ตอนที่ 693
ราชาเทวะแย่งผู้หญิงกับข้า
เชือกสี่เส้นนั้นสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน
มู่ชิงเกอเชื่อว่าทุกคนล้วนมองเห็น ส่วนเชือกสี่เส้นนี้หมายถึงอะไรนั้น นางเชื่อว่าทุกคนในตำหนัก ล้วนเข้าใจกันอย่างชัดเจน
เนื่องจาก นี่เป็นวิชาลับชนิดหนึ่งที่แทบทุกคนในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรต่างรู้จักดี
มันไม่ต้องการพลังเทพและปัญญาเทวะมาควบคุม แต่สามารถใช้เชือกสี่เส้นควบคุมจิตวิญญาณของคน บังคับการกระทำของคนคนนั้นได้ทุกอย่าง
การใช้วิธีการเช่นนี้นำตัวเจ้าสาวเข้ามาก็บ่งบอกได้ชัดเจนแล้วว่าเจ้าสาวไม่ยินยอมแต่งงาน แต่ทุกคนในตำหนักต่างทำเป็นเหมือนมองไม่เห็น
เห็นได้ชัดเจนว่า พวกเขาต่างเห็นเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้ว
เรื่องนี้ทำให้แววตาของมู่ชิงเกอเย็นเยียบ นางเห็นซีเซียนเสวี่ยแล้ว แต่ซีเซียนเสวี่ยเวลานี้จิตวิญญาณถูกควบคุมไว้ไม่สามารถบังคับส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ และไม่รู้ว่าตนที่อยู่ในตำหนักใหญ่กำลังมองนางที่ถูกเชือกบังคับเอาไว้อยู่
ราชาเทวะจื่อกวงนั่งอยู่บนบัลลังก์ที่สูงลิบมองซีเซียนเสวี่ยที่เดินมายังเขา ใบหน้าที่แสนงามเหนือกว่าหญิงใดถูกแต่งเติมด้วยเครื่องประทินโฉมอย่างประณีต ยิ่งดูมีเสน่ห์เย้ายวนใจ ทำให้จิตใจเขายากที่จะควบคุม อยากรีบส่งตัวเข้าห้องหอในทันที
แต่เขามีนิสัยอย่างหนึ่ง นั่นก็คือหญิงที่ต้องตาเขา จะต้องมีการประกาศให้รับรู้กันเสียก่อนจึงจะแตะต้องนาง
ราวกับว่าการได้เป็นเจ้าของครอบครอง และแววตาที่ผู้คนอิจฉาชื่นชมจะยิ่งเพิ่มความรัญจวนใจและตื่นเต้นให้เขาได้มากขึ้น
ดังเช่นหญิงสาวที่กำลังเดินมายังเขาคนนี้ นางแสดงท่าทางเย็นชาตลอดเวลา นิสัยดื้อรั้นยิ่งนัก ทั้งยังทำท่าจะเป็นจะตายชวนให้คนรำคาญใจ แต่เวลานี้ท่ามกลางเสียงชื่นชมในความงามและแววตาอิจฉาริษยาจากทั่วสารทิศก็ทำให้เขาจ้องดูนางด้วยใจที่คันยุบยิบ เหมือนมีมดไต่อยู่ก็ไม่ปาน
เขารีบร้อนอยากสัมผัสความรู้สึกของการที่นางถูกตัวเองกดทับไว้ใต้ร่างพร้อมส่งเสียงร้องรัญจวนใจออกมา
ซีเซียนเสวี่ยถูกควบคุมให้เดินมาที่กลางตำหนักใหญ่ราวกับแจกันดอกไม้ให้ผู้คนในตำหนักชื่นชมวิพากษ์วิจารณ์กันได้เต็มที่ เหยาชิงไห่ที่ซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดรู้สึกอารมณ์พลุ่งพล่านและโกรธเกรี้ยวนัก
เขาแค้นที่ตัวเองไร้ความสามารถ ช่วยซีเซียนเสวี่ยออกมาไม่ได้ เวลานี้ได้เห็นนางแล้วอย่างน้อยก็รู้ว่านางยังมีชีวิตอยู่ ไม่ได้ทำเรื่องโง่ๆ ลงไป
ราชาเทวะจื่อกวงค่อยๆ ลุกขึ้นยืน ก้มมองดูตำหนักใหญ่ แต่แววตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนานั้น กลับยังคงมองไปที่ร่างซีเซียนเสวี่ย “วันนี้ เป็นวันที่…”
“เซียนเสวี่ย เหตุใดเป็นเจ้า!” ทันใดนั้น เสียงหนึ่งก็โพล่งตัดบทราชาเทวะจื่อกวงทำให้เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ
โดยเฉพาะ คนคนนั้นยังเรียกชื่อผู้หญิงของเขาอย่างสนิทสนมอีกด้วย
แต่เมื่อเขาหันไปมองคนที่พูดก็เห็นมู่ชิงเกอผุดลุกขึ้นอย่างกะทันหัน รวมถึงคนดินแดนฮ่วนเยวี่ยข้างหลังอีกสี่คนด้วย
พอมู่ชิงเกอเปิดปากตัดบทราชาเทวะจื่อกวง พวกหลีเฉาก็รู้ว่าเริ่มต้นแผนการแล้ว
ถึงแม้ไม่รู้ว่ามู่ชิงเกอจะทำอะไรต่อ แต่พวกเขาก็ยังพากันยืนขึ้นตามกัน
‘มู่ชิงเกอ!’
