Skip to content

พลิกปฐพี 666

ตอนที่ 666

เช่นนั้นก็สู้กันเถอะ

ขั้นบำเพ็ญของมู่ชิงเกอหรือ

คำพูดนี้ทำให้มู่เทียนอินสะดุ้งขึ้นมา ราวกับว่ามีอะไรสักอย่างอยู่นอกเหนือการควบคุม

มู่ชิงเกอกำลังเดินมายังเขาช้าๆ ยังคงใช้นํ้าเสียงที่เชื่องช้าอย่างมากพูดกับเขา แต่มู่เทียนอินกลับรู้สึกขึ้นทันทีว่าความแข็งแกร่งของมู่ชิงเกอกำลังเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ

ที่เคยพบกันหลายครั้งก่อนหน้านี้เขาไม่มีโอกาสได้ประมือกับมู่ชิงเกอ ดังนั้นจึงไม่รู้เลยว่าพลังของเขาสูงเท่าไรกันแน่

ถึงแม้ขณะอยู่ในวังอู๋หวาจะได้ยินคำเล่าลือที่เกี่ยวกับมู่ชิงเกอมาบ้างแต่เขาก็ยังไม่เชื่อคิดว่าเป็นเพียงสิ่งเกินจริงจากคำเล่าลือ ห่างจากความเป็นจริงมากมายนัก

ขั้นบำเพ็ญของมู่ชิงเกอคือเท่าไรกัน

มู่เทียนอินเองก็เคยคิด เพียงแต่เขาเห็นว่ามู่ชิงเกอเพิ่งเข้ามายังแผ่นดินเทพไม่กี่ปี ต่อให้มีพรสวรรค์ร้ายกาจเพียงใดจะแข็งแกร่งได้ถึงขั้นไหนกัน

การที่เขาถูกคนกล่าวยกย่องเช่นนี้คงเพราะความโชคดีของเขา คู่ต่อสู้ที่ได้พบล้วนอ่อนแอเกินไป

หากเป็นเขาที่จัดการคนเหล่านั้นก็คงจะชนะได้อย่างสบาย ทั้งยังงดงามกว่านี้แน่

แต่ในขณะนี้เขากลับเริ่มสงสัยคำตอบที่เขาเคยเชื่อถืออย่างยิ่งก่อนหน้านี้

“มู่เทียนอิน เพื่อวันนี้ เจ้าคงไม่รู้ว่าข้าเคยผ่านอะไรมาบ้าง และไม่รู้ว่าข้ารอมานานเท่าไรแล้ว” มู่ชิงเกอพูดช้าๆ

ทุกก้าวย่างของนาง ความแข็งแกร่งก็จะเพิ่มขึ้นไปอีกหนึ่งชั้น

เคล็ดวิชาเก็บงำพลังที่แท้จริงของนางได้มาจากการถ่ายทอดจากซือมั่วโดยตรง ไม่ใช่ประเภทที่คนอย่างมู่เทียนอินจะสามารถมองออกได้

ขั้นถํ้าวิญญาณชั้นหนึ่ง

ขั้นถํ้าวิญญาณชั้นสอง

ขณะที่มู่เทียนอินคิดว่าอย่างมากไม่น่าจะเกินขั้นถํ้าวิญญาณชั้นสามนั้นพลังในตัวมู่ชิงเกอก็พุ่งขึ้นสูงไปอีก พริบตาเดียวก็ไปถึงขั้นถํ้าวิญญาณชั้นสี่

‘ชั้นสี่ เป็นไปไม่ได้ เขาเข้ามาในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรได้นานเท่าไรกัน เพียงไม่กี่ปีเท่านั้น เหตุใดจึงก้าวหน้าไปได้ไวขนาดนี้’ มู่เทียนอินคิดในใจอย่างไม่อยากจะเชื่อ

แต่นี่ยังไม่จบ

แค่ขั้นถํ้าวิญญาณชั้นสี่ก็ยากที่จะทำให้เขายอมรับได้อยู่แล้ว

แต่พลังของมู่ชิงเกอก็ยังคงเพิ่มขึ้นสูงไปเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วจนเข้าถึงขั้นถํ้าวิญญาณชั้นห้า

ชั้นห้า!

