Skip to content

พลิกปฐพี 779

ตอนที่ 779

ข้าสังเกตดวงดาวยามราตรี

“ชิงเกอ คนผู้นี้รู้จักเจ้าหรือ” โห่วมองมู่ชิงเกออย่างประหลาดใจ

มู่ชิงเกอ ยิ้มแล้วเดินหน้าขึ้นไปหลายก้าว เมื่อทัศนะวิสัยกว้างขึ้นก็ทำให้นางสามารถเห็นสถานการณ์ขัดแย้งกันได้ชัดเจน

มองดูเงาหลังคนที่โต้เถียงกับร้านค้า พยายามอธิบายว่าตัวเองไม่ใช่คนที่จะมากินฟรี ทั้งยังไม้เท้าที่เขาถืออยู่ในมือ รอยยิ้มที่มุมปากมู่ชิงเกอก็ยิ่งดูลึกลงไปอีก

คิดแล้ว มู่ชิงเกอก็กระซิบข้างหูหยินเฉิน แล้วตัวเองเดินนำโห่วอ้อมผ่านด้านหน้าไปอีกด้านหนึ่ง

หยินเฉินทำตามที่มู่ชิงเกอสั่ง เดินไปเบื้องหน้าทั้งสองฝ่ายที่กำลังโต้แย้งกันและถามไปตามตรงว่า “เขาติดหยกเทพอยู่เท่าไรหรือ”

“ติดอะไรกัน ข้าแค่ลืมเอามา ลืมเอามา เข้าใจไหม” ชายชราที่เอ่ยแย้งอยู่ หันศีรษะมาแก้ไขคำที่หยินเฉินใช้อย่างไม่ลดละ

น่าเสียดายหยินเฉินไม่สนใจเขาเลย เพียงมองที่เจ้าของร้านเท่านั้น

เจ้าของร้านรำคาญอาการพาลพาโลของเขาเต็มทน เวลานี้เห็นมีคนออกมาจ่ายให้จึงรีบบอกว่า “แหะๆ ไม่มากหรอก แค่ครึ่งชิ้นเท่านั้น”

พูดจบ หยินเฉินก็หยิบหยกเทพขนาดครึ่งนิ้วโป้งออกมาโยนให้เจ้าของร้าน

เจ้าของร้านรีบใช้สองมือรับไว้ สีหน้าที่อึมครึมกลายเป็นยิ้มแย้มแจ่มใสทันที “โธ่เอ๋ย แขกท่านนี้เกรงใจแล้ว เกรงใจแล้ว! ”

หยินเฉินมองชายชราและบอกเขาว่า “ตามข้ามา มีคนต้องการพบท่าน”

พูดจบก็หันกายเดินไป

นัยน์ตาชายชราผุดแววสงสัยแต่ไม่ได้ปฏิเสธ เพียงกลอกตาแล้วเดินตามหลังหยินเฉินไป

หยินเฉินนำเขาเดินเข้าไปในห้องพักโรงเตี๊ยม

ห้องที่มู่ชิงเกอจองไว้เป็นห้องชุด เพราะนางต้องการความเงียบสงบ

เมื่อหยินเฉินเดินไปถึงประตูห้องที่ปิดสนิทก็เอ่ยว่า “พาคนมาแล้ว”

เขาเพิ่งพูดจบ ประตูที่ปิดสนิทก็เปิดออกทันที แสงไฟก็ส่องตามออกมาด้วย

ชายชราที่ตามหยินเฉินมาตกใจ รู้สึกเสียใจว่าไม่น่าบุ่มบ่ามตามมาเลย ตบะบำเพ็ญของคนตรงหน้าสำหรับเขาแล้วนับว่าลึกลํ้าจนหยั่งไม่ถึง คนข้างใน ก็ไม่รู้จะร้ายกาจขนาดไหน

น่าเสียดาย เวลานี้เขาจะถอยก็สายเกินไป แล้วเพราะหยินเฉินกำลังจ้องมองเขาอยู่ เมื่อโดนนัยน์ตาสีเลือดคู่นั้นจับจ้องจิตใจของชายชราก็อดสั่นไหวไม่ได้

‘โธ่เอ๊ย! ตัวข้านั้นเมื่ออยู่ในโลกแห่งยุคกลาง เป็นเฒ่าพิสดารที่ใครๆ ก็ต้องเคารพในระดับข้ามผ่าน พยายามแทบตายกว่าจะมาถึงที่นี่ได้ พอมาถึงก็กลับกลายเป็นคนที่จะถูกใครรังแกก็ได้’ ชายชราสะท้อนใจ เดินเข้าห้องอย่างยอมรับชะตากรรม