เมื่อเห็นชัดว่าเป็นมู่ชิงเกอ แววตาราชาเทวะจื่อกวงก็เครียดขึ้น
เหยาชิงไห่ที่ซ่อนตัวในมุมอับก็ตื่นเต้นทั้งเป็นกังวลอย่างยิ่ง เขาไม่รู้ว่ามู่ชิงเกอจะสามารถรับพลังกดดันจากราชาเทวะจื่อกวงและช่วยซีเซียนเสวี่ยออกมาได้หรือไม่
มู่ชิงเกอเดินลงไปจากที่นั่งลงอย่างรวดเร็วจนไปถึงเบื้องหน้าซีเซียนเสวี่ย ราวกับกำลังพิจารณาอย่างละเอียดเพื่อทำการยืนยันอีกครั้ง
ขณะที่นางเดินมาถึงด้านหน้าซีเซียนเสวี่ยนั้นซีเซียนเสวี่ยที่ถูกควบคุมไว้ก็เห็นนางแล้วเช่นกัน
‘ชิงเกอ…’ ซีเซียนเสวี่ยเอ่ยเรียกอยู่ในใจ
นางไม่สามารถขยับตัวได้ไม่สามารถพูดจา แต่แววตาบอกชัดถึงความตกตะลึงของนางในเวลานี้
มู่ชิงเกอผงกศีรษะช้าๆ พึมพำกับตัวเองว่า “ถูกต้อง เป็นเจ้าจริงๆ”
“มู่ชิงเกอ เจ้าคิดจะทำอะไร” เสียงเย็นเฉียบของราชาเทวะจื่อกวงดังแว่วมาจากด้านหลัง
ผู้หญิงของเขากลับถูกมู่ชิงเกอเกี้ยวพาต่อหน้าธารกำนัล นี่เห็นราชาเทวะอย่างเขาตายไปแล้วหรืออย่างไร หรือว่ามู่ชิงเกอเหิมเกริมจนรนหาที่ตายเช่นนี้
แต่ว่าสำหรับคำถามของราชาเทวะนั้น มู่ชิงเกอเพียงแค่นยิ้มแล้วหันไปจ้องหน้าเขาถามว่า “ข้าก็มีคำถามที่อยากถามราชาเทวะเช่นกัน”
“เจ้าจะถามอะไรข้า” กลิ่นอายของราชาเทวะจื่อกวงเย็นเยียบขึ้นไปอีกหลายส่วน
มุมปากมู่ชิงเกอผุดยิ้มเย็นชาเอ่ยทีละคำอย่างชัดเจนว่า “เหตุใดราชาเทวะจึงแย่งผู้หญิงของข้า”
อะไรนะ!
เขาพูดอะไร?
นี่เป็นผู้หญิงของเขา?
