Skip to content

พลิกปฐพี 825

ตอนที่ 825

จะปรุงยาอะไรหรือ?

รอบบริเวณต่างวิพากษ์วิจารณ์กันแต่มู่ชิงเกอกลับนิ่งสงบยิ่งนัก

ครั้งนี้นางไม่ได้ใช้พญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิด แต่ใช้พญาเพลิงเวียนว่ายสองขั้ว พญาเพลิงชนิดหลังนี้ ซุกซ่อนหลักวิถีเกิดตาย มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปรุงราชันย์โอสถจอมเทพ

เมื่อเตรียมทุกอย่างพร้อมสรรพแล้ว มู่ชิงเกอก็แหงนหน้ามองดูท้องฟ้า

การเคลื่อนไหวของนางนี้ทำให้บรรดา อาจารย์ปรุงยาต่างแหงนหน้าขึ้น จ้องมองท้องฟ้าด้วยความประหลาดใจ มีอะไรกันแน่ถึงทำให้เขาสนใจปานนี้

ความจริงแล้วมู่ชิงเกอเพียงแค่รู้สึกสะท้อนใจ ‘เฮ้อ ไม่ได้ปรุงยาต่อหน้าผู้คนมานานมากแล้วสินะ’

การปรุงราชันย์โอสถจอมเทพไม่ใช่เพียงแต่ต้องยกระดับวิชาปรุงยาเท่านั้น แต่ยังต้องรับรู้หลักวิถีของโอสถอีกด้วย

ในการสืบทอดของเทพโอสถนั้นมีส่วนสำคัญ ของการปรุงราชันย์โอสถจอมเทพเหลือไว้ให้ด้วยคือ ใช้ใจเป็นวิถี ใช้วิถีปรุงยา หากวิถีเป็นราชันย์ โอสถย่อมเป็นราชันย์!’

ประโยคนี้นางย่อมรู้อยู่นานแล้ว แต่ขณะที่เริ่มสัมผัสการปรุงยานางกลับไม่สามารถเข้าใจถึงคำพูดนี้ได้อย่างถ่องแท้ หากแต่ต่อมาภายหลังระหว่าง กระบวนการปรุงยา นางได้ทบทวนคำพูดนี้ซํ้าแล้วซํ้าอีก จนกระทั่งขณะที่นางปรุงโอสถจอมเทพจึงเข้าใจความหมายของคำพูดนี้อย่างแท้จริง

เหตุใดอาจารย์ปรุงยาคนอื่นจึงไม่สามารถปรุงราชันย์โอสถจอมเทพได้น่ะหรือ

เพราะว่าหลักวิถีปรุงยาของพวกเขามีไม่เพียงพอที่จะคํ้าจุนให้ก่อกำเนิดราชันย์โอสถจอมเทพได้!

ละสายตากลับคืนแล้วมู่ชิงเกอก็สงบใจ ทั้งปิดกั้นความวุ่นวายจากโลกภายนอกจนหมดสิ้น นางโยนสมุนไพรทั้งหมดเข้าไปในหม้อผลาญสวรรค์

การเคลื่อนไหวของนางว่องไวมาก สมุนไพรเหล่านั้นล้วนแปลงเป็นแสงรัศมีถูกโยนเข้าไปในหม้อผลาญสวรรค์

ว่องไวจนกระทั้งว่าเหล่าอาจารย์ปรุงยาทั้งหมดต่างไม่รู้นางโยนสมุนไพรอะไรเข้าไปกันแน่ อีกทั้งยาที่จะปรุงนั้นเป็นยาอะไรกัน

ที่รู้เพียงคนเดียวคือเจ้าสำนักวิถีโอสถ

เขาก็ไม่ทันเห็นสมุนไพรที่มู่ชิงเกอโยนเข้าไปในหม้อผลาญสวรรค์ว่ามีอะไรบ้าง แต่เขาเห็นชัดถึงแสงรัศมีของสมุนไพรเหล่านั้น แสงรัศมีนี้เขาคุ้นเคยมากจนลืมไม่ลงไปตลอดชีวิต

เนื่องจากเขาเคยเห็นครั้งที่เทพโอสถปรุงยานี้ เคยเห็นกับตาเลยทีเดียว!

เหลียนเฉียว…

เหลียนเฉียวเป็นโอสถชนิดไหนกันแน่ในโลกนี้น่ากลัวว่านอกจากเจ้าตัวเองกับเทพโอสถที่ปรุงนางขึ้นมาแล้วก็มีเพียงเขากับมู่ชิงเกอเท่านั้นที่รู้

เหลียนเฉียวเป็นชื่อที่เทพโอสถตั้งขึ้นให้นาง

แต่ความจริงแล้ว ชื่อที่แท้จริงของนางควรจะเรียกว่า…โอสถเก้าฟ้าคืนชีพ!

รับรู้เวียนว่าย คืนกลับชีวิต ลักอายุขัยฟ้า ผนึกพลังกำเนิด!

