ตอนที่ 960
ตอนพิเศษ 1
ออกไปเดี๋ยวนี้! ผลข้างเคียงที่น่ากลัว
“คุณชาย ท่านออกแรงหน่อย!”
“ใช่แล้ว! คุณชาย ท่านออกแรงหน่อย!”
“คุณชายน้อยจะออกมาแล้ว ท่านออกแรงอีก! ออกแรง!”
“หุบปากให้หมด!” เสียงตะโกนที่อัดอั้นเสียงหนึ่ง หยุดเสียงของคนหนึ่งกลุ่มนอกม่าน
โย่วเหอกับฮวาเยวี่ยที่ยืนอยู่ข้างหน้าสุดอลม่าน มองหน้ากันและกัน แววตาทั้งเป็นกังวล ทั้งตื่นเต้น ข้างหลังพวกนางสองคน ยังมีเสวี่ยหยา เซวี่ยนหย่า และสาวใช้คนอื่นๆ ในมือแต่ละคนถือนํ้าร้อน กรรไกร รวมถึงผ้าสะอาด เสื้อผ้าเด็กแรกเกิดต่างๆ
“อือ…” ในม่าน มีเสียงครวญคราญที่อัดอั้นดังออกมาอย่างต่อเนื่อง เงาคนที่คล้ายเห็นคล้ายไม่เห็น ทำให้พวกเขาเป็นกังวลไม่หยุด
“นายท่าน ให้พวกเราเข้าไปเถิด” เสวี่ยหยากล่าวอย่างอดไม่ได้
ผ่านไปครู่หนึ่งจึงมีเสียงมู่ชิงเกอกัดฟันเล็ดลอดออกมา “ไม่ต้อง!”
เซวี่ยนหย่ากล่าวอย่างร้อนใจ “นายท่าน ไหนเลยจะมีแบบนี้ ตัวเองทำคลอดให้ตัวเอง?”
“ใช่แล้ว คุณชาย ท่านจะทำให้พวกข้าร้อนใจตายหรืออย่างไร” เสียงที่ร้อนรนของฮวาเยวี่ย มีเสียงสะอื้นไห้แล้ว
กว่านายท่านของนางจะมีวันนี้ได้หลังจากแต่งงานกับท่านมั่วมาร้อยปี เพิ่งจะได้ต้อนรับการลงมาเกิดของนายท่านคนแรกผู้นี้!
“ข้าทำเองได้” เสียงที่เย็นเยียบเล็กน้อยของมู่ชิงเกอดังออกมาอีก
แต่ทุกคนต่างก็ฟังออก ความเย็นเยียบในน้ำเสียงนี้ของนาง เกิดขึ้นจากการสะกดกลั้นความเจ็บปวดของการคลอดบุตร
นิสัยของมู่ชิงเกอ เป็นถึงหัวหน้าสาวใช้ทั้งสี่ของนางจะไม่รู้ได้อย่างไร
พระราชวังที่ใหญ่โต สตรีชุดกระโปรงพลิ้วไหวหนึ่งกลุ่ม ล้อมอยู่หน้าเตียงใหญ่ที่มีม่านโปร่งบางทิ้งตัวลงมา นอกประตูวัง มีทัศนียภาพราวกับภาพวาด ต่างจากทิวทัศน์ที่แผ่นดินเทพมาร
ในม่านเกิดความเงียบสงัด
ทว่าบุรุษหลายคนที่ยืนรออยู่นอกประตู กลับไม่มีความรู้สึกดีใจแม้แต่นิดเดียว
“พระชายาทำคลอดมาสามวันแล้ว เหตุใดคุณชายน้อยยังไม่ออกมาอีกเล่า” กู่หยากล่าวถามกู่เย่ข้างกายด้วยเสียงตํ่า
กู่เย่เหลือบตาขึ้นมองเงาร่างสีดำที่ยืนเฝ้าอยู่หน้าประตู สามวันมานี้ยังไม่ขยับตัวแม้แต่ก้าวเดียว จากนั้นจึงหลุบตาอย่างรวดเร็ว กล่าวกับกู่หยา “พูดให้น้อยหน่อย ยังสร้างความกังวลให้นายท่านไม่พออีกหรืออย่างไร”
สีหน้ากู่หยาเคร่งขรึม เม้มปากแน่น ไม่พูดอีก
คนที่ยืนอยู่ข้างๆ คนทั้งสองคือมั่วหยาง สามวันนี้เขาเองก็ไม่ปริปากแม้แต่คำเดียว มือทั้งคู่กำแน่นอย่างยิ่งแล้ว ในดวงตาที่นิ่งขรึมคู่นั้น เต็มไปด้วยความกังวล
เขาได้ยินมาว่า สตรีคลอดบุตร คือการไปเดินเล่นที่ด่านประตูนรกหนึ่งรอบ อันตรายอย่างถึงที่สุด คุณชายของเขาจะผ่านไปได้ด้วยดีหรือไม่
คิดถึงจุดนี้ เขาก็เหลือบตาขึ้นมองแผ่นหลังนอกประตูนั้น ในใจก็เคียดแค้น เพราะชายคนนี้คนเดียว ทำให้คุณชายของเขาต้องเป็นเช่นนี้
“อา!”
