ตอนที่ 104-2
จอมปีศาจหานฉายไฉ่
เพราะจากประสบการณ์ของเมื่อวาน ทุกคนจึงหลงคิดว่า ตอนกลางวันนั้นต้องปลอดภัยแน่นอน
“หึ ตาแก่เนี่ยซง! กล้าอวดดีต่อหน้าข้าถึงเพียงนี้เชียวหรือ สักวันหนึ่งเถอะ ข้าจะทำให้เจ้าต้องคุกเข่าลงต่อหน้าข้าและเลียพื้นรองเท้าให้กับข้า!” จูลี่เดินอยู่ท่าม กลางการปกป้องของทุกคนด้วยใบหน้าเจ็บใจ ฉากการสังหารของเนี่ยซงเมื่อครู่นี้ทำให้เขารู้สึกตกใจจริงๆ
แต่ทว่า ทันทีที่ได้สติจากความตื่นตระหนก ก็รู้สึกราวกับโดนตีแสกหน้า เพราะดูเหมือนว่าคำข่มขู่ทั้งหมดของเนี่ยซงตั้งใจจะสื่อถึงเขา
ยอดฝีมือสายครามที่ยืนอยู่ข้างๆ จูลี่รีบพูดเสริมว่า “ใช่ๆๆ รอให้ออกจากที่บ้าๆ นี่ให้ได้ก่อน แล้วเราค่อยจัดการกับเขาก็ยังไม่สาย! ถึงตอนนั้นก็ทำให้คนในเมือง จื้อรู้กันไปเลยว่าใครกันแน่ที่เก่งกาจและไม่ควรจะมีเรื่องด้วยมากที่สุดในเมืองจื้อ!” การพูดเอาอกเอาใจนี้ ทำให้จูลี่รู้ลึกดีเป็นอย่างมาก ราวกับลอยทะยานขึ้นสู่ฟ้า ท่าทางดูได้ใจอย่างที่สุด กลุ่มของพวกเขามีจำนวนคนอยู่ไม่น้อยเลย มีประมาณ 40-50 คน ในบรรดาผู้มีอำนาจทั้งหมดที่รวมตัวกันอยู่ในผืนป่าแห่งนี้พวกเขาถือว่าเป็นผู้ที่มีกำลังคนมากที่สุด อีกประการหนึ่งผู้นำกลุ่มยังเป็นถึงสายคราม เมื่อเทียบกับพวกกลุ่มผู้มีอำนาจเล็กๆที่มีหัวหน้าเป็นเพียงแค่สายเขียวแล้ว ดังนั้นพวกเขาก็ถือว่ามีสิทธิ์ที่จะได้ใจเช่นนี้
ในตอนนี้ ในคนจำนวน 40-50 คน มีสิบกว่าคนที่ล้อมรอบจูลี่เอาไว้ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจจะเกิดอย่างระมัดระวัง
ส่วนคนที่เหลือก็ได้กระจายตัวกันออกไปรอบๆ เพื่อค้นหาตัวมู่ชิงเกอ แม้ว่าจะออกไปไม่ไกลมาก แต่เพราะหญ้าที่สูงเท่าคนและต้นไม้ที่คอยบดบัง ทำได้ทุกคนไม่สามารถมองเห็นกันได้ง่ายๆ
ทันใดนั้น ในดวงตาของผู้ที่กำลังค้นหาอย่างละเอียดรอบคอบ ก็มีเงาสีดำเงาหนึ่งแวบผ่าน ยังไม่ทันที่เขาจะแสดงปฏิกิริยาอันใด ก็พลันถูกปิดจมูกจนสนิท จากนั้นบริเวณลำคอก็มีเสียง ‘ซี๊บ’ เกิดขึ้น หลังจากนั้นร่างกายก็ล้มลงพื้นด้วยท่าทางหงิกงอ
ลากร่างอันไร้วิญญาณเข้าไปซ่อนในพุ่มหญ้า ร่างในชุดสีดำก็หายวับไปอีกครั้ง เพื่อหาเป้าหมายต่อไป
การตายของคนผู้นี้ไม่ทำให้ใครตื่นตระหนกเลยแม้แต่คนเดียว
กลุ่มคนยังคงค้นหากันอย่างต่อเนื่อง ผู้ที่รับผิดชอบค้นหาก็กระจายกำลังออกจากกันไปไกลมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะพวกเขาเชื่อเป็นอย่างยิ่งว่ามีเพียงตอนกลางคืน เท่านั้นที่ผืนป่าแห่งนี้จะกลายเป็นปีศาจสังหารคน ตอนกลางวันแน่นอนว่าพวกเขาต้องปลอดภัยแน่!
