ตอนที่ 848
โจรเฒ่าเส้าเทียน!
มู่ชิงเกอไม่ได้ปลดเปลื้องสิ่งกีดขวางนอกดินแดนเส้าเทียนร้องตะโกนเรียกชื่อราชาเทวะเส้าเทียน ราวกับอยากจะต่อสู้กับเขาโดยตรง
เสียงของนางปะทะสิ่งกีดขวางจนเกิดเป็นวงคลื่นแล้วขยายวงกว้างออกไปเรื่อยๆ แพร่กระจายไปทั่ว ดินแดนเส้าเทียน
ลูกศิษย์ดินแดนเส้าเทียนต่างเงียบสงบลง แหงนหน้ามองมู่ชิงเกอที่ยืนอยู่นอกสิ่งกีดขวางโดยถือธง เลือดอยู่ในมือ
ชุดแดงสีเลือดที่ฉูดฉาดของนางสอดรับกับธงเลือด รวมกับศีรษะคนนับไม่ถ้วนที่แขวนอยู่กับก้านธง ล้วนกลายเป็นฉากหลังของนาง ราวกับภูตผีปีศาจที่ผุดจากขุมนรกมาร้องเอาชีวิตอย่างน่าสยองขวัญ
เวลานี้สามราชาเทวะแห่งแผ่นดินเทพใต้ก็มาปรากฎกายอย่างกะทันหันอยู่ด้านข้าง
พวกเขาเห็นว่าหลังจากราชาเทวะอู๋หวาถูกฆ่าตัดศีรษะแล้วสถานการณ์ยังมั่นคง จึงมาร่วมชมเรื่อง สนุกที่แผ่นดินเทพตะวันตกด้วย
ไม่คิดว่าพอมาถึง สิ่งที่ต้อนรับพวกเขาจะเป็นธงเลือดที่เปี่ยมไปด้วยไอสังหารสูงเสียดฟ้าทั้งยังมีศีรษะที่สั่นสะท้านใจคนอีก
“นี่มัน…เกิดอะไรขึ้นแน่” ราชาเทวะเฝินไห่พูดด้วยความตื่นตกใจ
ราชาเทวะจินกวงแววตาหนักแน่นกระซิบว่า “ท่าทางการสู้รบบนแผ่นดินเทพตะวันตกจะหนักหนากว่าที่พวกเราคิดไว้มาก”
ราชาเทวะซุยชิงค้นหาสามใบหน้าที่ดูคุ้นเคยพบจากกองศีรษะผมเผ้ายุ่งเหยิงที่มากมายเป็นภูเขาเลากานั้น
ไม่ใช่เพราะสายตาเขาดี แต่เพราะสามศีรษะนั่นถูกแขวนอยู่บนยอดสุดในตำแหน่งที่เห็นได้ชัดเจนที่สุด แม้ไม่สังเกตเห็นก็ยังยากที่จะมองไม่เห็น
“นั่นคือราชาเทวะจื่อกวง ราชาเทวะกู่เฟิง อีกทั้งราชาเทวะเซวียนเซ่อ” ราชาเทวะซุยชิงพูดเสียงเครียด
ราชาเทวะจินกวงกับราชาเทวะเฝินไห่ต่างตกใจ เมื่อเห็นชัดด้วยตาตนเองแล้วแววตาก็เครียดลงทันที
การจลาจลครั้งนี้ สิบหกดินแดนเทพในแผ่นดินเทพทั้งสี่ สมุทรราชาเทวะตายไปแล้วสี่คนรวมทั้งที่ตายในแดนมารก่อนนี้อีกสามคน เท่ากับว่าตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง
เวลานี้แผ่นดินเทพตะวันตกเหลือเพียงเส้าเทียน
เรื่องเก้าชั้นฟ้าครั้งนั้นเกิดจากการวางแผนของเขา ที่เหลือสามคนต่างถูกฆ่าไปแล้ว เขาซึ่งเป็นคนต้นคิดจะหนีรอดไปได้อย่างไร
ทั้งสามคนสบตากันเงียบๆ ไม่ได้เดินออกไป เพียงซุ่มดูอยู่ข้างๆ
การปรากฎตัวของทั้งสามคนย่อมไม่สามารถปิดบังราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยได้ ไม่รู้ด้วยเหตุใดทำให้เขาอยากเตือนมู่ชิงเกอโดยไม่รู้ตัว แต่ขณะที่มองไปกลับเห็นรอยยิ้มบางๆ ที่มุมปากมู่ชิงเกอ
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเก็บคำพูดที่มาถึงริมฝีปากแล้วรอดูด้วยความเงียบสงบ
มู่ชิงเกอบอกว่าราชาเทวะเส้าเทียนให้เขาลงมือเอง
เส้าเทียนอยู่ที่ไหน…
เสียงตะโกนก้องนี้กระจายหายไปแล้ว
