ตอนที่ 846
เขาให้ข้าส่งมา
ไม่ว่าใครก็ตามหากล่วงเกินแม้เพียงนิดเดียว จะต้องได้รับโทษอย่างสาสม แม้ห่างไกลเนิ่นนานแค่ ไหนล้วนต้องถูกลงโทษ
นี่ไม่ใช่คำอวดอ้าง เนื่องจากการเข่นฆ่ากำลังดำเนินการอยู่ตรงหน้าพวกเขา
เหล่าลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อที่เคยร่วมรุกลํ้าเก้าชั้นฟ้าครั้งนั้น กำลังล้มลงบนกองเลือดไม่ขาดสาย กระทั่งวิญญาณเทพยังหลบหนีไม่ทัน
คำพูดของมู่ชิงเกอชัดเจนทุกคำ ฝังเข้าไปในมันสมองพวกเขาอย่างทรงพลัง ไม่สามารถลบล้างได้
“มู่… ราชาเทวะมู่ พวกเราจดจำไว้แล้ว..,”
ทันใดนั้นในฝูงชนแสนกว่าคนที่ตามแห่กันมานั้นก็มีเสียงเสียงหนึ่งดังลอยมา
คำพูดของเขาราวกับทำลายความเงียบสงบของฝูงชนที่ประจันหน้ากับมู่ชิงเกอ คนเหล่านี้ฟื้นตื่นขึ้น มาจากความสั่นสะท้านในทันที ตระกูลมู่ไม่ใช่ตระกูลมู่ในครั้งนั้นแล้ว
ราชาเทวะตระกูลมู่ปัจจุบันวางอำนาจ ไร้นํ้าใจและทารุณโหดร้าย ใครล่วงเกินล้วนต้องโดนเอาคืน ไม่ใช่ตระกูลมู่ที่จิตใจกว้างขวาง โอนอ่อนผ่อนปรน และรักษาวินัยตัวเองเคร่งครัดอีกต่อไป
แต่พวกเขาจะสามารถพูดอะไรได้
บอกว่าเช่นนี้ไม่ถูกหรือ
ไม่หรอก นี่จึงจะเป็นตระกูลมู่ที่เหมาะสมกับกฎเกณฑ์กติกาของแผ่นดินเทพมาร ตระกูลมู่แต่ก่อน นั่นแข็งแกร่งจนเกินไป แข็งแกร่งจนพวกเขาสามารถยอมรับและมองข้ามความผิดพลาดของคนอื่น
ทำให้ความเห็นแก่ตัวและความคิดชั่วร้ายของคนอื่นขยายตัวมากขึ้นเรื่อยๆ นำมาซึ่งมหันตภัยถึงขั้นเลือดล้างตระกูลมู่ทั้งหมด
เวลานี้ตระกูลมู่กลับมาแล้ว พวกเขามีผู้นำที่เหมาะสมมากยิ่งขึ้น
ส่วนเขาวันนี้ก็ได้บอกชัดเจนแล้ว
ต่อไปนี้หากมีใครฝืนกล้ามายั่วยุเก้าขั้นฟ้าอีก ก็ให้ดูดินแดนเทพทั้งสี่ของแผ่นดินเทพตะวันตกเป็นเยี่ยงอย่าง
“พวกเราจำได้แล้ว ราชาเทวะมู่!”
“พวกเราจำได้แล้วราชาเทวะมู่!”
คนแสนกว่าหลังจากฟื้นคืนสติแล้วต่างพากันคุกเข่าข้างเดียวลงบนพื้นแสดงความจงรักภักดีต่อมู่ชิงเกอ พวกเขายินดีสวามิภักดิ์ต่อเก้าชั้นฟ้าอยู่ภายใต้การนำโดยเก้าชั้นฟ้า
คำว่า ‘น้อย’ ที่ถูกข้ามไปโดยอัตโนมัตินั้น แสดงว่าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป มู่ชิงเกอไม่ใช่ราชาเทวะ น้อยของดินแดนฮ่วนเยวี่ยอีกต่อไป แต่เป็นผู้ปกครองดินแดนเพียงคนเดียวในแผ่นดินเทพตะวันตก ท่านราชาเทวะเก้าชั้นฟ้า!
“ราชาเทวะมู่! ราชาเทวะมู่! ราชาเทวะมู่!”
“เก้าชั้นฟ้า! เก้าชั้นฟ้า! เก้าชั้นฟ้า!”
