ตอนที่ 847
คงเหลือดินแดนเดียว
“นี่คือของที่เขาให้ข้าส่งมา” โห่วนำศีรษะของราชาเทวะกู่เฟิงยื่นไปเบื้องหน้ามู่ชิงเกอ
ราชาเทวะที่เคยสูงส่งแต่เวลานี้เหลือเพียงศีรษะเท่านั้น จุดจบเช่นนี้ทำให้คนทอดถอนใจทั้งรู้สึก สะท้อนใจ
ไม่ว่ายากดีมีจน ไม่ว่าไพร่ผู้ดี สุดท้ายแล้วต่างก็หนีไม่พ้นความตาย
เขา?
เขาเป็นใคร
ดวงตาหงส์ที่เกียจคร้านของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเปลี่ยนแปลงหลากหลายราวกับครุ่นคิดอะไรอยู่
ส่วนมู่ชิงเกอในเวลานี้ สายตาตกไปอยู่บนศีรษะราชาเทวะกู่เฟิง ศีรษะนั้นแทบจะดูไม่ออกว่าเป็นใคร คงถูกทารุณอย่างหนักก่อนตาย
มู่ชิงเกอมองแล้วเงยหน้าขึ้นมาถามว่า “เขาไปแล้วหรือ”
โห่วพยักหน้า “เขาว่าเจ้ากำลังรวบรวมศีรษะ หลังจัดการเสร็จแล้วให้พวกเราตัดศีรษะออกมาส่งให้เจ้าที่นี่ เขายังว่าเขาจะรอเจ้าในที่สุดท้าย”
เขาคนนี้คือใครนั้นราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยไม่เข้าใจ
แต่มู่ชิงเกอกลับเข้าใจดี
ซือมั่วมาที่นี่เดิมทีเพราะไม่วางใจการล้างแค้นของตัวเอง แต่พอเห็นนางทำได้ดีอีกทั้งราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยก็อยู่ข้างๆ แล้วจึงจากไปเงียบๆ มุ่งหน้าไปยังดินแดนกู่เฟิง จัดการแทนนาง เวลานี้ก็ไปรอนางอยู่ที่ดินแดนเส้าเทียนแล้ว
การกระทำต่างๆ ของซือมั่วนี้ทำให้มู่ชิงเกอรู้สึกอบอุ่นใจ รอยยิ้มที่บางอย่างยิ่งแวบผ่านมุมปากของนางไป
“แขวนศีรษะเหล่านี้ขึ้นไป” มู่ชิงเกอออกคำสั่ง
มีคนเข้ามารับศีรษะจากมือพวกโห่วทันทีแล้วแขวนไว้ที่ก้านธง
“มีศีรษะถูกแขวนขึ้นไปอีกแล้ว!”
“เป็นใครกันนะ แล้วที่เพิ่งมาเป็นใครกันอีก หรือว่าเป็นพวกสนับสนุนเก้าชั้นฟ้า”
“พวกเจ้าดูคนเหล่านั้น มีคนที่หน้าตาไม่เหมือนพวกเราด้วย”
“ก็แค่หน้าตาดูดีกว่าพวกเราเท่านั้น”
“เจ้าโง่! ดูสีผมพวกเขาเป็นสีหมึกเขียว”
อ่อ!
“นี่… ดูเหมือนเป็นเผ่าภูติภูเขาในป่าอสูร ข้าได้ยินมาว่าภูติภูเขามีฐานะสูงส่งในป่าอสูร พวกเขาหน้าตางดงามมีผมและนัยน์ตาสีหมึกเขียว แต่มีคนเคยพบเห็นน้อยมาก”
“หรือว่าเก้าชั้นฟ้าร่วมมือกับป่าอสูรแล้ว”
“จุ๊ๆ เงียบเลย อะไรที่คาดเดาชุ่ยๆ ไม่ได้ อย่าได้เที่ยวคาดเดา ระวังจะมีภัยมาถึงตัว”
“นี่…พวกเจ้ารีบดูศีรษะใหม่ที่เพิ่งถูกแขวนขึ้นไป” ทันใดนั้นมีคนเตือนขึ้นมา คำพูดนี้ทำให้ผู้คนที่ติดตามขบวนใหญ่ย้ายความสนใจจากเผ่าภูติภูเขาไปยังยอดก้านธง
ศีรษะที่นับไม่ถ้วนนั้นได้ถูกแขวนเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยทำให้ยอดธงนั้นแน่นขนัดมากยิ่งขึ้นไปอีก
“นั้น…นั้นคือราชาเทวะกู่เฟิง!”
