ตอนที่ 950
ข้าไม่ยอมเด็ดขาด!
แสงสว่างเจ็ดสายพุ่งจากทิศทั้งเจ็ดเข้าไปบนท้องฟ้ากำลังจะรวมตัวกัน
ค่ายกลนี้คือค่ายกลที่มู่ชิงเกอดัดแปลงตามค่ายกลตาข่ายฟ้าเจ็ดดาราสังหาร เคยขัดวางการบุกโจมตีของเผ่าฝูที่แม่น้ำเมิ่งหลานแดนมารได้สำเร็จ
ครั้งนี้ นางเองก็ใช้มันมาถ่วงเวลาเผ่าฝู ใช้มันมาพลิกสถานการณ์เช่นกัน
แสงเจ็ดสายพุ่งไปรวมกันตรงกลางอย่างรวดเร็ว
บริเวณที่เชื่อมต่อกับพื้นดิน ขอบเขตก่อรูปก่อร่างแล้ว ไม่มีทางทำลายค่ายกลได้
ชั่วพริบตา แสงเจ็ดสายก็กำลังจะบรรจบ
ทว่า จุดรวมตัวของพวกมัน อยู่ใต้หลุมดำเหนือศีรษะของมู่ชิงเกอ
นางเงยหน้าขึ้น มองแสงทั้งเจ็ด ดวงตาสะท้อนหลุมดำที่มีเผ่าฝูกรูกันออกมาไม่หยุด ลางสังหรณ์ไม่ดีชนิดหนึ่งพลันจู่โจมจิตใจ
‘แย่แล้ว’ มู่ชิงเกอตอบสนองกลับมาทันที ดวงตาทั้งสองหดเล็กลง
แต่ก็สายไปเสียแล้ว
ระหว่างที่แสงเจ็ดสายนั้นรวมตัวกันในสายตาของนาง ชั่วพริบตา ค่ายกลก็กำลังจะก่อตัวเสร็จสมบูรณ์แสงสีดำทะมึนหนึ่งสายก็ยิงออกมาจากหลุมดำ โจมตีแสงที่รวมตัวกันนั้นอย่างแม่นยำ
ตูม!
ค่ายกลที่ยังจับตัวกันไม่เสร็จถูกโจมตีจนแตกกระจาย
บนพื้นดิน การจัดทัพที่ก่อตัวขึ้นแล้วแตกซ่านในชั่วขณะ แตกออกเป็นเศษเสี้ยว กระจัดกระจายไร้รูปทรง
องครักษ์มังกรที่ไปจัดวางยุทธภัณฑ์ชั้นอาคมก็ได้รับบาดเจ็บจากยุทธภัณฑ์ชั้นอาคมที่ระเบิดออก
สายตามู่ชิงเกอนิ่งงัน กัดฟันพุ่งไปยังหลุมดำอีกครั้ง
ค่ายกลถูกทำลาย สำหรับกองทัพฝั่งนี้ของมู่ชิงเกอแล้วเป็นการโจมตีที่รุนแรงอย่างยิ่ง เทพมารไม่น้อยต่างก็ตกตะลึงอยู่กับที่ เกิดความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงต่อสงครามครั้งนี้
ทว่า ไม่รอให้พวกเขาซึมเซาต่อ ข้างหูก็มีเสียงตะโกนให้สังหารที่เต็มไปด้วยความกล้าหาญดังขึ้นมา เรียกสติของพวกเขา
พวกเขามองไปตามเสียงด้วยจิตใต้สำนึก มองเห็นทหารของกองทัพในโลกชั้นล่างแห่งนี้ต่อสู้ฆ่าฟันโดยไม่หันหลังกลับ ไม่สนใจความเป็นความตาย
ตบะบำเพ็ญของพวกเขา ไม่ต่างอะไรจากมดปลวกในสายตาพวกเขา
แต่ว่าตอนนี้พวกเขากำลังใช้เลือดเนื้อพิสูจน์ว่า มดเองก็กลืนกินช้างได้เช่นกัน
“ฆ่า!”