ในขณะที่ผู้ค้นหาคนหนึ่งเดินจนรู้สึกเหนื่อยล้า ก็ได้พิงกับต้นไม้ใหญ่เพื่อพักผ่อน เหนือศีรษะของเขาก็พลันมีเงาสีดำตกลงมา ในมือมีกริชอันแหลมคม แล้วกรีดลงบนบริเวณลำคอของเขาอย่างรวดเร็ว
ทันใดนั้นโลหิตสีแดงสดก็พุ่งทะลักออกจากลำคอของเขาและสาดกระจายไปทั่วพื้นหญ้า สำหรับคนผู้นั้น ยังไม่ทันได้พูดอะไรเลยแม้แต่คำเดียว ก็ตายไปทั้งท่าทางที่เอามือจับคอและเบิกตากว้าง
ภาพเช่นนี้ปรากฏขึ้นทั่วทุกบริเวณภายในผืนป่า
บางคนไม่รู้แม้กระทั่งว่าตนเองตายอย่างไร บางคนเห็นคนร้ายแต่ก็ไม่มีโอกาสที่จะเตือนภัยพรรคพวก หลังจากนั้น 3 ชั่วยาม จูลี่ที่รับรู้ว่าเริ่มมีอะไรไม่ชอบมาพากล จึงหยุดทุกการกระทำและหันไปมองข้างหลังตัวด้วยความฉงนใจ
“คุณชายเป็นอะไรไปหรือ” ยอดฝีมือสายครามผู้นั้นรีบเดินเข้ามาถาม
จูลี่ขมวดคิ้วและพูดว่า “ทำไมคนที่ทำหน้าที่ค้นหาจึงหายไปหมดแล้ว”
ยอดฝีมือสายครามเงยหน้าขึ้นมองไปรอบๆ และไม่เห็นใครเลย แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพียงคาดการณ์ว่า “บางทีอาจจะเดินออกไปไกลแล้ว”
จูลี่พยักหน้าและคิดว่าอาจจะเป็นเพราะเหตุผลนี้
หลังจากนั้นจึงสั่งการในทันทีว่า “เจ้าส่งคนออกไปตามพวกเขากลับมา บอกพวกเขาว่าอย่าออกไปไกลมากนัก การปกป้องคุณชายอย่างข้าต่างหากที่เป็นสิ่งที่ สำคัญที่สุด สำหรับไอ้หนุ่มตระกูลมู่ ตราบใดที่มีเนี่ยซงอยู่ มันหนีไปไหนไม่รอดหรอก ช้าเร็วก็จะต้องถูกจับได้!”
ยอดฝีมือสายครามรับคำสั่งและสั่งคนจำนวนเจ็ดแปดคนออกไปตามหาและเขาก็นำคนจำนวนแปดเก้าคนที่เหลือปกป้องจูลี่ต่อไป
“ข้าอยากจะฉีกปากเน่าๆ ของเขา!” กลางพุ่มกิ่งไม้มีเสียงของหญิงสาวที่เล็กดั่งเสียงยุงดังขึ้นอย่างกะทันหัน
เสียงของหญิงสาวอีกคนก็ดังขึ้นว่า “ข้าเองก็เช่นกัน แต่ทว่า เราต้องไม่ลืมคำสั่งของคุณชาย”
หญิงสาวที่เปิดปากพูดก่อนเงียบไปครู่หนึ่ง แล้วจึงพูดด้วยความจำยอมว่า “ก็ได้ เราจัดการ 7-8 คนนั้นก่อนแล้วกัน!”
“พรึ่ด คำพูดของเจ้านี่ยิ่งโหดร้ายมากขึ้นทุกวัน”
“หึ คบคนพาลก็พาลพาไปหาผิด!” เสียงบทสนทนาค่อยๆ เงียบลง ดูเหมือนว่าพวกนางต่างก็ไม่ใส่ใจชูเซิงที่ในตอนนี้ก็หลบซ่อนอยู่ในที่มืดเช่นกัน
และแน่นอนว่า บทสนทนาของพวกนาง ชูเซิงเองก็ไม่ได้ยิน รวมทั้งเขาเองก็ไม่รู้ว่า ในบริเวณที่ห่างจากตนเองไม่มากนัก มีแม่งูสาวสองคนแอบแฝงตัวอยู่
ในช่วงพลบคํ่า เมื่อทุกคนกลับมารวมตัวกันตามที่เนี่ยซงวางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้จึงพบว่าในวันนี้จำนวนคนหายไป 100-200 คน!
