ตอนที่ 855
ข้าเป็นผู้หญิงมาแต่แรกอยู่แล้ว
ภายในดินแดนฮ่วนเยวี่ยทุกอย่างล้วนสันติสุขสงบ
คลื่นลมในแผ่นดินเทพตะวันตกไม่ส่งผลกระทบถึงที่นี่ แม้กระทั่งพวกจวงซานซึ่งสนิทกับมู่ชิงเกอยังเพิ่งรู้หลังจากเรื่องสงบลงว่ามู่ชิงเกอได้ทำเรื่องใหญ่โตเช่นนี้ในแผ่นดินเทพตะวันตก
ภายในวังราชาเทวะ ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยกับอดีตราชาเทวะนั่งหันหน้าเข้าหากัน ชื่นชมทิวทัศน์ที่สวย งามด้านนอกวังราชาเทวะกันอยู่
“เจ้าชื่นชอบสุราตั้งแต่เมื่อไรกัน” อดีตราชาเทวะมองถ้วยสุราในมือราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยแล้วเอ่ยหยอก
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยมีสีหน้าเรียบเฉย นัยน์ตาหงส์มีแต่แววเกียจคร้าน “ระยะนี้ลองดื่มดูแล้วรู้สึกไม่ เลวเลยดื่มดูบ้างก็ให้รสชาติไปอีกแบบ”
อดีตราชาเทวะส่ายหน้ายิ้ม “เจ้าชอบดื่มแต่นํ้าชามาตลอดเวลาแต่เวลานี้กลับนิยมดื่มสุราทำให้ข้ารู้สึก ผิดคาดมาก”
“หลายหมื่นปีแล้วก็ต้องเปลี่ยนความชอบกันบ้าง” ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยพูดเรียบๆ
เห็นเขาไม่อยากพูดมาก อดีตราชาเทวะจึงเปลี่ยนหัวข้อสนทนาว่า “หลังจากเส้าเทียนตายแล้วทัพ ใหญ่เผ่ามารก็ถอนทัพกลับไป พวกเขานี่ก็ตลกนักยกทัพมาประชิดชายแดนแต่ไม่รบราวกับจะรออะไรอยู่ แม้กระทั่งไม่ฉวยโอกาสที่แผ่นดินเทพตะวันตกชุลมุนบุกเข้าโจมตี สุดท้ายแล้วก็ถอยทัพกลับไป”
เขาหันหน้าโน้มกายจ้องราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยถามว่า “เจ้าว่าราชามารคนนี้คิดอะไรอยู่หรือ”
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเล่นถ้วยสุราในมือถ้วยนั้น ยังเหลือสุราอยู่ส่วนหนึ่ง สุรากระทบผนังถ้วยตามจังหวะการแกว่งของปลายนิ้วเขา
ครู่หนึ่งเขาจึงว่า “ข้าพบราชามารขณะที่อยู่เก้าชั้นฟ้า”
“อะไรนะ! ราชามารเข้าไปในแผ่นดินเทพตะวันตกรึ” อดีตราชาเทวะตกใจจนหน้าถอดสี “พวกเจ้าได้ ประมือกันหรือไม่”
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเม้มปากอยู่นาน ภายใต้แววตาร้อนรนของอดีตราชาเทวะก็พูดขึ้นว่า “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้เขา”
คำตอบสั้นๆ นี้ทำให้สีหน้าอดีตราชาเทวะน่าเกลียดขึ้นมาทันที สุดท้ายแล้วเขาก็ถอนหายใจพึมพำ กับตัวเอง “ราชามารรุ่นนี้ช่างเป็นคนที่สวรรค์โปรดปราน สมญาอันดับหนึ่งของแผ่นดินเทพมารท่าทางไม่ใช่จะได้มาเปล่าๆ เสียแล้ว”
นึกสะท้อนใจแล้วเขาก็ถามอีกว่า “ใช่แล้ว เหตุใดเขาจึงปรากฎตัวที่เก้าชั้นฟ้าหรือ”
