ตอนที่ 833
หลอม! หลอม หลอม หลอม!
หากคำตอบของเหมิงเหมิงคือ…มีละก็!
มู่ชิงเกอจะต้องทำอย่างไร แล้วเก้าชั้นฟ้าจะต้องฟื้นฟูได้อย่างไร
ปัญหานี้มู่ชิงเกอไม่ได้คิด นางรู้เพียงว่าชีวิตคนเรา มีบางเรื่องทำได้บางเรื่องทำไม่ได้
ภายใต้การจับจ้องของนางเหมิงเหมิงแย้มยิ้มออกมา “เจ้านาย ข้าไม่รู้ท่านเองก็รู้ว่าข้าไม่สามารถโกหกต่อหน้าท่านได้ เพราะหากข้าโกหกท่านก็สามารถจับโกหกได้อยู่ดี”
มู่ชิงเกอนิ่งเงียบ
สมองของนางไตร่ตรองกลับไปมาพยายามดิ้นรนหาทางเลือก
อันตรายนี้สมควรเสี่ยงหรือไม่นะ
เวลานี้เองเหมิงเหมิงกลับหัวเราะคิกออกมา
เสียงหัวเราะของนางทำให้มู่ชิงเกอเบิกตามอง หยวนหยวนก็มองไปที่นาง
เหมิงเหมิงพูดว่า “เจ้านาย แต่ไหนแต่ไรมาท่านไม่เคยห่วงความเป็นความตาย ประสบเหตุอันตรายทุกครั้ง มีแต่ข้าเสนอให้ท่านถอยเพื่อหลบภัยชั่วคราวหรือ ล้มเลิกไปเสีย แต่ท่านก็ยังจะเข้าต่อสู้เพื่อทางรอดเพียงริบหรี่หรือโอกาสเพียงน้อยนิดนั่น แต่พอมาถึงคราวข้า เหตุใดท่านกลับไม่อยากเสี่ยงแล้วเล่า”
มู่ชิงเกอสูดลมหายใจเข้าลึกแล้วกระซิบว่า “เหมิงเหมิง…”
“เจ้านาย” แต่เหมิงเหมิงตัดบทคำพูดนาง บอกนางว่า “ถึงแม้มีอันตรายก็ใช่ว่าจะไม่มีโอกาส หากทำได้สำเร็จ ไม่แน่ว่าข้าอาจจะหลุดพ้นจากพันธนาการของ ช่องว่างแล้วใช้ชีวิตอยู่ในโลกภายนอกได้”
“หมายความว่าอย่างไร” แววตาของมู่ชิงเกอวาววาบรีบถามทันที
เหมิงเหมิงเอ่ยว่า “หมายความว่า หากสำเร็จข้าก็ไม่จำเป็นต้องอยู่แต่ในช่องว่าง ข้าสามารถแยกจากช่องว่างได้แล้วออกไปดูโลกภายนอกอย่างจริงจัง แม่นํ้า ภูเขา อาทิตย์ดาวเดือน อีกทั้งขอเพียงให้ข้าอยู่ข้างกายเจ้านาย เจ้านายก็สามารถกลับเก้าชั้นฟ้าได้ทุกเวลา เร็วกว่าสะดวกกว่าฉีกขาดช่องว่างกลับมาเสียอีก”
“ทุกเรื่องมักจะต้องมีข้อดีข้อเสียจริงๆ นั้นล่ะ” มู่ชิงเกอฟังจบแล้วพึมพำกับตัวเอง
หยวนหยวนชะงักอยู่กับที่ ฟังการพูดคุยกันของทั้งคู่
เวลานี้เขาเองก็ไม่รู้ว่าควรทำอย่างไรแล้ว เขาเป็นห่วงความปลอดภัยของเหมิงเหมิงแต่ก็รู้ว่าไม่อาจจะห้ามอะไรได้
“ดังนั้น เจ้านาย พวกเราสมควรเสี่ยงดูสักครั้ง ต่อให้มีภยันตรายจริงๆ อย่างมากข้าก็แค่หลับลึกไปสักพัก ไม่ช้าก็เร็วจะฟื้นขึ้นมาได้อีกไม่เห็นจะเป็นอะไรสัก
หน่อย” เหมิงเหมิงกล่าว
มู่ชิงเกอมองดูนางแล้วแววตาสั่นไหว
นางไม่ใช่คนที่ไม่ฟังเสียงใคร คำพูดของเหมิงเหมิงทำให้นางตัดสินใจได้ในที่สุด
“ได้พวกเราลองเสี่ยงดูสักครั้ง เหมิงเหมิงเจ้าวางใจได้หากทำร้ายถึงตัวเจ้าจริงๆ ไม่ว่าสุดหล้าฟ้าเขียวในสามพันโลกนี้ข้าก็จะหาวิธีทำให้เจ้าฟื้นตื่นขึ้นมาให้ได้” มู่ชิงเกอให้คำมั่นสัญญา
เหมิงเหมิงพยักหน้าอย่างเบิกบาน “ข้าเชื่อเจ้านาย เจ้านายไม่เคยทำให้ใครผิดหวัง”
