ตอนที่ 694
เอาของมาแลก
“ไม่ต้องกลัว ข้ามาแล้ว” มู่ชิงเกอกระซิบปลอบซีเซียนเสวี่ยที่ข้างหู ใช้มือตบหลังนางเบาๆ
ไม่ต้องกลัว
จิตใจซีเซียนเสวี่ยผุดความซาบซึ้งเหลือคณานับขึ้น ทุกครั้งเมื่อนางรู้สึกหมดหนทาง รู้สึกว่าสิ้นหวังแล้ว เพียงแค่มู่ชิงเกอพูดคำนี้กับนาง จิตใจนางก็จะนิ่ง สงบอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สึกเกรงกลัวอะไรทั้งสิ้น
เมื่อครู่นี้ได้ยินมู่ชิงเกอบอกว่า นางเป็นภรรยาของอีกฝ่ายที่โลกข้างล่าง แม้จะรู้ว่าไม่จริงแต่นางก็รู้สึกดีใจจนแทบสิ้นสติอยู่ดี
“ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เอง” มู่ชิงเกอกระซิบอีกคำข้างหูนาง
จากนั้นนางก็ดึงซีเซียนเสวี่ยออกจากอ้อมอก หันไปมองซวนเฉียงแล้วบอกนางว่า “เจ้าเจ็ด รบกวนเจ้าช่วยดูแลภรรยาข้าให้ดีด้วย”
นางเน้นคำว่า ‘ภรรยา’ อย่างหนักแน่นราวกับจะบอกฐานะของซีเซียนเสวี่ยให้ชัดเจนอีกครั้ง ทั้งราวกับจะแกล้งยั่วโทสะราชาเทวะจื่อกวง
ซวนเฉียงผงกศีรษะ เดินมาที่ข้างกายซีเซียนเสวี่ย
“ชิงเกอ” ซีเซียนเสวี่ยมองมู่ชิงเกอด้วยความกังวล จับสองมือนางแน่นไม่ยอมปล่อย
อาการนั้นเป็นเหมือนภรรยาที่เป็นห่วงสามีอย่างแท้จริง ไม่เหมือนแสร้งทำและแสร้งทำไม่ได้แน่นอน ในตำหนักใหญ่นั้น ทุกคนไม่ใช่คนโง่ แน่นอนว่าย่อมดูออก
ทันใดนั้น ผู้คนก็มีความรู้สึกที่แตกต่างกันไป
งานเลี้ยงแต่งงานที่สุดแสนจะธรรมดาในดินแดนจื่อกวงดันเกิดเหตุการณ์ที่เกินคาดคิดขึ้น นี่มันช่าง…จะ ให้พวกเขาดูละครอย่างเงียบๆ อย่างนั้นหรือ
สีหน้าราชาเทวะจื่อกวงเดิมก็ย่ำแย่มากอยู่แล้ว นัยน์ตาที่เหี้ยมโหดคู่นั้นจับจ้องมู่ชิงเกอราวกับจะแล่เนื้อเขาออกมา “เจ้าว่านางเป็นภรรยาเจ้าที่โลกข้างล่าง
หรือ”
มู่ชิงเกอผงกศีรษะทันที “ใช่แล้ว ที่พวกเราแยกกันก็เพราะเวลาที่บินขึ้นมาไม่ตรงกันเท่านั้น ข้าเข้ามาในแผ่นดินเทพก่อน”
“แม้เป็นเช่นนั้นแล้วจะอย่างไร บินขึ้นมาแล้ว วาสนาเก่าย่อมตัดขาดหมดสิ้น เวลานี้นางไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเจ้าอีกต่อไป” ราชาเทวะจื่อกวงพูดเสียงเย็นเฉียบ
มู่ชิงเกอมองไปที่ซีเซียนเสวี่ย ฝ่ายหลังก็มองนางอยู่ ‘ความรู้สึก’ ที่ทั้งคู่ต่างมีให้กันโดยไร้วาจานั้น คนภายนอกก็ยังรับรู้ได้ว่าพวกเขายังไม่ลืมความสัมพันธ์
ระหว่างกันในครั้งเก่า
มู่ชิงเกอใช้แววตาปลอบโยนให้นางสบายใจแล้ว มองราชาเทวะจื่อกวงว่า “ราชาเทวะ ข้าขอพูดสักคำได้ไหม”
