ตอนที่ 754
กำเนิดขั้นศักดิ์สิทธิ์คนใหม่
ในวังหวูถง ราชาเฟิ่งหน้าดำครํ่าเครียดนั่งอยู่บนบัลลังก์
การกระทำของชูเนี่ยนทำให้เขาปวดศีรษะยิ่งนัก
ที่ยิ่งทำให้เขาปวดศีรษะหนักขึ้นคือ เหล่าเฟิ่งหวงน้อยและเฟิ่งหวงอาวุโสที่ยืนออกันอยู่ในวังหวูถง
“เรื่องลูกสาวข้าพวกเจ้าจะเดือดร้อนอะไรด้วย” ราชาเฟิ่งพูดอย่างไม่ชอบใจ ระบายเพลิงโทสะที่เกิดจากการตัดสินใจโดยพลการของลูกสาวไปยังฝูงสัตว์ปีกที่แห่กันมาขึ้นเขียงเองเหล่านี้
“ราชาเฟิ่ง ก็เพราะเป็นเรื่องขององค์หญิง พวกเราจึงไม่เป็นห่วงไม่ได้” เฟิ่งอาวุโสตัวหนึ่งกล่าวด้วยความหนักใจ
เฟิ่งอาวุโสอีกตัวก็พูดว่า “ราชาเฟิ่ง ท่านต้องลำบากยากเย็นกว่าจะตามองค์หญิงกลับมาได้ เหตุใดจึงยอมให้องค์หญิงร่วมอาบไฟนิพพานกับเผ่ามนุษย์ง่ายๆ เล่า”
“องค์หญิงมีฐานะสูงส่งปานนี้ เหตุใดจึงมีพันธสัญญาร่วมกับเผ่ามนุษย์ได้ท่านรีบคิดหาวิธีโดยเร็วเถอะ”
“ราชาเฟิ่งรีบคิดหาวิธีโดยเร็วเถอะ”
“ราชาเฟิ่ง…”
ราชาเฟิ่งโดนพวกเขาร้องโวยวายจนปวดศีรษะ ร้องคำรามออกมา “พอแล้ว! หุบปากได้แล้ว”
พอเขาโกรธกริ้วขึ้นมา ภายในวังหวูถงก็เงียบสนิทในทันที
สองตาที่เคร่งเครียดของราชาเฟิ่งกวาดผ่านทุกคนในวังหวูถง พูดด้วยความแค้นเคืองว่า “พวกเจ้านึกว่าข้ายินยอมหรือ ชูเนี่ยนเลือกเช่นนี้เองต่างหาก พวกเจ้าให้ข้าคิดหาวิธี พวกเจ้าลองบอกวิธีให้ข้าเลยดีกว่า เวลานี้พวกเขากำลังร่วมอาบไฟนิพพานกันอยู่ พวกเจ้าบอกข้ามา มีวิธีอะไรที่ทำให้พวกเขาหยุดได้”
คำพูดของเขาทำให้เฟิ่งหวงทั้งหมดพูดไม่ออก
เหล่าชาวเผ่าต่างมองกันไปมองกันมาอยู่นานก็ ไม่มีใครเสนอวิธีอะไรออกมาได้ สุดท้ายแล้วต่างมองราชาเฟิ่งอย่างสิ้นหนทาง ความคับแค้นในแววตานั้น
เหมือนราชาเฟิ่งไม่มีผิด
เห็นพวกเขาเป็นเช่นนี้ ราชาเฟิ่งก็ยิ่งโมโหจนอัดอั้น กำลังจะหาที่ระบายก็ปรากฎว่ามีเฟิ่งวัยเยาว์เปิดปากพูดว่า “ราชาเฟิ่ง เช่นนั้นก็รอให้องค์หญิงนิพพานเสร็จสิ้น พวกเราค่อยจับคนเหิมเกริมนั้นมาสังหารทิ้งเสียจะดีไหม”
“เจ้าปัญญาอ่อน!” ราชาเฟิ่งตวาดเสียงลั่น
โดยฉับพลัน เฟิ่งวัยเยาว์ก็หวาดกลัวจนกลายร่างเดิมออกมา เปลี่ยนเป็นเฟิ่งสามสีตัวหนึ่ง
ภายในเผ่าเฟิ่งหวง ใช้สีสันแบ่งความสูงศักดิ์ของสายเลือด สีเดียวอยู่ชั้นตํ่าสุด จากนั้นก็เป็นสามสี ห้าสี เจ็ดสี ที่สูงศักดิ์ที่สุดคือเก้าสี
เผ่าเฟิ่งหวงมีเพียงราชาเฟิ่งที่มีเก้าสี ส่วนสายเลือดชูเนี่ยนจะเป็นเช่นไรต้องรอจนนางนิพพานเสร็จสิ้น จึงจะรู้ได้
“นิพพานเสร็จสิ้น ชูเนี่ยนกับมู่ชิงเกอคนนั้นก็จะมีพันธสัญญาเป็นตายร่วมกัน เจ้าสังหารมู่ชิงเกอ ไม่ใช่จะเอาชีวิตชูเนี่ยนด้วยหรือ” ราชาเฟิ่งพูดด้วยความโกรธ แค้น