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยส่ายหน้า “ไม่รู้ เดิมทีข้าเข้าใจว่าเขาจะฉวยโอกาสเล่นงาน แต่เขากลับไม่ได้แอบลงมือทำอะไรเลย ตรงกันข้ามหลังจากที่เส้าเทียนทำเรื่องนั้นแล้วเขายังลงมือช่วยพวกเราอีก ตั้งแต่ต้นจนจบเขาทำราวกับบังเอิญผ่านมา ข้าเดาไม่ออกจริงๆ ว่าเขาต้องการอะไรกันแน่”
“ท่าทาง เรื่องจะไม่ง่ายดายเช่นนั้น พวกเราต้องระวังไว้หน่อย” อดีตราชาเทวะพูดด้วยคิ้วที่ขมวดแน่น
เวลานี้เองปรากฎแสงทองสายหนึ่งบินมาจากภายนอก
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยยกมือรับ ที่แท้เป็นเทียบเชิญสีทองแวววาว
“มาจากเก้าชั้นฟ้าหรือ” อดีตราชาเทวะหรี่ตายิ้มพูด
ราชาเทวะฮ่วนเยวี่ยเปิดออกดู ตาหงส์สั่นไหวนิดๆ แล้วพยักหน้า
แผ่นดินเทพเหนือดินแดนเทพเฟิ่งเทียน
เรื่องแผ่นดินเทพตะวันตกจบสิ้นแล้ว ราชาเทวะดินแดนเซียนเหนี่ยวได้นำเหล่าลูกศิษย์ถอนกำลังออกจากบริเวณดินแดนเฟิ่งเทียนไปแล้ว
ในวังราชาเทวะ มือหลียวนถือเทียบเชิญสีทองใบหนึ่ง แววตาเครียดครึ้มสับสน
“ราชาเทวะ ที่เก้าชั้นฟ้าบอกว่าจะฟื้นฟูก็ฟื้นฟูเลยช่างเกินคาดคิดจริงๆ ที่คิดไม่ถึงคือราชาเทวะน้อย ดินแดนฮ่วนเยวี่ยถึงขนาดเป็นนายน้อยตระกูลมู่ ราชาเ วะของเก้าชั้นฟ้าคนปัจจุบัน” นางกำนัลคนหนึ่งคุกเข่ารายงานหลียวน
สองตาหลียวนหรี่ลง ดูไม่ออกว่านางกำลังคิดอะไรอยู่
“ราชาเทวะ เขาฟื้นฟูเก้าชั้นฟ้าแล้วเชิญท่านไป หมายความว่าอย่างไรหรือ” นางกำนัลขมวดคิ้วถาม
หลียวนทัดผมที่ระอยู่ข้างใบหู พูดด้วยท่าทางสูงส่งว่า “ไม่ว่าเขาหมายความว่าอย่างไร เก้าชั้นฟ้านี้ข้าก็ต้องไปสักเที่ยว”
นางกำนัลมองนางด้วยความสงสัย แต่หลียวนกลับแย้มยิ้มหมายมาดออกมา
บนเก้าชั้นฟ้า สันติสุขแผ่ไปทั่ว
ชั้นเมฆปกคลุมราวฝันราวภาพจำแลง เก้าชั้นฟ้าที่ลอยอยู่ระหว่างฟ้าดินเวลานี้ไม่ใช่กลุ่มหินลอยที่หักพังอีกต่อไป มันกลับคืนมาเป็นผู้นำสูงสุดในแผ่นดินเทพตะวันตกอีกครั้งหนึ่ง เมืองรอบๆ ที่ถูกทำลายไป เวลานี้ก็กำลังทยอยฟื้นฟูกลับคืน มนุษย์เทพและมนุษย์ธรรมดาต่างโยกย้ายมาอยู่อาศัยบริเวณนี้ ทุกสิ่งทุกอย่างกำลังเจริญเติบโตอย่างมั่นคง
ในวันนี้เสียงกลองเสียงเป่าแตรบนเก้าชั้นฟ้าดังสนั่นหวั่นไหว ดอกไม้ไฟจากพลังเทพนับไม่ถ้วน ส่องสว่างสีสันเชิดฉายอยู่กลางท้องฟ้า
เหล่ามนุษย์เทพที่ได้ยินเสียงต่างพากันมองมาทางเก้าชั้นฟ้า พวกอยากรู้อยากเห็นต่างสืบข่าวคราวกัน ว่าเกิดเรื่องสำคัญอะไรขึ้นที่เก้าชั้นฟ้า
หลังจากรู้ข่าวที่แน่ชัดแล้วจึงเข้าใจ
ที่แท้วันนี้ ราชาเทวะมู่แห่งเก้าชั้นฟ้าเชิญเหล่าราชาเทวะแผ่นดินเทพทั้งสี่สมุทรมาร่วมชุมนุมที่เก้าชั้น ฟ้า
บนเก้าชั้นฟ้าทุกอย่างล้วนดำเนินการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กระทั้งไม่ได้อึกทึกดังที่คนภายนอกคาดคิด