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น” เนี่ยซงขมวดคิ้วอย่างไม่พอใจ
ดูเหมือนเขาจะคิดว่าผู้คนที่หายไป คือพวกที่ไม่ฟังคำสั่งจากเขาและแอบหนีออกไป
การกระทำเช่นนี้ แสดงถึงการประกาศศึกกับเขา!
แต่ทว่า ไม่ทันที่เขาจะได้รับคำตอบ คำถามหนึ่งก็ได้แทรกเข้ามาอย่างกะทันหัน “เนี่ยซง เจ้าบอกว่ากลางวันปลอดภัยมิใช่หรือ เหตุใดคนของข้าถึงได้หายไปอย่าง ไร้ร่องรอย!”
จูลี่ที่มีกำลังคนแปดเก้าคนที่เหลือคอยคุ้มครอง เข้าไปหาเนี่ยซงด้วยความโกรธ
ตอนนี้เขาได้ขาดสติและระบายความโกรธแค้นที่กำลังคนและม้าหายไปทั้งหมดที่เนี่ยซง
ถูกคนที่คอยหลบอยู่ใต้ชายกระโปรงของผู้หญิงตั้งคำถามเช่นนี้ในดวงตาของเนี่ยซงพลันเต็มไปด้วยไอสังหาร หากไม่ใช่เพราะยังมีสติอยู่ คงจะสังหารจูลี่ทิ้งเสียตอนนี้แล้ว
ไม่อยากจะสร้างความขัดแย้งกับราชวงศ์ เนี่ยซงจึงเพียงพูดด้วยใบหน้าอันโหดเหี้ยมว่า “คนและม้าของเจ้าหายไป เกี่ยวอะไรกับข้า พวกเขากลัวตายมิใช่หรือ อาจจะถือโอกาสหนีไปตอนกลางวันก็ได้! อีกประการหนึ่ง คนที่หายไปก็ไม่ได้มีแค่คนของเจ้า”
“ข้าไม่สน! ตอนนี้คนของข้าหายไป ตระกูลเนี่ยต้องรับผิดชอบความปลอดภัยของข้า มิเช่นนั้นตระกูลเนี่ยก็เตรียมตัวตายได้เลย!” จูลี่พูดด้วยท่าทางแข็งกร้าว
แววตาของเนี่ยซงเคร่งขรึมขึ้นมาในทันที ที่ฝ่ามือราวกับผุดไอเข่นฆ่าออกมา
แต่สุดท้ายเขาก็ต้องอดทนเอาไว้
ตานเฉินจื่อและชูเซิงที่แอบดูสถานการณ์ทั้งหมดในที่มืดมาโดยตลอด ในตอนนี้ก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง
สีหน้าของชูเซิงเต็มไปด้วยความตื่นเต้นดีใจและพูดกับตานเฉินจื่อว่า “ท่านผู้เฒ่า ตอนกลางวันท่านเห็นพวกคนชุดดำที่ทั้งเก่งกาจและปราดเปรียวเหล่านั้นหรือไม่ พวกเขาช่างเก่งกาจเสียจริง! ออกทุกกระบวนท่าล้วนต้องมีคนตาย! พวกโง่เหล่านี้ก็ยังจะทะเลาะกันเอง ไม่รู้ด้วยซํ้าว่าคนของตนเองตายอย่างไร แต่ว่าเหตุใดพวก เขาจึงทำท่าทางราวกับไม่สนใจเราล่ะ เราซ่อนตัวอยู่ในที่มืด พวกเขาก็ซ่อนตัวอยู่ในที่มืด เราสามารถมองเห็นพวกเขาได้ แน่นอนว่าไม่มีเหตุผลที่พวกเขาจะไม่เห็นเรา!”
ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความฉงนใจของเขา ตานเฉินจื่อไม่อยากจะสนใจ
เรื่องที่ชูเซิงพูดถึง แน่นอนว่าเขาเองก็รับรู้และไม่ได้พบเจอเพียงครั้งเดียว ในวันนี้เขามองวิธีการสังหารอันเด็ดขาดด้วยท่าทางที่ทั้งตะลึงและตื่นตระหนกมาแล้วทั้งวัน ก่อนหน้านี้เขาไม่เคยรู้มาก่อนเลยว่า การที่จะสังหารคนๆ หนึ่ง สามารถใช้วิธีอันง่ายดายเช่นนี้ได้ ราวกับว่าเพียงแค่กวาดมือลงเบาๆ ลมหายใจของคนๆ หนึ่งก็จะหมดสิ้นไป
สำหรับเรื่องที่อีกฝ่ายทำเหมือนไม่เห็นพวกเขาน่ะหรือ
อาจจะเป็นเพราะสหายน้อยมู่คงอยากจะให้พวกเขาเอาข่าวที่นี่ไปรายงานเจ้านายกระมัง!