ในประตู พลันมีเสียงร้องเจ็บปวดเสียงหนึ่งดังออกมา
ทำให้คนไม่กี่คนนอกประตูตกใจสะดุ้งทันที
โดยเฉพาะซือมั่วที่ยืนอยู่นอกประตู หัวใจทั้งดวงแทบจะระเบิดออกมา “เสี่ยวเกอเอ๋อร์!”
เขาตะโกนชื่อนางออกมา แต่กลับพบว่าเสียงของตนสั่นเครือชัดเจนอย่างถึงที่สุด
หลายปีมานี้ เขาไม่เคยหวาดกลัวเช่นนั้นมาก่อน
‘ไม่ต้องคลอดแล้ว! เด็กคนนี้ไม่เอาแล้ว!’
ความคิดหนึ่ง แวบเข้ามาในสมองของซือมั่ว เขาไม่แม้แต่จะคิด ผลักประตูเข้าไปทันที
ทายาทอะไร ผู้สืบทอดอะไร ผู้สืบสายโลหิตอะไร ล้วนสำคัญไม่เท่าเสี่ยวเกอเอ๋อร์ของเขาทั้งสิ้น
เงาร่างสีดำที่สูงโปร่ง วิ่งพุ่งเข้าไปในตำหนัก ดึงดูดความสนใจของคนหนึ่งกลุ่มนอกม่าน
หญิงสาวทุกคนละสายตามองเขา สีหน้าสาวใช้เหล่านั้นตกใจ พากันคุกเข่าต้อนรับ ส่วนสาวใช้ทั้งสี่ของมู่ชิงเกอ กลับตกตะลึงมองเขา
“ท่านเขย ท่านเข้ามาได้อย่างไรเจ้าคะ!” โย่วเหอเดินเข้ามาหาซือมั่ว คิดจะขวางไม่ให้เขาเข้าไปใกล้เตียงใหญ่
อย่างไรเสีย สตรีที่กำลังจะคลอดบุตร บุรุษก็ไม่ควรเข้าใกล้
แต่ว่า ตอนที่ซือมั่วเห็นว่าพวกนางหนึ่งกลุ่มนี้ต่างก็เฝ้าอยู่นอกม่าน ดวงตาสีอำพันกลับโมโหขึ้นมาทันที กล่าวถาม “พวกเจ้ายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้”
สามวันนี้ เสี่ยวเกอเอ๋อร์ของเขา คลอดบุตรเพียงคนเพียงคนเดียวงั้นหรือ
คนที่ปรนนิบัติขณะคลอดเหล่านี้ เพียงแค่เฝ้าอยู่ที่พื้นหรือ
เมื่อคิดถึงความเป็นไปได้นี้ซือมั่วก็รู้สึกปวดใจ ปวดใจที่ภรรยาของเขาแบกรับความเจ็บปวดที่มากเพียงนี้ตัวคนเดียว
“คุณชายไม่ให้เข้าไปเจ้าค่ะ” โย่วเหออธิบายด้วยสีหน้าซับซ้อน
เมื่อได้ยินเจตนาของมู่ชิงเกอ ซือมั่วก็ยิ่งเจ็บปวด เขาเดินไปข้างหน้าต่อ ไม่สนใจการขัดขวางของโย่วเหอ เดินไปพลางตะโกนไปพลาง “เสี่ยวเกอเอ๋อร์พวกเราไม่ต้องคลอดแล้ว ไม่ต้องมีบุตรแล้ว!”