“หา! ราชาเทวะกู่เฟิง เช่นนั้นไม่ใช่หมายความว่าดินแดนกู่เฟิงก็หายไปแล้วหรือ”
ซี้ด!
เสียงสูดปากดังขึ้นติดๆ กัน คนนับไม่ถ้วนต่างกลั้นหายใจ แอบชำเลืองมู่ชิงเกอที่กำลังคุยกับโห่วและเผ่าภูติภูเขา
อีกสักครู่จึงมีคนพูดด้วยเสียงสะท้านและไม่อยากจะเชื่อว่า “สี่ดินแดนเทพในแผ่นดินเทพตะวันตก เวลานี้สูญไปแล้วสามคงเหลือดินแดนเส้าเทียนแห่งเดียวแล้วหรือ”
ใช่แล้ว คงเหลือดินแดนเส้าเทียนแห่งเดียวแล้ว!
แต่ดินแดนเส้าเทียนเป็นดินแดนที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินเทพตะวันตก พวกเขามีราชาเทวะที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร เส้นทางล้างแค้นของมู่ชิงเกอคงเหลือก้าวสุดท้ายนี้แล้ว มู่ชิงเกอยังจะสามารถเดินต่อไป อย่างห้าวหาญเช่นนี้ได้อีกหรือ
ทันใดนั้นคนเหล่านี้ก็เริ่มคาดหวังต่อการไปดินแดนเส้าเทียน พวกเขาต่างคิดว่าเก้าชั้นฟ้าที่ฟื้นฟูขึ้นมาใหม่นี้จะเป็นเช่นที่มู่ชิงเกอพูดไว้หรือไม่ ไม่ว่าใครก็มายั่วยุไม่ได้ ไม่ว่าอิทธิพลใดก็จะมาดูหมิ่นดูแคลนไม่ได้!
“องค์ชายอินเจวี๋ย นึกไม่ถึงว่าท่านจะนำทัพมาด้วยตัวเอง” มู่ชิงเกอพูดกับชายงามข้างกายโห่ว
คนนี้ก็คือองค์ชายอินเจวี๋ยแห่งเผ่าภูติภูเขาซึ่งไม่นับว่าแปลกหน้าสำหรับมู่ชิงเกอ
อินเจวี๋ยยิ้มบางๆ ว่า “องค์ราชินีไม่สามารถออกมาเสี่ยงภัยได้จึงมีข้ามาทำแทน ราชาเทวะมู่เป็นผู้มีพระคุณยิ่งใหญ่ของเผ่าภูติภูเขา เมื่อท่านต้องการพวกเรา พวกเราย่อมปฏิเสธไม่ได้”
“องค์ชายกล่าวเกินไปแล้ว” มู่ชิงเกอยิ้มบางๆ
ระหว่างนางกับเผ่าภูติภูเขาต่างได้สิ่งที่ตัวเองต้องการไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องบุญคุณอะไร เพียงแต่ เมื่อภูติภูเขายินดีช่วยเหลือครั้งนี้ นางก็จะจดจำเอาไว้ในใจเพื่อตอบแทนในวันหน้า
เรื่องใหญ่ยังไม่จบ เวลานี้ยังไม่ใช่เวลาพูดคุย
ทั้งสองฝ่ายทักทายง่ายๆ เพียงคำสองคำก็รวมตัวกันแล้วมุ่งหน้าสู่ดินแดนเส้าเทียน
เวลานี้สี่ดินแดนเทพแผ่นดินเทพตะวันตกคงเหลือเพียงดินแดนเส้าเทียนแห่งเดียวเท่านั้น
เมื่อจัดการหัวหน้าโจรผู้นี้ได้ ฐานะของเก้าชั้นฟ้าในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรก็จะไม่ผู้ใดมาสั่นคลอนได้อีก!