“ราชาเทวะมู่! ราชาเทวะมู่! ราชาเทวะมู่…”
“เก้าชั้นฟ้า…”
ท่ามกลางเสียงการเข่นฆ่ากัน เสียงตะโกนโห่ร้องเรียกมู่ชิงเกอกับเก้าชั้นฟ้ค่อยๆ ดังกระหึ่มมากขึ้น เรื่อยๆ
มู่ชิงเกอยังคงยืนอยู่ที่เดิม สองตาที่เฉียบคม จับจ้องฝูงชนเหล่านั้นในส่วนลึกของดวงตาไม่มีวี่แวว สั่นไหวไม่มีวี่แววยโสแม้แต่นิด
ราวกับว่าทุกสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ล้วนอยู่ในการคาดเดาของนางทั้งสิ้น
“ราชาเทวะมู่ เก้าชั้นฟ้” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย พึมพำสองคำนี้ ตาหงส์ที่เฉี่ยวขึ้นของเขาสะท้อนภาพ ของฝูงชนที่สะท้านสะเทือนรวมทั้งการเข่นฆ่าในดินแดนเซวียนเช่อ สุดท้ายแล้วก็ไปตกที่ร่างอันโดดเด่นเป็นสง่านั้น
ทันใดนั้นเขารู้สึกได้ว่า ร่างกายมู่ชิงเกอเปล่งประกายสว่างจับตาชนิดที่ไม่เคยมีมาก่อน ความรู้สึก เปล่งประกายสูงส่งเหนือเมฆเช่นนั้นทำให้คนมองข้ามไม่ได้ ทำให้คนรู้สึกว่าตัวเองต้อยตํ่าเนื่องจากถูกแสงเจิดจ้าของเขาทาบจนตัวเองมืดสลัวลงไป
‘ช่างเป็นคนที่โดดเด่นโดยแท้’ ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพูดกับตัวเองเรียบๆ ในใจ แม้แต่ตัวเขาเองก็ยังไม่สังเกตว่าในคำพูดนี้แฝงด้วยความรักและเอาใจอย่างที่เขาไม่เคยมีมาก่อน
เสียงตะโกนกู่ร้องนี้ราวกับรัวกลองศึก สร้างความฮึกเหิมให้คนตระกูลมู่ที่สู้รบอยู่
พวกเขาสู้รบรุนแรงยิ่งขึ้น ส่วนลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อก็พ่ายแพ้รวดเร็วยิ่งขึ้น เหล่าลูกศิษย์ดิน แดนเซวียนเช่อที่ก้าวถอยหลัง เวลานี้ต่างตัวสั่นเป็นเจ้าเข้าด้วยใบหน้าซีดขาว แนวต้านทานเส้นสุดท้ายในใจกระเจิงหายไปไม่เหลือหลอท่ามกลางอิทธิบารมีสนั่นฟ้านี้
มู่ชิงเกอถูกล้อมรอบด้วยเสียงกู่ร้องเหล่านี้ สีหน้าเรียบเฉยไม่หวั่นไหวแม้เพียงนิดเดียว
นางหมุนกาย สายตาตกอยู่ที่เหล่าลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อที่ยังคงรักษาชีวิตเอาไว้ได้ ขณะที่สายตานางมองไป เหล่าลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อต่างสะดุ้งเฮือกแล้วคุกเข่าพร้อมกันบนพื้นโดยไม่ได้นัดหมาย ร้องตะโกนพร้อมกับคนเหล่านั้น
“ราชาเทวะมู่! เก้าชั้นฟ้า! ราชาเทวะมู่! เก้าชั้นฟ้า!”
ปัง!
เสียงโห่ร้องจนแสบแก้วหูหยุดลงขณะที่ศพของราชาเทวะเซวียนเช่อหล่นลงมาจากท้องฟ้า
ศพไร้ศีรษะตกลงมาที่ใต้เท้ามู่ชิงเกอ นางเพียงกวาดสายตาผ่านไปแล้วก็ไม่ได้หันมองอีก
แสงสีขาวตกลงมาข้างกายนางแปลงเป็นหญิงงามบาดตาบาดใจ ในมือของหญิงงามเลิศลํ้านี้หิ้วศีรษะที่เลือดยังไหลหยดชวนให้คนเห็นแล้วหวาดกลัวเอาไว้
“ชิงเกอ” ไป๋สี่ปฏิบัติภารกิจเสร็จแล้วก็มารายงานมู่ชิงเกอ
มู่ชิงเกอพยักหน้านิดๆ แล้วนำศีรษะราชาเทวะเซวียนเช่อที่ตายตาไม่หลับแขวนไว้บนยอดธงคู่กับ ราชาเทวะจื่อกวง