“เจ้าออกไปเดี๋ยวนี้!” มู่ชิงเกอแผดเสียงด้วยความโกรธ
ทันใดนั้น พลังที่แข็งกล้าหนึ่งสายก็พุ่งออกมาจากม่าน พุ่งตรงมายังซือมั่ว
ดวงตาทั้งคู่ของซือมั่วหดลงอย่างรวดเร็ว ไม่ได้ออกมือขัดขวาง ปล่อยให้พลังกลุ่มนั้นตกลงบนอกตัวเอง
ตุบ!
ความรู้สึกราวกับหินก้อนยักษ์ทุบลงบนหน้าอก พลังอหังการ พาร่างซือมั่วตีลังกาออกไปนอกตำหนัก ฉากฉากนี้ทำให้สาวใช้ทั้งหมดตกตะลึง
การโจมตีนั้นของมู่ชิงเกอ ย่อมไม่อาจทำร้ายซือมั่วได้ เพียงแค่ผลักเขาออกไปนอกประตู หลังจากนั้น เสียงของมู่ชิงเกอก็ดังขึ้นมาติดๆ
ทว่า คนที่นางตะโกนเรียกไม่ใช่ซือมั่ว แต่เป็นมั่วหยาง
“มั่วหยาง พาองครักษ์เขี้ยวมังกรมาคุ้มกันหน้าประตู ใครบังอาจเข้าใกล้ ฆ่าได้ไม่เว้น!”
คำสั่งที่เย็นชานี้ทำให้คนทั้งหมดนอกประตูกระตุกมุมปากอย่างแรง
ท่ามกลางความตกใจที่ซือมั่วถูกโจมตีออกมา
มั่วหยางหลังตรงอกตั้งทันที ขานรับด้วยลมปราณเต็มเปี่ยม “ขอรับคุณชาย!”
ซือมั่วละสายตา ในดวงตาเด็ดขาดราวกับมีด หันมองมั่วหยาง
แต่ว่า เขากลับไม่สนใจ ทำตามคำสั่งของมู่ชิงเกอ เรียกรวมองครักษ์เขี้ยวมังกร ตั้งแถวเป็นกำแพงมนุษย์อยู่นอกตำหนัก กันคนทั้งหมดออกไปข้างนอก รวมถึงซือมั่ว
สีหน้าซือมั่วเคร่งขรึมไม่น่ามอง แต่กลับไม่ได้ลงมือเช่นกัน
เพราะว่า เขาเองก็ไม่กล้ายั่วยุมู่ชิงเกอในเวลานี้
กู่หยากับกู่เย่ยิ้มเจื่อน สบตากับปราดหนึ่ง รู้สึกถึงความอึดอัดและจนใจแทนเจ้านายของพวกเขา
กู่หยาถ่ายทอดเสียงบอกกู่เย่ ‘เฮ้อ-! พระชายาของพวกเราไม่เหมือนใคร แม้แต่คลอดบุตรยังคลอดได้อย่างอหังการเพียงนั้น’
‘ที่ข้าสงสัยก็คือ นายท่านเข้าไปทำอะไรกันแน่ ยั่วโมโหพระชายาเข้าแล้วหรือ’ กู่เย่กล่าวเบาๆ
ทั้งสองสบตากันอย่างรู้ใจ ต่างก็ใช้สายตาเห็นใจมองซือมั่วที่มีไอเย็นพัวพันอยู่
ในตำหนัก สาวใช้ทั้งหมดที่คุกเข่า ต่างก็ตะลึงงันต่อคำสั่งของมู่ชิงเกอ เช่นกัน
พวกนางเพิ่งเคยเห็นเป็นครั้งแรก คลอดบุตร ยังคลอดเช่นนี้ได้ เมื่อก่อน สตรีที่กำลังจะคลอดบุตรที่พวกนางรู้มา หากไม่ร้องไห้ด้วยความเจ็บปวด แผดเสียงตะโกน ตำหนิสามี ก็รํ่าไห้ออดอ้อนสามีมิใช่หรือ
เหตุใดพอถึงตาเจ้านายของพวกนางแล้ว ถึงได้กลับกลายเป็นเช่นนี้
เป็นดั่งคาด เจ้านายของพวกนาง สมควรที่จะเป็นบุคคลที่ฝ่าฟันบนเส้นทางสายเลือดมาตั้งแต่ชั้นที่ต่ำที่สุดกลายเป็นเจ้าแห่งอำนาจในช่วงเวลาร้อยปีมานี้