“ไม่นึกว่าความสัมพันธ์ของเจ้ากับเผ่าภูติภูเขาจะดีมากเช่นนี้” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเอ่ยกระซิบที่ข้างกายมู่ชิงเกอ ตลอดทางที่ผ่านมาเขามีเรื่องประหลาดใจไม่น้อยเลย
การแสดงออกของมู่ชิงเกอต่อหน้าเขาเวลานี้ต่างกับขณะที่อยู่ในดินแดนฮ่วนเยวี่ยโดยสิ้นเซิง ขณะที่มู่ชิงเกออยู่ดินแดนฮ่วนเยวี่ยเขายังรู้สึกว่าอีกฝ่ายปราดเปรียวมีความอุตสาหะ
แต่นึกไม่ถึงว่าในร่างกายที่ผอมบางสูงโปร่งนี้กลับแฝงไว้ด้วยความเผด็จการและความบ้าระห่ำอยู่ภายใน
ขณะที่ได้ยินคำถามราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยนั้นมุมปากมู่ชิงเกอก็เชิดขึ้น ผุดรอยยิ้มบางๆ แล้วพูดอย่างลึกซึ้งว่า “นึกอยากโด่งดัง ชนะรวดในครั้งเดียวย่อมต้องวางแผนให้รอบคอบ”
จากดินแดนเซวียนเช่อจนถึงดินแดนเส้าเทียน ระหว่างทางนั้นมีคนเพิ่มขึ้นอีกไม่น้อยร่วมตามหลังเป็นขบวนใหญ่ มีคนมากขึ้นเรื่อยๆ ที่สั่นสะท้านเพราะศีรษะที่แขวนยาวเหยียดดังมังกรบนก้านธงนั้น
ศีรษะเหล่านี้ไม่ใช่คนธรรมดาล้วนเป็นราชาเทวะและลูกศิษย์ดินแดนเทพที่สูงส่งในแผ่นดินเทพตะวันตก
คนเช่นนี้ต่างถูกร้อยเป็นพวงอยู่บนก้านธง แล้วจะไม่ เป็นที่สะท้านใจได้อย่างไร
ยิ่งทำให้ทุกคนต่างเฝ้ารอดูว่าในดินแดนเส้าเทียนจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีก
ราชาเทวะเส้าเทียนที่แข็งแกร่งที่สุดในแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทร จะหนีชะตากรรมการถูกตัดศีรษะ แขวนไว้ที่ก้านธงได้พ้นหรือไม่
จนกระทั่งพวกมู่ชิงเกอไปถึงรอบนอกดินแดนเส้าเทียน ผู้ติดตามด้านหลังก็มีจำนวนมากมายถึงล้านคน! ส่วนในดินแดนเส้าเทียน ค่ายกลที่มู่ชิงเกอวางไว้ยังคงมั่งคง กักขังคนของดินแดนเส้าเทียนไว้ภายในได้ทั้งหมด ภายในฝาครอบโปร่งแสง ลูกศิษย์ดินแดนเส้าเทียนนับไม่ถ้วนกำลังกระแทกค่ายกลด้วยความรุนแรง นึกอยากทุบกรงขังนี้ให้แตกหัก แต่ไม่ว่าพวกเขาจะใช้กำลังสักเท่าไรก็ตามก็ไม่สามารถทำลายกรงขังได้แม้แต่นิด กลับยิ่งทำให้กรงขังแข็งแรงมั่นคงยิ่งขึ้น
พอมองเห็นฝูงชนที่มากันอย่างกระเหี้ยนกระหือรือแล้ว สีหน้าของเหล่าลูกศิษย์ดินแดนเส้าเทียนต่างน่าเกลียดขึ้นมาก พวกเขาไม่ทุบตีสิ่งกีดขวางอีกต่อไป แต่ค่อยๆ ถอยหลังไปแล้วมองคนที่มาด้วยสายตาระแวดระวัง
แต่ขณะที่พวกเขาเห็นพวงศีรษะยาวเหยียดที่ธงเลือดนั้นแล้วต่างอดไม่ได้ถอนหายใจเย็นเฉียบ ดวงตาเปล่งประกายความหวาดหวั่นอย่างรุนแรง
มู่ชิงเกอยิ้มเยาะ มองดูอาการของเหล่าลูกศิษย์ดินแดนเส้าเทียนอยู่ในสายตา
นางพึมพำเบาๆ “พอแขวนศีรษะของเส้าเทียนขึ้นไปด้วย ข้าก็จะรวบรวมศีรษะของราชาเทวะแผ่นดินเทพตะวันตกได้ครบทั้งสี่คนแล้ว”
“รวบรวมได้ครบแล้วจะมีประโยชน์อะไรหรือ” โห่วประชิดเข้ามากระซิบถาม กลับถูกมู่ชิงเกอมองด้วยสายตาเย็นเฉียบ
การสังหารพวกเขาไม่เพียงแต่เพื่อฟื้นฟูพลังบารมีของเก้าชั้นฟ้า แต่ยิ่งกว่านั้นคือสี่คนนี้เป็นกลุ่มที่เหลือรอดจากการลอบสังหารซือมั่วในแดนมารครั้งนั้นด้วย
ใครกล้ามายุ่งกับผู้ชายของนาง ไม่ว่าใครก็หนีไม่พ้น!
แววตามู่ชิงเกอเหี้ยมขึ้น ตะโกนว่า “เส้าเทียนอยู่ไหน!”