Skip to content

ลำนำบุปผาพิษ 1249

บทที่ 1249 คิดถึงแค่พวกมัน ไม่คิดถึงข้าบ้างหรือ?

แต่น่าเสียดายที่เธอไม่ปรารถนาการชดเชยแบบนี้ ต่อให้ฐานะของเธอสูงเทียบทูตสวรรค์ฝ่ายซ้ายกับประมุขเผ่าเงือกไม่ได้ แต่เธอก็มีเกียรติของตัวเองเรื่องความรัก เธอต้องการเป็นหนึ่งเดียวเท่านั้น ไม่ต้องการเป็นเอ่อร์หวงหนี่ว์อิง[1] สองสตรีต้องมีสามีคนเดียวกัน

ถ้าตอนนี้เขาแต่งกับเธอ ก็นับว่าเขาชดใช้หนี้นํ้าใจให้เธอแล้ว เมื่อประมุขหญิงเผ่าเงือกผู้นั้นฟื้นขึ้นมา เขาที่รอคอยมาหลายพันปีไม่มีเหตุอะไรที่ต้องปล่อยไป ย่อมต้องแต่งเข้ามาเป็นแน่…

เมื่อถึงตอนนั้นเธอถึงจะตกอยู่ในโศกนาฏกรรมรักอย่างแท้จริง!

เธอจะไม่ปล่อยให้ตัวเองตกอยู่ในสภาพที่น่าสมเพชเช่นนั้น ยินดีปล่อยมือจากลาตั้งแต่ยามนี้ ช่วยเหลือให้ความรักของพวกเขาได้สมหวัง นี่คือสิ่งที่กู้ซีจิ่วคิดในขณะนี้

ในเมื่อที่นี่ไม่ต้องใช้พลังวิญญาณของพวกเจ้าหอยยักษ์หล่อเลี้ยงแล้ว เช่นนั้นเธอจะพาพวกมันสามตัวไปด้วย ด้วยเหตุนี้เธอจึงถามขึ้นทันที “พวกเจ้าอยากกลับไปกับข้าไหม?”

“อยาก!” เจ้าหอยยักษ์ตอบอย่างไม่ลังเลเลย อีกสองตัวก็ผงกหัวรัวๆ เช่นกัน

ถึงแม้ร่างเดิมของเจ้านายจะสำคัญยิ่งนัก แต่เจ้านายมีสังขารใหม่แล้ว ซํ้ายังงดงามถึงเพียงนี้ด้วย งดงามกว่าร่างเดิมนัก เจ้าหอยยักษ์จึงคิดว่าร่างเดิมของเจ้านายจริงๆ แล้วจะปกป้องหรือไม่ปกป้องก็ไม่สำคัญเท่าไหร่แล้ว อีกอย่างร่างเดิมนี้ก็มีมุกคงโฉมแล้ว ไม่จำเป็นต้องจำกัดอิสระของพวกมันให้คุ้มกันอยู่ที่นี่อีกแล้ว พวกมันโหยหาหุบเขา!

โหยหาการล่าสัตว์แล้ว!

“เจ้านาย หลังจากออกไปแล้วสามารถขึ้นเขาล่าสัตว์อะไรทำนองนั้นได้หรือไม่?” เจ้าหอยยักษ์ถามอย่างระมัดระวัง

“ได้สิ” กู้ซีจิ่วยิ้มน้อยๆ

เธอเพิ่งจะพาพวกเจ้าหอยยักษ์ทั้งสามก้าวออกมาจากประตูตำหนัก ในอากาศก็มีสายลมพัดโหมวูบหนึ่ง คนผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาจากความว่างเปล่า ร่อนลงเบื้องหน้ากู้ซีจิ่วพอดี

กู้ซีจิ่วตกใจ ถอยหลังไปสองก้าว จิตใจปั่นป่วนถาโถมอย่างรุนแรงไม่กี่ครา “ท่านทูตสวรรค์ฝ่ายซ้าย!”

