ตอนที่ 695
ชิงเกอ ทำให้เจ้าลำบากแล้ว
ไม่พูดไม่ได้ว่าเขายินดียิ่งนัก
เมื่อครู่นี้ เขายังเป็นห่วงว่ามู่ชิงเกอจะเจ้าเล่ห์ แอบเก็บของที่เขาต้องการเอาไว้แล้วให้พวกของไร้ประโยชน์แก่เขา จนเมื่อได้เห็นปัญญาเทวะที่ยังคงสมบูรณ์อยู่ความกังวลจึงค่อยคลายลงไป
มุมปากแย้มรอยยิ้มออกมาบอกมู่ชิงเกอว่า “ดีมาก นับว่าเจ้ายังรู้ว่าอะไรควรไม่ควร ไม่ได้เล่นตลกกับข้า”
“ราชาเทวะปรีชากล้าหาญ ข้าจะกล้าเล่นตลกกับราชาเทวะได้อย่างไร” มู่ชิงเกอถือโอกาสเอ่ยยกหางไปอีกคำ
ราชาเทวะจื่อกวงเก็บกระเป๋าจัดเก็บของมู่เทียนอินไว้แล้วมองลงมาที่มู่ชิงเกอ ร้องฮึแล้วพูดว่า “หากเจ้ารู้กาลเทศะตั้งแต่แรกข้าคงจะมอบไมตรีให้เจ้ามากกว่านี้”
มู่ชิงเกอยิ้มแล้ว นึกบ่นอยู่ในใจ ‘หากข้ามอบของให้ง่ายๆ แต่แรกเจ้าจะยอมเชื่อหรือ’
“ราชาเทวะ ข้าได้มอบของให้ตามสัญญาแล้ว เช่นนั้นภรรยาข้า…” มู่ชิงเกอถาม
“ย่อมให้เจ้าพาจากไป” ราชาเทวะจื่อกวงพูดอย่างสบายอารมณ์ “ข้าสูงศักดิ์ถึงเพียงนี้จะไป แตะต้องหญิงที่มีราคีคาวได้อย่างไร”
ในเวลาเดียวกันนั้นใจเขาก็ยินดีเป็นอย่างยิ่ง
ดีที่รู้ก่อน หากเข้าห้องหอแล้วเพิ่งจะมารู้ละก็ ความขยะแขยงนั้น…ราวกับกินของที่คนอื่นกินแล้วคายออกมาให้เขากินอีกรอบ
“ขอบคุณราชาเทวะ แต่ว่าข้าล่มงานมงคลของราชาเทวะไป พวกเราคงไม่สะดวกจะอยู่ต่อ สักครู่ พวกเราคงจะต้องเตรียมตัวขอลาแล้ว” มู่ชิงเกอพูดอีก
“แล้วแต่เจ้า” ราชาเทวะจื่อกวงยกมือสะบัดแขนเสื้อ รับคำอย่างไม่ใส่ใจ
ทันใดนั้น บริเวณโดยรอบพลันเปลี่ยนไป แขกเหรื่อที่หายไปรวมทั้งพวกซีเซียนเสวี่ยต่างกลับมาปรากฎตัวอยู่ตรงหน้ามู่ชิงเกออีกครั้ง
“ชิงเกอ!” พอเห็นมู่ชิงเกอปรากฎตัว ซีเซียนเสวี่ยก็วิ่งมาข้างๆ สองมือจับแขนนางไว้ พิจารณาทั่วร่างนางอย่างเคร่งเครียด
เห็นซีเซียนเสวี่ยแสดงท่าทีรักใคร่มู่ชิงเกอขนาดนั้นแล้ว ราชาเทวะจื่อกวงก็แค่นเสียงเงียบๆ พลางเอ่ยปากว่า “ในเมื่อนางเป็นภรรยาที่โลกข้างล่างของเจ้า แล้วพวกเจ้าก็ยังไม่ลืมความสัมพันธ์ในครั้งเก่า วันนี้ข้าจึงจะถือโอกาสให้พวกเจ้าสมปรารถนา ให้พวกเจ้าได้แต่งงานอีกครั้งที่นี่ตามธรรมเนียมแผ่นดินเทพแล้วค่อย จากไป”
เวรเอ๊ย อะไรเนี่ย!