พอเขาเข้าห้อง ประตูห้องก็ปิดเองเสียงดังปัง

ชายชราหน้าถอดสี ประหม่าขึ้นมาทันที

“ผู้เฒ่าเหนือมังกร ไม่ได้พบกันนานเลยนะ” ขณะที่เขากำลังประหม่า ในห้องก็มีเสียงเกียจคร้านปนเย้าแหย่ดังออกมา

เสียงนี้เขาออกจะคุ้นหูอยู่บ้าง ที่สำคัญคืออีกฝ่ายรู้จักชื่อเขา!

ผู้เฒ่าเหนือมังกรกะพริบตาถี่ๆ มองหาคนพูด เขาพบเงาร่างชุดแดงนั่งไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ อยู่บนเก้าอี้ที่ส่วนในสุดของห้องอย่างรวดเร็ว

“มู่ชิงเกอ!” ผู้เฒ่าเหนือมังกรตื่นเต้นจนเอ่ยเสียงหลง

มู่ชิงเกอยิ้มแล้วพยักหน้านิดๆ “พวกเราก็นับว่าเป็นเพื่อนเก่าได้มาพบเจอกันอีกครั้ง วันนี้ได้พบผู้เฒ่าเหนือมังกรทำให้ข้ารู้สึกเกินความคาดหมาย ครั้งจากกันที่สุสานเทพยังคิดว่าจะไม่ได้เจอกันอีกแล้ว”

ใบหน้าผู้เฒ่าเหนือมังกรเปลี่ยนเป็นเคอะเขินเล็กน้อย

ครั้งที่อยู่ในสุสานเทพถึงแม้จะนับว่าได้ช่วยมู่ชิงเกอบ้างเล็กน้อย แต่ตอนหลังเขากลับไปก่อนจึงไม่รู้ว่ามู่ชิงเกอจะโกรธเคืองเขาไหม

“คุณหนูสวี่สวี่เล่า” มู่ชิงเกอเปิดปากถาม

นางเพิ่งพูดจบ ข้างกายผู้เฒ่าเหนือมังกรก็มีรอยแยกช่องว่างปรากฎและมีหญิงสาวกระโดดออกมาจากภายใน

“พี่สาวมู่!” สวี่สวี่เรียกด้วยความดีใจ

หลานสาวปรากฎตัวโดยพลการทำให้ผู้เฒ่าเหนือมังกรโกรธจนหนวดกระดิก นึกด่าในใจ ‘นังหนูนี่ โง่แท้ๆ! หากมู่ชิงเกออยากจะคิดบัญชีเก่า พวกเราปู่หลานไม่จบเห่อยู่ที่นี่หรือ’

การที่จู่ๆ สวี่สวี่ก็ปรากฎตัวขึ้นมานั้นไม่ได้ทำให้มู่ชิงเกอประหลาดใจนัก

เพราะนางรู้มานานแล้วว่าสวี่สวี่มีรากวิญญาณช่องว่าง

สวี่สวี่คิดจะเข้าไปใกล้มู่ชิงเกอ แต่พบว่านางกลับมาแต่งเป็นชายอีกครั้ง ดังนั้นจึงหยุดไม่ได้ก้าวต่อไปข้างหน้า

มู่ชิงเกอพยักหน้าอมยิ้ม “พวกเจ้าสองคนมาตั้งแต่เมื่อไรกัน”

ไม่รอผู้เฒ่าเหนือมังกรเปิดปาก สวี่สวี่ก็บอกว่า “ข้ากับท่านปู่มาสามสี่ปีแล้ว”

“สามสี่ปี?” มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว

สวี่สวี่พยักหน้า “พวกเราถูกแผ่นดินเทพเหนือรับไป อยู่ในเสี่ยวเทียนอี้ราวหนึ่งปี แล้วออกมา เตรียมไปรายงานตัวที่ดินแดนเทพ แต่ใครจะรู้…”