นี่คือเหตุผลที่นางสามารถช่วยให้ซือมั่วกลับคืนมาได้ มู่ชิงเกอเองก็เพิ่งจะรู้ว่านางเป็นยาอะไรหลังจากที่นางได้สละชีวิตเพื่อช่วยซือมั่ว

แววตาเจ้าสำนักวิถีโอสถดูสับสนวุ่นวาย

เขามองมู่ชิงเกอ รู้แล้วว่านางจะปรุงยาอะไร ได้แต่ลอบถอนหายใจ

การเสียสละของเหลียนเฉียวเป็นการกระทำตามความประสงค์ตัวเอง การที่มู่ชิงเกอปรุงโอสถเก้าฟ้าคืนชีพอีกเม็ดหนึ่งก็ไม่ใช่เหลียนเฉียวอีกแล้ว แต่จะเป็นเช่นทารก

เกิดใหม่ราวกับกระดาษว่างเปล่า

เนื่องจากโอสถเก้าฟ้าคืนชีพไม่ใช่เม็ดเดียวกันและไม่ใช่คนเดียวกัน!

เหตุผลง่ายๆ เช่นนี้เขาเชื่อว่ามู่ชิงเกอเองก็เข้าใจ แต่ที่นางยังคงเลือกโอสถเก้าฟ้าคืนชีพนั้นอธิบายได้เพียงว่า นางหวังให้การทดสอบครั้งนี้บรรลุเป้าประสงค์ที่มีในจิตใจนาง

“เขาจะปรุงยาอะไรหรือ”

“ไม่รู้ ไม่ทันเห็นว่าเขาโยนสมุนไพรอะไรเข้าไปในหม้อผลาญสวรรค์บ้าง”

“ดูท่าทางผ่อนคลายสบายๆ ของเขา เกรงว่าปรุงยาระดับโอสถจอมเทพคงไม่มีปัญหา แต่ราชันย์โอสถจอมเทพไม่ใช่จะปรุงได้ง่ายๆ หรอกนะ”

“รอดูไปก่อนเถอะ”

ต่างคนต่างวิพากษ์วิจารณ์กัน

ป๋อเข่ามองไปที่คนเหล่านี้พูดว่า “เงียบให้หมด กระบวนการปรุงยาห้ามไม่ให้มี การรบกวนแม้แต่นิด ระเบียบนี้ยังไม่รู้อีกหรือ อีกอย่างหนึ่งโอสถจอมเทพที่พวกเจ้าปรุงไว้นั้นก็จงเตรียมไว้ให้ดี หลังจากที่เขาปรุงเสร็จเรียบร้อยแล้วจะใช่ราชันย์โอสถจอมเทพหรือไม่ก็คอยดูปฏิกิริยาของโอสถจอมเทพของพวกเจ้าแล้วกัน”

คำพูดครึ่งแรกเป็นการตักเตือนทุกคน ส่วนคำพูดครึ่งหลังเอ่ยกับอาจารย์ปรุงยาระดับจอมเทพเท่านั้น

บรรดาอาจารย์ปรุงยาระดับจอมเทพแอบพยักหน้า ต่างกำถุงจัดเก็บตัวเองแน่นขึ้น

โอสถจอมเทพ หลังจากปรุงเสร็จแล้วจะต้องตราผนึกไว้ แน่นอนว่าจะไม่ตราผนึกก็ได้แต่ถ้าหากไม่ตราผนึก แล้วจะเกิดการเปลี่ยนแปลงรูปร่างหลากหลายทำให้แยกแยะจริงเท็จได้ยาก ดังนั้นในสภาพการณ์ปกติ อาจารย์ปรุงยาจึงตราผนึกโอสถจอมเทพไว้เพื่อป้องกันไม่ให้พวกมันหนีไป

มู่ชิงเกอเองก็เช่นเดียวกัน ดังนั้นโอสถจอมเทพที่นางนำออกมาจึงล้วนเป็นยาเม็ดที่ไม่ได้แปลงร่าง

ลานกว้างในภูเขา คนหลายร้อยคนห้อมล้อมมู่ชิงเกอเอาไว้ ยืนรอกันเงียบๆ รอผลการปรุงยาของนาง

ภายใต้การจับจ้องของผู้คนมากมายเช่นนี้ มู่ชิงเกอกลับไม่ได้เร่งรีบและไม่แสดงอาการร้อนรนแม้แต่น้อย ยังคงปรุงยาตามขั้นตอนของตัวเองไปเรื่อยๆ ในหม้อผลาญสวรรค์เริ่มมีกลิ่นหอมของสมุนไพรโชยออกมา

สมุนไพรที่ถูกโยนเข้าไปในเตา ส่วนที่มีคุณประโยชน์ถูกสกัดออกมาส่วนกากใยถูกเผาทิ้ง การเผาแต่ละครั้งล้วนคล้ายการนิพพานแล้วเกิดใหม่ หลักวิถีเกิดตายของพญาเพลิงเวียนว่ายสองขั้ว หลักวิถีเวียนว่ายได้ถูกหลอมรวมอยู่ในสมุนไพร ผสมกันจนเป็นเนื้อเดียวกันจากการเผาไหม้แต่ละครั้ง