ถึงขนาดชั้นห้าแล้ว

มู่เทียนอินเบิกตาโพลงมองมู่ชิงเกอด้วยความตกตะลึง

“ตกใจหรือ” มุมปากมู่ชิงเกอยกขึ้นปรากฎรอยยิ้มที่ชั่วร้าย นางชื่นชอบใบหน้าที่แสดงความตกตะลึงของมู่เทียนอินเป็นอย่างมาก

เมื่อครู่นี้เขาไม่ใช่คลุ้มคลั่งหรือ ไม่ใช่จองหองหรือ ไม่ใช่ทะนงตัวหรือ

เวลานี้ เหตุใดจึงต้องแสดงอาการตกตะลึงเช่นนี้ด้วย กระทั้งยังมีความหวาดหวั่นที่แม้แต่ตัวเองยังไม่รู้ตัวรวมอยู่ด้วย

ขั้นถํ้าวิญญาณชั้นหก

“ไม่! เป็นไปไม่ได้” มู่เทียนอินร้องออกมาอย่างทนไม่ได้

กระทั้งเท้าของเขาเองยังถอยไปหนึ่งก้าวโดยไม่รู้ตัว ดวงตาเต็มไปด้วยความหวาดหวั่น

น่าเสียดายที่มู่ชิงเกอยังเล่นสนุกไม่พอ

นางยังคงเพิ่มระดับพลังของตัวเองจนสูงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งหยุดลงอย่างมั่นคงที่ขั้นถํ้าวิญญาณชั้นเจ็ด

“เป็นไปไม่ได้ เจ้าจะต้องกินยาอะไรที่ทำให้เจ้าเพิ่มขั้นพลังได้ชั่วคราวแน่” มู่เทียนอินไม่อยากจะเชื่อ

พยายามหาเหตุผลมาอธิบายเหตุการณ์ตรงหน้านี้ ทันใดนั้น ดวงตาเขาก็เปล่งประกายรีบบอกว่า “ถูกแล้ว จะต้องเป็นเช่นนี้ คล้ายกับเมื่อครั้งที่หานชุ่นที่เจ้ายอมเผาผลาญอายุขัยเพื่อยกระดับบำเพ็ญ”

ราวกับว่าเขามั่นใจว่าเป็นเหตุผลนี้แน่นอน

เขาหัวเราะอย่างโหดเหี้ยมขึ้นมา บอกมู่ชิงเกอว่า “ฮ่าๆๆ ข้านึกว่าเจ้าจะเก่งกาจแค่ไหนกัน ที่แท้ก็แค่ใช้วิชาลับเพิ่มตบะบำเพ็ญเพื่อจะมาต่อสู้กับข้า ข้าเองก็อยากรู้เหมือนกันว่าพลังของเจ้าที่ยกระดับขึ้นได้ชั่วคราวนี้จะสามารถคงอยู่ได้นานเท่าไร รอให้วิชาลับของเจ้าไร้ผล พลังถอยกลับโดนแรงสะท้อนกลับแล้ว เจ้ายังจะไม่โดนข้าฆ่าแกงได้ตามสบายอีกหรือ”

สองตาของมู่ชิงเกอหรี่ลง ความสงสารผุดขึ้นในแววตา นางรอจนมู่เทียนอินปลอบใจตัวเองจบแล้ว จึงพูดเรียบๆ ว่า “มู่เทียนอินเจ้าช่างน่าสงสารนัก ยอมที่จะ เชื่อสิ่งที่ตัวเองนึกฝัน แต่ไม่กล้าเชื่อสิ่งที่เห็นกับตาตัวเอง เป็นเพราะเหตุใดหรือ…อยู่ดีๆ ก็เห็นมดปลวกที่เคยตํ่าต้อยกว่าเจ้า เวลานี้กลับสามารถอยู่ในขั้นพลังเดียวกับเจ้าจึงตกอกตกใจขนาดนั้นเลยหรือ”

คำพูดของนางทำให้รอยยิ้มของมู่เทียนอินหายไป

เขาจ้องเขม็งมองดูนางด้วยสายตาที่ยังไม่ยอมเชื่อ

เชื่อหรือ

จะให้เขาเชื่อได้อย่างไร

“มู่เทียนอิน เจ้าใช้เวลากี่ปีจึงจะถึงขั้นถํ้าวิญญาณขั้นเจ็ด” มู่ชิงเกอพูดพึมพำ “ให้ข้าลองเดาดู… หนึ่งปี สิบปี ยี่สิบปี หรือสามสิบปี สี่สิบปี ส่วนข้าน่ะหรือ จากขั้นถํ้าวิญญาณชั้นหนึ่งจนถึงขั้นถํ้าวิญญาณชั้นเจ็ด ใช้เวลาไม่ถึงสองปี เจ้ามาคุยเรื่องพรสวรรค์กับข้า ใครกันแน่ที่มีพรสวรรค์ร้ายกาจกว่ากัน”

คำพูดของมู่ชิงเกอราวกับสายฟ้าฟาดผ่าตรงเข้าที่ร่างมู่เทียนอิน เขาราวกับได้ยินเสียงอะไรแตกสลาย คำพูดมู่ชิงเกอนั้นกระแทกเข้าที่ความรู้สึกของเขาจนความภาคภูมิใจและการรับรู้ของเขาแตกกระจายลงอย่างง่ายดาย