คำสั่งของมู่ชิงเกอทำให้สาวใช้ทั้งสี่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก
แต่ว่า พวกนางกลับไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไร แท้จริงแล้วในม่านมีสถานการณ์เช่นไร พวกนางก็ไม่รู้
ตอนนี้ทำได้เพียงวิงวอนให้มู่ชิงเกอปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก ทุกอย่างราบรื่น
ในม่าน มู่ชิงเกอเพียงแค่คลุมผ้าแพรบาง ผมดำกระเซิง บนใบหน้าและร่างกายต่างก็ถูกเหงื่อชโลมจนเปียกโชก บนเตียงยังมีกองโคลนหนึ่งแอ่ง
คราบเหงื่อ โลหิต น้ำครํ่า ต่างก็ปะปนอยู่ด้วยกัน เปรอะเปื้อนเป็นบริเวณกว้าง
ขาทั้งคู่ของนางแยกออก นั่งพิงเสาหัวเตียง มือหนึ่งค่ำยันร่างกาย อีกมือหนึ่งลูบท้องที่นูนสูงของตนเบาๆ เครื่องหน้าทั้งห้าที่งดงาม ตอนนี้ซีดเซียวเล็กน้อย แต่กลับยิ่งทำให้สวยงามมากขึ้น
‘ไปตายซะ! ทรือว่านี่จะเป็นผลข้างเคียงของยาเปลี่ยนแปลง DNA’
ภายในสามวันนี้ มู่ชิงเกอจำไม่ได้ว่าตนสาปแช่งในใจไปกี่รอบแล้ว
ทำคลอดด้วยตัวเอง ไม่ใช่ว่านางทะนงตน แต่เพราะมันไม่มีวิธีอื่น
ความสามารถในการฟื้นตัวของนางแข็งแกร่งเกินไป บาดแผลแม้แต่นิดเดียวก็สามารถหายดีได้ในทันที ไม่ให้โอกาสเด็กได้ออกมาอย่างสิ้นเชิง
หากไม่ใช่ว่านางยังสามารถสัมผัสได้ถึงเสียงหัวใจเต้นที่แข็งแรงของเด็ก นางก็กังวลว่าสามวันนี้จะทำให้เด็กหมดลมหายใจตายไปแล้ว
“ข้าทนทรมานกับปีศาจน้อยเช่นเจ้ามาสามปีแล้ว ในที่สุดตอนนี้ก็ปกป้องจนเห็นฟ้าทลังฝนแล้ว เจ้าก็ยังถูกข้าทรมาน… แต่ว่า ปัญหาคือ… ให้ตายเถอะ ล้วนเป็นข้าที่ทรมานต่างทาก” มู่ชิงเกอมองท้องตัวเอง กล่าวอย่างขมขื่น
เด็กในท้อง อยากออกมาอย่างสุดชีวิต แต่กลับออกไม่ได้
ดูเหมือนว่า เป็นความแค้นจากการทนทรมานในช่วงเวลาตั้งครรภ์สามปีที่ให้นางชำระ แต่ว่าคนที่รับกรรมก็ยังคงเป็นนางเองมิใช่หรือ
ความสามารถในการรักษาตัวเองที่ภูมิอกภูมิใจ ตอนนี้กลับกลายเป็นอุปสรรคในการคลอดบุตรของนาง
จุดๆ นี้ไม่ว่านางจะคิดอย่างไรก็คิดไม่ถึง
มู่ชิงเกอหายใจหอบยกใหญ่ เด็กน้อยในท้องเหมือนทนไม่ไหวแล้ว สองมือสองเท้าเริ่มทุบตีท้องของมู่ชิงเกอ
เห็นท้องของตนมีมือเท้าเล็กๆ นูนขึ้นมารางๆ แววตาที่ทะลุปรุโปร่งของมู่ชิงเกอก็อบอุ่น ความโกรธที่ถูกทรมานมาสามวันก็หายเกลี้ยงในชั่วพริบตา