ในตำหนักใหญ่พลันเกิดคลื่นโหมซัดจากคำพูดของมู่ชิงเกอทันที
สีหน้าราชาเทวะจื่อกวงดูแย่มาก กระทั่งผุดสีเขียวขึ้นมา
หลังจากซีเซียนเสวี่ยได้ยินคำพูดมู่ชิงเกอแล้ว สองตาก็เปียกชื้นขึ้น เพียงแต่เวลานี้นอกจากจะมองผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้านางคนนี้แล้วตนก็ทำอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
“เหลวไหล!” ราชาเทวะจื่อกวงบันดาลโทสะ เขายกมือขึ้นชี้มู่ชิงเกอแล้วพูดเสียงเหี้ยมว่า “นี่เป็นผู้หญิงของข้า กลายเป็นของเจ้าตั้งแต่เมื่อไรมู่ชิงเกอ เจ้าอย่าได้ถือว่าตัวเองเป็นราชาเทวะน้อยดินแดนฮ่วนเยวี่ยและข้าต้อนรับเจ้าอย่างดีเจ้าจึงเหิมเกริมเช่นนี้รีบๆ ถอยออก ไป เพื่อเห็นแก่หน้าราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยข้าจะยอมอภัย ให้เจ้าในครั้งนี้ หากยังดื้อด้าน ต่อให้ข้าตีเจ้าตายที่นี่ ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยก็ยังไม่อาจกล่าวโทษข้าได้”
‘ชิงเกอรีบไป…อย่าสนใจข้า…’ ซีเซียนเสวี่ยร้องอยู่ในใจ นางพยายามดิ้นรนแต่ร่างกายราวกับไม่ใช่ของนาง ไม่สามารถบังคับได้เลย
แม้แต่สิ่งที่ง่ายที่สุดอย่างการอ้าปาก นางยังทำไม่ได้เลย
ข้างกายนางเป็นสาวใช้ ดูท่าทางคงเป็นลูกศิษย์หญิงดินแดนจื่อกวง หลังจากมู่ชิงเกอปรากฎตัวขึ้นพวกนางก็เฝ้าระวังอย่างเต็มที่
ขณะที่ราชาเทวะจื่อกวงพูดจบ พวกหลีเฉาสี่คนก็ก้าวออกมาคอยระวังใหมู่ชิงเกอทั้งซ้ายขวา
บรรยากาศในตำหนักใหญ่ตึงเครียดขึ้นมาทันที
“ราชาเทวะจื่อกวง ข้านับถือท่านเป็นผู้อาวุโส แต่ท่านก็ไม่ควรทำเรื่องแย่งภรรยาคนอื่นเช่นนี้หรือไม่ นางคือภรรยาของข้าที่โลกข้างล่าง”
มู่ชิงเกอพูดเสียงดังแล้วสะบัดมือกลับ พลังเทพพุ่งออกจากมือฟันเชือกสี่เส้นบนร่างซีเซียนเสวี่ยจนขาดสะบั้นในทันที
“อา—–”
พอเชือกถูกตัดขาด สี่ลูกศิษย์หญิงดินแดนจื่อกวงก็ถูกพลังสะท้อนกลับจนกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ ร่างกายกระเด็นลอยออกไปตกบนพื้นด้านหลัง ซี เซียนเสวี่ยรู้สึกเพียงว่าร่างกายผ่อนคลายลง กลับคืนสู่อิสรภาพอีกครั้ง
“ชิงเกอ!” ซีเซียนเสวี่ยเปิดปากพูดอีกครั้งจนได้
เสียงของนางทำให้มู่ชิงเกอหันกลับไปมอง พร้อมกันนั้นก็เห็นซีเซียนเสวี่ยโผเข้ามาในอ้อมอกของตัวเอง
ขณะที่ได้ยินมู่ชิงเกอบอกว่าซีเซียนเสวี่ยเป็นภรรยาของเขาที่โลกข้างล่างนั้น สีหน้าของราชาเทวะจื่อกวงก็เขียวจนดำคลํ้าไปแล้ว
พวกหลีเฉาทั้งสี่คนต่างตะลึงไป เพิ่งจะเข้าใจว่าเหตุใดมู่ชิงเกอจึงคิดจะแย่งผู้หญิงกับราชาเทวะให้ได้ ซวนเฉียงมองซีเซียนเสวี่ยอยู่หลายครั้งแล้วจึงละสาย
ตากลับไป
ละครฉากนี้เกิดขึ้นกะทันหันมาก ทุกคนในตำหนักใหญ่ต่างตกตะลึงตาค้าง เงียบสนิทกันหมด
แม้แต่เหยาชิงไห่ที่รู้เรื่องทุกอย่างเป็นอย่างดี เวลานี้เมื่อเห็นสองเงาร่างสีแดงกอดกันกลมในตำหนักก็ยังผุดความเศร้าใจที่บอกไม่ถูกขึ้นในหัวใจอยู่ดี
คำพูดของมู่ชิงเกอ และการแสดงออกของซีเซียนเสวี่ยหลังจากได้รับอิสรภาพนั้นราวกับไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติมอีกแล้ว
แววตาราชาเทวะจื่อกวงเปล่งประกายเหี้ยมโหด สีหน้าบึ้งตึงจ้องดูทั้งคู่ ในใจอยากแยกร่างมู่ชิงเกอ ออกเป็นพันเป็นหมื่นชิ้น ฆ่าเขาสักร้อยรอบพันรอบ