พูดแล้วนางก็เอียงคอแค่นเสียงใส่ผู้เฒ่าเหนือมังกรอย่างแรงแล้วจึงพูดกับมู่ชิงเกออย่างเคืองแค้นว่า “ต้องโทษท่านปู่ห่วงเล่นทำให้เสียเวลา สุดท้ายคนเขาก็ไม่เอาเราแล้วพวกเราจึงต้องร่อนเร่อยู่ในแผ่นดินเทพเหนือ พอมีหยกเทพก็ไปบำเพ็ญในเมืองมนุษย์เทพ ไม่มีหยกเทพถูกไล่ออกมาก็ไปเมืองมนุษย์ธรรมดา หลอกลวงเขาไปวันๆ”

“หลอกลวงอะไร นังหนูพูดดีๆ หน่อย!” ผู้เฒ่าเหนือมังกรพูดอย่างไม่พอใจ “แผ่นดินเฟิ่งเทียน อะไรนั่นไม่ไปก็ดีแล้ว มีแต่ผู้หญิง”

“แผ่นดินเทพเฟิ่งเทียน” มู่ชิงเกอเลิกคิ้ว ไม่นึกว่าที่แรกที่รับผู้เฒ่าเหนือมังกรกับสวี่สวี่จะเป็นที่นี่

สายตามู่ชิงเกอมองที่ผู้เฒ่าเหนือมังกรกับสวี่สวี่อยู่พักหนึ่งก็เข้าใจ

น่ากลัวว่าที่แผ่นดินเทพเฟิ่งเทียนรับคงเป็นเพราะสวี่สวี่

“แผ่นดินเทพเฟิ่งเทียนนี่ไม่ไปก็ช่างเถอะ” มู่ชิงเกอพูดเรียบๆ

“ใช่แล้ว!” ผู้เฒ่าเหนือมังกรได้ใจทันที “พูดไปแล้ว ข้าก็ไม่ได้หลอกลวงพวกมนุษย์ธรรมดานะ ข้าดูดวงให้พวกเขาถือว่าเป็นการตอบแทนแล้ว”

“เจ้าดูหมอเป็นหรือ” มู่ชิงเกอมองผู้เฒ่าเหนือมังกรอย่างผิดคาด

ผู้เฒ่าเหนือมังกรเชิดคางขึ้น พูดอย่างภูมิใจว่า “นี่เป็นความสามารถพิเศษเฉพาะตัวข้าทีเดียว ข้าสังเกตดวงดาวยามราตรี…,

เขาโคลงศีรษะไปมา สวี่สวี่ที่อยู่ข้างๆ คอยมองค้อนอย่างจนปัญญา

ทันใดนั้นสีหน้าเขาก็นิ่งขรึม มองมู่ชิงเกอด้วยแววตาเคร่งเครียด

มู่ชิงเกอรู้ตัวจึงหรี่ตาทั้งสองข้างลง

“เจ้าเมืองมู่ ข้าว่าสีหน้าท่านช่างประหลาดนัก!” ผู้เฒ่าเหนือมังกรหน้าตาเคร่งเครียด

เมื่อก่อนนี้เขายังวางมาดต่อหน้ามู่ชิงเกอได้ แต่เวลานี้เข้ามาในแผ่นดินเทพมารแล้ว ฐานะต่างกัน ตบะบำเพ็ญก็ต่างกัน ขณะที่พูดกับมู่ชิงเกอย่อมต้องมีท่าที เคารพอยู่หลายส่วน

“ประหลาดอย่างไร” มู่ชิงเกอถาม

สวี่สวี่พูดแทรก “โธ่ พี่สาวมู่…ไม่ พี่ชายมู่อย่าได้ฟังตาเฒ่าพูดเพ้อเจ้อเลย”

“ใครว่าข้าเพ้อเจ้อ!” ผู้เฒ่าเหนือมังกรพูดอย่างไม่พอใจ

“ฟังดูก็ไม่เสียหาย” มู่ชิงเกอยิ้มน้อยๆ ไม่ได้ใส่ใจ

มู่ชิงเกอยังพูดเช่นนี้ สวี่สวี่ย่อมพูดมากไม่ได้

ผู้เฒ่าเหนือมังกรเก็บงำท่าทีเล่นหัว พูดด้วยสีหน้าหนักแน่นว่า “หลายวันมานี้ ข้าสังเกตดวงดาวยามราตรีดู พบว่ามีเค้าลางดาวราชาร่วงหล่น แต่ในเหตุมรณะนั้นก็ ซ่อนเร้นการกำเนิดอยู่ เดิมทีข้าไม่ได้ใส่ใจ แต่วันนี้เจอท่าน ข้ากลับพบว่ากลิ่นอายกับดวงชะตาของท่านเกี่ยวโยงกับดาวดวงนั้น!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version