นางเผยรอยยิ้มบางๆ กล่าวเสียงต่ำกับท้องของตน “เจ้าหนูน้อย อย่าร้อนใจ อีกประเดี๋ยวก็จะออกมาได้แล้ว”
พูดจบ ในมือนางก็มีมีดแหลมคมหนึ่งเล่มปรากฎขึ้นมา
สายตาของมู่ชิงเกอมีความเด็ดขาดกะพริบวาบ ในใจตัดสินใจแล้ว
‘ไม่ได้การ ทำได้เพียงผ่าท้องให้ตัวเองแล้ว’
โลกใบหลัก ที่นี่เลื่องชื่อว่าเป็นแหล่งกำเนิดของโลกทั้งหมด ทุกสิ่งทุกอย่างที่นี่ต่างก็สูงเหนือโลกใดๆ
ที่นี่ กว้างใหญ่ไพศาลจนไม่มีขอบเขต มองไม่เห็นจุดสิ้นสุด
กระทั้ง มีคนพูดว่า สูดหายใจที่นี่หนึ่งคราก็เทียบเท่ากับกินยาลูกกลอนระดับมหาเทพหนึ่งเม็ด
บนท้องฟ้า มีแสงเงินสองสายแวบผ่าน มุ่งหน้าไปยังโลกเทพมาร หนึ่งในสิบโลกใหญ่ที่ผุดขึ้นมาในร้อยปีบนแผ่นดินผืนนี้
โลกเทพมาร ว่ากันตามความจริง ปรากฏขึ้นเมื่อ 60 ปีก่อน สามีภรรยาที่ขึ้นมาจากจักรวาลขนาดใหญ่หนึ่งคู่ ร่วมมือกันก่อตั้ง ใช้เวลาเพียง 60 ปีสิ้นๆ ก็แทรกตัวเข้าไปในโลกใหญ่อันดับที่ 6 จาก 10 อันดับแรกท่ามกลางโลกที่มีมากมายมหาศาลในโลกใบหลัก สั่นสะเทือนชนชั้นสูง และเจ้าอำนาจทั่วโลกใบหลัก
แม้ว่าจะอยู่ในอันดับ 6 แต่ว่า เมื่อเอ่ยถึงโลกเทพมารกลับเป็นสถานที่ที่กลุ่มอำนาจทั้งหมดบนโลกหลักไม่กล้าจะผิดใจง่ายๆ
ไม่เพียงเพราะว่าพลังต่อสู้ที่แข็งแกร่งของพวกเขา แต่ยังเป็นเพราะว่าผู้ปกครองของมันร้ายกาจอย่างยิ่งจริงๆ
ปราบปรามเด็ดขาดทำให้คนเสียวซ่านไปทั้งศีรษะจริงๆ
แสงเงินสองสายนั้น พุ่งเข้าไปในโลกเทพมาร ไม่ถูกขัดขวางแม้แต่นิดเดียว ตกลงหน้าพระราชวังที่ถูกคุ้มกันอย่างแน่นหนา กลายร่างเป็นหนึ่งชายหนึ่งหญิง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน” ไป๋สี่มองเห็นเหตุการณ็นี้นอกประตู ตกตะลึง
หยินเฉินเองก็ขมวดคิ้วมุ่น
ซือมั่วหมุนตัวมองพวกเขาสองคน กล่าวถาม “ของเล่า”
เมื่อพูดเข้าเรื่อง คนทั้งสองก็ไม่ได้ไต่ถามอีก แต่เทของที่เก็บรวบรวมมาทั้งหมดลงบนพื้นทันที “ของเหล่านี้ ล้วนเป็นของที่พวกข้ารวบรวมกลับมา ช่วยผดุงครรภได้”
“อะ!” หลังจากคำพูดของไป๋สี่ดังออกไป เงาร่างคนผู้หนึ่งก็กลิ้งตกลงบนพื้น
ซือมั่วมองคนผู้นั้น ตาทั้งคู่หรี่ลง
“หมอตำแย” หยินเฉินอธิบายหนึ่งครา
กู่หยากับกู่เย่กระตุกมุมปาก พยายามกลั้นหัวเราะ
“อุแว้!” ทันใดนั้น เสียงร้องไห้ของเด็กทารกที่ก้องกังวานเสียงหนึ่ง ดังทะลุเมฆหมอก ทำลายบรรยากาศที่อึดอัดเล็กน้อยนอกประตู