ใบหน้ามู่ชิงเกอมีแววตกใจแวบผ่าน
ในบทจะต้องไม่เป็นเช่นนี้สิ
ราชาเทวะจื่อกวงเหตุใดถึงไม่เล่นไปตามบทเล่า ก็ตกลงกันแล้วว่า ให้ของแล้วก็จะปล่อยพวกเขาไป เหตุใดจึงเพิ่มการแต่งงานขึ้นมาอีก
แถมบอกด้วยว่าเป็นการแต่งงานอีกครั้ง นางจะไปแต่งงานกับซีเซียนเสวี่ยได้อย่างไรเล่า
มู่ชิงเกอแอบเคืองไม่น้อย ในใจรู้สึกว่าโดนราชาเทวะโจมตีไปหนึ่งแผล ส่วนซีเซียนเสวี่ยเมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้วก็ตกตะลึงไปเล็กน้อยแล้วมองมู่ชิงเกอด้วยท่าทีแปลกประหลาด
แต่ในสายตาบุคคลภายนอกนั้นกลับคิดว่านางคงยินดีมากจนเกินไป
เหยาชิงไห่ซึ่งรู้ความจริงทำได้แค่ยิ้มเศร้า อย่างน้อยซีเซียนเสวี่ยไม่ต้องแต่งงานกับราชาเทวะจื่อกวงแล้ว
“อย่างไร เจ้าไม่อยากรับความหวังดีของข้าหรือ” ราชาเทวะจื่อกวงมองมู่ชิงเกอแล้วพูด เขาเห็นแก่ที่มู่ชิงเกอมอบของที่ยังอยู่ในสภาพสมบูรณ์ให้แก่เขาจึงใจดียอมสนับสนุนทั้งคู่หรอกนะ
มู่ชิงเกอมุมปากกระตุก ท่ามกลางสายตาที่แสดงความยินดีของหลีเฉา จวงซานและเซียนสุ่ย นางจึงแข็งใจพูดคำว่า “ขอบคุณราชาเทวะ”
ได้ยินนางรับคำ สองแก้มซีเซียนเสวี่ยก็แดงเรื่อด้วยความเขินอาย
ถึงแม้นางจะรู้ว่าการแต่งงานครั้งนี้เป็นเพียงเพราะสถานการณ์พาไป ถึงแม้จะรู้ว่าต่อให้แต่งงานแล้วระหว่างนางและมู่ชิงเกอก็ไม่อาจเกิดอะไรขึ้นได้แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่นางกับมู่ชิงเกอจะมีฐานะเช่นนี้แล้ว จิตใจนางก็รู้สึกยินดีอย่างยิ่ง
ราชาเทวะจื่อกวงตีฆ้องให้งานเลี้ยงมงคลมีต่อไป เพียงแต่เปลี่ยนตัวหลัก จากเจ้าบ่าวกลายเป็นเจ้าภาพ ส่วนแขกผู้มีเกียรติกลายเป็นเจ้าบ่าวแทน แขกเหรื่ออื่นๆ หลังจากปรับตัวกับการเปลี่ยนแปลงได้ แล้วต่างเริ่มยกย่องสรรเสริญกัน
“นํ้าใจราชาเทวะสุดที่คนธรรมดาจะเปรียบเปรยได้”
“ราชาเทวะเป็นคนมีใจกุศล เป็นแบบอย่างที่ดีให้พวกเรา”
“ราชาเทวะยินดีสนับสนุนผู้อื่น เป็นคนจิตใจกว้างขวาง กว้างขวางเหลือคณา”
ตามด้วยเริ่มแสดงความยินดีกับมู่ชิงเกอโดยไม่ได้จริงใจเลยแม้แต่นิด
แต่ฐานะของเขาในดินแดนจื่อกวงทุกคนต่างรู้ดี
ดังนั้น เวลายกย่องจึงยิ่งต้องตั้งอกตั้งใจมากเป็นพิเศษ
โดยเฉพาะอินผิงที่ร้องอวยพรได้ดังที่สุด
“ยินดี ยินดี ยินดีกับราชาเทวะน้อยด้วยที่สามีภรรยาได้กลับมาอยู่ร่วมกันอีกครั้ง”
“ราชาเทวะน้อยมู่ ยินดีด้วย ขอให้สามีภรรยามีนํ้าหนึ่งใจเดียวกัน มีบุตรโดยไว”
“ขอให้ราชาเทวะน้อยมู่สามีภรรยามีความสุข แต่ราชาเทวะน้อยก็อย่าลืมบุญคุณราชาเทวะจื่อกวงด้วยเล่า”
แม้แต่พวกหลีเฉาเองก็ร่วมแสดงความยินดีกับมู่ชิงเกอด้วย
หลีเฉาประสานมือบอกมู่ชิงเกอว่า “เจ้าสาม ยินดีด้วย”