มุมปากมู่ชิงเกอยกขึ้นแล้วถอยออกจากช่องว่าง
ที่ถอยตามนางออกมาด้วยยังมีหยวนหยวนอีกคน
การนำหยวนหยวนออกมา เนื่องจากเหมิงเหมิงต้องตระเตรียมอะไรต่างๆ ส่วนเหลียนเฉียวน้อยมีการคุ้มครองจากหม้อผลาญสวรรค์ไม่มีอันตรายใดๆ ดังนั้น จึงยังคงปล่อยให้นางหลับสบายต่อไปในหม้อ
มู่ชิงเกอปรากฎตัวขึ้นอีกครั้ง ข้างกายมีชายหนุ่มรูปงามเพิ่มมาอีกคน
ไม่ทันรอให้ใครเอ่ยปาก มู่ชิงเกอก็บอกว่า “พวกเจ้าลงไปก่อนแล้วช่วยคุ้มครองข้า อย่าให้ใครเข้าใกล้เก้าชั้นฟ้า”
คนทั้งห้าผงกศีรษะเงียบๆ
ก่อนจากไปซวีซิวก็ยังกำชับอีกว่า “นายน้อยเรื่องฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้าจะรีบร้อนนักไม่ได้หากครั้งนี้ไม่สำเร็จ พวกเรายังสามารถสังหารศัตรูเก่าให้หมดแล้ว ค่อยคิดเรื่องฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้าได้”
เขาพูดด้วยความหวังดี แต่มีหรือที่มู่ชิงเกอจะยินยอม
นางต้องการตั้งธงเก้าชั้นฟ้าขึ้นมาใหม่ แล้วไปล้างแค้นอย่างเต็มภาคภูมิ ไปปิดบัญชีเก่า ให้ชื่อเสียงตระกูลมู่ขจรขจายไปทั่วแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรอีกครั้งใน หมื่นปีให้หลัง
ทั้งห้าคนจากไปตามคำพูดของมู่ชิงเกอ
พวกเขากลับลงมาถึงพื้นดิน หินลอยของเก้าชั้นฟ้าคงเหลือเพียงมู่ชิงเกอคนเดียว
มู่ชิงเกอยืนอยู่บนหินลอยด้วยจิตใจที่สงบราวกับนํ้านิ่ง
ในสมองแว่วเสียงเหมิงเหมิงมา “เจ้านาย ข้าเตรียมการพร้อมแล้วพวกเราเริ่มได้เลย”
“ได้” มู่ชิงเกอพยักหน้านิดๆ
ทันใดนั้นรอบตัวนางพลันผุดเปลวไฟขึ้นมา เปลวไฟที่ร้อนผะผ่าวห่อหุ้มตัวนางไว้สาดส่องชุดสีแดงเพลิงของนางให้ดูสุดแสนเย้ายวนใจ ทั้งใบหน้าก็งดงามยิ่งนัก
พญาเพลิงผุดออกมาจากร่างของมู่ชิงเกอ อีกทั้งยังขยายออกไปเรื่อยๆ ราวกับจะครอบคลุมพื้นที่หินลอยทั้งหมด
เพลิงลุกโหมเก้าชั้นฟ้าอย่างรุนแรงทำให้จิตใจผู้คนบนพื้นดินต่างอกสั่นขวัญแขวน
บนท้องฟ้าเพลิงโหมท่วมฟ้าราวกับจะเผาผลาญท้องฟ้าแถบนี้ทั้งหมด อุณหภูมิสูงขึ้นเรื่อยๆ ร้อนขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งราวกับไม่อาจหายใจได้ บีบคั้นให้ทุกคนต้องถอยห่างจากเก้าชั้นฟ้า
แต่ถึงแม้จะถอยออกไป พวกเขาก็ยังไม่ถอยไปไกลนัก ถึงอย่างไรทุกคนต่างก็ต้องการเห็นการฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้าด้วยตาตัวเอง
“นายน้อยจะฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้าได้อย่างไรกัน’’
“ไม่รู้ ข้ารู้เพียงว่าพญาเพลิงของนายน้อยนั้นน่ากลัวนัก!”
“ความน่ากลัวของพญาเพลิงนายน้อยนั้นข้ารู้อยู่ แต่นายน้อยปล่อยพญาเพลิงออกมา เพราะคิดจะทำอะไรหรือ”
ปัง!