“ราชาเฟิ่งไว้ชีวิตด้วย ราชาเฟิ่งโปรดให้อภัย” เฟิ่งสามสีไม่กล้าพูดพล่อยๆ อีก ขยับปีกไปสองทีก็ก้มศีรษะซุกไว้ราวกับนกกระทาตัวหนึ่ง
ไฟแค้นได้ระบายออกไปแล้ว ราชาเฟิ่งถอนใจยาว
ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเฟิ่งหวงอื่นๆ เวลานี้ต่างเข้าใจดีว่า ข้าวสารได้กลายเป็นข้าวสุกแล้ว
“หากองค์หญิงนิพพานเสร็จสิ้น ไม่ใช่เก้าสีก็ยังดี หากเป็นเก้าสีจะต้องเป็นราชาองค์ใหม่ของเรา ราชาเฟิ่งหากเป็นเช่นนั้นจะทำอย่างไรดี” เฟิ่งอาวุโสถามปัญหาที่น่าหนักใจที่สุด
อีกหนึ่งหวงก็ยืนออกมาบอกราชาเฟิ่งว่า “พวกเราเผ่าเฟิ่งหวงเคารพสายเลือดตลอดมา หากในเผ่าไม่มีเฟิ่งเก้าสีถือกำเนิดใหม่ ทั้งองค์หญิงก็เป็นหวงเก้าสีแล้ว ราชาในอนาคตของเรามีพันธสัญญากับเผ่ามนุษย์จะไม่ขายหน้าพวกเราเผ่าเฟิ่งหวงทั้งหมดหรือ”
“ใช่แล้ว พูดได้ถูกต้องจริงๆ”
“เป็นเช่นนี้จริงๆ น่าขายหน้ามาก”
ปัญหานี้ทำให้ทั้งหมดเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กันขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง
สีหน้าราชาเฟิ่งเคร่งเครียดจนดูไม่ได้ คนอื่นอาจไม่แน่ใจสายเลือดชูเนี่ยน แต่เขาเป็นพ่อจะไม่รู้ชัดเจนได้อย่างไร เขาเป็นเฟิ่งเก้าสี ภรรยาของเขาเป็นหวงเก้าสี บุตรสาวพวกเขายังจะเป็นอย่างอื่นได้หรือ
“เช่นนั้นมีวิธีเดียวจึงจะสามารถกู้หน้ากลับมาได้” ราชาเฟิ่งพูดเสียงเครียด
“วิธีอะไรหรือ”
เหล่าสัตว์ปีกต่างมองไปที่ราชาเฟิ่ง
ราชาเฟิ่งพูดด้วยประกายตาแวววับว่า “นอกจากคนผู้นั้นจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดของเผ่ามนุษย์เช่นนั้นแล้วก็ไม่นับว่าทำให้หวงน้อยของข้าเสียเกียรติ”
ซี้ด
เหล่าเฟิ่งหวงทั้งนกสารพัดต่างตกตะลึง ราชาเฟิ่งพูดไม่ผิด ปัญหาคือ มนุษย์ผู้นี้จะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สุดได้หรือ
ราชาเฟิ่งถอนใจ พูดอย่างหมดหนทางว่า “คอยตามดูดีๆ ก็แล้วกัน”
คำพูดของเขาทำให้เผ่าเฟิ่งหวงทั้งหมดรู้ว่า เมื่อสายเลือดชูเนี่ยนแน่ชัดแล้ว ชะตาชีวิตของเผ่าเฟิ่งหวงของพวกเขาก็จะผูกติดกับมนุษย์คนนี้อย่างแน่นแฟ้นแล้ว
ภายในไฟนิพพาน ชูเนี่ยนได้แปลงร่างเป็นหวงไฟ ร่างกายถูกไฟนิพพานเผาผลาญ มองสีสันได้ไม่ชัดเจน ราวกับประกอบขึ้นจากเปลวไฟ
ภายในที่นางคุ้มครองอยู่ คนที่นั่งขัดสมาธินิ่งๆ นั้นก็คือมู่ชิงเกอ
เวลานี้ทั้งร่างนางก็ราวกับถูกไฟหลอมจนละลาย มองเห็นรูปร่างได้ไม่ชัดเจน แม้แต่เสื้อผ้าก็ราวกับกลายเป็นเปลวไฟ ตุ้มหูสีม่วงที่ใบหูซ้ายก็ถูกทำลายจนหมด สิ้นภายใต้เปลวไฟนิพพาน แต่ก็กลับฟื้นคืนเองได้ ระหว่างที่ฟื้นคืนนั้น รูปร่างผู้หญิงของนางก็จะปรากฎออกมาให้เห็น