นี้เป็นการยั่วยุทั้งเป็นการท้ารบ
ในที่สุดเงาร่างคนผู้หนึ่งก็กลายเป็นแสงสว่างวาบสายหนึ่ง พุ่งออกมาจากวังราชาเทวะของดินแดนเส้าเทียนขึ้นมาบนท้องฟ้า
พอเขาขยับตัว แนวขวางกั้นดินแดนเส้าเทียนก็สว่างวาบขึ้นราวกับเป็นการเตือนว่าอย่าได้ฝ่าแนวกั้นมา
ราชาเทวะเส้าเทียนหยุดอยู่กลางอากาศลอยนิ่งอยู่กับที่ มือของเขากำกระบี่ด้ามยาว ปลายกระบี่ชี้ลงที่พื้น กระบี่นั้นไม่ใช่ของจริง แต่ใช้พลังกฎบัญญัติรวมตัวขึ้นมา แววตาเย็นเฉียบมองมู่ชิงเกอ สายตาทั้งคู่ปะทะกันกลางอากาศ
ความจริงแล้วนี่เป็นการพบกันครั้งแรกของคนทั้งสอง แต่จะต้องตัดสินเป็นตายกัน
มู่ชิงเกอยิ้มเย็นเฉียบ
กระบี่ยาวเส้าเทียนฟันขึ้นด้านบน แสงกระบี่สายหนึ่งฟันกระทบฝาครอบโปร่งแสงอย่างแรง
บึ้ม!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว สิ่งกีดขวางไม่ปรากฎรอยแตกแม้แต่นิดกลับกลายเป็นแข็งแกร่งแน่นหนายิ่งขึ้น
“ตระกูลมู่มีฝีมือ” เส้าเทียนเผยสีหน้าเย้ยหยัน
มู่ชิงเกอยิ้มกว้าง “ขอบคุณที่ชม”
ความ ‘หน้าด้านไร้ยางอาย’ ของมู่ชิงเกอทำให้เส้าเทียนแค่นเสียงออกมาอย่างดูแคลน สายตาเขาเลื่อนไปด้านข้างมองไปที่ร่างราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย
“โจรเฒ่าเส้าเทียน ยามนั้นเจ้าร่วมมือกับพวกกู่เฟิงเล่นงานข้า วันนี้ท่านโห่วมาคิดบัญชีกับเจ้าแล้ว!” โห่วร้องด้วยความคลั่งแค้น
เส้าเทียนกลับมีสีหน้านิ่งเฉยพูดเรียบๆ ว่า “ผู้แพ้ไม่ต้องมาอวดกล้า”
ความหมายเสียดสีชัดเจนมาก
สีหน้าโห่วเปลี่ยนไปฉับพลันนั้นก็กลายเป็นเหี้ยมโหดขึ้นมา
แต่ในเวลานั้นเองมู่ชิงเกอก็กวาดสายตาไปยับยั้งความโกรธแค้นในใจของเขา โห่วแค่นเสียงออกมาแล้วไม่พูดกับเส้าเทียนอีก
การที่โห่วสงบไปนั้นทำให้แววตาเส้าเทียนมืดครึ้มลง เดิมเขาคิดจะยั่วโมโหโห่วให้เขาควบคุมอารมณ์ไม่ได้ และทำลายเขตตราผนึกจากภายนอก หากเป็นเช่นนี้แล้วเขาก็สามารถถือโอกาสหลบหนีไปได้
ศัตรูกล้าอยู่ตรงหน้าไยต้องปะทะซึ่งหน้าด้วย
หากวันนี้เขาสามารถหนีรอดได้ก็ยังมีโอกาสแก้แค้นในวันหลัง
น่าเสียดายที่โห่วถูกยั่วให้โมโหแล้วแต่ก็สงบอารมณ์ลงได้ในทันทีทำให้เส้าเทียนแค้นใจนัก
เมื่อคาดหวังจากโห่วไม่ได้แล้วเส้าเทียนจึงต้องเบนเข็มไปที่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยแทน หากนับผู้ที่ปรากฎตัวในที่นี้ทั้งหมดแล้ว คนที่เขากริ่งเกรงนั้นย่อมเป็นราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยอย่างไม่ต้องสงสัย
เดิมทีแม้แต่ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเขาก็ยังไม่เห็นอยู่ในสายตา แต่การลอบสังหารในแดนมารล้มเหลว เวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่วันกองทัพเผ่ามารก็ยกมาประชิดชายแดน ทำให้เขาไม่สามารถวางใจปิดประตูบำเพ็ญรักษาอาการบาดเจ็บได้ ร่างกายจึงยังไม่กลับคืนสู่สภาพปกติ