พวกเขาแยกไม่ออกว่าคนเหล่านี้คือนักรบของแคว้นใดบ้าง แต่ว่า วินาทีนี้พวกเขากลับไม่แบ่งแยกฝักฝ่าย สู้รบเคียงบ่าเคียงไหล่ หนึ่งคนสู้ไม่ได้ เช่นนั้นก็สู้ด้วยกันสิบคน สิบคนสู้ไม่ได้ ก็สู้ด้วยกันร้อยคน
มนุษย์เทพคนหนึ่ง มองเห็นกับตาว่าทหารกว่าห้าสิบนายยืนหยัด ไม่ยอมล้มลงกับพื้น แต่กอดขาทั้งสองของยักษ์แน่นไม่ให้มันก้าวเดินได้แม้แต่ก้าวเดียว
ในสนามรบแห่งนี้ ต่อให้จะมีตบะบำเพ็ญชั้นพลังม่วงก็ไม่มีประโยชน์เลยแม้แต่น้อย
ตบะบำเพ็ญไม่มีประโยชน์พวกเขาก็ทำได้เพียงใช้การตะลุมบอนที่ธรรมดาที่สุดมาต่อสู้
ยักษ์ที่ถูกทหารกอดขาทั้งคู่ไว้ส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ มันโค้งเอวลง หมัดมหึมาในมือ โจมตีไปยังขาของตนเอง
“หลบสิ!” มนุษย์เทพผู้นั้นถลึงตามองด้วยความโกรธ ร้องตะโกนกล่าว
เดิมเขาคิดว่า ทหารเหล่านั้นจะหลบ แต่ว่าเขากลับมองเห็นเพียงทหารที่ถูกยักษ์ต่อยจนร่างแหลกเละ ชั่วพริบตา ดวงตาทั้งคู่ของเขาเต็มไปด้วยโลหิต แดงเป็นสีโลหิตทั้งดวง ขวัญกำลังของทหารปะทุออก
ตอนที่ยักษ์กำลังจะแกว่งหมัดลงข้างขาอีกข้าง เขาก็ทนไม่ไทวอีก ต่อไปพลันระเบิดเสียง พุ่งไปหาเจ้ายักษ์นั้น
นี่คือการเข่นฆ่าที่ศักยภาพไม่เท่าเทียมกันอย่างสิ้นเชิง หลินชวน เป็นโลกที่ตํ่าที่สุดในโลกของแผ่นดินเทพมาร แต่ว่า การบุกรุกของเผ่าฝูกลับไม่เข้าข้างมู่ชิงเกอ
การสะกดพลังของโลกที่นางคาดหวังนั้นกลับไม่มีผลกับเผ่าฝูเหล่านั้น เหมือนกับเทพมารที่ขึ้นมาจากโลกเหล่านั้นไม่ได้รับการสะกดจากโลกเลยแม้แต่น้อย
ฝีมือของพวกเขาสามารถแสดงออกมาได้อย่างเต็มที่โดยไม่ต้องเป็นกังวล
สำหรับหลินชวนแล้วนั้นคือหายนะอันโหดเหี้ยมอย่างแท้จริง
ชายฝั่งทะเลแห่งความจริงสงบเงียบ แต่ในแอ่งกระทะลึกแห่งนี้ กลับเกิดสงครามตะลุมบอน เสียงเข่นฆ่าดังไม่ขาดสาย โลหิตไหลนองกลายเป็นนํ้าทะเลแห่งความจริงแห่งใหม่
ทหารหลินชวนที่ถูกมองเป็นมดปลวกในสายตาโลกชั้นสูง ตอนนี้กลับขัดขวางการบุกโจมตีของชนต่างเผ่าอย่างไม่สนใจความตาย เพราะว่าข้างหลังพวกเขา คือบ้านเกิดเมืองนอนของพวกเขา ที่นั้นมีพ่อแม่ ลูกหลาน สตรีของพวกเขารออยู่
“อ๊าก!”
ทหารที่แยกเขตแดนไม่ออกแล้วกำอาวุธในมือแน่น พวกเขาโถมตัวไปข้างหน้า ใช้ร่างของตนเป็นกรงขัง กอดตัวประหลาดตัวเล็กเหล่านั้นไว้แน่น ไม่ให้พวกมันมีโอกาสวิ่งออกไป
เรี่ยวแรงของพวกเขา ไหนเลยจะเป็นคู่ต่อสู้ของตัวประหลาดตัวเล็ก ตัวประหลาดตัวเล็กกระโดดโจมตีอย่างบ้าคลั่ง คิดจะล้มพวกเขาลง แต่ว่าแม้พวกเขาจะถูกโจมตีจนอวัยวะภายในปะทุแตก กระอักเลือดออกมาก็ยังกอดตัวประหลาดตัวเล็กไว้แน่นยิ่งขึ้นไม่ยอมปล่อยไปแม้แต่นิดเดียว
พวกเขาอ่อนแอ แต่ในดวงตากลับมีสายตาที่หนักแน่นไม่ย่อท้อ