นัยน์ตาหงส์ของชูเนี่ยนจ้องมองร่างหญิงสาวของมู่ชิงเกอด้วยสายตาสงบนิ่ง ไม่รู้สึกประหลาดใจอีก
นางนึกไม่ถึงว่ามู่ชิงเกอจะเป็นผู้หญิง แต่ก็ไม่เสียใจกับการเลือกนี้
ทันใดนั้นเปลวไฟบนร่างของทั้งสองคนก็โหมแรงขึ้นอีกหนึ่งส่วน ความเจ็บปวดแสนสาหัสสุดจะทนทานจากไฟนิพพานทำให้ชูเนี่ยนอดไม่ได้ที่จะร้องเสียงดัง ออกมา
ใบหน้าของมู่ชิงเกอเองก็เริ่มหลอมละลาย
ชูเนี่ยนเห็นแล้วก็อ้าปากทันใด หยดนํ้าค้างแข็งสีเขียวสดตกลงมาจากปากลงบนศีรษะของมู่ชิงเกอ ช่วยผ่อนคลายความเจ็บปวดจากไฟนิพพาน ส่วนตัวนางเองกลับทนรับอยู่เงียบๆ
นี่เป็นของวิเศษที่ราชาเฟิ่งหามาให้ชูเนี่ยน สามารถลดความเจ็บปวดจากไฟนิพพาน ลดอันตรายจากการล้มเหลวของไฟนิพพานได้
แต่เวลานี้นางกลับใช้มันบนร่างของมู่ชิงเกอ นางกำลังปฏิบัติตามคำมั่นของนาง ใช้ทุกสิ่งที่มีเพื่อคุ้มครองมู่ชิงเกอให้ปลอดภัย
ไฟนิพพานเผาไหม้ไม่หยุดหย่อน ผ่านวัน ผ่านเดือน ผ่านปี ผ่านไปปีแล้วปีเล่า
ฤดูกาลภายนอกเปลี่ยนแปลงหลายครั้ง เมฆหมอกบนท้องฟ้าแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรแปรผัน พริบตาเดียวเวลาสิบปีก็ผ่านไปไวเหมือนโกหก
นิพพานสิบปีนั้นสำหรับมู่ชิงเกอก็เหมือนหลับฝันไปตื่นหนึ่ง ขณะที่นางฟื้นคืนสติก็รู้สึกเพียงว่าผลบำเพ็ญของตนเกิดการสั่นไหว พลังเทพที่แข็งแกร่งรุนแรง กระแทกร่างนางไม่หยุดหย่อน ทะลวงขอบเขตเดิมคือขั้นถํ้าวิญญาณชั้นแปดของนาง
ขั้นถ้ำวิญญาณชั้นเก้า
แกรก!
หลังจากเข้าขั้นถํ้าวิญญาณชั้นเก้าแล้ว พลังเทพที่แข็งแกร่งรุนแรงก็ยังคงกระแทกร่างกายที่แข็งแกร่งของนางอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกิดเสียงดังชัดเจน นางเข้าสู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นหนึ่งแล้ว
กำเนิดขั้นศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ เงาภาพสาดส่องไปทั่วทุกแห่งหน
ขณะที่มู่ชิงเกอทะลวงขอบเขตขั้นศักดิ์สิทธิ์ เงาภาพที่เลือนรางก็ปรากฎอยู่บนท้องฟ้าแผ่นดินเทพมาร ทุกหนทุกแห่ง ไม่ว่าจะเป็นดินแดนมารหรือแผ่นดินเทพ ทั้งสี่สมุทร ป่าอสูร เหวหนอน ต่างถูกดึงดูดโดยภาพนั้น
เพียงแต่ เงาภาพนั้นเลือนรางมาก เกิดขึ้นเพียงแวบเดียวแล้วค่อยๆ จางหายไป
“กำเนิดขั้นศักดิ์สิทธิ์คนใหม่อีกแล้ว” ราชาเฟิ่งยืนอยู่ในวังหวูถง มองดูภาพที่เลือนหายนั้นแล้วพูดด้วยความสะท้อนใจ ขณะนี้เขาอยู่ขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นแปด เมื่อ ได้เห็นการกำเนิดของขั้นศักดิ์สิทธิ์คนใหม่ ภายในจิตใจก็รู้สึกสับสนไม่ชัดเจน
นี่หมายความว่าบนแผ่นดินเทพมารจะผู้กล้าเพิ่มขึ้นอีกคน เมฆหมอกที่จะถูกนำพามานั้นยากที่จะคาดเดา…