“ใช่แล้ว ข้ายังลืมบอกเจ้าไป” มู่ชิงเกอเริ่มสนุกสนานขึ้นมา ชื่นชมท่าทีตะลึงงันของมู่เทียนอินแล้วพูดช้าๆ ว่า “ครั้งแรกที่หานชุ่น ข้าไม่เพียงแค่ได้รับเคล็ดวิชา เทวะส่วนกลาง ทั้งยังได้พบวิญญาณเทพของบรรพชนตระกูลมู่และได้ผ่านการทดสอบของเขา ได้อาบเลือดตระกูลมู่ จุดไฟชีวิตใหม่สายเลือดตระกูลมู่ขึ้นมา เจ้าว่าเจ้าเป็นนายน้อยตระกูลมู่ที่ฟ้ากำหนด น่าหัวเราะเกินไปหรือไม่ เจ้าเป็นเพียงหนอนน่าสงสารที่ถูกคัดเลือกออกมา อาศัยอยู่ใต้เงามืด ใต้แสงสว่างของนายน้อยตระกูลมู่มาตลอดชีวิต เจ้าไม่มีความเป็นตัวของตัวเอง กระทั้งไม่มีความกล้าที่จะก้าวออกจากตระกูลมู่ ส่วนข้านั้นไม่เหมือนกัน ถึงแม้ข้าจะเกิดในโลกข้างล่าง แต่ข้ามีชีวิตของข้าเอง ข้าไม่ใช่นายน้อยตระกูลมู่ ข้าเป็นเพียงมู่ชิงเกอ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใด ข้าจะมีชีวิตอย่างสวยงามกว่าเจ้าตลอดกาล เจ้าเดินเหินในแผ่นดินเทพมาร กระทงแซ่มู่ก็ยังไม่กล้าใช้ แต่ข้ากล้า แผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรต่างเห็นอักษรมู่เป็นตัวหนังสือต้องห้าม แต่ข้าจงใจใช้ตัวหนังสือต้องห้ามนี้ทำให้คนทั้งหมดค่อยๆ เล่าลือต่อๆ กัน…”

“เจ้าหุบปาก เจ้าหุบปาก พอแล้ว พอแล้ว เจ้าหุบปาก” มุ่เทียนอินตะโกนอย่างบ้าคลั่ง สองตาแดงเถือก เพราะถูกคำพูดมู่ชิงเกอกระหนํ่าโจมตี ใบหน้ากลายเป็นสีม่วงเข้ม เส้นเลือดที่คอปูดนูนเป็นเส้นเขียว

มู่ชิงเกอหยุดปากลงตามที่เขาต้องการ แต่ถึงแม้นางจะไม่พูดอะไร เพียงยืนยิ้มมุมปากก็ทำให้รู้สึกระคายตาอย่างยิ่งแล้ว ทำให้รู้สึกอยากจะทำลายล้างทุกสิ่งให้ แหลกสิ้น

ราวกับว่า การคงอยู่ของมู่ชิงเกอคือการบอกเขาว่า เขาเป็นเพียงไอ้ขี้แพ้ เป็นเพียงหินหนุนเท้าให้อีกฝ่ายเหยียบ

บนพื้นดินนอกเก้าชั้นฟ้า ผู้เฝ้ามองถือกระจกเอาไว้ ภาพในกระจกไม่ใช่ตัวเขา เอง แต่เป็นมู่ชิงเกอกับมู่เทียนอิน เขาและราชครูดูกระจกนั้นด้วยกันและได้เห็นมู่ เทียนอินบ้าคลั่งเพราะคำพูดของมู่ชิงเกอ ขาดสติในการควบคุมตัวเองไปโดยสิ้นเชิง

ราชครูยิ้มบางๆ ส่วนผู้เฝ้ามองไม่มีอาการใดๆ ไม่ดีใจเสียใจ ไม่ผิดหวัง

“ข้าจะฆ่าเจ้า ข้าจะฆ่าเจ้า!” มู่เทียนอินเงยหน้า ผมของเขาเริ่มยุ่งเหยิงตกลงมาระอยู่ที่แก้ม ดวงตาแดงฉาน สีหน้าเหี้ยมโหด

เขายกกระบี่ยาวในมือขึ้นสูงแทงเข้ามาที่มู่ชิงเกอ

มู่ชิงเกอหน้าไม่เปลี่ยนสี มองกระบี่ยาวที่แทงมาทางนางแล้วค่อยๆ ยกทวนหลิงหลงในมือขึ้น “เช่นนั้นก็สู้กันเถอะ”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version