พลังโหดเหี้ยมที่แผ่ซ่านออกมาจากกระดูกกลุ่มนั้นก็เหมือนสัตว์ร้ายในป่าทึบ พวกเขาสาบานว่าจะปกป้องความปลอดภัยให้แว่นแคว้นของตน
จิตใจที่ไม่กลัวตาย ไม่หันหลังกลับของพวกเขากระตุ้นคนของเผ่าเทพมาร
ความเข้มแข็งในเบื้องลึกของจิตใจถูกคนที่พวกเขาดูถูกจุดไฟให้ฮึกเหิมขึ้นมา
ชั่วขณะ ในสนามรบ ฝั่งที่ปกป้องหลินชวน ขวัญกำลังทหารก็พลันฮึกเหิมขึ้น
ฆ่าโถวถัวทิ้งก็สามารถช่วยเหลือนักรบของหลินชวนหนึ่งกลุ่มได้ ทว่านักรบที่เต็มไปด้วยบาดแผล แต่กลับไม่สนใจร่างกายของตัวเอง ไม่รู้จักเหนื่อย ใช้วิธีเดียวกัน ขัดขวางตัวประหลาดตัวเล็กอื่นๆ
มีโถวถัวที่แยกร่างเป็นตัวประหลาดตัวเล็กจำนวนหนึ่ง ยังไม่ทันได้ฆ่า นักรบกลุ่มนี้ก็ใช้ฟันของตัวเองเข้ากัดโดยไม่สนใจว่าวิธีนี้จะได้ผลหรือไม่
สนามรบบนพื้นดิน ดุเดือดอย่างถึงที่สุด และในตอนนี้ มู่ชิงเกอก็พุ่งไปถึงข้างล่างหลุมดำแล้ว
ในหลุมดำ ยังคงมีเผ่าฝูตกลงมาไม่หยุด
มู่ชิงเกอหยิบระเบิดวิญญาณหลายลูกออกมาขว้างเข้าไปในหลุมดำ
ตูม ตูม ตูม!
ระเบิดวิญญาณระเบิดออกในหลุมดำ ฝั่งนั้นมีสถานการณ์อย่างไรมู่ชิงเกอไม่มั่นใจ แต่ในหลุมดำกลับไม่มีเผ่าฝูตกลงมาอีก
มู่ชิงเกออาศัยช่วงว่างนี้พุ่งเข้าไปในหลุมดำ
ทว่า นางเพิ่งจะเข้าใกล้หลุมดำก็ถูกพลังหนึ่งกลุ่มผลักกลับมา
“ไปตายซะ!” มู่ชิงเกอถอยกลับมา พร้อมสาปแช่งหนึ่งครา
พักหายใจเพียงชั่วขณะ มู่ชิงเกอก็ละสายตามองสนามรบบนพื้นดิน
ในกลุ่มคนที่ตะลุมบอน นางมองเห็นญาติๆ ของตน หมวกของมู่ซงถูกตีจนร่วงลงมาแล้ว ผมเผ้ากระเซิง แต่ยังคงกัดฟันต่อสู้
มู่เหลียนเฉิงกับมู่อี้เฉินเองก็เป็นเช่นนี้เหมือนกัน แม้แต่ซางหลันรั่วก็เปรอะเปื้อนไปด้วยรอยเลือดทั่วทั้งร่าง ไม่รู้ว่าบาดเจ็บสาหัสเพียงใด
ดวงตามู่ชิงเกอแผดเผาไปด้วยไฟโกรธ นางเก็บสายตากลับมาทันที มือทั้งคู่รวบรวมอาคมออกไปอย่างรวดเร็ว นางต้องการผนึกหลุมดำนี้ ขัดขวางการบุกรุกของคนเผ่าฝู
แต่ว่า อาคมแรกในมือนางกลับรวบรวมไม่สำเร็จ ในหลุมดำก็มีคนเผ่าฝูตกลงมาอีกครั้ง มู่ชิงเกอจำใจต้องล้มเลิก พุ่งไปหาคนเผ่าฝูที่ตกลงมา เป้าหมายของนาง คือคนอักขระสีดำเหล่านั้น จัดการคนที่ยากจะรับมือ จึงจะสามารถลดความกดดันบนพื้นดินลงได้
เผ่าฝูเยอะเกินไป คนของพวกเขาก็น้อยเกินไป
ไป๋สี่ หยินเฉิน หยวนหยวน องครักษ์เขี้ยวมังกรของนางต่างก็โจมตีสุดแรง ตอนนี้เวลานี้ไม่มีใครสามารถช่วยนางแบ่งเบาภาระให้นางตั้งใจปิดผนึกได้
การบุกรุกก่อนเวลาของเผ่าฝูทำให้นางตกอยู่ในสถานะผู้ถูกกระทำแทน
‘ไม่! ศึกครั้งนี้จะยอมแพ้ไม่ได้เด็ดขาด! นางไม่มีทางยอมแพ้!’ สายตามู่ชิงเกอดุร้าย
ทันใดนั้น ทางเข้าหลุมดำ คนเผ่าฝูที่ตกลงมาเหล่านั้นก็ระเบิดออกเป็นคราบเลือดทีละกลุ่มๆ เงาร่างสีดำหนึ่งสายพลันปรากฎอยู่ ตรงหน้านาง…