ในหม้อผลาญสวรรค์ราวกับมหาสมุทรแห่งเปลวเพลิง ทุกสิ่งล้วนถูกแผดเผา

สมุนไพรเหล่านั้นหลังจากถูกเผาไหม้แล้วก็กลายเป็นผงหลากหลายสีสันค่อยๆ หลอมรวมกันภายใต้การควบคุมของปัญญาเทวะของมู่ชิงเกอ

การปรุงยาเป็นกระบวนการที่ยาวนานและไม่น่าตื่นเต้น

มู่ชิงเกอปรุงมาแล้วทั้งวัน หากเป็นคนปกติต้องรอคอยยาวนานเช่นนี้โดยที่ไม่ได้เห็นผลลัพธ์ น่ากลัวว่าจะลุกออกไปด้วยความเบื่อหน่ายแล้ว

แต่อาจารย์ปรุงยาไม่เป็นเช่นนั้น พวกเขาต่างเข้าใจดีว่า ยิ่งเป็นเช่นนี้ โอกาสสำเร็จจะยิ่งสูงมาก

แน่นอนว่ายังมีโอกาสมากที่สุดที่จะล้มเหลวในขั้นตอนสุดท้ายด้วย

กลิ่นหอมของสมุนไพรโชยออกมาจากหม้อผลาญสวรรค์ ปกคลุมไปทั่วบริเวณนี้ ภายในหม้อผลาญสวรรค์ สมุนไพรสีสันหลากหลายได้หลอมรวมเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว กลายเป็นเปลือกหุ้มสว่างโปร่งใสหลากสีสัน

เปลือกหุ้มนี้ดูคล้ายมดลูกในครรภ์หญิงสาว ภายในมดลูกนั้นราวกับมีชีวิตก่อกำเนิดขึ้นมา ผ่านไปอีกครึ่งคืนแล้ว ปัญญาเทวะมู่ชิงเกอราวกับใช้ได้ไม่มีวันหมด ประคับประคองเปลือกหุ้มนั้นจนใหญ่โตขึ้นเรื่อยๆ…

ชีวิตภายในเปลือกหุ้มนั้นก็ค่อยๆ เจริญเติบโตขึ้น

เปลือกหุ้มนั้นใหญ่ขึ้นๆ ชีวิตในนั้นก็ราวกับเด็กทารกที่เติบโตขึ้นเรื่อยๆ ดังผลไม้สุกงอมจนหล่นลงมา ท้องฟ้าบนเขาเซียนเปิ่นเฉ่าเดิมที่มีแต่ดวงดาวแพรวพราว เวลานี้กลับเกิดเมฆลม ยังดีที่เวลานี้ไม่ใช่กลางวัน ไม่เช่นนั้นจะต้องทำให้ดินแดนเทพทั้งสี่ของแผ่นดินเทพใต้ตรวจจับได้เป็นแน่

ทันใดนั้นแสงดาวบนท้องฟ้าก็ราวกับถูกดึงดูดเข้ามาในหม้อผลาญสวรรค์ แสงดาวที่ดูเย็นใสห่อหุ้มหม้อผลาญสวรรค์เอาไว้

ขณะที่ทุกคนกำลังประหลาดใจ ทันใดนั้นเสียงร้องไห้ลั่นของทารกแรกเกิดก็ดังออกมาจากหม้อผลาญสวรรค์!

“อุแว้!”

เสียงร้องของทารกแรกเกิดดังกังวานลั่น

พอนางร้องไห้ก็ทำให้คนหลายร้อยคนในบริเวณนั้นชะงักงัน นัยน์ตาเจ้าสำนักวิถีโอสถผุดอาการตื่นเต้นยินดี สองมือที่ซุกอยู่ในแขนเสื้อตื่นเต้นจนสั่นเทา แม้แต่สองตาที่ใสกระจ่างนิ่งเย็นของมู่ชิงเกอยังเปล่งประกายรัศมีสว่างไสวออกมา

ทันใดนั้นนางก็รีบบีบปลายนิ้วตัวเองให้เลือดหยดลงไปในหม้อผลาญสวรรค์

เลือดหยดจากที่สูงลงไปที่เปลือกหุ้มหลากสีสันนั้นและค่อยๆ ซึมผ่านจนเข้าไปอยู่ที่หว่างคิ้วของชีวิตภายในนั้น

พอได้เลือดของมู่ชิงเกอมาช่วย ชีวิตในเปลือกหุ้มนั้นก็ราวกับแข็งแกร่งขึ้นมาอีกหลายส่วน ดันจนเปลือกหุ้มนั้นแทบจะระเบิดฉีกขาดออกมา ภายในเปลือกหุ้มสว่างโปร่งแสงหลากสีสันนั้นปรากฎมือจิ๋วคู่หนึ่งกับเท้าจิ๋วอีกคู่หนึ่ง พยายามยืดขยายอยู่ภายในนั้น…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version