ผู้ที่มาย่อมเป็นตี้ฝูอี ยากนักที่จะได้เห็นเขาอยู่ในชุดนอน เรือนผมยาวดั่งธารนํ้าตกยุ่งเหยิงอยู่บ้าง เห็นได้ชัดว่ารีบรุดมาที่นี่

เมื่อเขาเห็นกู้ซีจิ่วเดินออกมาจากในประตู ก็มีท่าทางโล่งอก เข้ามาจูงเธอ “เหตุใดถึงมาที่อย่างไม่บอกไม่กล่าวสักคำเล่า? มาตั้งแต่เมื่อไหร่แล้ว?”

“อาวรณ์หาพวกมัน ก็เลยมาดูสักหน่อย เพิ่งมาถึง…” กู้ซีจิ่วสะกดอารมณ์ที่ปั่นป่วนแล้วเอ่ยตอบ

ตี้ฝูอีมองเธอ พูดหยอกเธอเล่น “คิดถึงแค่พวกมัน ไม่คิดถึงข้าบ้างหรือ?”

คิดถึงสิ!

คิดถึงมาก ดังนั้นถึงได้หาข้ออ้างเพื่อมาที่นี่ นึกไม่ถึงเลยว่า…

กู้ซีจิ่วตอบไปว่า “ย่อมคิดถึงอยู่แล้ว”

จากนั้นก็ดูอาภรณ์ที่ดูไม่เรียบร้อยอยู่บ้างของเขา “ท่านรู้ได้ยังไงว่าข้ามาที่นี่?”

ตี้ฝูอีเงียบงัน

ถึงแม้เขาจะส่งนางกลับไปอยู่จวนแม่ทัพแล้ว แต่ก็ยังจัดวางองครักษ์เงาไว้ข้างกายนาง…

ให้องครักษ์เงาคุ้มครองความปลอดภัยของนาง ขณะเดียวกันก็จับตามองความเคลื่อนไหวของนางด้วย กันไม่ให้นางวิ่งซุกซนไปทั่ว

เมื่อครู่นี้เขาเพิ่งจะเข้านอน ก็ได้รับรายงานด่วนจากองครักษ์เงา บอกว่ากู้ซีจิ่วหายไปจากห้องนอนแล้ว เขาค้นหาดูจนทั่วจวนแม่ทัพก็ไม่พบร่องรอยของนางเลย…

วรยุทธ์ขององครักษ์เงาที่จับตามองผู้นั้นสูงส่งยิ่ง ยามที่เขาคุ้มกันคน แม้กระทั่งแมลงวันสักตัว ก็อย่าหมายจะได้เข้าใกล้ร่างของผู้ที่ได้รับการคุ้มกัน ดังนั้นความเป็นไปได้ที่กู้ซีจิ่วจะถูกผู้อื่นลักพาตัวไปจึงเป็นศูนย์ นางมีความสามารถในการไปมาอย่างเงียบเชียบไร้ร่องรอยอยู่อย่างหนึ่ง นางใช้วิชาเคลื่อนย้ายหนีออกไปเอง!

เนื่องจากกู้ซีจิ่วหายไปจากห้องนอนในยามวิกาล องครักษ์เงาผู้นั้นลาดตระเวนอยู่นอกเรือนอย่างลับๆ เพื่อป้องกันศัตรูภายนอกบุกรุกเข้ามาเท่านั้น จึงไม่ทราบเลยว่ากู้ซีจิ่วจากไปตั้งแต่ตอนไหน เขาตามหาไม่พบ ถึงได้รีบร้อนรายงานให้ตี้ฝูอีทราบ…

ปฏิกิริยาแรกของตี้ฝูอีก็คือนางคงแอบหนีมาหาตนที่นี่และพบว่านางมาที่ตำหนักนํ้าแข็งแห่งนี้จริงๆ…

เขาดึงร่างคนเข้าสู่อ้อมแขน จับมือจับไม้ของนาง นัยน์ตาโชนแสงเล็กน้อย “เย็นถึงขนาดนี้แล้ว เจ้ามาตั้งแต่เมื่อไหร่?”

“เพิ่งมาถึงไม่นาน…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version