นัยน์ตาราชาเทวะจื่อกวงหรี่ลงราวกับคิดว่ามู่ชิงเกอจะเล่นลูกไม้อะไรอีก
แต่ก็รู้สึกว่า ในดินแดนจื่อกวง ในวังราชาเทวะนี้ ด้วยฝีมืออย่างมู่ชิงเกอจะเล่นลูกไม้อะไรได้
ดังนั้น เขาเพียงยกมือโบกทีเดียวคนในตำหนักใหญ่ทั้งหมดก็หายตัวไปจนหมดสิ้น เหลือเพียงเขากับมู่ชิงเกอสองคน
นัยน์ตามู่ชิงเกอหดลง
เวลานี้ ราชาเทวะจื่อกวงก็พูดช้าๆ ว่า “เจ้าวางใจ พวกเขาไม่เป็นไร มู่ชิงเกอ เจ้าต้องการคุยกับข้าตามลำพัง หรืออยากให้ข้าสังหารเจ้าหรือ”
“สังหารข้า เพื่ออะไร” มู่ชิงเกอเลิกคิ้วพูด
ราชาเทวะจื่อกวงร้องฮึ พูดเสียงโหดเหี้ยมว่า “เจ้าดูหมิ่นข้าต่อหน้าธารกำนัล ทั้งยังบอกว่าภรรยารองคนใหม่ของข้าคือภรรยาเจ้าในโลกข้างล่าง เหตุผลเหล่านี้ไม่เพียงพอที่จะให้ข้าสังหารเจ้าหรือ”
มู่ชิงเกอกลับพูดอย่างไม่เกรงกลัวแม้แต่นิดว่า “แต่การที่ราชาเทวะยอมพูดกับข้าก็แสดงให้เห็นว่าท่านไม่ได้คิดจะสังหารข้าจริง”
นัยน์ตาราชาเทวะจื่อกวงเกิดประกายคมกริบขึ้น
“ราชาเทวะจื่อกวงมีภรรยาเอกภรรยารองมากมาย เพิ่มมากขึ้นหรือลดน้อยลงสักคนสองคนจะทำให้ราชาเทวะใส่ใจหรือ” มู่ชิงเกอพูดอย่างล้อเล่น
ราชาเทวะจื่อกวงพูดเย็นเฉียบ “ใส่ใจหรือไม่ใส่ใจ นั่นเป็นเรื่องของข้า เจ้าไม่เกี่ยว”
มู่ชิงเกอบอกว่า “ราชาเทวะ คืนภรรยาให้ข้าได้หรือไม่”
“หากข้าปฏิเสธเล่า” ราชาเทวะจื่อกวงร้องฮึแล้วพูด
สีหน้ามู่ชิงเกอค่อยๆ เย็นเฉียบ “เช่นนั้น ราชาเทวะก็คงต้องเป็นไม้ตียวนยางแยกคู่แล้ว หญิงสาวแบบไหนกันที่ราชาเทวะไม่มี เหตุใดจึงไม่ยอมปล่อยหญิงคน หนึ่งที่มีสามีแล้วไปเล่า”
นัยน์ตาราชาเทวะหรี่ลงอย่างน่ากลัว “เจ้ากำลังเตือนข้าว่าผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่หญิงบริสุทธิ์แล้วหรือ”
มู่ชิงเกอยิ้มเรียบๆ แววตาเย้ยหยัน “ราชาเทวะ ข้องใจในความสามารถของข้าหรือ”
สีหน้าราชาเทวะแข็งทื่อไป กลิ่นอายผุดความเหี้ยมเกรียม เขารังเกียจที่ต้องคุยกับมู่ชิงเกอยิ่งนัก แต่จะไม่คุยก็ไม่ได้
มู่ชิงเกอเงยหน้าขึ้น ท่าทางที่เฉยเมยนั้นแฝงไปด้วยความบ้าระหํ่า “ราชาเทวะ บอกมาตามตรงเถิด จะต้องทำอย่างไรจึงจะให้ข้าพานางจากไปได้”
“เจ้ายังพอเฉลียวฉลาดอยู่บ้าง” ราชาเทวะจื่อกวงยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์
มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว ยิ้มบางๆ ว่า “ขอบคุณราชาเทวะที่ชม”
ราชาเทวะจื่อกวงปรับอารมณ์แล้วพูดด้วยความเย่อหยิ่งว่า “มอบของที่เจ้าได้จากนายน้อยตระกูลมู่คนนั้นมาแล้วข้าจะยอมปล่อยผู้หญิงของเจ้า”