“เฮ้อ บนเก้าชั้นฟ้านี้เทียบกับเมื่อหมื่นปีก่อนยังนับว่าหงอยเหงาไปมาก” ราชครูถอนหายใจแล้วพูดออกมา
ซวีซิวพยักหน้าเห็นด้วย
เก้าชั้นฟ้าเมื่อหมื่นปีก่อนมีตระกูลมู่หลายแสนคน ยังไม่นับพวกมนุษย์เทพกับข้าทาสที่มาสวามิภักดิ์เวลานี้รวมทั้งหมดแล้วก็มีเพียงแสนกว่าคนเท่านั้น
ทำให้ดูออกจะเงียบเหงาในเก้าชั้นฟ้าที่ใหญ่โตมโหฬารนี้
“ต้องค่อยเป็นค่อยไปแล้วทุกอย่างจะดีขึ้นเอง” ซวีซิวบอกราชครู
เหตุผลนั้นทั้งคู่ต่างเข้าใจ หลังจากความสะท้อนใจสิ้นสุดแล้วพวกเขาต่างมุ่งหน้าไปยังวังราชาเทวะที่มู่ชิงเกออาศัยอยู่
แต่พอเดินถึงประตูกลับถูกเสวี่ยหยาสกัดไว้ “ทั้งสองท่าน ราชาเทวะบอกว่าให้พวกท่านคอยรับรองแขกเหรื่อ ให้รออยู่ที่ตำหนักหน้า อีกสักครู่ท่านจึงจะออกมา”
ซวีซิวขมวดคิ้วเล็กน้อยแต่ราชครูกลับเข้าใจ
เขาพยักหน้าบอกซวีซิวว่า “ศิษย์พี่ ราชาเทวะยังเตรียมตัวอยู่ พวกเราสองคนไปรับรองแขกเหรื่อก่อนแล้วกัน พูดไปแล้วเก้าชั้นฟ้าเราก็ไม่มีแขกเหรื่อมาเยี่ยมเยียนถึงหมื่นปีแล้ว”
คำพูดของเขาฉุดซวีซิวออกจากความสงสัย
เขาไม่คิดมากอีก พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในตำหนักหน้าพร้อมกับราชครู
ในตำหนักทุกอย่างเตรียมไว้พร้อมหมดแล้ว
ที่นั่งจัดเลี้ยงของราชาเทวะได้จัดวางเรียบร้อยแล้ว บนนั้นมีทั้งผลไม้ สุราชั้นดี อาหาร นํ้าชาร้อนพร้อมสรรพทุกอย่าง
เพียงแต่ที่ทำให้ซวีซิวแปลกใจก็คือหน้าบัลลังก์ราชาเทวะแขวนผ้าม่านไว้ชั้นหนึ่งปิดบังบัลลังก์ไว้
ไม่ทันมีเวลาคิดมาก ข้างนอกก็มีเสียงดังว่าราชาเทวะมาถึงแล้ว
ซวีซิวกับราชครูสบตากันแล้ว ทั้งคู่ต่างเดินออกไปข้างนอกต้อนรับพร้อมกัน
มู่ชิงเกอนั่งอยู่หน้ากระจกโต๊ะเครื่องแป้งในตำหนักนอนปล่อยให้โย่วเหอกับฮวาเยวี่ยแต่งหน้าแต่ง ตัว บนโต๊ะมีตุ้มหูสีม่วงอันหนึ่งวางอยู่ เวลานี้นางกลับคืนสภาพมาเป็นผู้หญิงนุ่งกระโปรงแดงสวมเกราะอ่อน ม้วนมวยผมขึ้นมา
“คุณชายงามจัง!” ฮวาเยวี่ยมองดูเงาในกระจกแล้วกล่าวชื่นชมอย่างจริงใจ
โย่วเหอจัดทรงผมให้มู่ชิงเกอ พูดว่า “คุณชายจะเปลี่ยนมาแต่งเป็นหญิงและยังต้องคำนึงถึงเรื่องสำคัญของตัวเอง น่าเสียดายที่ท่านเขยกลับไม่อยู่”
มู่ชิงเกอฟังคำพูดของสองสาวใช้แล้วหยิบกล่องงดงามออกมากล่องหนึ่ง เก็บเครื่องมืออำพรางไว้ใน กล่องนั้นเป็นอย่างดี ตามด้วยหยิบปิ่นปักผมหยกสีแดงเลือดอันหนึ่งออกมายื่นให้โย่วเหอ “ประดับอันนี้ให้ข้า”
“ปิ่นปักผมงามจังเลย!” โย่วเหอพูดอย่างตกตะลึงในความงาม
มู่ชิงเกอยิ้มเรียบๆ ปิ่นปักผมนี้นางยังไม่เคยประดับมาก่อน ซือมั่วให้นาง เป็นของขวัญในปีที่นางเพิ่ง ถึงวัยปักปิ่น