ราชาเทวะเซวียนเช่อตายแล้ว ตายด้วยนํ้ามือไป๋สี่
ส่วนเหล่าลูกศิษย์ดินแดนเซวียนเช่อที่ไปเก้าชั้นฟ้าครั้งนั้นและมือเปื้อนเลือดตระกูลมู่ต่างถูกสังหาร จนหมดสิ้น
มั่วหยางนำเหล่าองครักษ์เขี้ยวมังกรตัดศีรษะพวกเขาออกมาส่งไปไว้ที่ข้างธงเพื่อแขวนศีรษะบนยอดธง
ยิ่งแขวนก็ยิ่งมากยิ่งแขวนก็ยิ่งยาว
ศีรษะนับหมื่นถูกแขวนอยู่บนก้านธงเลือด ย้อมธงจนแดงฉาน ตรงตามความหมายตัวหนังสือยักษ์ ‘ชดใช้หนี้เสือด’ บนธง
ที่แท้ศีรษะบนยอดธงถูกแขวนขึ้นไปเช่นนี้เอง
คนแสนกว่าที่ตามแห่มาดูมองเห็นศีรษะบนยอดธงนั้นแล้วต่างอดไม่ได้ที่จะสูดลมหายใจเย็นเฉียบ ด้วยความสั่นสะท้านยิ่งนัก
มู่ชิงเกอเอ่ยพูดเรียบๆ ”ข้าไม่ต้องการคำยกยอปอปั้นจากพวกเจ้า ขอเพียงให้จำไว้ว่าคำพูดจากเก้าชั้นฟ้าจะฝ่าฝืนไม่ได้ พวกเจ้าจะว่าข้าบ้าอำนาจก็ได้ จะว่าข้าเผด็จการก็ได้ จะว่าอย่างไรก็ได้ หากมีใครไม่ปฏิบัติตามคำสั่งข้า ศีรษะบนยอดธงนี้ก็คือจุดจบของคนคนนั้น!”
รอบบริเวณล้วนเงียบสนิท ผู้คนต่างกลั้นลมหายใจไม่กล้าพูดมาก
เสียงโห่ร้องอันดังนั้นก็ไม่ปรากฎอีก เกรงว่าจะทำให้นายใหม่เก้าชั้นฟ้าผู้นี้เกิดอารมณ์โกรธกริ้วขึ้น มา
“ข้ายังต้องไปดินแดนเส้าเทียนสักเที่ยว หากพวกเจ้าอยากตามไปก็ตามไปดูได้” มู่ชิงเกอทิ้งคำพูดนี้ ไว้แล้วก็ไม่สนใจคนเหล่านี้อีก
นางไม่ได้ให้คนคุมตัวพวกเหลือรอดของดินแดนเซวียนเซ่อกลับเก้าชั้นฟ้า แต่สั่งให้พวกเขาตามหลัง ขบวนใหญ่มุ่งหน้าไปยังดินแดนเส้าเทียนอย่างเอิกเกริก
ครั้งนี้มู่ชิงเกอไม่ได้ใช้การเคลื่อนย้ายช่องว่าง แต่ใช้การผ่านทะลุแผ่นดินเทพตะวันตกโดยตรง ให้ชาวแผ่นดินเทพตะวันตกได้เห็นชัดเจนว่าเก้าชั้นฟ้าล้างแค้นอย่างไร
ดินแดนเซวียนเซ่อกับดินแดนเส้าเทียนไม่นับว่าใกล้ แต่ขบวนที่เอิกเกริกนี้ใหญ่โตนัก ทำให้ลืมความ ห่างไกลของสองดินแดนนี้ไปสิ้น
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเดินเคียงข้างมู่ชิงเกอ ตาหงส์ราวกับครุ่นคิดอะไรบางอย่าง
เหตุใดเขาจึงรู้สึกว่ามู่ชิงเกอไม่ได้เพียงต้องการแก้แค้นเท่านั้น
เพียงแต่หากไม่ได้ทำเพื่อแก้แค้นแล้วจะเพราะอะไรอีกเล่า
“ราชาเทวะ เมื่อถึงดินแดนเส้าเทียนต้องรบกวนท่านลงมือให้แล้ว” มู่ชิงเกอหันมองมาอย่าง กะทันหัน บอกราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพยักหน้านิดๆ
เวลานี้เองเบื้องหน้าพลันปรากฎกองกำลังหนึ่งมุ่งหน้ามายังพวกมู่ชิงเกอ
ภายใต้ความสงสัยของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย มู่ชิงเกอหยุดลง โห่วและเผ่าภูติภูเขารวมทั้งคนที่มู่ชิงเกอจัดเตรียมไว้ต่างปรากฎอยู่เบื้องหน้าพวกเขา
“ชิงเกอ พวกเรามาแล้ว โจรเฒ่ากู่เฟิงตายแล้ว ดินแดนกู่เฟิงก็ดับสูญแล้ว” โห่วพุ่งมาที่เบื้องหน้ามู่ชิงเกอแล้วบอกนางพร้อมทั้งยื่นศีรษะราชาเทวะกู่เฟิงในมือมาให้ พูดว่า “นี่คือของที่เขาให้ข้าส่งมา”