ขณะที่เสียงวิพากษ์วิจารณ์ดังขึ้น บนเก้าชั้นฟ้าก็มีพญาเพลิงที่แตกต่างกันอีกสายหนึ่ง ราวกับมังกรพุ่งออกจากร่างมู่ชิงเกอ ร้องคำรามแหวกว่ายอยู่ท่ามกลางหินลอย
ผู้คนบนพื้นดินต่างตกใจจนถอยหลังไปอีกก้าว
พญาเพลิงสองชนิด!
‘สองชนิด เหตุใดลูกพี่ท่านแม่จึงมีเพียงพญาเพลิงสองชนิด’ หยวนหยวนได้ยินเสียงฮือฮารอบบริเวณ ก็นึกบ่นอยู่ในใจ เวลานี้เพลิงที่มู่ชิงเกอปล่อยออกมานั้น เป็นเพียงพญาเพลิงอัคคีแรกกำเนิดและพญาเพลิงเวียนว่ายสองขั้วเท่านั้น
“นายน้อยจะเผาเก้าชั้นฟ้าทิ้งหรือ” มีคนพูดด้วยความตื่นตระหนก
“ข้าว่านายน้อยไม่ใช่ต้องการเผาเก้าชั้นฟ้า แต่ต้องการหลอมเก้าชั้นฟ้าเช่นเดียวกับหลอมยุทธภัณฑ์!” มีคนพูดได้ถูกต้อง
คำพูดของเขาก่อให้เกิดความตื่นตระหนกไปทั่ว ทั้งยังลอยเข้าหูซวีซิวกับราชครูที่อยู่ข้างหน้า
ร่างเดิมของเก้าชั้นฟ้านั้นคือยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพ เวลานี้ถูกทำลายย่อยยับ หากจะฟื้นฟูจะต้องเป็นอาจารย์หลอมศาสตราจึงจะทำได้อีกทั้งจะต้องไม่ใช่อาจารย์หลอมศาสตราทั่วไป
“นายน้อยเป็นอาจารย์หลอมศาสตราหรือ” ซวีซิวกระซิบถาม ความจริงคำพูดนี้ของเขานั้นไม่จำเป็นเลยสักนิด แต่ก็ยังอดไม่ได้ให้ราชครูข้างๆ เอ่ยยืนยัน
ราชครูผงกศีรษะ “ใช่ อาจารย์หลอมศาสตราชั้นมหาเทพ”
ชั้นมหาเทพ!
ซวีซิวขมวดคิ้วเล็กน้อย คำตอบนี้ทำให้เขาผิดคาดเล็กน้อย เขาเม้มปากว่า “เก้าชั้นฟ้าเป็นยุทธภัณฑ์ชั้นจอมเทพนะ”
ราชครูกลับพูดด้วยความมั่นใจว่า “นายน้อยเป็นอาจารย์หลอมศาสตราชั้นมหาเทพเป็นเรื่องนานมากแล้ว เขาเวลานั้นไม่รู้อ่อนแอกว่าเวลานี้ตั้งเท่าไร ทั้งพลัง ทั้งปัญญาเทวะต่างกันราวฟ้ากับดิน ถึงแม้ภายหลัง เขาจะหลอมศาสตราน้อยมาก แต่ข้าก็เชื่อว่านายน้อยไม่ได้ทอดทิ้ง อีกทั้งอาจารย์หลอมศาสตราชั้นจอมเทพไม่ใช่ อาศัยว่าได้หลอมศาสตรามาแล้วเท่าไร ที่สำคัญคือต้องรับรู้การหลอมศาสตรา ทั้งยังต้องมีความแข็งแกร่งของปัญญาเทวะอีกด้วย”
เขาไม่ได้บอกว่าสิทธิ์แห่งเทพของมู่ชิงเกอได้หลอมรวมสิทธิ์แห่งเทพของบรรพชนตระกูลซางซึ่งเป็นเทพหลอมศาสตรา ทำให้วิชาการหลอมศาสตราของนางรุดหน้าไปอย่างรวดเร็วยิ่งนัก
ดังนั้น เขาไม่คิดว่ามู่ชิงเกอจะล้มเหลว!
หยุดไปครู่หนึ่ง เขาจึงบอกซวีซิวว่า “เวลานี้สิ่งที่พวกเราต้องทำก็คือ ส่งคนไปยังรอบนอกจัดการลูกศิษย์ของดินแดนเทพต่างๆ ให้หมดสิ้น จะให้ใครเข้าใกล้ที่นี่รบกวนนายน้อยไม่ได้เด็ดขาด”
จุดนี้ซวีซิวเห็นด้วย ทั้งคู่พยักหน้าอย่างเข้าใจกันแล้ว เรียกระดมพลทันที…