เวลานี้ต้องเผชิญหน้าราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยย่อมเกิดความรู้สึกปวดหัวขึ้นมา
‘หากราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยออกหน้าตรึงไว้แล้วให้คนอื่นร่วมจู่โจม ข้าจะต้องแพ้แน่นอน’ เส้าเทียนคิดคำนึงในใจ นัยน์ตาที่เหี้ยมโหดของเขามองไปที่ศีรษะบนก้านธงโดยไม่รู้ตัว
โดยเฉพาะขณะที่สายตาตกอยู่ที่สามศีรษะบนยอดธง ตาดำก็หดตัวลงอย่างแรง
“ฮ่วนเยวี่ย! เจ้านั้นเป็นราชาเทวะที่สูงส่ง กลับปรากฎตัวอย่างผ่าเผยในแผ่นดินเทพตะวันตก เข่นฆ่าราชาเทวะแผ่นดินเทพตะวันตกของข้าหรือ!” เส้าเทียนตะโกนถาม
จิตใต้สำนึกของเขาเหมาเอาความตายของสามราชาเทวะว่าเกิดจากราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย
สำหรับเขาแล้วหากราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยไม่ลงมือ มู่ชิงเกอจะฆ่าสามราชาเทวะนี้ได้อย่างไรกัน
ตาหงส์ของราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยฉายแววเกียจคร้าน พูดเรียบๆ ว่า “ข้ามาแผ่นดินเทพตะวันตกจริงแต่ยังไม่ได้ลงมือ”
ความหมายนั้นคือความตายของสามคนนี้ไม่เกี่ยวกับเขา
ไม่ใช่เขาอยากปัดความรับผิดชอบ เพียงแต่ไม่อยากแย่งความชอบของมู่ชิงเกอ
“คู่ต่อสู้ของข้านั้นคือเจ้า” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพูดเพิ่มเติมอีก
นี่ทำให้ราชาเทวะเส้าเทียนที่มีลางสังหรณ์นี้แต่แรกอดไม่ได้ที่จะเยาะเย้ยว่า “ฮ่วนเยวี่ย มู่ชิงเกอคนนี้ปิดบังตัวตนลอบเข้าไปบำเพ็ญในดินแดนฮ่วนเยวี่ยของเจ้า เจ้านอกจากจะไม่ตรวจสอบแล้ว เวลานี้ยังช่วยเขาก่อกรรมทำเข็ญกับแผ่นดินเทพตะวันตกของข้า มีจุดประสงค์อะไรกันแน่”
“เส้าเทียน ไม่ต้องรีบร้อนตอแยราชาเทวะฮ่วนเยวี่ย วันนี้ข้ามาเพราะจุดประสงค์อะไรนั้นเจ้าควรจะรู้อยู่แก่ใจ” มู่ชิงเกอเอ่ยปากทันทีเพื่อหยุดยั้งความคิดของเส้าเทียน
เขาคิดจะปลุกปั่นชาวแผ่นดินเทพตะวันตกที่ตามมามากมาย เพื่อหลอกไว้ใช้งานช่วยให้เขารอดออกไป วิธีการตื้นๆ เช่นนี้หากมู่ชิงเกอดูไม่ออกก็ไม่สมควรพูดเรื่องฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้ากันแล้ว
สีหน้าเส้าเทียนเปลี่ยนไปทันที ตวาดเสียงลั่นว่า “เจ้ามันก็แค่รุ่นเยาว์คนหนึ่ง มีคุณสมบัติเอ่ยปากด้วยหรือ”
มู่ชิงเกอแค่นเสียงออกมาแล้วปล่อยพลังบารมีขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นเจ็ดเต็มที่ออกมากดทับไปทางเส้าเทียน เพียงแต่พลังบารมีถูกขวางโดยสิ่งกีดขวางทำให้ไม่ได้ตกลงบนตัวเส้าเทียน แต่กลับทำให้เกิดผลลัพธ์ที้ยิ่งใหญ่กว่า
การกระแทกของพลังบารมี ทำให้สิ่งกีดขวางเกิดแสงสีนํ้าเงินพุ่งขึ้นสู่ท้องฟ้า
“ขั้นศักดิ์สิทธิ์ชั้นเจ็ด!” เส้าเทียนพูดอย่างสะท้าน