่วนสินะ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version