Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1107

บทที่ 1107 หนีไป 4

กะลาสีนิ่งอึ้ง ร้องเสียงหลง “ท่านไม่ใช่ซย่าปู้อี้! ท่านเป็นใคร?”

ที่แท้หัวหน้าที่กู้ซีจิ่วแปลงโฉมผู้นี้ชื่อซย่าปู้อี้ ตอนนี้เธอคร้านที่จะแสดงอีกต่อไปแล้ว “ไม่ต้องสนว่าข้าเป็นใคร ขับเรือของเจ้าต่อไป! มิเช่นนั้นข้าจะฆ่าเจ้าเสีย!”

คนผู้นั้นหน้าขาวซีด เห็นได้ชัดว่าหวาดกลัวมาก แต่เขาไตร่ตรองได้ว่าพวกกู้ซีจิ่วไม่รู้ทักษะการเดินเรือ ดังนั้นจึงหักใจข่มขู่ออกไป “ท่านฆ่าข้าเสียเถิด! ข้าตายไปพวกท่านก็ไปไหนไม่รอด! เรือนี้มีเพียงข้าที่ขับได้ อีกทั้งอากาศภายในเรือลำนี้ก็มีจำกัด หากเกินหนึ่งชั่วยาม มันจะหมดสิ้นไปโดยสมบูรณ์…”

กู้ซีจิ่วทอดถอนใจ “ขอบคุณที่เจ้าบอกข้ามากมายถึงเพียงนี้ ข้าเลื่อมใสคนที่ไม่เกรงกลัวต่ออำนาจมาแต่ไหนแต่ไร ในเมื่อเจ้ามุ่งมั่นขอรับความตาย เช่นนั้นข้าก็ทำได้เพียงช่วยให้เจ้าสมหวัง”

เธอพลันส่งมือไปด้านหน้า เลือดกระฉูดจากคอคนผู้นั้น ดวงตาเบิกโตที่จ้องมองกู้ซีจิ่วค่อยๆ ปิดลง สิ้นใจแล้วยังไม่รู้ว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าเหตุใดจึงใจกล้าเยี่ยงนี้

เดิมทีหลงซือเย่กำลังคิดการบางสิ่งอยู่ แต่การกระทำของกู้ซีจิ่วรวดเร็วเกินไป เขาไม่ทันได้ห้ามปราม “เธอฆ่าเขา พวกเราก็หมดหนทางเดินเรือแล้ว …”

กู้ซีจิ่วก้าวไปยืนตรงหน้าแผงควบคุมแล้ว “วางใจเถอะ ฉันขับเป็นแล้วไม่ต้องใช้เขาอีก”

เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้ เดิมทีเรือโคลงเคลงอย่างรุนแรง เคราะห์ดีที่กู้ซีจิ่วกดปุ่มแต่ละปุ่มด้วยความรวดเร็ว ผ่านไปครู่หนึ่ง เรือนั้นก็แล่นไปด้านหน้า

หลงซือเย่นิ่งอึ้ง อัจฉริยะ!

ตัวเขาเองก็นับว่าปราดเปรื่องยิ่งแล้ว แต่กู้ซีจิ่วปราดเปรื่องยิ่งกว่า ฉลาดหลักแหลมจนเข้าขั้นพิสดาร ทักษะการเดินเรือที่สลับซับซ้อนเธอยังเรียนรู้ได้รวดเร็วปานนี้!

เครื่องส่งสัญญาณเตือนบนเรือ ดังปี๊บๆ ตลอดเวลา เห็นได้ชัดว่าหากไม่ย้อนกลับไป เสียงสัญญาณเตือนนี้จะดังต่อไปไม่หยุด

กู้ซีจิ่วระคายหูยิ่งนัก จึงทุบกำปั้นไปทีหนึ่ง ในที่สุดก็ได้โล่งหูเสียที

เคราะห์ดีที่เส้นทางออกจากที่นี่มีเพียงเส้นทางเดียว แค่กู้ซีจิ่วบังคับเรือให้แล่นไปตามทางลาวานี้ก็เรียบร้อยแล้ว

แรกเริ่มเธอยังบังคับเรือไม่ค่อยชำนาญนัก ขับเรือคดไปเคี้ยวมาเล็กน้อย แต่หลังจากขับไปได้ครึ่งนาที เธอก็เทียบชั้นกับกะลาสีมือดีคนนั้นได้แล้ว ขับได้อย่างรวดเร็วและมั่นคง

สิบนาทีต่อมา ในที่สุดเรือลำนั้นทะลวงออกมาจากก้นบึ้งลาวา พวกกู้ซีจิ่วได้ยลท้องฟ้าที่ไม่ได้พบเจอมานาน!

เรือจอดเทียบท่าอย่างรวดเร็ว กู้ซีจิ่วกับหลงซือเย่ไม่รอช้า เปิดห้องโดยสารเรือออกแล้วกระโจนขึ้นฝั่งทันที…

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าร่างกายตัวเองไม่สู้ดีตั้งแต่ออกมา!

สถานที่แห่งนี้ไม่เพียงร้อนดังเพลิงเผาไหม้ ยังมีกลุ่มเมฆหนาแน่นจากเถ้าธุลีภูเขาไฟ ยามเธอออกมาก็ร้อนจนเหงื่อโซมกาย ไอติดต่อกันอยู่หลายครา

เนื่องจากเขม่าที่นี่หนาแน่นเกิน ทัศนวิสัยก็พร่ามัวยิ่งนัก กู้ซีจิ่วไม่กล้าเคลื่อนย้ายในพริบตาสุ่มสี่สุ่มห้า เพื่อป้องกันไม่ให้เคลื่อนย้ายเข้าไปในลาวา ในขณะที่กำลังคิดหาทางหนี หลงซือเย่ฉุดมือเธอไว้ “ฉันจำทางได้ ตามฉันมา!”

ตอนแรกที่ถูกควบคุมตัวมาที่นี่ เขายังคงมีภาพจำอยู่รางๆ เขาจับมือกู้ซีจิ่วเตรียมจะใช้วิชาตัวเบาโผนทะยานไป กู้ซีจิ่วกลับพลิกมือจับเขาไว้ สีหน้าเขาเปลี่ยนไปเล็กน้อย สายตาจ้องมองเธอ “เธอ…ยังไม่เชื่อใจฉัน?”

กู้ซีจิ่วขัดจังหวะเขา “คุณบอกทางมา ฉันจะพาคุณเคลื่อนย้ายในพริบตา แบบนี้รวดเร็วกว่า!”

หลงซือเย่โล่งใจ ไม่พูดพรํ่าทำเพลงอีก “ตกลง!”

ทั้งสองร่วมมือกัน พริบตาเดียวก็พลันหายวับไปจากที่เดิม

รอจนหลงฟั่นระดมคนโดยสารเรือลำอื่นมา ก็พบเพียงเรือเล็กลอยละล่องอยู่กลางลาวาพร้อมกับศพกะลาสีคนนั้น ไม่เห็นแม้แต่เงาของคนทั้งสองบนเรือ

หลงฟั่นกำหมัด วิชาเคลื่อนย้ายในพริบตาของกู้ซีจิ่วช่างเป็นสิ่งที่สวรรค์ประทานให้ใช้หลบหนีโดยแท้ รวดเร็วเสียยิ่งกว่าโบยบิน อีกทั้งขอแค่นางขึ้นจากฝั่งได้วิชาเคลื่อนย้ายของนางก็จะไม่ถูกควบคุมอีกต่อไป สามารถใช้งานได้สมดังใจ หากคิดจะไล่ล่าอีกครั้งคงยากยิ่งแล้ว…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version