“ชิงเกอ ยินดีที่พวกเจ้าสามีภรรยาได้อยู่ร่วมกันอีกครั้ง” จวงซานกล่าว
เซียนสุ่ยถึงขนาดนำลูกบัวนํ้าหยดหนึ่งเม็ดยื่นให้ซีเซียนเสวี่ยเอ่ยว่า “นี่เป็นของขวัญ หญิงสาวกินแล้วจะคงความอ่อนเยาว์หากถูกพิษก็สามารถถอนพิษได้”
ซวนเฉียงนิสัยเย็นชาแต่ก็ยังกล่าวคำว่า “ยินดี”
มู่ชิงเกอพูดไม่ออก เพียงแค่ฝืนยิ้มรับมือกับคำกล่าวแสดงความยินดีพวกนี้ไม่ว่าจะเป็นความจริงใจหรือแสร้งทำเป็นยินดีก็ตาม
นางสวมชุดแดงเป็นปกติอยู่แล้วจึงไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนเสื้อผ้า
ดังนั้นนางจึงเข้าพิธีแต่งงานกับซีเซียนเสวี่ยอย่างงงงัน ท่ามกลางพยานอย่างราชาเทวะจื่อกวงก็ถูกผู้คนแห่แหนเข้าห้องหอ
พูดถึงห้องหอ มู่ชิงเกอคงไม่นับถือความเร็วในการทำงานของดินแดนจื่อกวงไม่ได้
ห้องหอนั้นเป็นห้องเดิมของนาง เพียงแต่พอมาอีกทีทั้งห้องก็ถูกจัดแจงใหม่ทั้งหมดกลายเป็นห้องหอ
หลังจากทุกคนก่อความวุ่นวายในห้องหอจนพอแล้วก็ถูกพวกหลีเฉากำจัดออกไปทั้งหมด ให้เวลาที่เหลือให้ ‘คู่บ่าวสาว’ ได้อยู่ด้วยกันในห้อง เดิมทีสองคนนี้เป็นเพื่อนเก่าที่ได้มาพบกันอีกครั้ง เวลานี้โดนราชาเทวะจื่อกวงสร้างความวุ่นวายจนกระอักกระอ่วนกันไปหมด
“แค่ก” มู่ชิงเกอไอเบาๆ ทำลายความเงียบ พูดกับซีเซียนเสวี่ยที่สวมชุดเจ้าสาวว่า “อย่าถือสาเลยนะ ไม่อาจฉีกหน้าเราชาเทวะจื่อกวงเฉยๆ ได้ วันนี้ทำเขาเสียหน้า หากไม่ให้โอกาสเขาแสดงความใจกว้าง เกรงว่าวันหลังจะมาหาเรื่องให้เดือดร้อน”
“ชิงเกอ เจ้าไม่ต้องอธิบายหรอก ข้าเข้าใจ” ซีเซียนเสวี่ยเอ่ยตัดบท ทั้งนํ้าเสียงและสีหน้าก็ไม่ได้ตำหนินางแม้แต่นิด
นางกัดริมฝีปากแดงบอกมู่ชิงเกอว่า “เป็นข้าที่สร้างความเดือดร้อนให้เจ้า”
มู่ชิงเกอสั่นศีรษะ “ระหว่างเจ้ากับข้าไม่จำเป็นต้องพูดเช่นนี้ ดีที่ข้ามาได้ทันเวลา และดีที่เหยาชิงไห่หาข้าพบ และบอกข้าเรื่องของเจ้า ไม่เช่นนั้นข้าคงต้องเสียใจแน่”
“เป็นเหยาชิงไห่ไปหาเจ้าหรือ” ซีเซียนเสวี่ยเบิกตาที่งามราวนํ้าผุดขึ้นแล้วพูดอย่างประหลาดใจ
มู่ชิงเกอผงกศีรษะบอกนางว่า “ไม่ต้องกังวล รอให้ผ่านคืนนี้ไปแล้ว พรุ่งนี้ข้าจะพาพวกเจ้าจากไปด้วยกัน”
ซีเซียนเสวี่ยในเวลานี้เป็น ‘ภรรยา’ ของนางย่อมต้องจากไปพร้อมกับนาง ส่วนเหยาชิงไห่ นางเองก็จะไม่ปล่อยให้เขาถูกทิ้งอยู่อย่างเดียวดายในดินแดนจื่อกวง ถูกคนรังแกข่มเหง กลายเป็นเครื่องมือผลิตโอสถให้ดินแดนจื่อกวง
นางได้ส่งหยินเฉินให้พาเหยาชิงไห่ไปรออยู่ข้างทางที่นางจะต้องผ่านแต่เช้า เพื่อที่นางจะได้เก็บเขาเข้าไปอยู่ในช่องว่าง อย่างนี้ก็จะไม่มีใครรู้ได้
เวลานี้ นอกหน้าต่างราวกับมีเงาร่างคนวาบผ่านไป มู่ชิงเกอเห็นแล้วก็บอกซีเซียนเสวี่ยว่า “ดึกแล้ว พวกเราพักผ่อนกันเถอะ”