แววตามู่ชิงเกอเครียดลง คิ้วขมวดขึ้นมา
เห็นนางลังเลตัดสินใจไม่ถูก ราชาเทวะจื่อกวงจึงเย้ยหยันว่า “อย่างไร เมื่อครู่ยังแสดงท่าทีรักนักรักหนา เวลานี้ข้าแค่ต้องการของที่ไม่ได้เป็นของเจ้าก็ทำให้เจ้า เลือกไม่ได้แล้วหรือ”
มู่ชิงเกอจ้องตาราชาเทวะ สายตาปะทะกันกลางอากาศอย่างรุนแรง
นางยิ้มพูดว่า “ไม่ใช่ข้าเสียดาย เพียงแต่ของที่ราชาเทวะต้องการให้ข้ามอบให้นั้นเป็นอะไรกันแน่ ข้าเองก็ไม่รู้จริงๆ”
“จนป่านนี้แล้วเจ้ายังมาทำเป็นเล่นลิ้นกับข้าอีก” แววตาราชาเทวะจื่อกวงเครียดลง
มู่ชิงเกอสั่นศีรษะช้าๆ “ข้าบริสุทธิ์ใจยิ่งกว่าสิ่งใด ข้าไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่ราชาเทวะต้องการนั้นคืออะไร”
“ในเมื่อไม่รู้อย่างนั้นก็เอาของทั้งหมดที่ได้จากตระกูลมู่คนนั้นมา” ราชาเทวะจื่อกวงพูดด้วยความรำคาญ
ความอดทนของเขาใช้ไปจนหมดสิ้นแล้ว เดิมเข้าใจว่าจะกักตัวมู่ชิงเกอสักพักให้เขาคิดได้ มอบของออกมาให้เอง แต่ไม่นึกว่าจนป่านนี้แล้วเขาก็ยังดื้อด้านไม่ยอม
“ราชาเทวะอยากได้ไม่มีปัญหา แต่ราชาเทวะจะรับรองความปลอดภัยให้ข้าสองสามีภรรยาได้หรือไม่” มู่ชิงเกอถามทันที
ตาดำของราชาเทวะหดลง ประกายดีใจแวบผ่านในดวงตา “เจ้าตกลงแล้ว?”
เทียบกับซีเซียนเสวี่ยแล้ว ส่วนที่เหลือของเคล็ดวิชาเทวะส่วนล่างนั้นดึงดูดใจเขา มากกว่า
มู่ชิงเกอยิ้มเศร้า “ข้ามีสิทธิ์เลือกหรือ”
“นึกไม่ถึงว่า เจ้าเองก็เป็นคนที่เห็นแก่ไมตรี” ราชาเทวะจื่อกวงมองมู่ชิงเกออย่างเย้ยหยัน “ได้ข้ารับปาก ขอเพียงให้เจ้ามอบของทั้งหมดมาแล้วข้าก็จะให้นางไป กับเจ้า”
“คำไหนคำนั้น” มู่ชิงเกอถามหยั่งเชิง
“ข้าพูดแล้วไม่คืนคำ” ราชาเทวะจื่อกวงพูดอย่างยโส
“เช่นนั้นข้าก็วางใจแล้ว” มู่ชิงเกอผงกศีรษะนิดๆ พูดเสียงเบา
“ข้ารับปากเจ้าแล้ว เจ้าควรเอาของออกมาได้แล้ว” ราชาเทวะจื่อกวงพูดอย่างรีบเร่ง
มู่ชิงเกอยกมือ โยนกระเป๋าจัดเก็บใบหนึ่งไปยังราชาเทวะจื่อกวง
ราชาเทวะจื่อกวงคว้าไว้ทันที นัยน์ตาเปล่งประกายยินดียิ่งนักเมื่อมองดูกระเป๋าจัดเก็บในมือ
“ราชาเทวะ ปัญญาเทวะบนนี้ยังคงอยู่ แสดงว่าข้ายังไม่เคยเปิดดู ภายในมีอะไรนั้นข้าไม่รู้ และไม่รับรองว่าของที่ท่านต้องการจะอยู่ภายในนั้น” มู่ชิงเกอพูด
ราชาเทวะจื่อกวงฟังแล้วก็ใช้ปัญญาเทวะตรวจสอบ จริงดังนั้น บนกระเป๋าจัดเก็บปัญญาเทวะของเจ้าของเก่ายังไม่สูญสลาย ครบถ้วนบริบูรณ์ทุกอย่าง